ประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่: วิธีประหยัดเบี้ยที่หลายคนเลือก พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ และแผนประกันที่ตอบโจทย์จากรู้ใจ
by admin

ประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ โดยเฉพาะเมื่อใช้รถคนเดียวหรือมีผู้ขับขี่ประจำไม่กี่คน รูปแบบประกันนี้มอบส่วนลดพิเศษที่น่าสนใจ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาสำคัญ หากเกิดอุบัติเหตุโดยผู้ที่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของประกันประเภทนี้ พร้อมไขข้อข้องใจว่า “รถชื่อเรา คนอื่นขับ เคลมประกันได้ไหม?” และนำเสนอแนวทางการเลือกซื้อประกันที่คุ้มค่าที่สุด
ประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่ คืออะไร?
ประกันรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่ คือ กรมธรรม์ที่ให้ส่วนลดเบี้ยประกันโดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่จะได้รับความคุ้มครองเต็มรูปแบบจะต้องเป็นผู้ขับขี่ที่มีชื่อระบุไว้ในกรมธรรม์เท่านั้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของรถที่ทราบแน่นอนว่าใครบ้างที่จะเป็นผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวเป็นประจำ ซึ่งสามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้สูงสุดถึง 5 คน ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัทประกัน
กุญแจรถยนต์วางอยู่ข้างประตูรถ สื่อถึงการใช้งานรถและผู้ขับขี่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่
ข้อดีและข้อควรพิจารณาของประกันระบุผู้ขับขี่
การเลือกทำประกันภัยรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่มีทั้งข้อได้เปรียบที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และข้อควรระวังที่ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้
ข้อดี: ส่วนลดเบี้ยประกันที่จูงใจ
ข้อได้เปรียบหลักของการเลือกประกันภัยรถยนต์แบบระบุผู้ขับขี่คือ การได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกัน ซึ่งส่วนลดนี้จะคำนวณจากช่วงอายุของผู้ขับขี่ที่อายุน้อยที่สุดที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ยิ่งผู้ขับขี่ที่ระบุมีอายุมาก ส่วนลดที่ได้รับก็จะยิ่งสูงขึ้น ทำให้เบี้ยประกันโดยรวมถูกลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับแผนประกันที่ไม่ระบุผู้ขับขี่
ข้อควรพิจารณา: ค่าเสียหายส่วนแรกเมื่อผู้ขับขี่ไม่ตรงตามเงื่อนไข
แม้ประกันระบุผู้ขับขี่จะช่วยประหยัดได้มาก แต่มีจุดสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ คือ กรณีที่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุในขณะที่ผู้ขับขี่ไม่ใช่บุคคลที่ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ และผู้ขับขี่ดังกล่าวเป็นฝ่ายผิด ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบ “ค่าเสียหายส่วนแรก” (Excess) ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งโดยทั่วไปอาจสูงถึง 8,000 บาท (แบ่งเป็นค่าเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกัน 6,000 บาท และค่าเสียหายต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก 2,000 บาท) ดังนั้น หากมีแนวโน้มว่าบุคคลอื่นที่ไม่ได้ระบุชื่อจะนำรถไปใช้บ่อย ควรพิจารณาแผนประกันอื่นที่ยืดหยุ่นกว่า
เทคนิคเพิ่มเติมเพื่อลดเบี้ยประกันรถยนต์ให้ถูกลง
นอกจาก การเลือกแผนประกันที่ระบุผู้ขับขี่แล้ว ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ได้ โดยไม่จำเป็นต้องลดความคุ้มครองลง ลองพิจารณาเทคนิคเหล่านี้:
- ส่วนลดประวัติดี: หากคุณขับขี่ปลอดภัย ไม่มีประวัติการเคลมที่เป็นฝ่ายผิด ติดต่อกันหลายปี บริษัทประกันมักมอบส่วนลดประวัติดีสะสม ซึ่งสามารถลดเบี้ยลงได้สูงสุดถึง 50%
- เลือกค่าเสียหายส่วนแรก (Excess): การตกลงจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกที่สูงขึ้นเมื่อเกิดเหตุ จะช่วยลดเบี้ยประกันลงได้ แต่ต้องมั่นใจว่าคุณพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้เมื่อถึงเวลา
- ติดตั้งกล้องติดรถยนต์: บริษัทประกันหลายแห่งมอบส่วนลดพิเศษสำหรับรถที่มีการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ เนื่องจากเป็นหลักฐานสำคัญในการพิจารณาการเคลม (รู้ใจให้ส่วนลดเพิ่ม 10%)
- เปรียบเทียบและเลือกบริษัทประกันที่เหมาะสม: การเปรียบเทียบแผนประกันรถยนต์ จากหลากหลายบริษัทช่วยให้คุณเจอข้อเสนอที่ดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่า
แผนประกันผู้ขับขี่ของรู้ใจ: ความยืดหยุ่นที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
รู้ใจเข้าใจดีว่าผู้ขับขี่แต่ละคนมีความต้องการและความยืดหยุ่นในการใช้รถไม่เหมือนกัน จึงได้ออกแบบแผนประกันที่เกี่ยวข้องกับผู้ขับขี่ไว้หลายระดับ เพื่อให้คุณเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ ก่อนตัดสินใจเลือกแผนที่ใช่:
1. แผนผู้ขับขี่ระบุชื่อ
แผนนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถเพียงคนเดียวหรือมีผู้ขับขี่ประจำไม่เกิน 4 คน เป็นแผนที่ช่วยประหยัดเบี้ยได้สูงสุด แต่ความคุ้มครองแบบเต็มรูปแบบจะมีผลเฉพาะเมื่อผู้ขับขี่ที่เกิดเหตุมีชื่อระบุอยู่ในกรมธรรม์เท่านั้น หากผู้ขับขี่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ในกรมธรรม์ อาจมีผลต่อการเคลมตามเงื่อนไขที่กำหนด
2. แผนผู้ขับขี่อายุ 30 ปีขึ้นไป
ให้ความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น อนุญาตให้ผู้ขับขี่ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปได้รับความคุ้มครอง แม้จะไม่มีชื่อระบุในกรมธรรม์ก็ตาม อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องระบุผู้ขับขี่หลัก และหากผู้ขับขี่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี (และไม่ใช่ผู้ขับขี่หลัก) แผนนี้อาจไม่ให้ความคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุ
3. แผนผู้ขับขี่อายุ 25 ปีขึ้นไป
ยืดหยุ่นกว่าแผน 30 ปีขึ้นไปอีกขั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีผู้ขับขี่หลายคนที่มีอายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป แผนนี้ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ขับขี่ทุกคนที่เข้าเงื่อนไขอายุ แม้ไม่ได้ระบุชื่อไว้ แต่หากผู้ขับขี่อายุน้อยกว่า 25 ปี อาจไม่ได้รับความคุ้มครองเต็มที่
4. แผนผู้ขับขี่ไม่ระบุชื่อ
เป็นแผนที่ให้ความยืดหยุ่นสูงสุด เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ หรือผู้ที่อนุญาตให้บุคคลอื่นนำรถไปใช้งานบ่อยครั้ง แผนนี้ให้ความคุ้มครองต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยไม่จำกัดอายุหรือชื่อของผู้ขับขี่ ทำให้หมดกังวลเรื่องเงื่อนไขผู้ขับขี่ แต่เบี้ยประกันจะสูงกว่าแผนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องระบุผู้ขับขี่หลักในกรมธรรม์
การเลือกแผนประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้รถและผู้ขับขี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง หากใช้รถคนเดียวหรือกับผู้ขับขี่ที่ระบุได้แน่นอน แผนระบุชื่อช่วยประหยัดได้มาก แต่หากมีการสลับกันใช้รถกับบุคคลอื่นบ่อยครั้ง แผนที่ยืดหยุ่นกว่าอาจตอบโจทย์มากกว่า การทำความเข้าใจเงื่อนไขและความคุ้มครองของแต่ละแผน เช่น แผนต่างๆ จากรู้ใจ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด เพื่อความอุ่นใจทุกครั้งที่ใช้รถ ลองศึกษาและเปรียบเทียบแผนประกันรถยนต์ที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ที่ เว็บไซต์รู้ใจ เพื่อรับข้อเสนอที่ดีที่สุดสำหรับรถของคุณ
คู่มือเที่ยววิถีใหม่หลังโควิด-19 เตรียมตัวให้พร้อม ปลอดภัย ไร้กังวล
