เจาะลึก! รถชน เราเป็นฝ่ายผิด ประกันชั้นไหน เคลมอะไรได้บ้าง?
ทิปส์ประกันรถยนต์ | 17 เม.ย. 2567


ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ แน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากเกินจะควบคุมจริง ๆ ในกรณีที่รถชน เราเป็นฝ่ายผิด ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ แต่หากเรามีความคุ้มครองประกันรถยนต์ก็จะทำให้คุณปวดหัวน้อยลง ซึ่งประกันแต่ละชั้นจะให้ความคุ้มครองอะไรบ้าง ครอบคลุมแค่ไหน เคลมประกันรถยนต์ยังไงบ้าง ประกันเรียกเก็บค่าซ่อมกับใคร เราลิสต์ประเด็นที่น่าสนใจมาให้แล้ว ไปดูกันเลย!
- รถชน เราเป็นฝ่ายผิด เคลมอะไรได้บ้าง?
- 6 วิธีรับมือเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน เราเป็นฝ่ายผิด
- จะเกิดอะไรขึ้น! เมื่อรถชนคู่กรณีไม่มีประกัน
รถชน เราเป็นฝ่ายผิด เคลมอะไรได้บ้าง?
เชื่อว่าหนึ่งในคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ คือ “เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนแล้วเราเป็นฝ่ายผิด มีประกัน เคลมอะไรได้บ้าง?” ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจคำว่า ‘เคลมประกันรถยนต์’ กันก่อนดีกว่า การเคลมประกันคือ คำร้องของผู้เอาประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์ หรือผู้รับมอบอำนาจ ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ต่อบริษัท (บริษัทรับประกันภัย) เพื่อขอค่าชดเชยสำหรับความสูญเสียหรือความเสียหายที่ครอบคลุมตามเงื่อนไขกรมธรรม์ของคุณ
เมื่อรถชน เราเป็นฝ่ายผิด มีประกันแล้วเคลมได้หรือไม่ ต้องบอกก่อนว่าความคุ้มครองประกันรถยนต์แต่ละประเภท (ชั้น 1, 2+, 2, 3+, 3) แตกต่างกันออกไป ซึ่งสรุปเป็นตารางดังนี้
รายละเอียดความคุ้มครอง | ประกันภัยรถยนต์ | ||||
ชั้น 1 | ชั้น 2+ | ชั้น 3+ | ชั้น 2 | ชั้น 3 | |
คุ้มครองคู่กรณี | |||||
คุ้มครองการบาดเจ็บและเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (คู่กรณีหรือคนเดินถนน) | |||||
ทรัพย์สินของคู่กรณี | |||||
คุ้มครองรถของเรา | |||||
ความเสียหายของรถ (เมื่อชนแบบมีคู่กรณี) | |||||
ความเสียหายของรถ (เมื่อชนแบบไม่มีคู่กรณี) | |||||
รถหาย/ไฟไหม้ | |||||
น้ำท่วม | |||||
คุ้มครองตัวเรา | |||||
ค่ารักษาพยาบาล | |||||
ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล | |||||
การประกันตัวผู้ขับขี่ |
*ความคุ้มครองความเสียหายของรถเรา (เมื่อชนแบบมีคู่กรณี) ในประกันชั้น 2+ และ 3+ คุ้มครองเฉพาะกรณีรถชนรถเท่านั้น
เมื่อเราเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องการเคลมประกัน สิ่งที่เราจะสามารถเคลมได้ จะแยกออกเป็น 3 ส่วน
1. คุ้มครองคู่กรณีและบุคคลภายนอก
- คุ้มครองการบาดเจ็บและเสียชีวิตของบุคคลภายนอก (คู่กรณีหรือคนเดินถนน)
ในส่วนของการคุ้มครองการบาดเจ็บและการเสียชีวิต สามารถเบิกจาก พรบ. รถยนต์ได้ และประกันรถทุกประเภท ไม่ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 3+, 3 และ 2 จะให้ความคุ้มครองอาการบาดเจ็บ และการเสียชีวิตกับคู่กรณีและบุคคลภายนอกทุกคนที่ได้รับการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ซึ่งประกันแต่ละประเภท จะมีวงเงินความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เราทำไว้ก่อนการซื้อประกัน
- คุ้มครองทรัพย์สินของคู่กรณี
ประกันทุกประเภทไม่ว่าประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+, 3+, 3 และ 2 ยังคุ้มครองทรัพย์สินของคู่กรณี อย่างเช่นความเสียหายของรถ เมื่อต้องเคลมประกันรถยนต์ ประกันจะซ่อมรถให้ โดยประกันแต่ละประเภทจะมีวงเงินความคุ้มครองที่แตกต่างกันไป ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เราทำไว้ก่อนการซื้อประกัน
2. คุ้มครองรถเรา
- ความเสียหายของรถเรา (เมื่อชนแบบมีคู่กรณี)
ประกันรถยนต์ชั้น 1, 2+ และ 3+ จะให้คุ้มครองความเสียหายของรถเรา ต้องซ่อมตรงไหนสามารถเคลมได้ตามเงื่อนไขตอนทำประกันได้เลย แต่ประกันชั้น 2+ และ 3+ จะให้คุ้มครองความเสียหายของรถเรา เมื่ออุบัติเหตุนั้นเกิดจากการชนกับยานพาหนะทางบกด้วยกัน (รถชนรถ) โดยวงเงินความคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับทุนประกันตอนที่เราตกลงทำประกันภัย และหากทำประกันชั้น 2 หรือ 3 จะไม่คุ้มครองความเสียหายรถของเราแลกมากับราคาเบี้ยประกันที่ถูกลง
- ความเสียหายของรถเรา (เมื่อชนแบบไม่มีคู่กรณี)
ความคุ้มครองความเสียหายของรถเมื่อชนแบบไม่มีคู่กรณี มีแค่ประกันรถยนต์ชั้น 1 เท่านั้นที่คุ้มครอง
3. คุ้มครองตัวเรา
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลของตัวเรา
เมื่อเราและผู้โดยสารในรถของเรา บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ถึงแม้เราจะเป็นฝ่ายผิด ความคุ้มครองประกันรถยนต์ทุกประเภทก็คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล รวมถึงประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลด้วย และคุณยังสามารถใช้สิทธิ์เบิกพรบ รถยนต์เพื่อเบิกค่ารักษาพยาบาล (ตามจริง) ได้
- คุ้มครองการประกันตัวผู้ขับขี่
เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนโดยที่เราเป็นฝ่ายผิด หากเป็นคดีร้ายแรงถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต คนที่เป็นฝ่ายผิดจะมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย โดยจะมีการดำเนินคดี 2 ส่วนคือ คดีแพ่ง และคดีอาญา ซึ่งบริษัทประกันจะช่วยจ่ายค่าประกันตัวเราเมื่อถูกดำเนินคดีอาญา เพื่ออ