ประกันรถรายวัน VS รายชั่วโมง VS ตามระยะทาง ประกันรถใช้น้อยเลือกยังไง?
ทิปส์ประกันรถยนต์ | 13 มี.ค. 2567


หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมองหาประกันรถใช้น้อย เพราะนาน ๆ ถึงจะขับรถหรือขับรถระยะทางใกล้ ๆ เป็นครั้งคราว แต่ไม่อยากควักเงินซื้อประกันแพงเกินไป แล้วใช้รถน้อยทําประกันที่ไหนดี? เราได้ลิสต์ประกันสำหรับรถที่ใช้งานน้อยมาให้คุณได้นำไปประกอบการตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปรีบเทียบประกันรถรายวัน ประกันรถรายชั่วโมง และประกันรถตามระยะทางแบบไหนเหมาะกับใคร ซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร ไปดูพร้อม ๆ กับเราได้เลย
- ประกันรถยนต์รายวัน คืออะไร?
- ประกันรถยนต์รายชั่วโมง คืออะไร?
- ประกันรถยนต์ตามระยะทาง คืออะไร?
- รู้ใจสรุปให้! ประกันรถรายวัน VS รายชั่วโมง VS ตามระยะทาง แตกต่างกันยังไง?
- ประกันรถรายวัน VS รายชั่วโมง VS ตามระยะทาง แบบไหนเหมาะกับใคร?
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้รถน้อย ไม่ต้องกังวลว่าจะจ่ายค่าเบี้ยสูง เพราะในปัจจุบันมีประกันภัยรถยนต์ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะประกันรถรายวัน ประกันรถรายอาทิตย์ รายชั่วโมง หรือประกันรถตามระยะทาง โดยแต่ละแบบมีรายละเอียดและเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป
ประกันรถรายวัน คืออะไร?
หลายคนคุ้นเคยกันดีในชื่อว่าประกันรถระยะสั้น คือ ประกันภัยรถยนต์ที่สามารถเลือกวันที่รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์ได้ รวมถึงสามารถเลือกว่าจะจ่ายค่าเบี้ยเท่าไหร่ได้อีกด้วย เพื่อให้รถยนต์ของคุณได้รับความคุ้มครองที่เหมาะสม ตอบโจทย์การใช้งาน
ข้อดีของประกันรถรายวัน
1. ราคาประหยัด
ด้วยความที่ประกันรถยนต์รูปแบบนี้ สามารถเลือกเบี้ยประกันได้ตามความต้องการ จึงทำให้มีค่าเบี้ยค่อนข้างถูกกว่าเบี้ยประกันรถยนต์ทั่วไป เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถมอบความอุ่นใจให้คุณได้ดีมาก ๆ เลยล่ะ
2. ความยืดหยุ่น
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการซื้อประกันรถยนต์รายวัน มีความยืดหยุ่นสูงมาก ๆ ไม่จำเป็นจะต้องควักเงินก้อนเพื่อไปกับเรื่องค่าเบี้ยรายปี แถมยังสามารถเลือกให้ตรงตามการใช้รถของตัวเองได้ตามต้องการ
3. ได้รับความคุ้มครองเทียบเท่าประกันรถหลัก
นอกจากจะมีค่าเบี้ยประกันที่ค่อนข้างถูกแล้ว ประกันรายวัน รถยนต์ที่เหมาะกับประกันแบบนี้คือรถที่ใช้น้อย ซึ่งเมื่อขับออกถนนพร้อมรับความคุ้มครองรายวัน ความคุ้มครองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าประกันหลักแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ต้องมานั่งกังวลเรื่องความคุ้มครองเลยสักนิด

ประกันรถยนต์รายชั่วโมง คืออะไร?
ประกันรถยนต์รายชั่วโมง หรือที่เราได้ยินบ่อย ๆ ว่าประกันภัยรถยนต์แบบเปิดปิด คือ ประกันภัยที่เจ้าของรถยนต์เลือกเปิดหรือปิดความคุ้มครองได้ตามใจ โดยจะมีการคิดคำนวณค่าเบี้ยตามระยะเวลาจริงที่มีการใช้งาน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนใช้รถน้อยได้ดีเช่นกัน
ข้อดีของประกันรถยนต์รายชั่วโมง
1. จ่ายตามจริง
“ขับเท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น” สะดวกสบาย ใช้งานไม่ยุ่งยาก แถมยังสามารถเลือกแพคเก็จที่ถูกใจ ถูกไลฟ์สไตล์คนใช้รถน้อย ปัจจุบันสามารถเลือกซื้อออนไลน์ได้ทันที หรือจะติดต่อผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัทประกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของคุณ
2. ประหยัดเบี้ยประกันรถ
ประกันรถยนต์รายชั่วโมง ส่วนใหญ่จะมีค่าเบี้ยถูกกว่าประกันรถยนต์ทั่วไป (แบบรายปี) ประมาณ 30-40% เพราะสามารถเลือกใช้งานในวันและเวลาที่ต้องการได้อย่างอิสระ ช่วงไหนไม่ได้ใช้รถนานก็สามารถปิดได้ยาว ๆ ไม่มีปัญหา
3. ยืดหยุ่น และเลือกได้เองตามต้องการ
ในส่วนนี้สามารถเลือกแพคเกจได้อย่างอิสระ โดยมีให้เลือกตั้งแต่ 1 เดือน ไปจนถึง 12 เดือน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เอาประกันเป็นสำคัญ ตอบโจทย์ความต้องการของคนใช้รถน้อย แต่ก็ยังต้องการได้รับความคุ้มครองที่อุ่นใจ
รู้ใจสรุปให้! ประกันรถรายวัน VS รายชั่วโมง VS ตามระยะทาง แตกต่างกันยังไง?
ประกันรถใช้น้อยแบบไหน คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร รู้ใจสรุปให้สั้น ๆ
- ประกันรถรายวัน คือ ประกันที่เลือกวันที่จะรับความคุ้มครอง และจ่ายเบี้ยเป็นรายวัน
- ประกันรถรายชั่วโมง คือ ประกันรถที่จ่ายเบี้ยตามระยะเวลาที่ให้ความคุ้มครอง
- ประกันรถตามระยะทาง คือ ประกันรถที่จ่ายเบี้ยตามระยะทางที่ขับตามจริง
ประกันรถตามระยะทาง คืออะไร?
ประกันภัยรถยนต์ตามระยะทาง หรือที่เราได้ยินว่าประกันรถตามไมล์คือ การทำประกันในราคาประหยัด คิดค่าเบี้ยตามระยะทางที่ขับตามจริง ยินดีมอบความคุ้มครองให้คุณเทียบเท่าประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ในราคาที่ประหยัดกว่า ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับร่างกายและทรัพย์สินของเจ้าของรถรวมไปถึงคู่กรณี นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีอีกด้วย
ข้อดีของประกันรถตามระยะทาง
- เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าเบี้ยประกัน
- เหมาะกับเจ้าของรถที่ขับรถค่อนข้างน้อย หรือในแต่ละวันขับรถในระยะทางสั้น ๆ
- เหมาะกับคนที่ต้องการดูแลรักษารถยนต์ แต่ไม่อยากควักเงินจ่ายค่าเบี้ยที่สูง ๆ
- ยืดหยุ่นแต่ความคุ้มครองเยอะ จ่ายได้ในราคาสบายกระเป๋ากว่า
จะเห็นได้ว่าประกันภัยรถยนต์ทั้งแบบรายวัน รายชั่วโมง และตามระยะทาง มีรายละเอียดและข้อดีที่แตกต่างกันออกไป สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนใช้รถน้อยได้คนละแบบ แต่ไม่ว่าอย่างไร ทั้ง 3 แบบมีความยืดหยุ่นสูงมาก ๆ ลองถามตัวเองให้ดีว่าจริง ๆ แล้วตัวเองมีไลฟ์สไตล์การใช้รถเป็นแบบไหน เพื่อให้คุณ “ประหยัดค่าเบี้ยได้มากที่สุด” แต่ยังคงได้รับความอุ่นใจครบถ้วนตามเดิม