รวมพล ‘กระบะตัวตึง’ แห่งถนนเมืองไทย! รุ่นไหนใช่สำหรับคุณ?
29 ก.ย. 68 (11:44 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้
ทุกวันนี้รถกระบะไม่ได้มีดีแค่ขนของแต่จริงๆ และสามารถปรับตามไลฟ์สไตล์การใช้งานได้สุดๆ แต่บางคนก็เอาไปกร่าง! บนถนนทำให้หลายคนบอกว่า มันคือตัวตึงถนนเมืองไทยเลยล่ะ แต่เรื่องนั้นพักไว้ก่อนเพราะ Sanook Auto รวมตัวตึงกระบะในไทยว่า แต่ละรุ่นมีดีะไรที่ไม่ต้องเอาเรื่องกร่างมาขิงกัน พร้อมแล้วเริ่มกันเลย
รวมพลกระบะในไทย รุ่นไหนตึงเรื่องไหนมาดูกัน

Toyota Hilux Revo
ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของกรุงเทพฯ หรือทั่วไทย ก็ต้องเจอ! Revo คือชื่อที่การันตีความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และศูนย์บริการที่ครอบคลุม ทำให้เป็นขวัญใจมหาชนมาอย่างยาวนาน เพราะรุ่นนี้สมดุลทุกด้าน! จะใช้งานบรรทุกหนักก็ไหว จะขับหล่อๆ ในเมืองก็ได้ มีรุ่นย่อยให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่ตัวใช้งานยันตัวแต่งหล่อ GR Sport ที่หล่อมาจากโรงงาน แถมเรื่องการดูแลรักษาก็หายห่วง มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและพละกำลังที่ไว้ใจได้
ราคา
- ตัวเริ่ม (Standard Cab): ประมาณ 584,000 บาท
- ตัวท็อป (GR Sport): ประมาณ 1,499,000 บาท

Ford Ranger
ถ้าพูดถึงกระบะที่หน้าตาหล่อเหลา เทคโนโลยีจัดเต็ม และมี “ตัวจบ” อย่าง Raptor ที่เป็นกระบะสายลุยสมรรถนะสูง ก็ต้องยกให้ Ford Ranger เค้าเลย! โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตจะเห็นบ่อยมาก เพราะมีดีไซน์โดดเด่นทั้งภายนอกและภายในที่เหมือนรถ SUV ระดับพรีเมียม ออปชันและเทคโนโลยีความปลอดภัยจัดเต็ม และมีรุ่นย่อยอย่าง Wildtrak และ Raptor ที่ตอบโจทย์สายไลฟ์สไตล์และสายลุยตัวจริง
และเครื่องยนต์มีตั้งแต่เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว, 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ไปจนถึงเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ในรุ่น Raptor
ราคา
- ตัวเริ่ม (Standard Cab): ประมาณ 669,000 บาท
- ตัวท็อป (Ranger Raptor): ประมาณ 1,919,000 บาท

3. Isuzu D-Max
แม้จะยังไม่มีซีนในกระแสล่าสุด แต่จะขาด “ตัวตึง” อย่าง D-Max ไปไม่ได้! นี่คือเจ้าพ่อแห่งวงการกระบะที่ครองใจคนไทยด้วยความประหยัดน้ำมัน ความทนทานระดับตำนาน และราคาขายต่อที่ดีงามเสมอมา เครื่องยนต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดน้ำมันสุดๆ อะไหล่หาง่าย ซ่อมบำรุงสบายกระเป๋า เป็นรถที่เน้นการใช้งานจริงจัง ทนทานไว้ใจได้เสมอ
เลือกได้ระหว่างเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 DDi Max Force ที่เน้นความประหยัด แต่ยังได้ความแรง และเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power สำหรับสายบรรทุกหนักต้องการกำลัง
ราคา
- ตัวเริ่ม (Spark): ประมาณ 588,000 บาท
- ตัวท็อป (V-Cross 4×4): ประมาณ 1,277,000 บาท

Mitsubishi Triton
ต้องบอกว่ารถกระบะอีกคันที่เรียกว่าดีอย่าง Triton โฉมใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป บอกเลยว่าดีไซน์ดุดันสะดุดตาสุดๆ สมกับฉายา “ตัวตึงกรุงเทพ” ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่มั่นใจได้ โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เป็นเอกลักษณ์ ดีไซน์ใหม่หมดจดที่ดุดันและทันสมัย ช่วงล่างที่เกาะถนนและให้ความนุ่มนวล มาพร้อมเครื่องยนต์ “Hyper Power” ใหม่ที่แรงและตอบสนองได้ดี
เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร Hyper Power Turbo ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า
ราคา
- ตัวเริ่ม (Single Cab): ประมาณ 699,000 บาท
- ตัวท็อป (Double Cab Ultra): ประมาณ 1,298,000 บาท

Nissan Navara
อีกรุ่นที่เรียกว่าแม้จะไม่ได้ทำยอดขายดีเท่าคนอื่นเขาแต่ว่า ที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนในเรื่องของความแกร่งและช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม บรรทุกหนักก็ไม่หวั่น แถมยังให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่มั่นคง แถมเหล็กหนา! ชนยุบยากเพราะ โครงสร้างแชสซีส์เหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคันที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ช่วงล่างที่ให้ทั้งความนุ่มนวลและความเกาะถนน และมีรุ่น PRO-4X/PRO-2X ที่แต่งหล่อมาให้พร้อมลุย
ขุมพลัง: เครื่องยนต์ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ให้กำลังสูงและแรงบิดที่ดีในรอบต่ำ และ 2.3 ลิตรดีเซล VGS Turbo 160 แรงม้า
ค่าตัว
- ตัวเริ่ม (Single Cab): ประมาณ 605,000 บาท
- ตัวท็อป (PRO-4X): ประมาณ 1,045,000 บาท

Mazda BT-50
แม้จะใช้พื้นฐานเดียวกับ Isuzu D-Max แต่ BT-50 มาในลุคที่แตกต่าง ด้วยดีไซน์ Kodo Design ของ Mazda ที่เน้นความเรียบหรู ดูพรีเมียมเหมือนขับ SUV เหมาะกับคนที่อยากได้รถกระบะที่ไม่ดูดุดันจนเกินไปเพราะ ดีไซน์ที่สวยงามและแตกต่างจากกระบะทั่วไป ภายในห้องโดยสารตกแต่งอย่างมีสไตล์ ใช้วัสดุคุณภาพดี ให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์นั่ง
ขุมพลัง มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และ 3.0 ลิตร (บล็อกเดียวกับ Isuzu)
ราคา
- ตัวเริ่ม Freestyle Cap: ประมาณ 589,000 บาท
- ตัวท็อป (Double Cab 4×4): ประมาณ 939,000 บาท

Toyota Hilux Champ
ปิดท้ายกับกระบะเลโก้อย่าง Hilux Champ เกิดมาเพื่อเป็นกระบะสาย Customization โดยเฉพาะ เปิดทางให้เจ้าของสามารถนำไปดัดแปลงต่อยอดได้สารพัด ไม่ว่าจะเป็นรถบ้าน Food Truck หรือรถเซอร์วิสโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อการดัดแปลงโดยเฉพาะ ราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายสุดๆ และมีความทนทานตามมาตรฐาน Toyota
ขุมพลัง: มีให้เลือก 3 แบบ คือ เบนซิน 2.0 ลิตร, เบนซิน 2.7 ลิตร และดีเซล 2.4 ลิตร
ราคา
- ตัวเริ่ม: ประมาณ 459,000 บาท
- ตัวท็อป: ประมาณ 577,000 บาท
ไม่ว่ารุ่นไหนก็มีจุดเด่นเปนของตัวเองที่ดี จะเลือกคันไหนดี อยู่ที่ว่าไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณเป็นแบบไหน… ชอบความน่าเชื่อถือรอบด้าน? หรือเน้นเทคโนโลยีล้ำๆ? ชอบความประหยัดสุดขั้ว? หรืออยากได้รถที่พร้อมลุยและแต่งหล่อ? มากกว่ากันครับ
แชร์เรื่องนี้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เปิดสเปค Toyota Hilux Revo Z Edition กระบะแกร่งที่รอดแม้กระทั่ง ถนนทรุดNissan Navara Calibre เพิ่ม 3 รุ่นย่อยใหม่ เกียร์อัตโนมัติ-ธรรมดา กับราคาเช้าถึงงานเริ่ม 7.58 แสนบาททำไมรถกระบะถึงนิยม “ดรัม
![[ครบชุด] 1010354 แฟนใหม่แม่ คนนี้ หนูไม่ชอบ](https://filmthailan.nataviguides.com/wp-content/uploads/2025/10/image-762.png)
![[ครบชุด] 1010355 ผู้ชายตอแหล น่ากลัวยิ่งกว่าผี นพ กระดิ่ง ชาแนล](https://filmthailan.nataviguides.com/wp-content/uploads/2025/10/image-763.png)