บริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถยนต์: ใช้แล้วนับเป็นการเคลมประกันหรือไม่? และมีผลต่อเบี้ยประกันอย่างไร?

June 17, 2025

ภาพหญิงสาวกำลังยืนรอความช่วยเหลือข้างรถที่เสีย มีรถยกอยู่ด้านหลัง สื่อถึงสถานการณ์รถเสียฉุกเฉินที่ต้องการบริการช่วยเหลือ

การเดินทางด้วยรถยนต์นั้น มักมาพร้อมกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นรถเสียกะทันหัน ยางแบน แบตเตอรี่หมด หรือแม้แต่น้ำมันหมดกลางทาง เหตุการณ์เหล่านี้สร้างความกังวลและความลำบากให้กับผู้ขับขี่เป็นอย่างมาก บริการหนึ่งที่กลายเป็นสิ่งจำเป็นและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คือ “บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง” แต่หลายคนยังคงสงสัยว่า การเรียกใช้บริการนี้ จะถูกนับเป็นการเคลมประกันรถยนต์หรือไม่ และจะส่งผลต่อเบี้ยประกันในปีต่อไปอย่างไร บทความนี้มีคำตอบสำหรับข้อสงสัยเหล่านี้

บริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถยนต์ คืออะไร?

บริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถยนต์ คือบริการเสริมที่มักพ่วงมากับกรมธรรม์ประกันรถยนต์บางประเภท หรือสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ขับขี่เมื่อรถประสบปัญหาฉุกเฉินบนท้องถนนที่ไม่ใช่เหตุการณ์ชนหรืออุบัติเหตุใหญ่ๆ เช่น ปัญหายาง แบตเตอรี่ ระบบเครื่องยนต์เล็กน้อย หรือการขาดเชื้อเพลิง บริการนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ให้บริการเข้าถึงจุดที่เกิดเหตุภายในเวลาอันสั้น

บริการนี้แตกต่างจากการเคลมประกันในกรณีอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจากเหตุการณ์ชนหรือการกระทำของบุคคลที่สาม

บริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง?

เงื่อนไขและขอบเขตของบริการช่วยเหลือฉุกเฉินอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัทประกันและแผนความคุ้มครองที่คุณเลือก อย่างไรก็ตาม บริการพื้นฐานที่มักครอบคลุม ได้แก่:

การช่วยเหลือซ่อมแซมเบื้องต้น

เมื่อรถเกิดปัญหากะทันหัน เช่น แบตเตอรี่อ่อน ยางแบน หรือปัญหาทางกลไกเล็กน้อยที่ไม่ต้องนำรถเข้าอู่ทันที บริการนี้จะส่งช่างผู้เชี่ยวชาญมาให้ความช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ โดยอาจเป็นการแก้ไขปัญหาชั่วคราวเพื่อให้รถสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ เช่น การพ่วงแบตเตอรี่ การเปลี่ยนยางอะไหล่ หรือการซ่อมแซมจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่สามารถทำได้ทันที

บริการเติมน้ำมันฉุกเฉิน

ในกรณีที่รถน้ำมันหมดระหว่างเดินทางและไม่สามารถเข้าถึงปั๊มน้ำมันได้ บริการนี้จะนำน้ำมันมาส่งให้ในปริมาณจำกัด เพื่อให้คุณขับรถต่อไปยังสถานีบริการน้ำมันที่ใกล้ที่สุดได้ บริการนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อเดินทางในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยหรือในยามค่ำคืน

บริการช่างกุญแจ

หากกุญแจรถหาย ลืมกุญแจไว้ในรถ หรือระบบล็อคมีปัญหา บริการช่างกุญแจจะเข้ามาช่วยจัดการปัญหาการเข้าถึงตัวรถให้คุณ นี่เป็นบริการที่สำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันความเสี่ยงและอันตรายจากการต้องพยายามเปิดรถด้วยตนเองในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย

บริการรถยก/รถลาก

ในกรณีที่รถเสียหนักและไม่สามารถซ่อมแซม ณ จุดเกิดเหตุได้ จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายรถไปยังอู่ซ่อมรถ บริการรถยกหรือรถลากจะรับผิดชอบการขนส่งรถของคุณไปยังอู่ในเครือข่ายหรืออู่ที่คุณต้องการ (ตามเงื่อนไขที่ระบุในกรมธรรม์) บริการนี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการขนย้ายรถเมื่อรถเสียที่ไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้

ภาพผู้หญิงใช้โทรศัพท์มือถือเรียกบริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถยนต์ แสดงถึงความสะดวกในการขอความช่วยเหลือเมื่อรถเสียกลางทาง

การใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน นับเป็นการเคลมประกันหรือไม่?

หนึ่งในข้อสงสัยที่พบบ่อยคือ การเรียกใช้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินเหล่านี้ จะถูกบันทึกว่าเป็นการ “เคลมประกัน” เหมือนกรณีรถชนหรือไม่ คำตอบคือ “ไม่นับเป็นการเคลมประกัน” ในความหมายที่เราคุ้นเคย

บริการช่วยเหลือฉุกเฉินถือเป็นสิทธิประโยชน์เสริมที่แยกต่างหากจากกระบวนการ การเคลมประกันรถยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายจากอุบัติเหตุ การใช้บริการนี้เป็นการใช้บริการด้านการช่วยเหลือ ไม่ใช่การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย

บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ส่งผลต่อเบี้ยประกันในปีถัดไปหรือไม่?

เนื่องจากบริการช่วยเหลือฉุกเฉินถือเป็นบริการเสริมที่แยกต่างหากจากความคุ้มครองหลักของกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ การเรียกใช้บริการนี้จึง “ไม่มีผลโดยตรง” ต่อการคำนวณเบี้ยประกันในปีถัดไป ไม่ว่าคุณจะเรียกใช้บริการกี่ครั้งก็ตาม (ภายในขอบเขตที่กำหนดในกรมธรรม์)

อย่างไรก็ตาม กรมธรรม์แต่ละฉบับจะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับ “จำนวนครั้ง” หรือ “ขอบเขต” ของการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินในแต่ละปี หากมีการใช้บริการเกินกว่าที่กำหนด ผู้เอาประกันอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนเกินเอง ดังนั้น ควรศึกษาเงื่อนไขในกรมธรรม์ของคุณให้ละเอียด

ทำไมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจึงสำคัญ?

การมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินติดไว้กับกรมธรรม์ ประกันรถยนต์ ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทางได้อย่างมาก คุณจะไม่ต้องกังวลหากรถเสียในที่เปลี่ยว หรือในเวลาที่ไม่สะดวก การได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ในหลายกรณี ค่าใช้จ่ายในการเรียกใช้บริการฉุกเฉินผ่านบริษัทประกัน อาจถูกกว่าการเรียกใช้บริการจากแหล่งภายนอกโดยตรง ทั้งยังมั่นใจได้ในคุณภาพของผู้ให้บริการที่ได้รับการคัดเลือกจากบริษัทประกัน เช่น การส่งรถไปยัง อู่ซ่อมรถยนต์ที่ได้มาตรฐาน ในเครือข่าย

เพื่อให้การเดินทางของคุณราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น การเลือกประกันรถยนต์ที่ครอบคลุมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบความคุ้มครอง และเบี้ยประกัน เพื่อให้ได้แผนประกันที่คุ้มค่าและมั่นใจได้ทุกการเดินทาง

Previous Post