ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าพรีเมียมที่พร้อมบุกเบิกทุกเส้นทาง (ฉบับ 2025)
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของตลาด EV มาอย่างต่อเนื่อง จากยุคแรกเริ่มที่เน้นเพียงแค่การประหยัดพลังงาน สู่ยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีและสมรรถนะกลายเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะในปี 2025 นี้ การแข่งขันในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า SUV ยิ่งทวีความดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่หลั่งไหลเข้ามา หนึ่งในดาวเด่นที่ผมมั่นใจว่าจะสร้างความสั่นสะเทือนและเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ คือ ZEEKR 7X SUV ไฟฟ้า ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป แต่เป็นยนตรกรรมที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะที่เร้าใจ และความสามารถในการบุกตะลุยได้อย่างน่าทึ่ง
ZEEKR 7X คือผลงานชิ้นเอกที่สะท้อนวิสัยทัศน์ของ Geely ในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมที่ตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า SUV กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด การมาถึงของ ZEEKR 7X จึงเปรียบเสมือนการเติมเต็มช่องว่างที่หลายคนเฝ้ารอคอย นั่นคือ SUV ไฟฟ้าที่ไม่ได้เก่งแค่บนถนนเรียบ แต่ยังสามารถลุยไปได้ทุกที่ที่ใจต้องการ
การออกแบบที่หรูหราแต่แฝงด้วยความล้ำสมัย: สุนทรียภาพแห่งยุคดิจิทัล
เมื่อแรกเห็น ZEEKR 7X สิ่งแรกที่สะดุดตาคือเส้นสายการออกแบบที่เรียบหรูแต่แฝงด้วยความทันสมัยอย่างลงตัว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ZEEKR โดยเฉพาะในรุ่น 7X นี้ ทีมออกแบบได้รังสรรค์ให้ตัวรถมีสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความยาว 4,787 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,930 มิลลิเมตร และความสูง 1,650 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อที่กว้างถึง 2,900 มิลลิเมตร ทำให้ตัวรถดูแข็งแกร่ง มั่นคง และมีพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง
ไฟหน้า Stargate Front Light Panel ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งกำเนิดแสง แต่ยังเป็นงานศิลปะที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างมิติและบุคลิกเฉพาะตัวให้กับรถยนต์ไฟฟ้า SUV คันนี้ ไม่ว่าจะในเวลากลางวันหรือกลางคืน การออกแบบด้านหน้าที่ผสานความเรียบง่ายเข้ากับความซับซ้อนของเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นไม่ซ้ำใครบนท้องถนน ด้านข้างของตัวรถถูกออกแบบให้มีเส้นสายที่ลื่นไหล พร้อมมือจับประตูแบบ Flush Door Handle ที่จะซ่อนตัวเมื่อไม่ใช้งาน เพิ่มความสวยงามและลดแรงเสียดทานตามหลักอากาศพลศาสตร์ ส่วนล้ออัลลอยด์ Forged ขนาด 21 นิ้ว (ในรุ่นท็อป) ที่มาพร้อมยางขนาด 265/40 R21 ไม่เพียงแต่เพิ่มความสง่างาม แต่ยังรองรับสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ระบบเบรกดิสก์ 4pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้มสดใส ยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของรถ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูงได้อย่างชัดเจน
ขุมพลังไฟฟ้า 800V: หัวใจแห่งสมรรถนะอันไร้ขีดจำกัด
ในโลกของยานยนต์ไฟฟ้าปี 2025 เทคโนโลยี 800V กลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมหลายรุ่นเลือกใช้ และ ZEEKR 7X ก็ไม่พลาดที่จะนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนสมรรถนะอันน่าทึ่งและประสิทธิภาพการชาร์จที่รวดเร็ว การเลือกใช้แพลตฟอร์ม 800V ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลข แต่หมายถึงการบริหารจัดการพลังงานที่ยอดเยี่ยม ลดการสูญเสียพลังงาน และเปิดโอกาสให้กับการชาร์จที่เร็วกว่าเดิมมาก
ZEEKR 7X มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานสูงสุดของประสิทธิภาพ
รุ่น Long Range RWD:
ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ล้อหลัง ให้พละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร
มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh รองรับเทคโนโลยี 800V
อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งมากกว่า 700 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งถือเป็นระยะทางที่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกลข้ามจังหวัดได้อย่างสบาย
รุ่น Performance AWD:
สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด รุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD All-Wheel Drive
พละกำลังสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร
ใช้แบตเตอรี่ขนาด 100 kWh ชนิด Lithium-ion (NMC) เทคโนโลยี 800V เช่นกัน
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้น่าทึ่งเพียง 3.8 วินาที ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจเทียบเท่าซูเปอร์คาร์ ความเร็วสูงสุดยังคงอยู่ที่ 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งมากกว่า 600 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC แม้จะน้อยกว่ารุ่น RWD เล็กน้อย แต่แลกมาด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ในฐานะนักขับผู้มีประสบการณ์ ผมกล้าพูดได้เลยว่า พลังและแรงบิดมหาศาลที่ถูกส่งออกมาทันทีที่เท้าแตะคันเร่ง เป็นสิ่งที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าแตกต่างจากรถยนต์สันดาปอย่างสิ้นเชิง และ ZEEKR 7X ก็ได้นำเสนอประสบการณ์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะเลือก Long Range RWD สำหรับการขับขี่ที่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง หรือ Performance AWD เพื่อความตื่นเต้นเร้าใจในทุกเส้นทาง ZEEKR 7X ก็พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างไร้ที่ติ
ระบบชาร์จที่รวดเร็วทันใจ: ก้าวข้ามข้อจำกัดของระยะทาง
หนึ่งในข้อกังวลหลักของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคือเรื่องของ “การชาร์จ” แต่สำหรับ ZEEKR 7X ปัญหานี้แทบจะหมดไป ด้วยระบบชาร์จที่ล้ำสมัยและรวดเร็วเป็นพิเศษ
การชาร์จกระแสสลับ AC: รองรับสูงสุด 22 kW ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือตามสถานี AC ทั่วไป ช่วยให้การชาร์จเต็มแบตเตอรี่ในแต่ละวันเป็นไปอย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย
การชาร์จกระแสตรง DC Fast Charging: นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ ZEEKR 7X ก้าวล้ำคู่แข่ง ด้วยการรองรับสูงสุดถึง 420 kW และสามารถชาร์จจาก 10% ไป 80% ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที เมื่อใช้สถานีชาร์จ DC ที่มีกำลังไฟ 360 kW หรือสูงกว่า เทคโนโลยีนี้ทำให้การเดินทางไกลด้วย รถ EV วิ่งไกล อย่าง ZEEKR 7X กลายเป็นเรื่องง่ายดายราวกับการเติมน้ำมัน ไม่ต้องเสียเวลารอนานๆ อีกต่อไป
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L: ฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) สูงสุด 3.3 kW (3,300 watts) คืออีกหนึ่งความสามารถที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ ZEEKR 7X เปลี่ยนรถของคุณให้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ สามารถจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกไปตั้งแคมป์ ปิกนิก หรือในกรณีฉุกเฉิน ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วงล่างและการขับขี่: เหนือกว่าความนุ่มนวล คือความมั่นคงและลุยได้จริง
หัวใจสำคัญของการเป็น SUV ที่สมบูรณ์แบบคือช่วงล่างที่ต้องตอบสนองได้ทั้งความนุ่มนวลบนถนนเรียบ และความแข็งแกร่งสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด ZEEKR 7X มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone และด้านหลังอิสระ Multi-Link ที่ให้ความมั่นคงและการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม
สิ่งที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างอย่างแท้จริงคือ ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ซึ่งปรับระดับความสูงและความนุ่มนวลของช่วงล่างได้อัตโนมัติ ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการ ผมยังไม่เคยเห็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV คันไหนที่กล้าประกาศจุดเด่นด้านออฟโรดได้อย่างมั่นใจเท่านี้มาก่อน และจากการทดสอบจริง ก็ต้องยอมรับว่า ZEEKR 7X ทำได้อย่างน่าประทับใจ
ในการทดสอบขับขี่แบบออฟโรดที่เขาใหญ่ ตัวรถได้แสดงศักยภาพที่เหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิง:
การปรับความสูงอัตโนมัติ: เมื่อเข้าสู่โหมดออฟโรด ช่วงล่างถุงลมจะยกตัวรถขึ้นเพิ่มระยะ Ground Clearance เป็น 230 มม. ซึ่งสูงเพียงพอที่จะผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้ง่ายดาย
เนินสลับ: ระบบขับเคลื่อนสามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะพื้นได้ดีเยี่ยม ทำให้รถเคลื่อนตัวผ่านเนินสลับที่ล้อลอยจากพื้นได้โดยไม่ติดขัด ที่สำคัญคือการให้ตัวของช่วงล่างที่นุ่มนวลมาก ทำให้ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก
เนินชัน: พละกำลังมหาศาลของมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้การปีนป่ายเนินชันเป็นเรื่องง่าย แม้จะหยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบก็จัดการพลังงานได้อย่างราบรื่น ไม่มีการฟรีทิ้งของล้อ
การลงเนินสูงด้วย HDC: ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างนุ่มนวลและแม่นยำ ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจและควบคุมรถได้สบายใจ แม้ในทางลาดชันสูงชัน
ทางขรุขระ: การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระด้วยช่วงล่างถุงลม ให้ความนุ่มนวลและซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม สิ่งที่น่าทึ่งคือพวงมาลัยยังคงนิ่ง ไม่มีการสั่นสะเทือนหรือตีมือแต่อย่างใด ซึ่งเป็นจุดที่รถยนต์ออฟโรดหลายคันยังทำได้ไม่ดีเท่า
การทดสอบเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ รถไฟฟ้าออฟโรด ที่ชื่อเรียกสวยหรู แต่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่พร้อมลุยได้จริง ทำให้มันโดดเด่นและเป็นตัวเลือกที่ไม่มีคู่แข่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ณ ขณะนี้
บนทางเรียบ รุ่น Performance AWD ให้แรงดึงมหาศาลและขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล ส่วนรุ่น Long Range RWD แม้จะให้ความรู้สึกที่มั่นคงและกระชับกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความนุ่มนวลและสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยอดเยี่ยม
ห้องโดยสาร: นิยามใหม่ของความหรูหราและเทคโนโลยีเพื่อการพักผ่อน
ก้าวเข้าสู่ภายในของ ZEEKR 7X คุณจะพบกับพื้นที่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ ห้องโดยสารพรีเมียมนี้คือผลลัพธ์ของการผสมผสานระหว่างวัสดุคุณภาพสูง เทคโนโลยีล้ำสมัย และความใส่ใจในทุกรายละเอียด
เบาะนั่งหนัง Nappa Leather: เบาะนั่งที่หุ้มด้วยหนัง Nappa ที่มีชื่อเสียงในด้านความนุ่มนวลและหรูหรา ไม่เพียงแต่ให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสะท้อนรสนิยมระดับสูงของผู้ครอบครอง เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าระหว่างการเดินทางไกลหรือหลังวันทำงานที่เหน็ดเหนื่อย
เบาะหลังปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า: ผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับองศาการนั่งได้อย่างอิสระ ทำให้ห้องโดยสารด้านหลังกลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน พักผ่อน หรือรับชมความบันเทิง ม่านบังแดดประตูคู่หลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ยิ่งเสริมความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวได้อย่างลงตัว
ประตูไฟฟ้า: ประตูทั้ง 4 บานสามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความหรูหราและความสะดวกสบายในการเข้า-ออก
ระบบสารสนเทศและความบันเทิง:
จอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง รับชมสื่อบันเทิง หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor (5nm): หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนระบบทั้งหมด ให้การประมวลผลที่รวดเร็วและราบรื่น ตอบสนองทุกคำสั่งได้อย่างทันใจ
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: สร้างมิติเสียงรอบทิศทาง ให้ประสบการณ์เหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบสุนทรียภาพแห่งเสียงเพลงตลอดการเดินทาง
การออกแบบภายในของ ZEEKR 7X สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน ที่ไม่เพียงต้องการแค่การเดินทาง แต่ต้องการประสบการณ์ที่เหนือกว่า ซึ่ง ZEEKR 7X ได้ตอบโจทย์นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ความปลอดภัยระดับสูงสุด: มั่นใจในทุกเส้นทาง
ความปลอดภัยคือสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ และ ZEEKR 7X ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับแรก ด้วยการสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
มาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว: ZEEKR 7X ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนนสูงถึง 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องทุกคนในครอบครัว
ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD: ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพของระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้การขับขี่ปลอดภัยและลดความเหนื่อยล้า
โครงสร้างตัวถัง Dome-Shaped: โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast ชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ปลอดภัย และลดน้ำหนักของตัวรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นด้วย
ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครันและล้ำสมัย ทำให้ ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง เท่านั้น แต่ยังเป็น รถยนต์ไฟฟ้าที่ปลอดภัยที่สุด รุ่นหนึ่งในตลาดปัจจุบัน
ราคาและการรับประกัน: ความคุ้มค่าที่มาพร้อมความมั่นใจ
ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ZEEKR ประเทศไทย จะเปิดราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ ZEEKR 7X ซึ่งจากการคาดการณ์ราคา (นำเข้า CBU จากจีน) ก็ถือว่าน่าสนใจอย่างยิ่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม
7X Long Range RWD: ช่วงราคาประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท
ราคาเหล่านี้เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี สมรรถนะ ความหรูหรา และความสามารถรอบด้านที่ ZEEKR 7X มอบให้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ZEEKR ประเทศไทย ยังมอบการรับประกันคุณภาพที่น่าเชื่อถือ:
รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
รับประกันแบตเตอรี่ และ มอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.
การรับประกันที่ยาวนานนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ทำให้ผู้เป็นเจ้าของ ZEEKR 7X สามารถใช้งานได้อย่างอุ่นใจไร้กังวลเรื่อง ค่าบำรุงรักษารถ EV ในระยะยาว
สรุปและบทเชิญชวน: ประสบการณ์แห่งอนาคตที่รอคุณอยู่
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ติดตาม ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย มาอย่างใกล้ชิด ผมกล้ากล่าวได้ว่า ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานของ EV SUV ออฟโรด ให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา สมรรถนะอันเร้าใจ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และความสามารถในการบุกตะลุยที่ไม่เคยมีในรถยนต์ไฟฟ้าคันใดมาก่อน ทำให้ ZEEKR 7X เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและเป็นนิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่แท้จริง
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มองหา รถ EV สมรรถนะสูง สำหรับการเดินทางในเมือง ผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยแบบออฟโรด หรือเพียงแค่ต้องการ รถ EV หรู ที่มอบความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับครอบครัว ZEEKR 7X สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณได้อย่างเหนือความคาดหมาย
ถึงเวลาแล้วที่จะสัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ที่จะพลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่ของคุณไปตลอดกาล อย่ารอช้า! หากคุณพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางอันน่าตื่นเต้นนี้ ผมขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสัมผัสและทดลองขับ ZEEKR 7X ที่โชว์รูม ZEEKR ประเทศไทย ทั่วประเทศ เพื่อเปิดประสบการณ์เหนือระดับและทำความรู้จักกับ SUV ไฟฟ้าที่ “พร้อมลุย” คันนี้ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม ZEEKR 7X ถึงเป็นมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า แต่คือพาร์ทเนอร์ที่จะพาคุณไปได้ทุกที่…อย่างมีสไตล์และพลังงานที่ไร้ขีดจำกัด.
![[ครบชุด] 1211194 คุณกับแม่เป็นแบบนี้รึเปล่า](https://filmthailan.nataviguides.com/wp-content/uploads/2025/11/image-687.png)
![[ครบชุด] 1211196 แฟนเราเป็นอย่างที่เราคิดจริงเหรอ](https://filmthailan.nataviguides.com/wp-content/uploads/2025/11/image-688.png)