เจาะลึกศักยภาพอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ประชาชื่น-งามวงศ์วาน: ทำเลทองสำหรับธุรกิจแห่งอนาคตปี 2025

October 3, 2025

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ การเลือกทำเลที่ตั้งเปรียบเสมือนการวางรากฐานสำคัญที่จะชี้วัดความสำเร็จในระยะยาว การมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนหรือประกอบกิจการจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้านมากกว่าแค่ราคาและขนาดพื้นที่ บทความนี้จะพาคุณไปวิเคราะห์เชิงลึกถึงศักยภาพของอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นในย่านประชาชื่น-งามวงศ์วาน ซึ่งเป็นทำเลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโซนที่มีพลวัตสูงสุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และคาดการณ์ว่าศักยภาพจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นในปี 2025 ทำให้เป็นโอกาสทองที่นักลงทุนและผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม

วิเคราะห์ศักยภาพทำเลที่ไม่มีใครเทียบได้: หัวใจแห่งความสำเร็จ

ปัจจัยสำคัญที่สุดที่ขับเคลื่อนมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์คือ “ทำเล” อาคารพาณิชย์หลังนี้ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่รายล้อมไปด้วยแม่เหล็กดึงดูดผู้คน ซึ่งสามารถจำแนกศักยภาพได้ดังนี้

ศูนย์กลางของชุมชนที่ไม่เคยหลับใหล

ความโดดเด่นของทำเลนี้คือการเป็นศูนย์รวมของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายและมีกำลังซื้อสูง ตลอด 24 ชั่วโมง พื้นที่นี้จะเต็มไปด้วยความคึกคักจากผู้คนหลายกลุ่ม

กลุ่มนักศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา: ด้วยระยะทางเพียง 200 เมตรจากประตูหลังของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำที่มีนักศึกษาและบุคลากรหลายพันคน ทำให้มีกระแสลูกค้าหมุนเวียนตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ หรือธุรกิจบริการต่างๆ
กลุ่มพนักงานออฟฟิศ: พื้นที่นี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และสาขาของบริษัทชั้นนำหลายแห่ง เช่น บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด, บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) รวมถึงหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจอย่างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งหมายถึงกลุ่มลูกค้าประจำที่มีรายได้แน่นอนและมีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน
กลุ่มผู้อยู่อาศัยในโครงการและชุมชนโดยรอบ: ย่านประชาชื่น-งามวงศ์วานเป็นโซนที่พักอาศัยที่มีความหนาแน่นสูง ประกอบไปด้วยหมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และอพาร์ตเมนต์จำนวนมาก ทำให้มีฐานลูกค้าที่เป็นครัวเรือน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับธุรกิจค้าปลีก คลินิก ร้านขายยา และบริการอื่นๆ

เชื่อมต่อทุกการเดินทางอย่างไร้รอยต่อ

ความสะดวกในการเข้าถึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ทำเลนี้โดดเด่น อาคารแห่งนี้สามารถเข้า-ออกได้จากถนนสายหลักถึง 3 เส้นทาง ทำให้การเดินทางสำหรับลูกค้า การขนส่งสินค้า และการเดินทางของเจ้าของกิจการเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

ถนนประชาชื่น: สามารถเข้าจากซอยประชาชื่น 12 ซึ่งเป็นเส้นทางลัดเลาะข้างมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ทำให้เชื่อมต่อกับย่านเตาปูน บางซื่อ และใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว
ถนนงามวงศ์วาน: มีทางออกสู่ถนนงามวงศ์วานได้ถึง 2 ซอย คือ ซอย 43 และ 47 ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่เชื่อมต่อไปยังแยกพงษ์เพชร แยกเกษตร และห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
ถนนวิภาวดีรังสิต: สามารถใช้เส้นทางผ่านสนามกอล์ฟนอร์ธปาร์คเพื่อออกสู่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางเข้า-ออกเมือง เชื่อมต่อกับทางด่วน และสนามบินดอนเมือง

นอกจากนี้ การมาถึงของระบบขนส่งมวลชนสมัยใหม่อย่าง รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม สถานีทุ่งสองห้อง ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 1.6 กิโลเมตร ได้ยกระดับศักยภาพของทำเลนี้ไปอีกขั้น ทำให้การเดินทางสะดวกสบายและดึงดูดผู้คนจากพื้นที่อื่นให้เข้ามาในย่านนี้ได้ง่ายขึ้น

Previous Post