26 ม.ค. 2568 09:00 น.

• ข่าว
• ยานยนต์
• รีวิวรถ
• ไทยรัฐออนไลน์

นี่รถอะไร? Nissan Primera P11 สัญชาติญี่ปุ่น นิสัยยุโรป Rare item ยุคสยามกลการ

-กกก⁺

LightDarkฟังข่าว

แม้ว่า Nissan ในประเทศไทยจะอยู่ในความควบคุมของบริษัทแม่มานานกว่าสองทศวรรษ หลายคนคงยังไม่ลืมว่า ช่วงที่ Nissan ในประเทศไทยมีรถแปลกๆน่าสนใจหลากหลายรุ่นมาให้เลือกนั้น คือยุค 90s ที่บริษัทสยามกลการบริหารการตลาดการขายอยู่ ถ้าคุณหาหนังสือรถเก่าจากปี 1993-1995 มาเปิดดูรายการราคารถ จะพบว่า Nissan มีรถแทบจะทุกแบบแม้กระทั่งโมเดลที่ยอดขายน้อยก็ตาม ทว่าผลจากฟองสบู่ญี่ปุ่นแตกทำให้การออกแบบของรถแดนซามูไรช่วงกลางทศวรรษน่าเบื่อกว่าผัวที่ไม่ขยัน นี่คือยุคที่ Nissan Primera ตัวถัง P11 กำเนิดขึ้นมา แต่อย่าให้หน้าตาของมันหลอกคุณ เพราะมันเป็นมวยตัวเบาแต่หมัดหนัก และอารมณ์ร้ายลึก

สัปดาห์นี้ ต้นเรื่องมาจากการที่ผมไปไถ Tiktok เล่นแล้วมีคนโพสท์คลิปรถ Nissan รุ่นหนึ่งกำลังวิ่ง ซึ่งน้องๆเด็กรุ่นใหม่ที่โตไม่ทันยุคโทรจีบหญิงผ่านโทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญ ก็อาจจะงงว่ามันเป็นรถอะไร อันที่จริงคนแก่ๆอย่างผมยินดีเล่าเสมอ แต่ไม่กล้าเล่าเพราะเด็กไม่ได้ถาม ความรู้เรื่องรถที่สะสมมาตั้งแต่เด็ก ถ้าผมตายไป ก็ไม่อยากให้มันตายไปกับผม หากว่าผมสามารถส่งต่อให้น้องๆหลานๆท่านอื่นได้ฟรีๆก็ยินดีนะครับ ถามมาที่ tiktok:พี่แพนไม่กินผัก หรือ Facebook เพจ Pansawat Paitoonpong ก็ได้ครับ ถ้ารู้ก็เล่าได้ ถ้าไม่ทราบก็ไปขุดหาข้อมูลเพิ่มมาเล่า ก็สนุกดีไปอีกแบบ ได้คุยกับเด็กแล้ว หัวใจแก่ๆมันกระชุ่มกระชวยครับ

…

AdvertisementsX

รถรุ่นที่น้องเขาโพสท์ ก็คือ Nissan Primera รหัสตัวถัง P11 ซึ่งเป็นรถขนาดกะทัดรัดของค่าย มีตำแหน่งทางการตลาดสอดกลางระหว่าง Sunny B14 ซึ่งเป็นคู่แข่ง Corolla ยุคนั้น กับ Cefiro A32 ซีดานขนาดค่อนข้างใหญ่ ซึ่งรถในพิกัดนี้ Nissan บ้านเราเคยมีขายในชื่อรุ่น Bluebird ซึ่งวิวัฒนาการมาเป็น Bluebird ATTESA ใน 80s ตอนปลายแล้วก็จบชื่อนี้ที่บ้านเรากับ Bluebird SSS ปี 1993 ในช่วงนั้น Toyota เองก็เริ่มนำรถรุ่น Camry มาขายในไทย คนไทยได้เจอรถขนาดตัวใหญ่ขึ้นก็ชอบ Toyota ก็ทยอยลดบทบาทของ Corona ในบ้านเราลง รถอย่าง Bluebird, Primera หรือ Corona ตายลงเพราะ Honda เริ่มเอา Accord เวอร์ชั่นอเมริกาตัวบึ้มมาขาย ค่ายอื่นก็เลยต้องมีรถที่ตัวโตเท่ากัน บทบาทของรถซีดานพิกัดจะเล็กก็ไม่ใช่ใหญ่ก็ไม่เชิงนี้เลยหายไปในที่สุด

…

ความช็อคมันอยู่ที่ว่า Bluebird SSS ที่ขายในไทยตัวสุดท้าย รูปทรงมาแนวโค้งมนเป็นลูกอมรอบคัน ดูสวยเกินยุค แต่พอเป็น Primera กลับมาแนวเหลี่ยมคมเป็นสัน คนไทยเลยมองว่าดีไซน์ไม่เข้าตาทั้งที่ความจริงสมัยปี 1995-1999 เราไปย้อนดูดีไซน์รถญี่ปุ่นที่ขายในบ้านตัวเองสมัยนั้นก็มาในแนวปลาบู่ชนเขื่อน เส้นตรงๆตัดๆแต่กลับดูทื่อทั้งนั้น สาบานได้ว่า Primera P11 นี่ยังดูมีความสปอร์ตมากกว่ารถซีดานสเป็คญี่ปุ่นหลายคันสมัยนั้น นั่นก็เพราะว่า Nissan ใช้ Primera เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันสำหรับตลาดยุโรป ดีไซน์ของเขาก็เลยกลายเป็น “สิ่งที่ Nissan คิดว่าคนยุโรปจะชอบ” ซึ่ง Primera รุ่นแรกรหัสตัวถัง P10 ก็มีหน้าตาคล้ายกันมาก รถรุ่นนี้นอกจากขายในชื่อ Primera แล้ว ยังขายในอเมริกาภายใต้ชื่อ Infiniti G20 อีกด้วยครับ

Primera P11 เผยโฉมครั้งแรกในเดือนกันยายน 1995 ที่ญี่ปุ่นก่อน โดยตามเอกสารที่แจกช่วงเปิดตัวนั้น เขาบอกว่าแนวคิดในการพัฒนารถคันนี้คือ “Full-performance sedan” อย่าเพิ่งมองหน้ารถแล้วขำ คือจริงๆแล้ว Nissan มีรถพิกัดนี้หลายรุ่น แต่ Primera คือรุ่นที่เน้นเรื่องการขับขี่มากที่สุด เพราะโจทย์คือ จะทำยังไงให้รถเก๋งตัวยาวสี่เมตรครึ่งคันนี้ เป็นรถที่สามารถพาผู้ใหญ่สี่คนเดินทางด้วยความเร็วสูง วิ่งทางไกลได้โดยที่ผู้ขับรู้สึกสนุก มั่นใจ และคนนั่งก็รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ดังนั้นในขณะที่รถอย่าง Corolla หรือ Corona สมัยนั้นจะใช้ช่วงล่างหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัทที่เรียบง่ายเน้นใช้ทน Nissan Primera จะใช้ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบมัลติลิงค์ มีจุดยึดจุดงอหลายจุด ซึ่งเขาใช้แบบนี้มาตั้งแต่เจนเนอเรชั่นแรก แต่ในโฉม P11 นั้นจะใช้ช่วงล่างหลังแบบคานมัลติลิงค์ บีม ซึ่งไม่ใช่อิสระมัลติลิงค์นะครับ สมัยนั้นนักเลงรถจะตบกันตายเพราะแยกมัลติลิงค์กับมัลติลิงค์บีมไม่ออก มันคือช่วงล่างคาดบิดแบบหนึ่ง ต่างจากทอร์ชั่นบีมในพวกอีโคคาร์ 1.2 ลิตรตรงที่มีคันชักกำกับการขยับช่วงล่าง (Control Rod) เพิ่มขึ้นมา

…

วิศวกร Nissan มองว่าการเซ็ตช่วงล่างให้เกาะถนน ต้องหาวิธีทำให้ล้อตั้งฉากกับถนนเวลาที่เข้าโค้ง ซึ่งจะทำให้หน้ายางสัมผัสถนนได้ใกล้เคียง 100% มากที่สุด สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องวางข้างหน้า ช่วงล่างแบบใน Primera นั้น ต้นทุนสูงและจุดดูแลเยอะกว่าช่วงล่าง Sunny แต่เกาะถนนดีกว่า ซึ่งก็ตรงกับแนวคิดในการออกแบบที่ Primera จะเป็นรถเอาใจคนชอบขับเร็วมากกว่า แม้ว่าช่วงล่างหลังของรถทั้งสองรุ่นจะเป็นรูปแบบเดียวกันก็ตาม

…

Primera P11 จะมีรุ่นซาลูน 4 ประตูเป็นพื้นฐานลุยทุกตลาด ในยุโรป จะมีรุ่น 5 ประตูแฮทช์แบ็คด้วย ซึ่งจะต่างจากรุ่น 4 ประตูไม่มาก ต้องสังเกตจากท้ายที่สั้นกว่า ในภายหลัง ก็มีการนำรุ่น 5 ประตู ที่ประกอบจากโรงงาน Nissan ที่ Sunderland ในอังกฤษ กลับไปขายที่ญี่ปุ่นในชื่อ Primera UK ด้วย ที่สำคัญคือ รุ่นสเตชั่นแวก้อน ก็มีให้เลือกครับ และน่าเสียดายที่โลกไม่ได้รักรถประเภทนี้เพราะ Primera แวก้อนนั้น โคตรสวย โคตรลงตัวในสายตาผม

การออกแบบภายใน ก็มาในแนวดูโบราณๆ ในสมัยนั้น รถยนต์แทบจะไม่มีอุปกรณ์อะไรเลยครับ เครื่องเสียงนี่เล่นเทปได้คือปกติ เล่น CD ได้คือไฮโซ กล้องมองหลังยังเป็นของประหลาด เมื่อรถคันนึงไม่ต้องมีลูกเล่นมากนัก Nissan เลยออกแบบให้ชุดเครื่องเสียงและระบบปรับอากาศอยู่สูงใกล้ระดับสายตามากที่สุดเพื่อให้คนขับกดใช้งานได้ง่าย ขนาดพื้นที่ภายในนั้น อาจจะเล็กหากเทียบกับรถอย่าง Suzuki Ciaz หรือ Honda City ของทุกวันนี้ แต่ในสมัยนั้น Nissan มองว่า รถเล็กที่เหมาะกับไซส์คนเอเชียคือ Sunny และ Primera คือรถที่ขยายขนาดตัวให้เหมาะกับไซส์คนยุโรป

ส่วนเรื่องขุมพลังนั้น ในญี่ปุ่น Primera จะมีเครื่องยนต์หลายแบบ ในรุ่นปี 1995 นั้น เครื่องยนต์หลักของเขาคือเครื่องรหัส SR อย่างในรุ่น 1.8Ci จะเป็นเครื่อง 1.8 ลิตร SR18DE 125 แรงม้า และรุ่น 2.0Te จะใช้เครื่อง SR20DE 150 แรงม้า มีทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ ในตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น ก็จะมีเครื่องรหัส GA16DE 1.6 ลิตร และเครื่องดีเซล C20 ให้เลือกแล้วแต่ว่าเป็นตลาดไหน และในความเป็นรถที่ตัวไม่โตแต่เน้นขับทางไกล ถังน้ำมันที่ใช้ก็จะมีขนาดโต 60 ลิตร เกือบไปเท่าพวกรถขนาดใหญ่ (Primera จะได้ถังไซส์เดียวกับ Bluebird ในขณะที่ Presea จะได้ถัง 50 ลิตร)

บางคนดูรูป จะเห็นว่า บางคันใช้ชื่อ Primera บางคันเป็น Primera Camino แล้วหน้าตาดูต่างกันนิดหน่อย รถทั้งสองรุ่นนี้ขายพร้อมกันตลอดครับ เพียงแต่ว่าระบบการขายของญี่ปุ่น จะแบ่งดีลเลอร์ออกเป็นเครือข่าย ซึ่งแต่ละเครือจะมีรถโมเดลเฉพาะของเครือข่ายนั้นๆ ซึ่งมันก็คือรถที่เกือบเหมือนกันนั่นล่ะแต่ปรุงแต่งส่วนเล็กส่วนน้อยให้ต่างออกไปเพื่อให้ดีลเลอร์ของแต่ละเครือข่ายมีความได้เปรียบ/เสียเปรียบที่ถ่วงดุลยภาพกัน Primera จะขายผ่านดีลเลอร์ในเครือข่าย Prince และ Cherry ในขณะที่ Primera Camino จะขายผ่านเครือข่าย Sunny (เป็นชื่อเครือข่าย ไม่ใช่ชื่อรถ) เท่านั้น คุณอยากได้ Camino แต่เดินเข้าไปดีลเลอร์ของ Prince เขาก็จะโค้งแล้วบอกว่าขอให้คุณไปซื้อที่ดีลเลอร์ของ Sunny แทน บางท่านไปซื้อไฟท้าย Primera แล้วเห็นว่าไฟเลี้ยวกับไฟถอยมันอยู่ล่างแทนที่จะอยู่บน อันนั้นไม่ใช่ไฟท้ายไมเนอร์เชนจ์ครับ แต่เป็นไฟท้ายของ Camino

ตัวแรงของ Primera มาเปิดตัวเอาในช่วงปี 1996 เรียกว่ารุ่น 2.0Te-V ซึ่งเจ้าตัวนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ SR20VE NEO VVL ซึ่ง NEO VVL ก็คือระบบแปรผันระยะยกวาล์ว ไม่เหมือน แต่คล้ายมากกับระบบ DOHC VTEC ของ Honda ซึ่งในรอบสูง จะใช้แคมชาฟท์ลูกที่องศาและระยะยกสูงมาเป็นตัวตีกระเดื่องเปิดปิดวาล์ว ในขณะที่ยามขับแบบปกติ ก็ใช้ลูกเบี้ยวแคมชาฟท์องศาปกติ ทำให้เวลาขับใช้งานทั่วไป รถประพฤติตัวดีมีแรงมากกว่าพวก 2.0Te เครื่อง SR20DE อยู่นิดๆด้วยซ้ำ แต่พอรอบเครื่องตวัดข้าม 5,000 มานิดเดียว เรี่ยวแรงจะเปลี่ยน แต่กลไก VVL ของ Nissan ยุคนั้น การสวิตช์ไปหาลูกเบี้ยวองศาสูงในฝั่งไอดีกับไอเสียจะไม่พร้อมกัน ไม่เหมือน DOHC VTEC ใน Honda ทำให้การเปลี่ยนของเสียงมีสองสเตจ ผลของฝาสูบ VVL ชุดนี้ล่ะครับที่ทำให้รถบ้านไร้เทอร์โบหน้าตาหงิมๆ มีแรงม้า 190 ตัว แถมยังส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT-M6 ซึ่งเป็นคนละแบบกับ CVT ใน Nissan บ้านเรานะครับ ล็อคอัตราทดได้ 6 จังหวะ ทำให้อัตราเร่งดุดันใช้ได้ แต่มันจะขาดอรรถรสเพราะจังหวะที่เครื่องดึง เกียร์จะส่งต่อแบบไร้รอยต่อยกเว้นเสียแต่ว่าคุณเลือก Manual Mode เอง

รถรุ่น 2.0 Te-V นี้จะมีจุดต่างจากรุ่นทั่วไป ก็คือพวกชุดแต่งลิ้น สเกิร์ต และสำคัญคือสปอยเลอร์หลังขนาดเขื่อง ซึ่งก็มีแค่นั้น ถ้าคุณถอดหางหลังออก มันก็กลับมาดูเป็นรถสไตล์ข้าราชการเหมือนเดิมอยู่ดี แต่พวกบูชาลัทธิ Sleeper ชอบทำแบบนี้ครับ พวกนักเลง Nissan ญี่ปุ่นบางคนก็เอา 2.0 Te-V มาใส่พาร์ทรอบคันเหมือนรุ่นธรรมดา เพราะเวลาออกรบ การเซอร์ไพรส์ก็เป็นหนึ่งกลวิธีในการเอาชนะ

หลายๆคนก็จับเครื่อง SR20VE ของ Primera P11 นี้จากเซียงกงนี้มาชนกับเกียร์ธรรมดา (SR20VE จะมีฝาครอบวาล์วสีดำ ส่วน SR16VE จาก Pulsar/Sunny จะมีฝาสีน้ำเงิน ส่วนฝาสีแดง คือเครื่อง 200 ม้าของ Pulsar N1 รุ่นโคตรพิเศษ) ถ้าวางแล้วชนเกียร์ธรรมดารุ่นที่อัตราทดจัดหน่อย ก็ขับสนุกครับ บางคนโมดิฟายฝาสูบเพิ่ม หรือเอาแคมชาฟท์ของ SR16VE ฝาสีน้ำเงินซึ่งเปิดวาล์วเอาไอดีเข้าไอเสียออกนานกว่า พวกที่ทำ Step นี้ ถ้าใส่ยางหนึบๆ วิ่งคลองห้ากัน 13.8 วินาทีได้ นี่คือเสน่ห์ของ Nissan ยุคนั้น หน้าตาเหมือนไม่แรง ไม่ค่อยมีคนจับมาทำแรง คนเลยมองว่าไม่แรง แต่ถ้าเจอคนทำเป็นก็วิ่งกันขี้ปลิวครับ

สำหรับในเมืองไทย Nissan ในยุคสยามกลการคุมตอนปลายๆ มีการนำ Primera ประกอบจากโรงงานญี่ปุ่นมาขาย เพราะ Primera ตอนนั้นถูกผลักดันให้มีการทำตลาดทั่วโลก มีการส่งไปขายออสเตรเลีย และส่งไปขายนิวซีแลนด์พักหนึ่งก่อนจะโดนรัฐบาลนกกีวี่ขึ้นภาษีใส่แล้วเลยต้องย้ายไปประกอบที่บ้านเขา ของบ้านเราเป็นเวอร์ชั่น 2.0 ลิตร SR20DE แต่ถูกจูนลดกำลังลงเหลือ 130 แรงม้า และมีให้เลือกเพียงรุ่นย่อยเดียว เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ จำหน่ายในราคา 699,000 บาท ซึ่งแพงกว่า Sunny Super Saloon 1.6AT ประมาณแสนบาท แต่ก็ถูกกว่ารถระดับ Cefiro ขับหน้าอยู่มาก

ยอดขายเป็นอย่างไร? บอกได้เลยว่าปังมาก ปังปิ๊นาศนั่นแหละครับ ไม่ใช่ว่ารถห่วยนะ แต่แค่ว่าคนไทยจำนวนน้อยเท่านั้นที่ซื้อรถประเภทจูนมาสำหรับคนเท้าหนัก ถ้าพูดเป็นประโยคคลาสสิค จะต้องบอกว่า “ราคานี้ซื้อ Honda Civic ดีกว่า” ซึ่งในปี 1997 ที่ทางไทยเริ่มขาย Primera นั้น Honda Civic VTEC เกียร์อัตโนมัติก็ถูกกว่า Primera จริงๆ แล้วลูกค้าคนไทยสมัยนั้นจะมีภาพจำว่า Honda ทำรถสวย อะไหล่แพง คนที่ซื้อจึงเป็นพวกคนมีเงินแค่ไม่ได้รวยจนซื้อรถยุโรปได้ หน้าตา Honda ก็จับตลาดวัยรุ่นได้โดนใจกว่า ในขณะที่ตลาดคนใช้รถเน้นทนทาน ก็แพ้ Toyota Corolla อยู่ดี Primera จึงไม่ใช่รถห่วย แต่มันไปพกความดีเยอะในจุดที่น้อยคนจะได้ใช้ หรือมองเห็น อุปกรณ์ติดรถเวอร์ชั่นไทยก็มาแบบของขาด แอร์เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ ไม่ใช่แอร์จอแบบญี่ปุ่น เบรกเป็นดิสก์ 4 ล้อ แต่ไม่มี ABS ไม่มีแอร์แบก ทั้งที่ในญี่ปุ่น P11 ทุกคันมีแอร์แบกฝั่งคนขับ รถไทยนั้นจะมีเข็มความเร็วสุดที่ 220 ล้อเหล็กปิดด้วยฝาครอบเทียบเท่าสเป็คต่ำๆของญี่ปุ่น ล้อขอบ 14 นิ้ว ยางหนังสติ๊ก 185/65R14

ผมเคยขับ Primera ในหลายโอกาส ตั้งแตสมัยเรียน MUIC ก็มีเพื่อนใช้รถรุ่นนี้อยู่ 2-3 คัน หลายปีถัดมา คุณกล้วย รุ่นน้องที่สนิทกัน ซึ่งตอนนี้เป็นพีอาร์ในบริษัทรถที่แก่แล้ว ก็ซื้อรถคันแรกของตัวเองเป็น Primera P11 เช่นกัน กล้าพูดได้เลยว่า ใครบอกรถญี่ปุ่นช่วงล่างห่วย คุณยังไม่เคยขับ Primera แบบซัดตึงดุจรถเช่ามีประกันชนไม่ตายไม่ต้องจ่าย ในสภาพรถเดิม ช่วงล่างเดิม ขอแค่เปลี่ยนยางเป็น 195/60 มันจะเกาะถนนดี และเลี้ยวโค้งในสปีดสูงได้ดีกว่ารถใหม่ๆอย่าง Tiida หรือ Sylphy เสียอีก บางคนด้อยค่าระบบช่วงล่างมัลติลิงค์บีมว่า ถ้ามันดีจริง Nissan จะเลิกใช้ทำไม ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องต้นทุน ไม่ใช่เรื่องประสิทธิภาพ Primera นี่ถ้าจับใส่ช่วงล่างแต่ง ใส่ยาง 205 หนึบๆ มันจะเป็นรถที่ขับขึ้นลงเขาได้สนุกมาก เหมือนวิศวกรตั้งใจมาให้รถมีนิสัยแบบนั้นจริงๆ ข้อเสียของมันก็คือ ขนาดรถช่วงล่างเดิมๆจากโรงงาน ช่วงล่างยังถือว่าแข็งเป๊ก คนแก่ๆนั่งแล้วทนไม่ไหวกัน ตอนแรกผมนึกว่ารถเพื่อนผมโช้คตาย แต่พอไปขับรถคันอื่นๆดู อ้าว แข็งหมดเลยนี่หว่า หรือว่าโช้คตายทุกคันฟระ

ในสมัยนั้น สยามกลการขาย Nissan หลายรุ่นมาก รถระดับที่เหนือกว่า Sunny นอกจาก Primera แล้วก็มี Presea อีกรุ่น แต่กลุ่มเป้าหมายจะต่างกันครับ Presea คือรถบุคลิกสตรี เน้นความสวยงามอ่อนช้อย เป็นรถที่ทำมาเอาใจคนญี่ปุ่นจ๋าๆ ว่าเครื่อง 1.8 ลิตร 125 แรงม้า ส่วน Primera นี่คือ เอาใจผู้ชาย 100% ช่วงล่างแข็ง เน้นขับสนุก และแม้จะมีพลังแค่ 130 แรงม้า แทบไม่ต่างจาก Civic VTEC D16Y8 สมัยนั้นเลย แต่แรงบิดมันก็สไตล์เครื่อง 2.0 ครับ คือมีแรงจริง ไม่ได้มีม้าไว้โม้ แล้วน้ำหนักรถทั้งคันก็มากกว่าพวก Civic แค่ราว 100 กิโลกรัม ถึงไม่ได้แรงระเบิด แต่ถือว่าเป็นรถที่เร่งได้เร็วมากเท่าที่งบ 699,000 บาทสมัยนั้นจะให้ได้

ในโบรชัวร์ เราอาจจะเห็นภาพลักษณ์ของรถในแบบที่ดูธรรมดา แต่ในยุโรป มีการนำ Nissan Primera ไปลงแข่งรายการ British Touring Car Championship (BTCC) ด้วย รถเหล่านั้นจะมีเครื่องยนต์ที่ทำมาคนละเรื่องกับรถบ้าน ถ้าจำไม่ผิด ความจุ 2.0 ลิตร จำกัดรอบเครื่อง 8,300 รอบ แต่ทำท่าไหนไม่ทราบได้ม้า 300-320 ตัว ไม่ต้องคาดหวังจะหาเครื่องแบบนี้ในเซียงกงครับ คุณมาขอให้ผมไปเป็นภรรยาคุณยังมีโอกาสเสียมากกว่า ส่วนที่ญี่ปุ่น ก็มีการนำไปแข่งทัวร์ริ่งคาร์ JTCC เช่นกัน เพราะการลงมอเตอร์สปอร์ต ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ได้ดี ถ้าคุณจะขายรถที่เน้น Performance ก็ต้องทำแบบนั้น

ทุกวันนี้ หากคุณต้องการจับ Nissan Primera มาเล่น ลองไปดูคันที่เจ้าของเขาทำเต็ม โดยเฉพาะคันที่แต่งเป็น BTCC หรือ JTCC มีอยู่ รถพวกนี้ไปจอดตามมีตติ้ง สาวไม่กรี๊ด แต่คนบ้ารถกรี๊ดครับ โดยเฉพาะพวกสายประวัติศาสตร์ยานยนต์ พวกนี้จะรู้ว่า นั่นไม่ใช่งานแต่งมั่วๆแบบงานวัดเรซซิ่ง แต่เป็นการแต่งที่มี Story มีเรื่องราวจากอดีตที่เกี่ยวข้องกับตัวรถจริง ถ้าคุณจะทำบ้าง ก็ทำได้ แต่อย่าหวังว่ามันจะถูกหรือง่าย เพราะไม่ใช่รถที่กระแสนิยมเยอะ หมายความว่า ไม่ค่อยมีคนทำของซิ่งมาป้อน ไม่ค่อยมีคนทำอะไหล่เทียบมาให้ใช้ในราคาถูกๆ พวกช่วงล่าง บางจุดใช้กับ A32 ได้ แต่หลายจุดต้องใช้ของมันเอง คือถ้าคุณมีปัญหากับการบูรณะรถง่ายๆอย่าง Nissan Sunny หรือ Tiida คุณก็ไม่ควรซื้อ Primera มาให้เสี่ยงต่อสถานภาพทางการเงิน

แต่ถ้าเห็นแล้วใจรัก หรืออยากหลบกระแสไปทำรถที่ไม่ค่อยมีใครซ้ำ ก็ลองดูได้ในตลาดมือสอง ราคามีตั้งแต่ 30,000 บาท ไปจนถึงหลายแสนบาทในคันที่ทำครบจบระดับเทพ แนะนำให้เข้ากลุ่มคนใช้ Primera ดู แล้วลองสังเกตเวลามีคนโพสท์หาอะไหล่หาของว่าได้ของช้าหรือเร็ว เพราะรถแบบนี้มักจะมีแหล่งหรือคนขายที่รู้จักในวงของเขา ต่อให้คุณเป็น Introvert ในชีวิตจริงก็ยังต้องมีความ Extrovert พอจะคุยกับคนอื่นในเรื่องรถได้บ้าง ไม่งั้นไม่รอดครับ แล้วก็ควรซื้อไว้ใช้ในฐานะรถโชว์รสนิยม รถขับไปงานมีตติ้ง หรือขับเพื่อความพอใจของตัวเอง ถ้าเอามาใช้เป็นรถแข่งสนามจริงจัง หรือนำมาเป็นรถขับใช้งานทุกวัน โดยส่วนตัว แนะนำว่าอย่าทำถ้าเงินไม่ได้เหลือหลักล้านครับ

Pan Paitoonpong

…

ข่าวเด่นดูทั้งหมด

“นพดล” เผย กมธ.วุฒิฯ เก็บข้อมูลชายแดนตราด “อภิสิทธิ์” จ่อแจงเคยชงยกเลิก MOU 44

การเมือง18:19 น.

กองทัพภาคที่ 1 ย้ำการเปิดเครื่องเสียง เป็นปฏิบัติการจิตวิทยา ตามแผนจากเบาไปหาหนัก

ทั่วไทย18:05 น.

รมช.อุตสาหกรรม เตรียมดันโมเดลอ้อยสดช่วยลดการเผา ลดมลพิษPM2.5 เสริมแรงจูงใจเกษตรกร

การเมือง18:02 น.

…

ข่าวแนะนำ