[ครบชุด] PI10022 แอบรักพนักงานล้างรถ

Mercedes-Benz EQE 300 ในปี 2025: การปรับหมากราคาครั้งสำคัญที่พลิกโฉมวงการรถยนต์ไฟฟ้าหรู

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตวิวัฒนาการของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่การเปลี่ยนผ่านกำลังดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ก้าวเข้าสู่ปี 2025 ตลาด รถยนต์ไฟฟ้าหรู ยิ่งทวีความดุเดือด แบรนด์ชั้นนำต่างช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดด้วยนวัตกรรมและกลยุทธ์ด้านราคาที่น่าจับตา และหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจที่สุด ณ ตอนนี้ คือ Mercedes-Benz EQE 300 ที่ได้ทำการปรับโครงสร้างราคาใหม่ จนสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ และทำให้รถคันนี้กลับมาอยู่ในสายตาของผู้บริโภคที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้บริหาร อย่างจริงจังอีกครั้ง

หลายท่านอาจจะจำได้ว่าเมื่อครั้งที่ EQE 300 เปิดตัวครั้งแรกในตลาดไทย ด้วยราคาที่แตะระดับ 3.97 ล้านบาทนั้น แม้จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมความล้ำหน้าและ DNA ของ Mercedes-Benz แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันอยู่ในจุดที่ทับซ้อนกับรถยนต์สันดาปอย่าง E-Class ที่มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นอยู่แล้ว ทำให้การตัดสินใจก้าวเข้าสู่โลกของ EV ด้วยราคานั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาคิดหนัก อย่างไรก็ตาม การพลิกเกมครั้งสำคัญด้วย Mercedes-Benz EQE 300 ราคา ใหม่ที่น่าตกใจเพียง 2,890,000 บาท พร้อมส่วนลดมหาศาลกว่า 1,080,000 บาท ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง มันไม่ใช่แค่การลดราคา แต่เป็นการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ใหม่หมดจด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่เติบโตเต็มที่และต้องการทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าเดิม นี่คือสิ่งที่สะท้อนถึงความเข้าใจตลาดของ Mercedes-Benz และการพร้อมปรับตัวให้เข้ากับพลวัตใหม่

ถอดรหัสความคุ้มค่า: โปรโมชั่นและสิทธิพิเศษที่เหนือกว่า

การปรับราคาใหม่นี้ไม่ได้มาพร้อมกับตัวเลขที่น่าดึงดูดใจเท่านั้น แต่ยังพ่วงมาด้วยแพ็กเกจสิทธิพิเศษที่เสริมความคุ้มค่าให้กับการ การลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า ของคุณได้อย่างไร้ที่ติ ซึ่งผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญ มองว่านี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ EQE 300 โดดเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน:

ประกันภัยชั้นหนึ่ง Mercedes-Benz Protection นาน 1 ปี: การมีประกันภัยครอบคลุมในปีแรกช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ทันทีที่ออกรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมูลค่าสูง การคุ้มครองที่ครอบคลุมเป็นสิ่งจำเป็น
ชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง นาน 1 ปี: ข้อเสนอ “ชาร์จ DC ไม่จำกัด” เป็นไม้ตายที่ทรงพลังอย่างยิ่งใน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่ผู้บริโภคยังคงกังวลเรื่องสถานีชาร์จและความเร็วในการชาร์จ ด้วยสิทธิ์นี้ คุณจะสามารถเดินทางระยะไกลได้อย่างไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและเวลาในการชาร์จ ถือเป็นการจัดการ ระยะเวลาชาร์จรถไฟฟ้า และ ค่าบำรุงรักษารถไฟฟ้า (ในส่วนของค่าไฟ) ได้อย่างชาญฉลาด
ฟรี Wallbox พร้อมติดตั้ง: สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การมี Wallbox ที่บ้านคือความสะดวกสบายสูงสุด ไม่ต้องเสียเวลาไปหาสถานีชาร์จสาธารณะทุกวัน แค่เสียบปลั๊กตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาก็ได้รถพร้อมใช้งาน ถือเป็นการลงทุนเริ่มต้นที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ การใช้รถยนต์ไฟฟ้า อย่างแท้จริง
นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากประเทศเยอรมนี: คุณภาพการผลิตและมาตรฐานจากโรงงานเยอรมนีสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
การรับประกันแบตเตอรี่ High-voltage 10 ปี หรือไม่เกิน 250,000 กิโลเมตร: นี่คือสิ่งที่ช่วยคลายความกังวลเรื่องอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีมูลค่าสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้า และเป็นหนึ่งในข้อสงสัยหลักของผู้ที่กำลังพิจารณา การลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า

ขุมพลังและสมรรถนะ: หัวใจแห่ง รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ของ EQE 300

ใต้ท้องรถที่ปราดเปรียวของ EQE 300 คือระบบขับเคลื่อนที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) มอบกำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ หรือ 245 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 550 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่บอกเล่าถึงความปราดเปรียวได้เป็นอย่างดี แบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 89 kWh คือแหล่งพลังงานหลักที่สามารถรองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุด 11 kW และการชาร์จแบบ DC สูงสุดถึง 170 kW ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึง เทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ชั้นนำที่ Mercedes-Benz เลือกใช้

ในทางปฏิบัติ ตัวเลขสมรรถนะที่เคลมจากโรงงานนั้นน่าประทับใจ:
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.3 วินาที: แรงเร่งที่รวดเร็วฉับไวตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า ให้คุณทะยานออกตัวได้อย่างมั่นใจ
ความเร็วสูงสุด Top Speed 210 km/h: เพียงพอต่อการใช้งานบนท้องถนนในประเทศไทย และยังคงรักษาประสิทธิภาพการทรงตัวได้ดีเยี่ยม
ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 651 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP): ตัวเลข ระยะทางวิ่ง WLTP นี้คือจุดแข็งสำคัญที่ช่วยคลายความกังวลเรื่อง “Range Anxiety” ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปได้อย่างราบรื่น

สำหรับการชาร์จไฟ:
ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC จาก 10 – 100 % ใช้เวลา 9 ชั่วโมง 25 นาที: เหมาะสำหรับการชาร์จทิ้งไว้ที่บ้านตอนกลางคืน
ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (170 kW) จาก 10 – 80% ใช้เวลาเพียง 32 นาที: ความเร็วระดับนี้สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางไกล ช่วยให้คุณแวะพักชาร์จได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเป็นชั่วโมง

ประสบการณ์ขับขี่จากผู้เชี่ยวชาญ: เจาะลึก EQE 300 ในชีวิตจริง

หลังจากได้สัมผัสและทดสอบ EQE 300 อย่างละเอียด ผมกล้ายืนยันว่าการปรับราคาครั้งนี้ทำให้รถคันนี้เป็นตัวเลือกที่ “ใช่” มากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เมื่อ ราคา EQE 300 ลดลงจนเทียบเท่าหรือถูกกว่ารถยนต์สันดาปในระดับเดียวกัน แรงจูงใจในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค EV ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นทวีคูณ

ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวเพื่อประสิทธิภาพ: ภายนอกของ EQE 300 อาจจะดูแตกต่างจาก Mercedes-Benz แบบดั้งเดิมที่หลายคนคุ้นตา ด้วยรูปทรงแบบ One-Bow Design ที่เน้นความลู่ลม และลดแรงต้านอากาศ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่ด้วยไฟฟ้า ซึ่งสอดรับกับแนวคิด นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2025 ที่เน้นการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ แต่มองนานๆ จะพบว่ามันมีความล้ำสมัยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจสร้างความประหลาดใจคือการออกแบบล้อที่มีแผ่นปิดเพื่อลดแรงต้านอากาศ ซึ่งแม้จะมีประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์ แต่ก็อาจทำให้การเติมลมยางเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความคุ้นเคยพอสมควร เนื่องจากช่องจุกลมมีขนาดเล็กและเข้าถึงยาก ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ผู้ใช้งานควรทำความเข้าใจ เพราะยางรถยนต์ไฟฟ้ามักจะบางและต้องการการดูแลแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรรอให้ไฟเตือนขึ้น

ห้องโดยสารที่ล้ำสมัยและเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี: เมื่อก้าวเข้าสู่ภายใน สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความหรูหราทันสมัยและบรรยากาศที่แตกต่าง จอแสดงผลกลางแบบ OLED central display ขนาด 12.8 นิ้ว และจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบ Digital ขนาด 12.3 นิ้ว ผสานรวมกันอย่างลงตัวภายใต้ ระบบ MBUX ที่ใช้งานง่ายและสวยงามตระการตา ด้วยขนาดที่ใหญ่และตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง อาจทำให้ผู้ขับขี่บางท่านรู้สึกว่าต้องปรับเบาะนั่งให้สูงขึ้นเพื่อทัศนวิสัยที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้งานจริง จอแสดงผลขนาดใหญ่เหล่านี้กลับมอบความสะดวกสบายในการมองเห็นและใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม ระบบ MBUX Entertainment Plus ที่มาพร้อมแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation แผนที่ 3 มิติ และ Live Traffic Information ยังสามารถแสดงตำแหน่ง สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ได้อย่างแม่นยำ ทำให้คุณวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ

ความสบายที่ต้องทำความเข้าใจ: จุดที่อาจต้องใช้เวลาปรับตัวคือการออกแบบเบาะนั่งด้านหลังที่มีลักษณะเป็นหลุม ทำให้ผู้โดยสารจมลงไปในเบาะและอาจรู้สึกไม่สบายตัวเท่าที่ควรเมื่อต้องลุกออก ซึ่งแตกต่างจาก E-Class ที่เน้นความโอ่อ่าและสบายของเบาะหลังมากกว่า แต่โดยรวมแล้ว คุณภาพของวัสดุและความประณีตในการประกอบยังคงเป็นไปตามมาตรฐานของ Mercedes-Benz

การเดินทางระยะไกล: สุขุมวิทสู่ขอนแก่นกับ EQE 300: ผมได้ทดสอบ EQE 300 ในการเดินทางระยะไกลกว่า 400 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ สู่ขอนแก่น เพื่อพิสูจน์ ประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ในสภาพการใช้งานจริง สิ่งที่น่าประทับใจคือความเงียบของห้องโดยสารที่ไร้เสียงเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้การเดินทางในเมืองที่การจราจรหนาแน่นเป็นไปอย่างผ่อนคลาย และเมื่อออกสู่ถนนหลวง ความนุ่มนวลของช่วงล่างผสานกับแรงบิดมหาศาลของมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้การรักษาความเร็วตามกฎหมายทำได้ค่อนข้างยาก เพราะรถพร้อมที่จะพุ่งทะยานอยู่เสมอ ผมจึงพึ่งพาระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC ซึ่งทำงานได้อย่างไร้ที่ติ มันช่วยควบคุมระยะห่างจากรถคันหน้า เร่งและชะลอความเร็วได้อย่างนุ่มนวล เสมือนมีผู้ช่วยขับขี่ที่ฉลาดและไว้ใจได้ ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องง่ายและลดความเหนื่อยล้าได้อย่างมาก

การทรงตัวที่มั่นคงจากน้ำหนักตัว: แม้จะมีน้ำหนักตัวที่มากถึง 2,405 กิโลกรัม (ไม่รวมผู้โดยสารและสัมภาระ) ซึ่งมากกว่ารถยนต์สันดาปในขนาดใกล้เคียงกัน แต่สิ่งนี้กลับเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ น้ำหนักที่ส่วนใหญ่กระจายอยู่บริเวณพื้นรถ ทำให้ EQE 300 มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและยึดเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยม มีความนิ่งและมั่นคงสูงกว่า E-Class เสียอีก ผมได้สัมผัสถึงข้อดีนี้อย่างชัดเจนในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำขังบนพื้นถนน การขับผ่านแอ่งน้ำที่อาจทำให้รถยนต์ทั่วไปเกิดอาการเหินน้ำ (Aquaplaning) ได้อย่างอันตราย แต่ EQE 300 กลับขับผ่านไปได้อย่างนิ่งสนิทและมั่นคง สร้างความมั่นใจในการขับขี่ภายใต้สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยได้อย่างดีเยี่ยม อย่างไรก็ตาม น้ำหนักที่มากนี้ทำให้การดูแลแรงดันลมยางเป็นสิ่งสำคัญ ยางขนาด 255/40 R20 ควรได้รับการเติมลมยางที่แข็งกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด

การจัดการพลังงานและต้นทุนการเป็นเจ้าของ: หนึ่งในความกังวลหลักของการเดินทางไกลด้วยรถยนต์ไฟฟ้าคือการหา สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และการจัดการพลังงาน ในการทดสอบนี้ เราไม่ได้รอให้แบตเตอรี่เหลือน้อย แต่เลือกชาร์จเมื่อเจอสถานีที่เหมาะสม เหมือนกับการใช้งานจริง ซึ่งจุดแรกที่เราแวะชาร์จคือแถวสระบุรี โดยชาร์จให้ได้ประมาณ 80% เพื่อให้มีพลังงานเพียงพอสำหรับการเดินทางยาวไปจนถึงขอนแก่นโดยไม่ต้องชาร์จซ้ำอีก เมื่อขับขี่ด้วยความเร็ว 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเดินทางถึงขอนแก่น แบตเตอรี่ยังคงเหลือระยะทางวิ่งได้อีกกว่า 300 กิโลเมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการท่องเที่ยวในตัวเมืองได้อย่างสบายใจ

ข้อจำกัดของสถานีชาร์จในภูมิภาคและการจัดการเวลา: แม้ว่า สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2025 แต่ในต่างจังหวัด โดยเฉพาะเมืองรองในภาคอีสาน การหาสถานีชาร์จที่มีกำลังไฟสูงและพร้อมใช้งานอาจยังเป็นความท้าทายอยู่บ้าง ตู้ชาร์จส่วนใหญ่ที่พบยังคงให้กำลังไฟไม่สูงเท่าในเมืองใหญ่ ซึ่งแม้ EQE 300 จะรองรับการชาร์จ DC ได้สูงสุด 170 kW แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับกำลังไฟของตู้ชาร์จ ณ จุดนั้น ดังนั้น กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางไกลด้วยรถยนต์ไฟฟ้าคือ “เจอที่ไหนชาร์จที่นั่น” การแวะชาร์จเพียง 15-20 นาที ก็สามารถเพิ่มพลังงานได้ถึง 20% ซึ่งเพียงพอสำหรับการเดินทางต่อ การรอชาร์จจนเต็ม 100% อาจทำให้เสียเวลาไปเป็นชั่วโมง แต่ EQE 300 มีข้อดีที่ยังคงรับไฟได้เร็วแม้แบตเตอรี่จะเกิน 80% ไปแล้ว ทำให้ใช้เวลาในการชาร์จไม่นานจนเกินไป

ประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยม: สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับการเดินทางไกลคือระบบการจัดการพลังงานของ EQE 300 ที่ยอดเยี่ยม ทำให้รถกินไฟไม่มากนัก โดยเฉลี่ยแล้ว อัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้า ในการทดสอบอยู่ที่ 15.4 kWh/100 กม. ซึ่งถือว่าประหยัดมากเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวของรถ และเมื่อคำนวณ ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า จากค่าไฟที่จ่ายไป พบว่าตกอยู่ที่ประมาณ “กิโลเมตรละ 1 บาท” เท่านั้น ซึ่งประหยัดกว่ารถยนต์สันดาปหลายเท่าตัว นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ EQE 300 มีความน่าสนใจในระยะยาว และหน้าจอแสดงผลระยะทางวิ่งที่เหลือก็มีความแม่นยำสูง แปรผันตามพฤติกรรมการขับขี่จริง ไม่เหมือนบางค่ายที่ตัวเลขคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริงมาก

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่: อุ่นใจทุกเส้นทาง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมให้ความสำคัญกับ ระบบความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า เป็นอันดับต้นๆ และ EQE 300 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มาพร้อมแพ็กเกจความปลอดภัยแบบจัดเต็ม:

ถุงลมนิรภัยครบครัน: ถุงลมนิรภัยด้านหน้า, ด้านข้าง, ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง, ถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่ และถุงลมนิรภัยระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า มอบการป้องกันแบบรอบด้าน
โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP: ช่วยให้รถทรงตัวได้ดีในทุกสภาวะ
ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร: เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่บนทางหลวง
ระบบสร้างเสียงจำลอง Acoustic presence indicator: เพื่อเตือนผู้ใช้ถนนคนอื่น โดยเฉพาะคนเดินเท้า ให้รับรู้ถึงการมีอยู่ของรถยนต์ไฟฟ้าที่เงียบสนิท
ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Active Parking Assist: เพิ่มความสะดวกสบายในการจอดรถในพื้นที่จำกัด
ระบบช่วยเบรกแบบแอคทีฟ Active Brake Assist: ช่วยป้องกันการชน หรือลดความรุนแรงของการชน
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Assist: ลดความเสี่ยงในการเปลี่ยนเลน
ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST: ช่วยเตือนเมื่อผู้ขับขี่เริ่มมีอาการอ่อนล้า
ระบบรักษาระยะห่างและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Active Distance Assist DISTRONIC: ระบบ ADAS ที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น แม้ในสภาพฝนตกหนักก็ยังสามารถเปิดใช้งานระบบนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้
กล้องแสดงภาพด้านหลังขณะถอยจอด: ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอยจอด
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE–SAFE® system: เตรียมความพร้อมของรถและผู้โดยสารก่อนการชนที่อาจเกิดขึ้น
ระบบเตือนแรงดันลมยางและอุปกรณ์ปะยางฉุกเฉิน TIREFIT: สิ่งเล็กๆ ที่สำคัญสำหรับการดูแลยางรถยนต์ของคุณ

สรุป: Mercedes-Benz EQE 300 คือนิยามใหม่ของความคุ้มค่าใน รถยนต์ไฟฟ้าหรู

Mercedes-Benz EQE 300 ในปี 2025 ด้วย ราคา EQE 300 ที่ 2,890,000 บาท ไม่ใช่เพียงแค่รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ครั้งสำคัญของ Mercedes-Benz ในการนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้าหรู ที่เข้าถึงง่ายและคุ้มค่ากว่าที่เคย การนำเข้าทั้งคันจากเยอรมนี พร้อมแพ็กเกจการรับประกันและสิทธิพิเศษที่อัดแน่น ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยชั้นหนึ่ง, สิทธิ์ชาร์จ DC ไม่จำกัด, ฟรี Wallbox รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี เหล่านี้คือปัจจัยที่สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญ แรงขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่เงียบแต่ทรงพลัง, ระยะทางวิ่ง WLTP ที่ยาวไกล, และ ระบบความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า ที่ทันสมัย ล้วนผนวกเข้าด้วยกันเพื่อมอบ ประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่เหนือกว่า การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่แตกต่างจากรถยนต์สันดาปอย่างชัดเจน พร้อมกับ ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ประหยัดในระยะยาว ทำให้ EQE 300 กลายเป็นตัวเลือกที่ยากจะปฏิเสธสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้บริหาร ที่ล้ำสมัย ประหยัด และเปี่ยมด้วยคุณภาพ

หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหาการเปลี่ยนแปลง สู่ยุคสมัยแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าที่ยั่งยืนและชาญฉลาด Mercedes-Benz EQE 300 คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยราคาและแพ็กเกจที่เหนือกว่าเช่นนี้ มันคือโอกาสทองที่คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งการขับขี่อย่างแท้จริง

อย่าพลาดโอกาสที่จะสัมผัสอนาคตแห่งยนตรกรรมไฟฟ้าด้วยตัวคุณเอง! เข้าสู่ยุคของการขับขี่ที่เหนือกว่ากับ Mercedes-Benz EQE 300 วันนี้ และค้นพบว่าเทคโนโลยีและความคุ้มค่าสามารถผสานรวมกันได้อย่างลงตัวได้อย่างไร โปรดติดต่อผู้จำหน่าย Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายการทดลองขับ เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับ นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ระดับพรีเมียมนี้ด้วยตัวคุณเอง