• Sample Page
  • Sample Page
Film Thai lan
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film Thai lan
No Result
View All Result

[ครบชุด] PI10101 ถ้าเรารักใครสักคนจริงๆ เราไม่ควรที่จะทำแบบนี้

admin79 by admin79
October 19, 2025
in Uncategorized
0
[ครบชุด] PI10101 ถ้าเรารักใครสักคนจริงๆ เราไม่ควรที่จะทำแบบนี้

================================================================================

Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2.2L ปี 2025: กระบะพันธุ์แกร่งที่ยังน่าจับตาในสมรภูมิเดือดแห่งอนาคต

ตลาดรถกระบะในประเทศไทยปี 2025 ยังคงเป็นสมรภูมิที่ดุเดือด แม้จะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ดูเหมือนจะซบเซาลงไปบ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับมีการแข่งขันที่เข้มข้นยิ่งกว่าเดิม ผู้ผลิตต่างงัดไม้เด็ดทั้งด้านเทคโนโลยี สมรรถนะ และความคุ้มค่ามาช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมมองว่า Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ 2.2 ลิตร เป็นหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง และสมควรได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดว่า “มีดีจริงไหม” ในยุคที่ผู้บริโภคฉลาดเลือกเช่นปัจจุบันนี้

การเปลี่ยนแปลงของ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE ไม่ได้เป็นเพียงการปรับโฉมภายนอกเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร MAXFORCE E-VGS ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ Isuzu ตั้งใจพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคสมัยใหม่ที่มองหาสมรรถนะที่เหนือกว่า ควบคู่ไปกับความประหยัดน้ำมันและความทนทานที่ขึ้นชื่อของ Isuzu รุ่นที่เรานำมาพิจารณาในบทความนี้คือ D-Max Hi-Lander 2.2 ZP 8AT ซึ่งมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,064,000 บาท ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มกระบะยกสูง 4 ประตู

ขุมพลังใหม่ MAXFORCE 2.2 ลิตร: หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จ

เครื่องยนต์ดีเซลรหัส RZ4F-TC ขนาด 2.2 ลิตร (2,164 ซีซี) แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อมระบบเทอร์โบแปรผันแบบครีบ E-VGS และ Intercooler, Electronic Wastegates คือหัวใจหลักของ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE ในเวอร์ชัน 2025 นี้ ด้วยพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที ตัวเลขเหล่านี้อาจไม่ได้ดูหวือหวาที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรายในตลาด แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ “วิธีการส่งกำลัง” ของเครื่องยนต์บล็อกนี้

จากการทดสอบใช้งานจริงเป็นระยะทางเกือบสองหมื่นกิโลเมตร ทำให้ผมได้เห็นถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร MAXFORCE อย่างถ่องแท้ สิ่งที่โดดเด่นคือการตอบสนองที่ “ทันใจ” อย่างเห็นได้ชัด แรงบิดที่มาตั้งแต่รอบต่ำ (1,600 รอบ/นาที) ทำให้รถพุ่งทะยานออกตัวได้อย่างกระฉับกระเฉง ไม่รู้สึกอืดอาด แม้กระทั่งเมื่อบรรทุกสัมภาระ หรือต้องเร่งแซงบนถนนหลวง การไหลของพละกำลังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีอาการรอรอบให้หงุดหงิดเหมือนเครื่องยนต์ดีเซลยุคก่อนๆ สิ่งนี้แตกต่างจากเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร Blue Power อย่างเห็นได้ชัด ซึ่ง 2.2 ลิตรจะให้ฟิลลิ่งของการขับขี่ที่ผ่อนคลายและมั่นใจกว่ามากในการเร่งแซง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องใช้ความเร็วสูง หรือต้องบรรทุกหนักและลากจูง ผมกล้าพูดได้เลยว่า Isuzu ได้พัฒนาเครื่องยนต์บล็อกนี้มาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายและหนักหน่วงได้ดียิ่งขึ้นในตลาดรถกระบะปี 2025

ระบบส่งกำลังและอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง

เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร MAXFORCE จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Sequential Shift พร้อม Manual Mode ที่ให้อิสระในการเลือกเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง ระบบเกียร์ใหม่นี้ถือเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยเสริมสมรรถนะของเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว การเปลี่ยนเกียร์ทำได้อย่างนุ่มนวลและราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องมีการเปลี่ยนเกียร์บ่อยครั้ง หรือการขับขี่ทางไกลที่ใช้ความเร็วคงที่ เกียร์ 8 จังหวะช่วยให้รอบเครื่องยนต์อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับการสร้างแรงบิดสูงสุดอยู่เสมอ ส่งผลให้การออกตัว การเร่งแซง และการรักษาความเร็วทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 2.2L MAXFORCE ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจไม่แพ้กัน ในการทดสอบใช้งานจริงภายใต้สภาพการขับขี่ที่หลากหลาย ทั้งในเมืองและการเดินทางไกล ผมสามารถทำตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ถึง 14.4 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถกระบะยกสูงขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการรองรับน้ำมันดีเซล B20 และระบบ DPF (Diesel Particulate Filter Regeneration) ที่ช่วยทำความสะอาดคราบเขม่าไอเสีย ทำให้ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE เป็นรถกระบะที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญในยุคที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวนในปี 2025 นี้

อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การใช้งานที่ผ่านมา ผมพบว่ามีบางจังหวะที่การเปลี่ยนเกียร์ในความเร็วต่ำภายในเมืองอาจมีอาการกระตุกให้รู้สึกได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งเป็นข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว แต่โดยรวมแล้ว ระบบเกียร์ 8 จังหวะนี้ก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมและช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของ Isuzu D-Max ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น

มิติใหม่แห่งช่วงล่าง: ความนุ่มนวลที่มาพร้อมความประหยัด

เมื่อพูดถึงช่วงล่างของ Isuzu D-Max หลายคนอาจมีความคิดเห็นที่หลากหลาย และมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดว่า Isuzu มักจะเน้นไปที่ความนุ่มนวลมากกว่าความหนึบแน่นสไตล์สปอร์ต ซึ่งในความเร็วต่ำอาจให้ความรู้สึกนุ่มเด้งเล็กน้อย และในความเร็วสูงมากอาจมีอาการ “ลอยๆ” ที่ต้องอาศัยการประคองพวงมาลัยบ้าง นี่คือข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับ

แต่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมอยากจะฉายภาพอีกด้านหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไป การออกแบบช่วงล่างของ Isuzu ไม่ได้มุ่งเน้นความแข็งกระด้างเพื่อการขับขี่แบบสปอร์ตจ๋า แต่เน้นไปที่ความนุ่มนวลและสะดวกสบายในการใช้งานจริงบนถนนเมืองไทย ที่มีสภาพพื้นผิวหลากหลาย ตั้งแต่ถนนเรียบทางหลวงไปจนถึงถนนขรุขระในชนบท ซึ่ง Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 ตอบโจทย์การใช้งานแบบนี้ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปอย่างผ่อนคลาย ไม่เมื่อยล้า สิ่งนี้สอดคล้องกับพฤติกรรมการใช้งานรถกระบะของคนไทยส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ขับขี่ด้วยความเร็วสูงตลอดเวลา แต่ต้องการรถที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน บรรทุกของ หรือเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัวได้อย่างสบาย

จุดแข็งที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามสำหรับช่วงล่างของ Isuzu คือ “ค่าบำรุงรักษาที่ถูกมาก” ผมกล้ายืนยันว่าอะไหล่ช่วงล่างของ Isuzu มีราคาที่สมเหตุสมผลและหาได้ง่ายกว่าคู่แข่งหลายรายในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น โช้คอัพทั้ง 4 ต้น มีราคาไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าของรถ Isuzu หลายคนทราบดี ข้อได้เปรียบนี้ทำให้การเป็นเจ้าของ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 ในระยะยาวนั้น “ไม่เป็นภาระ” ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจซื้อรถกระบะในตลาดปี 2025 ที่ผู้บริโภคต่างมองหาความคุ้มค่าสูงสุด ยิ่งไปกว่านั้น ความทนทานของช่วงล่าง Isuzu ก็เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป ทำให้คุณสามารถใช้งานรถได้อย่างมั่นใจไปอีกหลายปีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อมบำรุงจุกจิกบ่อยครั้ง

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS: เทคโนโลยีที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับบริบทไทย

Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) ที่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับ Isuzu โดยเฉพาะการนำกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera มาใช้ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับและประมวลผลสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ ระบบเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน

อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบใช้งานจริง ผมมีความเห็นว่าการนำระบบ ADAS มาใช้ในบริบทการจราจรของประเทศไทยนั้น “ยังต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มเติม” อยู่บ้าง โดยเฉพาะระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Forward Collision Warning with Autobrake) ในบางสถานการณ์ ระบบอาจจะมีการเบรกเองอย่างรุนแรง ทั้งๆ ที่ผู้ขับขี่ยังคงควบคุมรถอยู่และสถานการณ์ด้านหน้ายังไม่ได้เสี่ยงต่อการชนถึงขั้นวิกฤติ ซึ่งอาจสร้างความประหลาดใจหรือแม้กระทั่งก่อให้เกิดอันตรายกับรถคันหลังได้ นอกจากนี้ ด้วยสภาพการจราจรในเมืองไทยที่มีรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์คันอื่นตัดหน้าในระยะกระชั้นชิดอยู่บ่อยครั้ง ทำให้ระบบอาจทำงานมากเกินไปจนบางครั้งผู้ขับขี่ต้องตัดสินใจ “ปิดระบบ” บางส่วนเพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการขับขี่ที่แท้จริง

นี่ไม่ใช่การบอกว่าระบบ ADAS ของ Isuzu ไม่ดี แต่เป็นข้อสังเกตที่สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องได้รับการปรับจูนและเรียนรู้พฤติกรรมการขับขี่และสภาพแวดล้อมเฉพาะถิ่นให้มากยิ่งขึ้น Isuzu ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการนำเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยมาสู่ D-Max แล้ว และผมเชื่อว่าด้วยข้อมูลและฟีดแบ็กจากผู้ใช้งาน จะมีการพัฒนาให้ระบบเหล่านี้มีความชาญฉลาดและเหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทยมากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดหวังได้จากเทคโนโลยีด้านยานยนต์ในปี 2025

ห้องโดยสารและความอเนกประสงค์: ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

ในส่วนของห้องโดยสาร Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ด้วยความที่เป็นกระบะ 4 ประตู (CAB4) ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง ทั้งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง เบาะนั่งออกแบบมาให้นั่งสบาย รองรับสรีระได้ดี ทำให้การเดินทางไกลไม่เมื่อยล้า อีกทั้งยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระที่หลากหลาย ทั้งช่องเก็บของตามจุดต่างๆ และพื้นที่ด้านหลังเบาะที่สามารถพับเก็บได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางส่วนตัว หรือการใช้งานเชิงพาณิชย์

ระบบ Infotainment ภายในรถก็ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถเข้าถึงความบันเทิงและข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย หน้าจอสัมผัสที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ใช้งานง่าย และตอบสนองได้ดี ช่วยให้การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น วัสดุภายในเลือกใช้พลาสติกและผ้าที่มีคุณภาพดี ทนทานต่อการใช้งานหนัก และทำความสะอาดง่าย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรถกระบะที่ต้องเผชิญกับสภาพการใช้งานที่หลากหลายในแต่ละวัน Isuzu ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้คือความเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่แท้จริง

มิติตัวถังของ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 ที่มีความยาว 5,265 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,790 มม. และระยะฐานล้อ 3,125 มม. พร้อมระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) 240 มม. แสดงให้เห็นถึงขนาดที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในประเทศไทย ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้การขับขี่ในเมืองและนอกเมืองเป็นไปได้อย่างคล่องตัว ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกมั่นคงบนท้องถนน และยังสามารถลุยในเส้นทางที่ทุรกันดารได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้ของรถกระบะยกสูงในตลาดรถกระบะอเนกประสงค์ปี 2025

Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE ในตลาดปี 2025: ใครคือผู้ครอบครองที่แท้จริง?

หลังจากที่ได้พิจารณาทุกแง่มุมอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ผมกล้าพูดได้เลยว่า Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2.2L ปี 2025 ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งและน่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดรถกระบะไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหารถกระบะที่เน้นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันและเชิงพาณิชย์ ที่ต้องการความสมดุลระหว่างสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ความประหยัดน้ำมัน และที่สำคัญที่สุดคือ “ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำและความทนทานที่วางใจได้”

เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร MAXFORCE E-VGS ตอบโจทย์ด้านพละกำลังและการเร่งแซงได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจ อัตราสิ้นเปลือง 14.4 กม./ลิตร ที่ทำได้ในการใช้งานจริง ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความคุ้มค่าด้านเชื้อเพลิง และเมื่อรวมกับจุดเด่นเรื่องช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวลสบาย และที่สำคัญคืออะไหล่ราคาถูก ทำให้ Isuzu D-Max เป็นรถที่ “ดูแลรักษาง่าย” และ “ไม่จุกจิก” ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ผู้ใช้งานรถกระบะตัวจริงมองหา

แม้ระบบ ADAS จะยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงให้เข้ากับสภาพการจราจรไทย แต่ก็เป็นก้าวสำคัญของ Isuzu ในการนำเทคโนโลยีความปลอดภัยมาสู่ผู้บริโภค และผมเชื่อมั่นว่าการพัฒนายังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

โดยรวมแล้ว หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังมองหารถกระบะคู่ใจในปี 2025 ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางส่วนตัว การบรรทุกสัมภาระ หรือการขับขี่เชิงพาณิชย์ และให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของในระยะยาว ทั้งในเรื่องของค่าเชื้อเพลิงและค่าบำรุงรักษา Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2.2L คือรถกระบะที่คุณไม่ควรมองข้าม

บทสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ: ความน่าเชื่อถือที่มาพร้อมนวัตกรรม

จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการยานยนต์ ผมสามารถสรุปได้ว่า Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2.2L ในปี 2025 นี้ ไม่ใช่แค่การปรับโฉมให้ทันสมัย แต่เป็นการยกระดับประสบการณ์การขับขี่รถกระบะขึ้นไปอีกขั้น ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ที่ให้สมรรถนะเป็นเลิศ ประหยัดน้ำมันอย่างน่าทึ่ง ระบบส่งกำลังที่ราบรื่น และความคุ้มค่าในการบำรุงรักษาที่เหนือกว่าใคร ทำให้ Isuzu D-Max ยังคงยืนหยัดเป็นผู้นำในใจผู้ใช้งานรถกระบะตัวจริง แม้จะมีคู่แข่งมากมายเข้ามาในตลาดก็ตาม มันคือรถกระบะที่เข้าใจความต้องการของคนไทย และพร้อมลุยไปกับคุณในทุกเส้นทาง

อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์จริง!

Previous Post

[ครบชุด] PI10101 ถ้าเรารักใครสักคนจริงๆ เราไม่ควรที่จะทำแบบนี้

Next Post

[ครบชุด] PI10102 ไม่ว่าคุณจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่ ผม

Next Post
[ครบชุด] PI10102 ไม่ว่าคุณจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่ ผม

[ครบชุด] PI10102 ไม่ว่าคุณจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่ ผม

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • [ครบชุด] PI10400 ร้านอาหารยอดแย่ คนแก่ห้ามเข้า ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10399 ปลoมตัวไม่ปลoมใจ Ep
  • [ครบชุด] PI10398 แMvโมลูกเดียวเปลี่euชีวิตพวกเขา 2 คน ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10397 โจsในคsๅUคนแก่ ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10396 วิญญาณแก้แค้u ละครสั้น

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025
  • July 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.