• Sample Page
  • Sample Page
Film Thai lan
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film Thai lan
No Result
View All Result

[ครบชุด] PI10191 ทุบโอ่งทวงหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ละครสั้น มังกรทองฟิล์ม

admin79 by admin79
October 19, 2025
in Uncategorized
0
[ครบชุด] PI10191 ทุบโอ่งทวงหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ละครสั้น มังกรทองฟิล์ม

เจาะลึก Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2025: กระบะคู่ใจในยุคที่ตลาดท้าทาย

ในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์สายกระบะมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการของตลาดรถปิคอัพในประเทศไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 นี้ ที่เทคโนโลยีก้าวล้ำและกระแสความยั่งยืนเข้ามามีบทบาทสำคัญ ขณะที่ตลาดเองก็ยังคงเผชิญหน้ากับความท้าทายจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือด ค่าครองชีพที่สูงขึ้น หรือแม้แต่ความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าที่เริ่มเข้ามาแย่งส่วนแบ่ง ในสถานการณ์เช่นนี้ การเลือกสรรรถกระบะที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งาน ความคุ้มค่า และเทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาเจาะลึก “Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE” รุ่นปี 2025 ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร MAXFORCE E-VGS ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ Isuzu หมายมั่นปั้นมือให้เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในตลาด จะมีดีจริงอย่างที่เขาว่ากันไหม และยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในยุคปัจจุบันและอนาคตอันใกล้หรือไม่ เรามาดูกันครับ

D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE: หัวใจใหม่ภายใต้รูปลักษณ์ที่คุ้นเคย

Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE ในรุ่นปี 2025 นี้ ยังคงยึดมั่นในปรัชญาการออกแบบที่ผสานความแข็งแกร่งเข้ากับความทันสมัย โครงสร้างตัวถังแบบ CAB4 หรือ Double Cab ที่คุ้นเคย ให้ความสมดุลระหว่างพื้นที่โดยสารที่กว้างขวางและกระบะท้ายที่พร้อมสำหรับการบรรทุก ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนตัวในชีวิตประจำวัน การเดินทางท่องเที่ยวกับครอบครัว หรือการขนส่งสินค้าเพื่อธุรกิจขนาดเล็ก ก็สามารถตอบสนองได้อย่างลงตัว มิติตัวถังที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยมีความยาว 5,265 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,790 มม. และระยะฐานล้อ 3,125 มม. ซึ่งถือเป็นขนาดมาตรฐานที่เหมาะสมกับการขับขี่ทั้งในเมืองที่คล่องตัวและนอกเมืองที่มั่นคง ระยะต่ำสุดถึงพื้นที่ 240 มม. ก็ยังคงเป็นจุดเด่นที่ช่วยเพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่บนเส้นทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางลูกรัง หรือการลุยน้ำในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่รถกระบะในประเทศไทยจำเป็นต้องมี

แต่หัวใจสำคัญของการอัปเดตครั้งนี้คือเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ รหัส RZ4F-TC ขนาด 2.2 ลิตร MAXFORCE E-VGS ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมให้ความสนใจเป็นพิเศษในการทดสอบครั้งนี้ รุ่นที่เรานำมาพิจารณาคือ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 2.2 ZP 8AT ที่มีค่าตัว 1,064,000 บาท ซึ่งถือเป็นการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในตลาดกลางถึงบนของรถกระบะ Hi-Lander

ขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 MAXFORCE E-VGS: แรง ประหยัด และทันสมัย

มาเจาะลึกถึงหัวใจหลักของ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE กันครับ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร รหัส RZ4F-TC เป็นเครื่องยนต์ Commonrail Direct Injection ขนาด 2,164 ซีซี 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ E-VGS (Electronic Variable Geometry System) และ Intercooler ที่ควบคุมด้วย Electronic Wastegates ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการ แต่การที่ Isuzu นำมาปรับใช้กับเครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้ ย่อมแสดงถึงความตั้งใจที่จะยกระดับสมรรถนะและประสิทธิภาพ

พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำเพียง 1,600 – 2,400 รอบ/นาที ตัวเลขเหล่านี้บอกอะไรเราได้บ้าง? สำหรับนักขับกระบะตัวจริง นี่คือสัญญาณของ “แรงบิดมาไว” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง การเร่งแซงที่ต้องใช้พละกำลังฉับพลัน หรือแม้แต่การลากจูงและบรรทุกของหนัก แรงบิดที่มาตั้งแต่รอบต่ำจะช่วยให้รถมีอัตราเร่งที่ดี ตอบสนองได้ทันใจ ไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์สูง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจนเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ 1.9 ลิตรที่เน้นความประหยัดเป็นหลัก

การจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แบบ Sequential Shift พร้อม Manual Mode (+/-) ถือเป็นการอัปเกรดที่สำคัญ เกียร์ 8 สปีดนี้ไม่ได้มีดีแค่จำนวนอัตราทดที่มากขึ้น แต่ยังได้รับการปรับจูนมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยลดอาการกระตุก โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรติดขัด หรือในการเดินทางไกลที่ต้องการความราบรื่นและลดภาระของเครื่องยนต์ที่รอบสูง นอกจากนี้ อัตราทดที่หลากหลายยังช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานที่รอบที่เหมาะสมอยู่เสมอ ส่งผลให้ อัตราสิ้นเปลือง Isuzu D-Max รุ่นนี้ทำได้ดีเกินคาด แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตรก็ตาม

จากการทดสอบใช้งานจริง ทั้งในสภาพการจราจรหนาแน่นในเมืองและการเดินทางออกนอกเมืองระยะทางไกล ผมพบว่า สมรรถนะ Isuzu D-Max 2.2 MAXFORCE E-VGS นั้นน่าประทับใจ การเร่งแซงบนถนนสองเลนทำได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องลุ้นนาน ซึ่งเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากรุ่น 1.9 อย่างชัดเจน ความนุ่มนวลของการเปลี่ยนเกียร์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การขับขี่ผ่อนคลายขึ้นอย่างมากสำหรับการเดินทางไกล สำหรับตัวเลข อัตราสิ้นเปลือง Isuzu D-Max ที่ผมได้จากการขับขี่ใช้งานจริงแบบผสมผสาน ได้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 14.4 กม./ลิตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถกระบะขนาดนี้ และยังรองรับน้ำมันดีเซล B20 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นข้อดีในการช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิงในระยะยาว

ที่สำคัญ Isuzu ยังใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยระบบ DPF (Diesel Particulate Filter Regeneration) ที่ช่วยทำความสะอาดคราบเขม่าไอเสีย ซึ่งเป็นมาตรฐานสำคัญของรถยนต์ดีเซลยุคใหม่ ทำให้มั่นใจได้ว่ารถของคุณจะยังคงรักษาสภาพแวดล้อมและผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดมากขึ้นในปี 2025

ช่วงล่าง Isuzu: ความนุ่มนวลที่มาพร้อมกับความคุ้มค่าในการบำรุงรักษา

ประเด็นเรื่องช่วงล่างของ Isuzu เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน และในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมต้องยอมรับว่าในแง่ของฟิลลิ่งการขับขี่ที่เน้นความสปอร์ตหรือการยึดเกาะถนนในความเร็วสูงแบบ “ดิบๆ” นั้น Isuzu อาจจะไม่ได้อยู่ในอันดับต้นๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่งบางรายในตลาด คำว่า “ท้ายแถว” ที่หลายคนใช้กันนั้นไม่ได้หมายถึงคุณภาพ แต่หมายถึงปรัชญาการปรับแต่งที่แตกต่างออกไป

ช่วงล่างของ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 ถูกออกแบบมาโดยเน้น “ความนุ่มนวล” เป็นหลัก โดยเฉพาะที่ความเร็วต่ำ อาจจะรู้สึกว่าออกแนว “เด้งนุ่ม” เล็กน้อย ซึ่งบางคนอาจจะชอบเพราะให้ความสบายในการขับขี่ในเมืองที่พื้นผิวถนนไม่เรียบ แต่ในขณะเดียวกัน ที่ความเร็วสูงมากๆ (เช่น 140 กม./ชม. ขึ้นไป) ตัวรถอาจจะให้ความรู้สึก “ลอยๆ” บ้างเล็กน้อย ซึ่งผู้ขับขี่ต้องใช้สมาธิและการควบคุมที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นนักขับกระบะที่คุ้นชินกับการปรับจูนช่วงล่างในลักษณะนี้อยู่แล้ว ก็จะพบว่ามันเป็นสิ่งที่ “รับได้” และยังคงให้ความมั่นใจในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน

สิ่งที่หลายคนอาจจะมองข้าม หรือไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญในช่วงแรก แต่จะกลายเป็นจุดแข็งที่โดดเด่นของ Isuzu ในระยะยาว คือ “ค่าบำรุงรักษา” ชิ้นส่วนช่วงล่างของ Isuzu นั้นมีราคาที่สมเหตุสมผลและหาซื้อได้ง่ายมากในตลาด ไม่ว่าจะเป็นโช้คอัพ ลูกหมาก หรือบุชต่างๆ ทำให้ บำรุงรักษากระบะ Isuzu ไม่ได้เป็นภาระหนักสำหรับเจ้าของรถในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น โช้คอัพทั้ง 4 ต้น อาจมีราคาไม่เกิน 5,000 บาท ซึ่งถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกับคู่แข่ง และนี่คือสิ่งที่ทำให้ Isuzu D-Max ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ รถกระบะประหยัดน้ำมัน และมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่ต่ำ นี่คือปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้จริงกว่า 10 ปีอย่างผมกล้ายืนยันว่ามันเป็นจุดที่สร้างความได้เปรียบอย่างยั่งยืน

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS: ความปลอดภัยยุคใหม่ที่ต้องทำความเข้าใจ

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในรถยนต์มากขึ้น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง หรือ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) กลายเป็นฟีเจอร์สำคัญที่หลายค่ายพยายามใส่เข้ามาเพื่อเพิ่มความปลอดภัย Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE ก็มาพร้อมกับนวัตกรรมกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera ซึ่งทำหน้าที่เป็นดวงตาของระบบเหล่านี้

ฟังก์ชันที่โดดเด่นคือระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้าพร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Forward Collision Warning with Autobrake) ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วเป็นสิ่งที่ดีงาม ช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้ แต่จากการใช้งานจริงในสภาพการจราจรของประเทศไทย ผมต้องยอมรับว่าระบบนี้ยังคงมี “อาการกระตุก” หรือทำงานโดยไม่จำเป็นอยู่บ้าง กล่าวคือ ในบางครั้งรถอาจจะเบรกเองอย่างรุนแรง ทั้งที่เรายังคงควบคุมรถอยู่และสถานการณ์ด้านหน้าไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤติ เช่น มีรถมอเตอร์ไซค์ปาดหน้าในระยะกระชั้นชิด หรือมีรถแท็กซี่เปลี่ยนเลนกะทันหัน ซึ่งอาจทำให้รถคันหลังชนท้ายได้

นี่คือจุดอ่อนที่ Isuzu ต้องเร่งปรับปรุงในอนาคต สำหรับรุ่นปี 2025 แม้จะมีการปรับจูนที่ดีขึ้น แต่ในสภาพการจราจรที่คาดเดาได้ยากของไทย ผู้ใช้งานบางท่านอาจเลือกที่จะปิดระบบนี้ไปเลย เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน อย่างไรก็ตาม ควรทำความเข้าใจว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการปรับจูนให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ทั่วโลกเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ผมเชื่อว่า Isuzu จะยังคงพัฒนาระบบ ระบบความปลอดภัย Isuzu ให้ดียิ่งขึ้นไปอีกในรุ่นต่อๆ ไป

นอกจากระบบ ADAS ที่กล่าวมาแล้ว Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2025 ยังมาพร้อมกับระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ครบครัน เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว (ESC), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA), ระบบควบคุมความเร็วลงทางลาดชัน (HDC) และถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่รถกระบะในปัจจุบันพึงมี เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้โดยสาร

ภายในห้องโดยสารและการใช้งานจริง: ความสบายที่ลงตัว

สำหรับรถกระบะแบบ CAB4 การใช้งานภายในห้องโดยสารมีความสำคัญไม่แพ้สมรรถนะ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE ได้รับการออกแบบให้มีความสะดวกสบายและใช้งานง่าย เบาะนั่งถูกออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ รองรับสรีระได้ดี ลดความเมื่อยล้าในการเดินทางไกล พื้นที่วางขาและ headroom สำหรับผู้โดยสารด้านหลังถือว่ากว้างขวางเมื่อเทียบกับรถกระบะในคลาสเดียวกัน ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างผ่อนคลาย ไม่ว่าจะใช้เป็น รถครอบครัว Isuzu หรือใช้ในการเดินทางกับเพื่อนร่วมงาน

ระบบ Infotainment ก็ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ใช้งานง่าย การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้สามารถเข้าถึงฟังก์ชันนำทาง ความบันเทิง และการสื่อสารได้อย่างสะดวกสบาย วัสดุภายในห้องโดยสารแม้จะเน้นความทนทานตามสไตล์รถกระบะ แต่ก็มีการเพิ่มสัมผัสที่ดูพรีเมียมในบางจุด เช่น วัสดุบุนุ่ม หรือการตกแต่งด้วยโครเมียมและสีดำเงา

ช่องเก็บของและช่องเสียบอุปกรณ์ต่างๆ มีให้เลือกใช้หลากหลาย ทำให้การจัดเก็บสัมภาระส่วนตัวเป็นเรื่องง่าย ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ คอนโซลกลาง ปุ่มควบคุมต่างๆ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจดจ่อกับการขับขี่ได้อย่างเต็มที่ แผงหน้าปัดแบบดิจิทัลผสมอนาล็อก แสดงข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน

สรุป Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2025: กระบะที่เข้าใจคนไทย

หลังจากได้สัมผัสและทดสอบ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2025 อย่างใกล้ชิดมาเป็นเวลาพอสมควร ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการ ขอสรุปว่า Isuzu D-Max รุ่นนี้ยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าจับตามองในตลาดรถกระบะของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่มองหารถกระบะที่เน้นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน การเดินทาง หรือเพื่อธุรกิจ ที่ต้องการความสมดุลระหว่างสมรรถนะ ความประหยัด และความคุ้มค่าในการดูแลรักษา

จุดแข็งที่โดดเด่น:

เครื่องยนต์ 2.2 MAXFORCE E-VGS: ให้ สมรรถนะ Isuzu D-Max ที่น่าพอใจ แรงบิดมาไว อัตราเร่งดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรุ่น 1.9 ลิตร ทำให้การขับขี่มีความมั่นใจและสนุกสนานมากขึ้น และที่สำคัญคือ อัตราสิ้นเปลือง Isuzu D-Max ที่ยังคงน่าประทับใจสำหรับเครื่องยนต์ขนาดนี้
เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ: มอบความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ การตอบสนองที่ฉับไว และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน
ค่าบำรุงรักษาต่ำ: นี่คือพระเอกตัวจริงในระยะยาว บำรุงรักษากระบะ Isuzu ทำได้ง่าย อะไหล่ราคาไม่แพง ทำให้ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถต่ำกว่าคู่แข่งหลายรายอย่างมีนัยสำคัญ
ความทนทานและเชื่อถือได้: Isuzu ยังคงรักษาชื่อเสียงด้านความทนทานและการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้รถกระบะในประเทศไทย

สิ่งที่ต้องพิจารณา:

ช่วงล่าง: แม้จะเน้นความนุ่มนวล แต่สำหรับผู้ที่ต้องการฟิลลิ่งการขับขี่ที่สปอร์ต หรือใช้ความเร็วสูงเป็นประจำ อาจจะต้องพิจารณาการปรับแต่งเพิ่มเติม
ระบบ ADAS: แม้จะล้ำสมัย แต่การทำงานของระบบในสภาพการจราจรไทยยังคงมีจุดที่ต้องปรับปรุง ผู้ใช้งานควรทำความเข้าใจและเรียนรู้การทำงานของระบบอย่างถ่องแท้

สรุปแล้ว หากคุณกำลังมองหา รถกระบะยอดนิยม ที่เป็นเพื่อนคู่ใจในการทำงาน การเดินทาง และยังให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของในระยะยาว Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2025 คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้อย่างลงตัว ด้วยขุมพลังใหม่ 2.2 ลิตร ที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย การบำรุงรักษาที่ง่ายดาย และความเป็น Isuzu ที่มีชื่อเสียงด้านความทนทาน จึงยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดรถกระบะของประเทศไทย

ก้าวสู่ประสบการณ์จริงกับ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2025

ในโลกแห่งการแข่งขันของตลาดรถกระบะปี 2025 การตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์สักคันนั้นซับซ้อนกว่าที่เคยเป็นมา อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์จากประสบการณ์กว่าทศวรรษ ผมเชื่อว่า Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2025 ยังคงเป็นตัวเลือกที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณากระบะคันใหม่ อย่าพลาดโอกาสที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ด้วยตัวคุณเอง

อย่ารอช้า! หากคุณต้องการสัมผัสสมรรถนะจริงของ Isuzu D-Max Hi-Lander CAB4 MAXFORCE 2025 ด้วยตัวคุณเอง และรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้คุณเลือกกระบะที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณได้อย่างลงตัวที่สุด เข้าเยี่ยมชมโชว์รูม Isuzu ใกล้บ้านคุณวันนี้ หรือนัดหมายทดลองขับ เพื่อค้นพบว่าทำไม Isuzu D-Max จึงยังคงเป็นกระบะคู่ใจที่ยืนหยัดอยู่เคียงข้างคนไทยเสมอมา

Previous Post

[ครบชุด] PI10190 โดนบอกเลิกแบบไม่ทันตั้งตัว! พีคตอนจบ กระดิ่งสตูดิโอ

Next Post

[ครบชุด] PI10192 ข้าวกล่องจนๆของพ่อ ละครสั้น มังกรทองฟิล์ม

Next Post
[ครบชุด] PI10192 ข้าวกล่องจนๆของพ่อ ละครสั้น มังกรทองฟิล์ม

[ครบชุด] PI10192 ข้าวกล่องจนๆของพ่อ ละครสั้น มังกรทองฟิล์ม

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • [ครบชุด] PI10400 ร้านอาหารยอดแย่ คนแก่ห้ามเข้า ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10399 ปลoมตัวไม่ปลoมใจ Ep
  • [ครบชุด] PI10398 แMvโมลูกเดียวเปลี่euชีวิตพวกเขา 2 คน ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10397 โจsในคsๅUคนแก่ ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10396 วิญญาณแก้แค้u ละครสั้น

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025
  • July 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.