• Sample Page
  • Sample Page
Film Thai lan
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film Thai lan
No Result
View All Result

[ครบชุด] 1010273 ทั้งกินทั้งยืมหน้าด้านจริงๆ วัดใจ ชาแนล

admin79 by admin79
October 28, 2025
in Uncategorized
0
[ครบชุด] 1010273 ทั้งกินทั้งยืมหน้าด้านจริงๆ วัดใจ ชาแนล

ปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025: คู่มือผู้เชี่ยวชาญสู่การเลือกยาง ‘แรงต้านการหมุนต่ำ’ เพื่อระยะทางที่เหนือกว่าและความยั่งยืน

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมเห็นถึงวิวัฒนาการอันก้าวกระโดดของเทคโนโลยี EV อย่างชัดเจน จากยานพาหนะที่เคยถูกมองว่าเป็นความฝันไกลตัว สู่ความจริงที่จับต้องได้และกำลังจะกลายเป็นกระแสหลักในปี 2025 นี้ ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้มองหารถยนต์ไฟฟ้าแค่เพียงขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่โตหรืออัตราการชาร์จที่รวดเร็วอีกต่อไป แต่สายตาของพวกเขากำลังจับจ้องไปที่ “ประสิทธิภาพโดยรวม” ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของยานยนต์แห่งอนาคตนี้ และหากจะพูดถึงองค์ประกอบที่มักถูกมองข้าม แต่กลับมีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อทั้งระยะทางขับขี่ ความประหยัด และประสบการณ์การขับขี่ นั่นก็คือ “ยางรถยนต์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมิติของ “แรงต้านการหมุน” หรือ Rolling Resistance

การพลิกโฉมบทบาทของยางในยุคยานยนต์ไฟฟ้า 2025

สำหรับรถยนต์ทั่วไป ยางมีหน้าที่หลักในการยึดเกาะถนน ส่งผ่านกำลัง และรับน้ำหนัก แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025 บทบาทของยางได้ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวของ EV ที่มี “แรงบิดสูง” ทันทีตั้งแต่เริ่มออกตัว (Instant Torque) ซึ่งเหนือกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายในอย่างเทียบไม่ติด ทำให้ยางต้องแบกรับภาระในการถ่ายทอดกำลังมหาศาลลงสู่พื้นผิวถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมจึงเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่ไม่อาจประนีประนอมได้ เพื่อความปลอดภัยและสมรรถนะการขับขี่สูงสุด

ทว่า การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมเพียงอย่างเดียวไม่พออีกต่อไปเมื่อเราพูดถึง “ประสิทธิภาพพลังงาน EV” ในปี 2025 ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกต่างตระหนักถึงความสำคัญของการเพิ่ม “ระยะทางขับขี่ EV” ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งให้ได้มากที่สุด เพื่อลด “ความกังวลเรื่องระยะทาง” (Range Anxiety) และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งตรงจุดนี้เองที่ “แรงต้านการหมุนของยาง” ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง เป็นตัวแปรเงียบที่สามารถกำหนดชะตากรรมของระยะทางขับขี่และ “ค่าใช้จ่ายรถยนต์ไฟฟ้า” ของคุณได้โดยตรง

เจาะลึก: แรงต้านการหมุนของยาง (Rolling Resistance) คืออะไร?

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนาน ผมขออธิบายให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า Rolling Resistance หรือที่ในภาษาไทยเรียกว่า “ความต้านทานการหมุนของยาง” นั้นคืออะไร มันคือแรงต้านที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อยางรถยนต์สัมผัสและกลิ้งไปบนพื้นถนน กระบวนการนี้ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด ทุกครั้งที่ยางหมุน มันจะเกิดการเสียรูป (Deformation) บิดงอ คลายตัว และเสียดสีกับผิวถนนอย่างต่อเนื่อง ภายในโครงสร้างของยางเองก็เกิดการเสียดสีภายในระหว่างโมเลกุลของวัสดุที่ประกอบขึ้นเป็นยาง การเสียรูปและเสียดสีเหล่านี้ก่อให้เกิดการสูญเสียพลังงานออกมาในรูปของ “ความร้อน” ซึ่งพลังงานที่สูญเสียไปนี้เองคือ “แรงต้าน” ที่ทำให้รถต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากขึ้นในการขับเคลื่อนให้ได้ระยะทางเท่าเดิม

ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงต้านการหมุนนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่องค์ประกอบพื้นฐานของยางไปจนถึงสภาวะการใช้งาน:

โครงสร้างและวัสดุของยาง (Tire Construction & Compound): นี่คือหัวใจสำคัญที่สุด ผู้ผลิตยางชั้นนำในปี 2025 ต่างลงทุนมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา “เทคโนโลยียาง 2025” เพื่อสร้างสรรค์สารประกอบยาง (Rubber Compound) ที่มีค่าความหนืดต่ำ (Low Hysteresis) และออกแบบโครงสร้างภายในให้มีความแข็งแรงแต่ยืดหยุ่นพอดี เพื่อลดการเสียรูปที่ไม่จำเป็น ยาง “Low Rolling Resistance” จึงมักใช้สารประกอบซิลิกาพิเศษและโครงสร้างชั้นยางที่เบาแต่แข็งแรง
แรงดันลมยาง (Tire Pressure): ปัจจัยที่ง่ายที่สุดแต่ถูกมองข้ามบ่อยที่สุด แรงดันลมยางที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์จะช่วยให้ยางคงรูปได้ดี ลดการเสียรูปที่ไม่จำเป็นและลดแรงต้าน การที่ลมยางอ่อนเกินไปจะเพิ่มการเสียรูปของยางอย่างมาก ส่งผลให้ “แรงต้านการหมุนของยาง” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังส่งผลเสียต่อ “อายุการใช้งานยาง” และความปลอดภัยอีกด้วย
รูปแบบดอกยาง (Tread Pattern): แม้จะเน้นไปที่การยึดเกาะและการรีดน้ำเป็นหลัก แต่รูปแบบและร่องดอกยางก็มีผลต่อแรงต้านการหมุนเช่นกัน ดอกยางที่ใหญ่หรือมีลวดลายซับซ้อนมากเกินไป อาจเพิ่มน้ำหนักและการเสียรูปได้เล็กน้อย นักออกแบบยาง EV จึงพยายามรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพการยึดเกาะและการลดแรงต้าน
น้ำหนักบรรทุกของรถ (Vehicle Load): รถที่มีน้ำหนักบรรทุกมาก ยางจะรับแรงกดและเกิดการเสียรูปมากขึ้นโดยธรรมชาติ ส่งผลให้แรงต้านการหมุนเพิ่มขึ้น
สภาพพื้นผิวถนน (Road Surface): พื้นผิวถนนที่ขรุขระหรือไม่เรียบ จะทำให้ยางเกิดการเสียรูปและเสียดสีมากกว่าบนพื้นผิวที่เรียบ ส่งผลให้แรงต้านเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ผลกระทบเชิงบวกของยางแรงต้านการหมุนต่ำต่อยานยนต์ไฟฟ้าปี 2025

การเลือกยางที่มีค่า Rolling Resistance ต่ำ ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือ “การลงทุน” ที่ชาญฉลาดสำหรับเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงผลลัพธ์ที่จับต้องได้:

เพิ่มระยะทางขับขี่และประหยัดพลังงาน EV อย่างแท้จริง: นี่คือประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุด ยางที่มีแรงต้านการหมุนต่ำจะช่วยลดปริมาณพลังงานที่รถต้องใช้ในการเอาชนะแรงเสียดทาน ทำให้พลังงานจากแบตเตอรี่ถูกนำไปใช้ในการขับเคลื่อนรถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผลลัพธ์คือ “ระยะทางขับขี่ EV” ที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บางการทดสอบแสดงให้เห็นว่าสามารถเพิ่มระยะทางได้ตั้งแต่ 5-10% หรือมากกว่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สำคัญมากต่อการใช้งานจริงในระยะทางไกลหรือในวันที่ต้องเดินทางบ่อยครั้ง
ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวอย่างยั่งยืน: การที่รถใช้พลังงานน้อยลง ย่อมหมายถึงการชาร์จแบตเตอรี่ที่น้อยครั้งลง และลดปริมาณ “ค่าไฟฟ้า EV” ลงได้จริงในแต่ละเดือน เมื่อรวมกันในระยะเวลาหลายปี การประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะสูงกว่าส่วนต่างราคาของยางอย่างเห็นได้ชัด นี่คือการมองข้ามช็อตที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างเราแนะนำเสมอ
ลดการปล่อยคาร์บอนและส่งเสริมความยั่งยืน: การใช้พลังงานจากแบตเตอรี่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หมายถึงการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าโดยรวม ซึ่งเท่ากับการช่วย “ลดคาร์บอน” ฟุตพริ้นท์ลงได้อีกทางหนึ่ง แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะไม่มีการปล่อยไอเสียโดยตรง แต่การผลิตไฟฟ้ายังคงมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การลดการใช้พลังงานจึงเป็นส่วนหนึ่งของวิถี “ความยั่งยืน” และ “พลังงานสะอาด” ที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการใช้ EV อย่างแท้จริง เป็นการตอกย้ำถึง “การลดการปล่อยมลพิษ” ที่ครอบคลุมทั้งวงจร
สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้าที่ตอบสนอง: แม้จะเป็นผลพลอยได้ แต่การที่รถไม่ต้องใช้พลังงานมากเพื่อเอาชนะแรงต้าน จะทำให้ “ประสิทธิภาพแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า” ถูกนำไปใช้เพื่อการเร่ง การทรงตัว และ “สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า” โดยรวมได้ดียิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่ลื่นไหลและตอบสนองได้ดีกว่า

ทำความเข้าใจฉลากยาง: มาตรฐานและเกณฑ์การจัดเกรดสำหรับปี 2025

ในตลาดโลกและโดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรป ซึ่งมักเป็นผู้นำด้าน “มาตรฐานยางยุโรป” (EU Tyre Label) ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบประสิทธิภาพของยางได้อย่างโปร่งใส ฉลากนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติสำคัญ 3 ประการ ได้แก่:

ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Efficiency): ซึ่งในบริบทของ EV คือ “ประสิทธิภาพพลังงาน EV” นั่นเอง โดยแสดงด้วยระดับ A ถึง E
เกรด A: “Rolling Resistance ต่ำที่สุด” หมายถึง “ประหยัดพลังงานมากที่สุด” และเพิ่มระยะทางขับขี่ได้สูงสุด
เกรด B–C: อยู่ในระดับมาตรฐาน เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ให้ความสมดุลระหว่างแรงต้านและคุณสมบัติอื่นๆ
เกรด D–E: มี Rolling Resistance สูงกว่า ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น และลดระยะทางขับขี่
การยึดเกาะบนพื้นเปียก (Wet Grip): แสดงด้วยระดับ A ถึง E ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญด้านความปลอดภัย
ระดับเสียงรบกวนภายนอก (Exterior Rolling Noise): แสดงเป็นค่าเดซิเบลและสัญลักษณ์คลื่น (1-3 คลื่น) เพื่อบ่งบอกถึงความเงียบของยาง

ในปี 2025 คาดการณ์ว่าผู้ผลิตยางจะยังคงเน้นการพัฒนา “นวัตกรรมยางประหยัดพลังงาน” ให้ได้เกรด A หรือ B สำหรับยาง EV รุ่นใหม่ๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

แนวทางการเลือกยางรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญ (อัปเดต 2025)

การเลือกยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2025 ควรเป็นกระบวนการที่รอบคอบและพิจารณาจากหลายมิติ ไม่ใช่เพียงแค่ราคาหรือยี่ห้อเท่านั้น ผมขอแนะนำแนวทางปฏิบัติจากประสบการณ์จริง:

ตรวจสอบ EU Tyre Label (หรือฉลากเทียบเท่า) อย่างละเอียด: นี่คือก้าวแรกและสำคัญที่สุด มองหาค่า “ประสิทธิภาพพลังงาน EV” ที่เป็นเกรด A หรือ B เป็นลำดับแรกสุดสำหรับยาง “Low Rolling Resistance” โดยเฉพาะ หากรถของคุณเป็น EV คุณต้องการยางที่ช่วยเพิ่ม “ระยะทางขับขี่ EV” ให้ได้มากที่สุด
พิจารณาการใช้งานและประเภทรถ EV ของคุณ:
รถ EV สำหรับใช้ในเมือง (Urban EV): อาจจะเน้นยางที่มี Rolling Resistance ต่ำเป็นพิเศษ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและลดการชาร์จในชีวิตประจำวัน
รถ EV สมรรถนะสูง (Performance EV): ต้องรักษาสมดุลระหว่าง Rolling Resistance ต่ำและการ “ยึดเกาะถนน EV” ที่ยอดเยี่ยม เพื่อรองรับ “แรงบิดสูงรถยนต์ไฟฟ้า” ที่มหาศาล และ “สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า” โดยรวม
รถ EV สำหรับการเดินทางไกล (Long-Range EV): ยาง Low Rolling Resistance คือสิ่งจำเป็นสูงสุด เพื่อขยายระยะทางขับขี่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่ละเลยคุณสมบัติอื่นที่สำคัญ: การ “ประหยัดพลังงาน EV” เป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องไม่แลกมาด้วยความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่:
การยึดเกาะบนพื้นเปียก (Wet Grip): ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เกรด A หรือ B เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในทุกสภาพอากาศ
ความนุ่มนวลและเสียงรบกวน (Comfort & Noise): ยาง EV ที่ดีควรเงียบและนุ่มนวล เนื่องจากรถ EV ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ เสียงยางจึงมีความโดดเด่นมากขึ้น
อายุการใช้งานยาง (Tire Lifespan): ยาง EV มักต้องรองรับน้ำหนักที่มากกว่าและแรงบิดที่สูงกว่ายางรถยนต์สันดาปทั่วไป การเลือกยางที่มีโครงสร้างแข็งแรงและทนทาน จะช่วยยืดอายุการใช้งาน
ดัชนีรับน้ำหนัก (Load Index): รถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักตัวสูงกว่ารถสันดาปที่ขนาดใกล้เคียงกันเนื่องจากแบตเตอรี่ ควรเลือกยางที่มีดัชนีรับน้ำหนักที่เหมาะสมหรือสูงกว่าค่ามาตรฐาน
ให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษายางอย่างสม่ำเสมอ: ไม่ว่ายางจะดีแค่ไหน การ “การบำรุงรักษายาง” ที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ แรงดันลมยางที่เหมาะสมตามที่ระบุในคู่มือรถเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะลมยางอ่อนเกินไปจะเพิ่มแรงต้านการหมุนและทำให้ยางสึกหรอเร็วขึ้นอย่างมาก การสลับยางตามกำหนด (Tire Rotation) และการตั้งศูนย์ล้อ (Wheel Alignment) ก็มีส่วนช่วยรักษาประสิทธิภาพของยางและ “อายุการใช้งานยาง” ได้อีกด้วย

อนาคตของยางรถยนต์ไฟฟ้า: นวัตกรรมและเทรนด์ในยุค 2025 และหลังจากนั้น

มองไปข้างหน้าถึง “รถยนต์ไฟฟ้าอนาคต” และ “นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า” โดยเฉพาะในภาคส่วนยาง จะเห็นถึงการวิจัยและพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง:

สารประกอบยางอัจฉริยะ (Smart Compounds): ผู้ผลิตกำลังพัฒนายางที่สามารถปรับเปลี่ยนคุณสมบัติได้ตามสภาพการขับขี่ เช่น การยึดเกาะที่เพิ่มขึ้นเมื่อต้องการ หรือแรงต้านที่ต่ำลงเมื่อขับขี่ทางไกล
เทคโนโลยียางไร้ลม (Airless Tires): แม้จะยังอยู่ในช่วงทดสอบ แต่ยางไร้ลมมีศักยภาพในการลดแรงต้าน การไม่ต้องกังวลเรื่องการรั่วซึม และ “การบำรุงรักษายาง” ที่ง่ายดาย
ยางรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพ (Recycled & Bio-based Materials): เพื่อตอบสนองเป้าหมาย “ความยั่งยืน” และ “การลดการปล่อยมลพิษ” ผู้ผลิตกำลังมองหาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในการผลิตยาง “เทคโนโลยียาง 2025” จึงรวมถึงกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ยางเชื่อมต่อและเซ็นเซอร์อัจฉริยะ (Connected & Smart Tires): ยางยุคใหม่จะมาพร้อมเซ็นเซอร์ที่สามารถตรวจสอบแรงดัน อุณหภูมิ และการสึกหรอแบบเรียลไทม์ พร้อมส่งข้อมูลไปยังระบบของรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถจัดการ “การบำรุงรักษายาง” ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อปรับปรุง “สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า” ได้อีกด้วย

บทสรุป: ก้าวสู่การขับขี่ EV ที่เหนือกว่า

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่า “แรงต้านการหมุนของยาง” ไม่ใช่แค่คำศัพท์ทางเทคนิค แต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อ “ประสิทธิภาพพลังงาน EV” และ “ระยะทางขับขี่ EV” ของรถยนต์ไฟฟ้าของคุณในปี 2025 การเลือกยางที่เหมาะสมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของความสะดวกสบาย แต่เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อ “ค่าใช้จ่ายรถยนต์ไฟฟ้า” ในระยะยาว ความปลอดภัย และการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์โลกที่ “ความยั่งยืน” มากขึ้น

อย่ารอช้าที่จะยกระดับประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าของคุณให้ถึงขีดสุด! หากคุณกำลังมองหายางสำหรับรถ EV ของคุณในวันนี้ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “นวัตกรรมยางประหยัดพลังงาน” ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างแท้จริง โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์เพื่อค้นหายางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ “รถยนต์ไฟฟ้าอนาคต” ของคุณ เพื่อปลดล็อก “สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า” ที่เหนือกว่าและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่โลกที่สะอาดและยั่งยืนยิ่งขึ้นไปพร้อมกัน!

Previous Post

[ครบชุด] 1010274 ผัวบ้าเลือดจูดรีดเงินเมียทุกวัน วัดใจ ชาแนล

Next Post

[ครบชุด] 3010181 ความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า! ใครคือฮีโร่ตัวจริง การหนีจากสามีที่อันตราย

Next Post
[ครบชุด] 3010181 ความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า! ใครคือฮีโร่ตัวจริง การหนีจากสามีที่อันตราย

[ครบชุด] 3010181 ความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า! ใครคือฮีโร่ตัวจริง การหนีจากสามีที่อันตราย

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • [ครบชุด] XU11300 Facebook (42)
  • [ครบชุด] XU11299 Facebook (15)
  • [ครบชุด] XU11298 ลูกคือภาระ คุณก็ภาระ หลง รักแฟนเพจ
  • [ครบชุด] XU11297 ลูกเก็บมาเลี้ยงดีกว่าลูกในไส้
  • [ครบชุด] XU11296 การหย่ากับสามี ถ้าผัวมันเลว ไม่ใช่เรื่องน่าอายอย่างที่คิด

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025
  • July 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.