[ครบชุด] XU11022 เจ้าสาวหน้าเงิน!

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ LEADER S 2025: PPV ขวัญใจครอบครัวไทย… คุ้มค่าที่สุดแห่งยุค? (เปิดมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ 10 ปี)

ในโลกยานยนต์ปี 2025 ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอันดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นกระแสรถยนต์ไฟฟ้าที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง หรือรถยนต์กลุ่ม SUV ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมายจนบางครั้งก็เกิดความสับสน อย่างไรก็ตาม สำหรับหลายครอบครัวในประเทศไทย ความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง ทั้งในเมืองและนอกเมือง รองรับผู้โดยสารได้หลายคน มีความทนทาน และที่สำคัญคือ “คุ้มค่า” ยังคงเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ และท่ามกลางสมรภูมิที่ร้อนระอุนี้ Toyota Fortuner ยังคงยืนหยัดในฐานะตัวเลือกอันดับต้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นย่อยใหม่ล่าสุดที่กลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง นั่นคือ Toyota Fortuner LEADER S 2025 ซึ่งผมในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าสิบปี ขอพาทุกท่านมาเจาะลึกว่าทำไมรถคันนี้ถึงเป็น PPV ที่น่าจับตามองและอาจเป็น “ตัวประหยัดประจำบ้าน” ที่แท้จริงในยุคปัจจุบัน

ถอดรหัสความคุ้มค่า: ทำไม Fortuner LEADER S 2025 ถึงตอบโจทย์?

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ราคาของรถยนต์อเนกประสงค์ PPV โดยเฉพาะ Toyota Fortuner ที่เป็นผู้นำตลาดมาอย่างยาวนาน ได้ขยับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบจะแตะระดับสองล้านบาท ทำให้หลายคนที่เคยใฝ่ฝันอยากได้รถครอบครัวคันใหญ่ต้องถอดใจไปบ้าง ประกอบกับกระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่นำเสนอรถขนาดใกล้เคียงกันในราคาล้านต้นๆ ยิ่งเพิ่มความกดดันให้กับรถยนต์สันดาปภายในอย่างเห็นได้ชัด แต่การมาถึงของ Fortuner LEADER S 2025 ในราคาเริ่มต้นเพียง 1,239,000 บาท ถือเป็นการปรับกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดจากโตโยต้า เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ PPV คุณภาพระดับพรีเมียมได้ง่ายขึ้น ด้วยราคาที่เข้าถึงได้และสเปกที่ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอย่างครบครัน นี่คือการกลับมาเพื่อตอกย้ำว่า PPV ดีเซลยังคงมีที่ยืนที่แข็งแกร่งในตลาด และเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับใครหลายคน

ราคาและทางเลือกสีสันที่น่าสนใจ

Fortuner LEADER S 2025 วางตำแหน่งเป็นรุ่นย่อยที่มอบความคุ้มค่าสูงสุด โดยมีราคาและทางเลือกสีสันดังนี้:

2.4 Leader S เกียร์อัตโนมัติ: ราคา 1,239,000 บาท
(อาจมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นทางเลือก ซึ่งถ้ามีราคาจะสูงขึ้นเล็กน้อย แต่รุ่นหลักที่เน้นความประหยัดคือ 2WD)

สีให้เลือก ได้แก่:

Platinum White Pearl: เพิ่ม 12,000 บาท (สีขาวมุกยอดนิยมที่เพิ่มความหรูหรา)
Attitude Black Mica: (สีดำที่ให้ความดุดันและภูมิฐาน)
Silver Metallic: (สีเงินที่ดูแลรักษาง่ายและเป็นที่นิยม)

การมีราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจนี้ ทำให้ Fortuner LEADER S 2025 กลายเป็น PPV ที่มีราคาจับต้องได้มากที่สุดในตระกูล Fortuner ณ ปัจจุบัน ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้มันโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงชื่อเสียงของแบรนด์โตโยต้าในเรื่องความทนทานและค่าบำรุงรักษาที่สมเหตุสมผล

หัวใจแห่งความแข็งแกร่ง: ขุมพลังดีเซล 2.4 ลิตร EURO 5

ภายใต้ฝากระโปรงของ Fortuner LEADER S 2025 คือเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 2GD-FTV ขนาด 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพมาอย่างยาวนาน ด้วยมาตรฐานไอเสีย EURO 5 ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดถึง 400 นิวตันเมตร ที่ช่วงรอบต่ำ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที ซึ่งเป็นช่วงรอบการใช้งานที่ตอบสนองได้ดีเยี่ยมในชีวิตประจำวัน

การจับคู่เกียร์: ระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ถ่ายทอดพละกำลังได้อย่างนุ่มนวลและต่อเนื่อง ช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ทั้งในเมืองและการเดินทางไกลได้อย่างลงตัว
ทางเลือกการขับเคลื่อน: มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) ซึ่งเน้นความประหยัดและคล่องตัว และอาจมีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ให้เลือกสำหรับผู้ที่ต้องการลุยในเส้นทางที่สมบุกสมบันมากขึ้น
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน: จากข้อมูล ECO Sticker ระบุว่าสามารถทำได้ถึง 14.3 กม./ลิตร ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถ PPV ขนาดใหญ่ และจากประสบการณ์จริงในการขับขี่ หากขับขี่อย่างเหมาะสม คุณสามารถคาดหวังอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในเมืองที่ 11-12 กม./ลิตร และนอกเมืองที่ 13-14 กม./ลิตร ได้ไม่ยาก ทำให้ Fortuner LEADER S เป็น PPV ดีเซลประหยัดน้ำมันที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่ค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงไม่เป็นภาระมากนัก

เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตรนี้ ไม่ได้เน้นพละกำลังที่รุนแรงจนเกินไป แต่เน้นความเชื่อถือได้ การบำรุงรักษาง่าย และอัตราสิ้นเปลืองที่คุ้มค่า ซึ่งเป็นปรัชญาที่ทำให้โตโยต้าประสบความสำเร็จในตลาด PPV มาโดยตลอด มันคือเครื่องยนต์ที่ “พอเพียง” แต่ “เพียงพอ” สำหรับทุกการเดินทางของครอบครัวไทย

ดีไซน์ภายนอก: ความดุดันที่คุ้นตา

รูปลักษณ์ภายนอกของ Fortuner LEADER S 2025 ยังคงเอกลักษณ์ความแข็งแกร่ง ดุดัน และภูมิฐานที่เราคุ้นเคยกันดี การออกแบบที่ดูทรงพลังและเส้นสายที่เฉียบคม ทำให้ Fortuner เป็นรถยนต์ PPV ที่สะดุดตาบนท้องถนนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะขับขี่ไปที่ใดก็เป็นที่ยอมรับในเรื่องของ “บารมี” และความน่าเกรงขาม

ความแตกต่างของ LEADER S: จุดเด่นที่ทำให้ LEADER S แตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ที่ชัดเจนที่สุดคือ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ซึ่งในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่านี่คือ “จุดเด่นที่ซ่อนอยู่” ที่หลายคนอาจมองข้ามไป ด้วยขนาดล้อที่เล็กลงแต่มีแก้มยางที่หนาขึ้น ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่เมื่อต้องเจอพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบหรือในเมืองที่มีลูกระนาดบ่อยครั้งเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและลดโอกาสเกิดความเสียหายของยางและล้อจากการกระแทกอีกด้วย นอกจากนี้ การเปลี่ยนยางในอนาคตก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลกว่าล้อขนาดใหญ่
ในส่วนอื่นๆ ดีไซน์โดยรวมยังคงความลงตัวและไม่แตกต่างจาก Fortuner รุ่น LEADER ทั่วไปมากนัก ทำให้ยังคงความคุ้มค่าด้านรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีในทุกมิติ

ภายในห้องโดยสาร: ครบครันด้วยฟังก์ชันใช้งานจริง

ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ Toyota Fortuner LEADER S 2025 คุณจะพบกับบรรยากาศที่คุ้นเคยและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว: รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคปัจจุบัน ช่วยให้การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง ฟังเพลง หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบายและไม่ขาดการเชื่อมต่อ
มาตรวัดเรืองแสง พร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว: ให้ข้อมูลการขับขี่ที่ชัดเจนและครบถ้วน ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา: พร้อมแผ่นกรองอากาศ PM2.5 นี่คือฟีเจอร์สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในสุขภาพของผู้โดยสาร โดยเฉพาะในสภาวะอากาศปัจจุบันที่มลพิษทางอากาศเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ ผู้โดยสารทุกคนจะได้รับความเย็นสบายและอากาศที่บริสุทธิ์ตลอดการเดินทาง
พื้นที่ใช้สอย: ด้วยความเป็นรถยนต์ PPV แบบ 7 ที่นั่ง Fortuner LEADER S จึงมอบพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง เพียงพอสำหรับการเดินทางของสมาชิกในครอบครัวและสัมภาระจำนวนมาก เบาะนั่งสามารถปรับพับได้หลากหลายรูปแบบ เพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกล การขนของ หรือการไปทำกิจกรรมต่างๆ

โดยรวมแล้ว ภายในห้องโดยสารของ Fortuner LEADER S 2025 อาจจะไม่ได้หวือหวาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุด แต่เน้นความทนทาน ใช้งานง่าย และฟังก์ชันที่จำเป็นครบครัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานรถยนต์ PPV ส่วนใหญ่ต้องการ

สัมผัสประสบการณ์ขับขี่: นุ่มนวล มั่นคง เกินคาด

ในฐานะผู้ที่ได้ทดลองขับ Fortuner มาหลายรุ่นและหลายปี ผมต้องยอมรับว่า Fortuner LEADER S 2025 สร้างความประทับใจในด้านการขับขี่ได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร ที่แม้จะไม่ได้เป็นตัวท็อปในด้านพละกำลัง แต่ก็ให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งการออกตัว การเร่งแซง และการขับขี่บนทางหลวง

สมรรถนะที่ “พอดี”: พละกำลัง 150 แรงม้า พร้อมแรงบิด 400 นิวตันเมตร ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ทั้งการเดินทางในเมืองที่ต้องหยุดๆ ไปๆ หรือการออกต่างจังหวัดที่ต้องการแรงบิดในการเร่งแซง การทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีอาการกระตุกหรือรอรอบที่น่ารำคาญ ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างผ่อนคลาย
ความประหยัดในโลกจริง: นอกเหนือจากตัวเลข Eco Sticker ที่ระบุ 14.3 กม./ลิตร จากการใช้งานจริงในสภาพการจราจรที่หลากหลาย ผมพบว่าในเมืองสามารถทำได้ประมาณ 11-12 กม./ลิตร และเมื่อออกนอกเมือง เดินทางด้วยความเร็วคงที่โดยไม่กดคันเร่งมากเกินไป ตัวเลข 13-14 กม./ลิตร ไม่ใช่เรื่องเกินจริง ถือเป็น PPV ที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ยอมรับได้และช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้ดี
ช่วงล่างที่เหนือความคาดหมาย: นี่คือจุดที่ทำให้ผมประทับใจมากที่สุด และเป็นสิ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำถึงความเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ในตลาด PPV โดยทั่วไปแล้ว Fortuner ขึ้นชื่อเรื่องช่วงล่างที่แข็งกระด้างเล็กน้อย แต่ในรุ่น LEADER S ด้วยการมาของ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ที่มาพร้อมยางที่มีแก้มยางหนาขึ้น ส่งผลให้ช่วงล่างของรถมีความนุ่มนวลและยืดหยุ่นอย่างมีนัยสำคัญ ความรู้สึกที่ได้คือความนุ่มนวลกำลังดี ไม่ย้วยยวบยาบ แต่ยังคงรักษาการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในความเร็วสูง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโค้งหรือการเปลี่ยนเลนกะทันหัน ตัวรถยังคงให้ความมั่นคงและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี
ความนุ่มนวลนี้เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการขับขี่ในเมืองที่ต้องเจอพื้นผิวถนนขรุขระ ลูกระนาด หรือฝาท่อระบายน้ำบ่อยๆ ช่วยลดแรงกระแทกและเพิ่มความสบายให้กับผู้โดยสารทุกคน
สำหรับการเดินทางไกล ช่วงล่างที่นุ่มนวลแต่ยังคงการทรงตัวที่ดี ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการเดินทางและทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนานและปลอดภัยยิ่งขึ้น

เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย: รากฐานของความเชื่อมั่น

เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่โตโยต้าให้ความสำคัญมาโดยตลอด และ Fortuner LEADER S 2025 ก็ไม่ได้ละเลยในจุดนี้ แม้จะเป็นรุ่นที่เน้นความคุ้มค่า แต่ก็มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยพื้นฐานที่ครบครันและน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรถครอบครัว PPV

ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่:
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System)
ระบบควบคุมการทรงตัว (Vehicle Stability Control)
ระบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Brake System)
ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist)
ระบบกระจายแรงเบรก (Electronic Brake-force Distribution)
ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (Trailer Sway Control) – สำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องลากจูง
ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-start Assist Control)
ระบบเบรก: ดิสก์เบรก 4 ล้อ ให้ประสิทธิภาพการเบรกที่มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์
กล้องมองหลัง (Back Monitor): ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการถอยจอดและเข้าจอดในพื้นที่แคบ
ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety):
ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง (7 Airbags) – ครอบคลุมผู้โดยสารในห้องโดยสารทั้งด้านหน้าและด้านข้าง รวมถึงถุงลมหัวเข่า
โครงสร้างนิรภัย GOA (GOA Structure) – ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรงกระแทกจากการชน
พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ (Collapsible Steering Column)
เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 7 ที่นั่ง – มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารทุกคน

แม้ว่า Fortuner LEADER S จะไม่มีระบบความปลอดภัยเชิงรุก Toyota Safety Sense ที่มักจะพบในรุ่นท็อป แต่ชุดความปลอดภัยพื้นฐานที่มีมาให้นั้น ถือว่าเพียงพอและสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์ 10 ปีในวงการ ผมเห็นว่าความทนทานของโครงสร้างและระบบเบรกที่ดี เป็นรากฐานสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามได้ในรถยนต์ PPV

สรุป: Fortuner LEADER S 2025 “ตัวประหยัดประจำบ้าน” ที่แท้จริง

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีกับรถยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมกล้ายืนยันว่า Toyota Fortuner LEADER S 2025 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ PPV ที่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวไทยได้อย่างแท้จริง ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ สเปกที่ “พอดี” และคุณภาพมาตรฐานโตโยต้าที่เชื่อถือได้ มันคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความคุ้มค่า ความทนทาน และฟังก์ชันการใช้งาน

จุดแข็งที่ทำให้โดดเด่น:

ราคาที่คุ้มค่า: ด้วยราคาเริ่มต้น 1,239,000 บาท ทำให้ Fortuner LEADER S เป็นหนึ่งใน PPV ที่น่าสนใจที่สุดในตลาดปี 2025
เครื่องยนต์ดีเซลที่ไว้ใจได้และประหยัดน้ำมัน: เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร EURO 5 มอบพละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งานและมีอัตราสิ้นเปลืองที่น่าพอใจ
ช่วงล่างที่นุ่มนวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด: ล้อ 17 นิ้ว พร้อมแก้มยางหนา ทำให้การขับขี่ในเมืองและนอกเมืองมีความสบายมากขึ้น แต่ยังคงรักษาการทรงตัวที่ดี
ความอเนกประสงค์: พื้นที่ภายในกว้างขวาง รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมของครอบครัว
ความทนทานและค่าบำรุงรักษา: ชื่อเสียงของโตโยต้าในเรื่องนี้เป็นที่ประจักษ์ ทำให้มั่นใจได้ในระยะยาว และมีราคาขายต่อที่ดีในตลาดรถมือสอง
อุปกรณ์ภายในและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน: แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ฟังก์ชันที่จำเป็นมีมาให้ครบถ้วนและระบบความปลอดภัยพื้นฐานก็แข็งแกร่ง

สิ่งที่อาจจะขาดไปบ้าง:

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control): สำหรับรถที่เน้นการเดินทางไกล ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการขับขี่อย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่ไม่ได้ถูกติดตั้งมาให้ในรุ่น LEADER S แต่ก็เป็นสิ่งที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ในภายหลัง
เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง: แม้จะมีกล้องมองหลังมาให้แล้ว แต่เซ็นเซอร์กะระยะจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการถอยจอดในพื้นที่จำกัดได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากราคาค่าตัวและความตั้งใจในการออกแบบให้เป็น “ตัวประหยัดประจำบ้าน” แล้ว การขาดหายไปของฟีเจอร์บางอย่างก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้และเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้ราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้น

หากคุณกำลังมองหารถยนต์ PPV ขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว ที่เน้นความคุ้มค่า ความทนทาน ประหยัดน้ำมัน และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล มั่นคง พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยที่จำเป็นครบครัน Toyota Fortuner LEADER S 2025 คือตัวเลือกที่ผมอยากแนะนำให้คุณพิจารณาอย่างจริงจังในฐานะ รถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันและทุกการเดินทางของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ก้าวเข้ามาสัมผัสความคุ้มค่าด้วยตัวคุณเอง!

อย่ารอช้าที่จะพิสูจน์ความคุ้มค่าและสมรรถนะของ Toyota Fortuner LEADER S 2025 ด้วยตัวคุณเอง! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือนัดหมายทดลองขับได้ที่โชว์รูมโตโยต้าใกล้บ้านคุณวันนี้ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ PPV ขวัญใจครอบครัวไทย ที่พร้อมเป็น “ตัวประหยัดประจำบ้าน” ให้กับคุณและครอบครัวในทุกการเดินทาง แล้วคุณจะพบว่า PPV ดีเซลที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ทุกการใช้งานยังคงเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุด!