[ครบชุด] XU11070 ใจดีทีรัย บรรลัยทุกที

ZEEKR 7X: พลิกโฉมวงการ SUV ไฟฟ้า 2025 ด้วยสมรรถนะเหนือระดับ พร้อมลุยในสไตล์พรีเมียม

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้ามานับทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่าปี 2025 นี้ คือหมุดหมายสำคัญที่ตลาด EV กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายและความซับซ้อนของผู้บริโภคที่มองหานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ครบวงจร ไม่ใช่แค่เรื่องของความประหยัดหรือความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกต่อไป แต่ยังรวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ความหรูหราที่สัมผัสได้ และที่สำคัญคือความสามารถในการพาเราออกไปผจญภัยได้มากกว่าแค่บนพื้นผิวถนนเรียบๆ และในท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ ZEEKR 7X (ซีคเกอร์ 7X) คือหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่มาพร้อมกับคำตอบที่น่าสนใจที่สุดในตลาดตอนนี้

หลายคนอาจคุ้นเคยกับ ZEEKR (ซีคเกอร์) ในฐานะแบรนด์พรีเมียมจากค่าย Geely ที่มี DNA ด้านเทคโนโลยีและการออกแบบที่โดดเด่น แต่สำหรับ ZEEKR 7X นั้น แตกต่างออกไป เพราะมันคือการผสมผสานระหว่างความล้ำสมัยของรถยนต์ไฟฟ้า สมรรถนะที่ทรงพลัง และความสามารถในการขับขี่แบบ “Semi-Off-Road” หรือการลุยทางที่ไม่คุ้นเคยได้บ้าง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า SUV ณ ปัจจุบัน

การเปิดตัวที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในไทย: ZEEKR 7X กับนิยามของ SUV ไฟฟ้ายุคใหม่

การเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ ZEEKR 7X ในช่วงกลางปี 2025 นี้ กำลังจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า SUV 5 ที่นั่ง ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น หลายเสียงจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่ได้สัมผัสต่างลงความเห็นว่า ZEEKR 7X คือการก้าวข้ามขีดจำกัดของดีไซน์ SUV แบบเดิมๆ ผสมผสานความหรูหราแบบยุโรปเข้ากับความล้ำสมัยของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ไม่ใช่แค่สวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบที่คำนึงถึงทั้งฟังก์ชันการใช้งานและสุนทรียภาพ

จากข้อมูลที่ ZEEKR ประเทศไทยได้เปิดเผย คาดการณ์ราคาของ ZEEKR 7X (นำเข้า CBU จากจีน) จะอยู่ในช่วงที่น่าสนใจและแข่งขันได้ในกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม:
7X Long Range RWD: ช่วงราคาประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

ราคาอย่างเป็นทางการจะประกาศในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริโภคชาวไทยจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมนี้อย่างเต็มตัว

พร้อมกันนี้ ZEEKR ประเทศไทย ยังได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานด้วยแพ็กเกจการรับประกันที่น่าประทับใจ:
รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): 5 ปี หรือ 150,000 กม.
รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์: 8 ปี หรือ 180,000 กม.
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: 8 ปี หรือ 180,000 กม.
ซึ่งนับเป็นการยืนยันถึงคุณภาพและความทนทานของ รถยนต์ไฟฟ้า 800V คันนี้

สถาปัตยกรรมแห่งมิติ: กว้างขวาง แข็งแกร่ง และเปี่ยมด้วยฟังก์ชัน

เมื่อพิจารณาจากมิติตัวถัง ZEEKR 7X ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและความมั่นคงในการขับขี่:
ยาว: 4,787 มม.
กว้าง: 1,930 มม.
สูง: 1,650 มม.
ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,900 มม.
ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance): 173 มม. ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานทั่วไปและสามารถเพิ่มได้อีกเมื่อใช้โหมด Off-road
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย: 539 – 1,978 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง) ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้นๆ หรือการผจญภัยแบบเต็มพิกัด
ช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk): 66 ลิตร สะดวกสบายสำหรับการเก็บของใช้จำเป็นที่ไม่ต้องการให้ปะปนกับสัมภาระหลัก

ดีไซน์ภายนอกของ ZEEKR 7X นั้นโดดเด่นด้วยชุดไฟหน้า Stargate Front Light Panel ที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างเอกลักษณ์และความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่พบเห็น ยกระดับภาพลักษณ์ของ รถอีวีหรู ไปอีกขั้น

ขุมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต: สมรรถนะที่ตอบโจทย์ทุกการขับขี่

ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงแค่ รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกล แต่ยังมาพร้อมกับขุมพลังที่เหนือชั้น ตอบสนองทุกการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในเมืองหรือการผจญภัยนอกเส้นทาง

รุ่น Long Range RWD: ประสิทธิภาพที่สมดุลและระยะทางที่น่าประทับใจ
มอเตอร์ไฟฟ้า: 1 ตัว
พละกำลังสูงสุด: 422 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุด: 440 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: เทคโนโลยี 800V Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง (RWD Rear-Wheel Drive)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 6.0 วินาที – เพียงพอสำหรับการขับขี่ที่คล่องตัวและเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 700 กม. (มาตรฐาน NEDC) – นี่คือตัวเลขที่ตอกย้ำว่า ZEEKR 7X รุ่น Long Range เป็นหนึ่งใน รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกล ที่สุดในตลาด ตอบโจทย์การเดินทางข้ามจังหวัดได้อย่างไร้กังวล

รุ่น Performance AWD: ความเร้าใจขั้นสุดพร้อมการยึดเกาะที่เหนือกว่า
มอเตอร์ไฟฟ้า: 2 ตัว
พละกำลังสูงสุด: 646 แรงม้า (PS) – ตัวเลขที่สะท้อนถึง รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง อย่างแท้จริง
แรงบิดสูงสุด: 710 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: เทคโนโลยี 800V Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh
ระบบขับเคลื่อน: สี่ล้อ (AWD All-Wheel Drive)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 3.8 วินาที – สัมผัสถึงแรงดึงมหาศาลที่กดหลังติดเบาะ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 600 กม. (มาตรฐาน NEDC) – แม้จะมีสมรรถนะที่สูงกว่า แต่ก็ยังคงรักษาระยะทางที่น่าประทับใจสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและทริปสุดสัปดาห์

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับช่วงล่างด้านหน้าอิสระแบบ Double Wishbone และด้านหลังอิสระแบบ Multi-Link ซึ่งเป็นชุดช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวลและเกาะถนนได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ รุ่น Long Range มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ยางขนาด 255/50 R19 ในขณะที่รุ่น Performance จะมาพร้อมล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว ยางขนาด 265/40 R21 และระบบเบรกดิสก์เบรก 4pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ที่เพิ่มทั้งประสิทธิภาพและความสวยงาม

การชาร์จไฟ: เร็ว แรง ทะลุขีดจำกัดแห่ง 2025

ZEEKR 7X คือผู้นำด้านการชาร์จ รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยี 800V ที่รองรับการชาร์จเร็วเป็นพิเศษ:
หัวชาร์จ: Type 2 / CCS Combo
กระแสสลับ (AC): รองรับสูงสุด 22 kW – เหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือตามสถานีชาร์จสาธารณะทั่วไป
กระแสตรง (DC Fast Charging): รองรับสูงสุดถึง 420 kW – นี่คือไฮไลท์สำคัญ! ด้วยความเร็วระดับนี้ ทำให้การชาร์จ DC 360 kW จาก 10-80% ใช้เวลาเพียง 13-16 นาทีเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถแวะพักจิบกาแฟสั้นๆ และรถก็พร้อมเดินทางต่อได้เกือบเต็มพิกัด ขจัดความกังวลเรื่อง ชาร์จเร็ว DC ได้อย่างสิ้นเชิง
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L): สูงสุด 3.3 kW (3,300 watts) – ฟังก์ชันนี้เพิ่มความอเนกประสงค์ให้ ZEEKR 7X กลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างตั้งแคมป์ หรือในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ประสบการณ์ทดสอบขับขี่: เมื่อ EV SUV กล้าท้าทางลุย

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างจาก EV SUV 2025 ทั่วไปคือความสามารถในการลุย ที่ทางทีมงาน ZEEKR จัดการทดสอบที่เขาใหญ่ก่อนการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงสมรรถนะที่แท้จริง ในฐานะผู้ที่ผ่านการทดสอบรถยนต์มาหลายรุ่น ผมยอมรับว่าตอนแรกไม่ได้คาดหวังกับรถยนต์ไฟฟ้าในเส้นทางออฟโรดมากนัก เพราะส่วนใหญ่รถ EV มักจะเน้นความนุ่มนวลและประสิทธิภาพบนทางเรียบเป็นหลัก แต่ ZEEKR 7X กลับพลิกทุกความเชื่อ

โหมด Off-road ที่เหนือความคาดหมาย:
เมื่อเข้าสู่สนามทดสอบ สิ่งแรกที่น่าทึ่งคือเมื่อปรับเป็นโหมด Off-road ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ Active Air Suspension with CCD จะยกตัวรถขึ้นโดยอัตโนมัติถึง 230 มม. ซึ่งช่วยเพิ่มระยะห่างจากพื้น (Ground Clearance) ได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

สถานีเนินสลับ (Articulation Test): การวิ่งผ่านเนินสลับที่ทำให้ล้อบางส่วนลอยจากพื้น รถสามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะกับพื้นได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่โดดเด่นคือการให้ตัวของช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ตัวรถโคลงเคลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการออกแบบแชสซีที่แข็งแกร่งและการควบคุมการทรงตัวที่แม่นยำ

เนินชัน (Hill Climb) และการควบคุมการลงเนิน (HDC): ZEEKR 7X แสดงให้เห็นถึงพละกำลังอันมหาศาลในการปีนขึ้นเนินชันได้อย่างสบายๆ แม้ในจังหวะที่หยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบก็จัดการพลังงานได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ส่งกำลังออกมาอย่างรุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่มักพบในรถที่มีแรงบิดสูง ส่วนการลงเนินสูงนั้น ระบบ HDC (Hill Descent Control) หรือระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ ทำงานได้อย่างนุ่มนวลและราบรื่นราวกับรถยนต์ยุโรปในกลุ่มพรีเมียม ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจและสบายใจได้อย่างเต็มที่

เส้นทางขรุขระ (Rough Terrain): การขับขี่ผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและหิน ด้วยช่วงล่างถุงลมทำให้ห้องโดยสารยังคงความนุ่มนวล แต่สิ่งที่น่าสนใจคือพวงมาลัยยังคงนิ่ง ไม่มีการสั่นสะเทือนหรือตีมือแม้แต่น้อย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปรับแต่งระบบช่วงล่างและพวงมาลัยที่ยอดเยี่ยม ทำให้ รถยนต์ไฟฟ้าออฟโรด คันนี้สอบผ่านในทุกบททดสอบที่แม้แต่ SUV ทั่วไปก็ยังต้องคิดหนัก

บนทางเรียบ: ความนุ่มนวลและความแรงที่ลงตัว

เมื่อกลับมาสู่ทางเรียบ ZEEKR 7X ยังคงไม่ทำให้ผิดหวัง ในรุ่น Performance แรงดึงมหาศาลที่โชว์ในคู่มือเป็นเรื่องจริง ความนุ่มนวลของช่วงล่างถุงลม ผสานกับพละกำลังที่พร้อมให้ใช้งานทันทีที่กดคันเร่ง สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและมั่นใจ ในขณะที่รุ่น Long Range แม้พละกำลังจะน้อยกว่า แต่ก็ยังคงให้แรงดึงที่ดีเยี่ยมและเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ อาจจะรู้สึกเฟิร์มกว่ารุ่น Performance เล็กน้อย แต่ก็ยังคงความสบายในการเดินทาง

สุนทรียภาพแห่งการเดินทาง: ห้องโดยสารพรีเมียมสมบูรณ์แบบ

ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คืออีกหนึ่งจุดแข็งที่สะท้อนถึงการเป็น รถอีวีพรีเมียม ที่แท้จริง มันไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับการเดินทาง แต่คือพื้นที่แห่งการผ่อนคลายขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติ

เบาะนั่งพรีเมียม: เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather ที่มีชื่อเสียงในด้านความนุ่มนวล ความหรูหรา และความทนทาน ไม่เพียงแต่ให้ความสบายสูงสุดในการนั่ง แต่ยังสื่อถึงรสนิยมระดับสูงของผู้ครอบครอง เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการขับขี่ระยะไกลหรือหลังวันทำงานที่เหน็ดเหนื่อย ทำให้การเดินทางกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงาน
ความสะดวกสบายของผู้โดยสารด้านหลัง: เบาะหลังที่ปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าช่วยให้ผู้โดยสารสามารถปรับองศาการนั่งให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน การทำงาน หรือการรับชมความบันเทิง ม่านบังแดดประตูคู่หลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความเป็นส่วนตัวและลดแสงแดดที่เข้ามารบกวน ทำให้ห้องโดยสารด้านหลังกลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ
ประตูไฟฟ้า: ประตูทั้ง 4 บานเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความหรูหราและความสะดวกสบายในการเข้าออก

โลกแห่งดิจิทัลที่เชื่อมโยงถึงกัน: ระบบสารสนเทศและบันเทิงที่ล้ำยุค

ZEEKR 7X นำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือกว่าด้วยระบบสารสนเทศและบันเทิงที่ล้ำสมัย:
จอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: หน้าจอขนาดใหญ่ที่ให้ภาพคมชัดระดับโรงภาพยนตร์ แสดงผลข้อมูลทุกอย่างได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นแผนที่, ระบบนำทาง, หรือการสตรีมมิ่งความบันเทิง
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ระบบ Head-Up Display แบบ Augmented Reality ที่ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลการขับขี่, ความเร็ว, หรือคำแนะนำจากระบบนำทาง โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ขุมพลังประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor: เทคโนโลยี 5nm Process Technology ที่เป็นหัวใจหลักของระบบ ทำให้การประมวลผลทุกฟังก์ชันบนหน้าจอเป็นไปอย่างรวดเร็ว ราบรื่น และตอบสนองต่อคำสั่งได้อย่างทันทีทันใด ไร้รอยต่อ

ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: สร้างมิติเสียงรอบทิศทางคุณภาพระดับสตูดิโอ เสมือนมีโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัว มอบประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำและสุนทรียภาพที่เหนือระดับ

ความปลอดภัยคือหัวใจ: PRIORITY อันดับหนึ่ง

ความปลอดภัยคือสิ่งที่ ZEEKR ให้ความสำคัญสูงสุด ZEEKR 7X สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ZEEKR AD: ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพของ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist), ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking) และระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับ EV SUV 2025
โครงสร้างตัวรถ: โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและความปลอดภัยสูงสุด พร้อมทั้งลดน้ำหนักตัวรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดียิ่งขึ้น

สรุป: ZEEKR 7X ทางเลือกที่แตกต่างในตลาด EV ไทย 2025

จากประสบการณ์ในวงการรถยนต์ไฟฟ้าที่ผ่านมา ZEEKR 7X คือ รถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดปี 2025 ด้วยคุณสมบัติที่หาตัวจับยากในกลุ่ม รถอีวีพรีเมียม ด้วยกัน ไม่ใช่แค่ความหรูหรา ดีไซน์ล้ำสมัย หรือสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ แต่ยังรวมถึงความโดดเด่นในการมอบประสบการณ์ รถอีวีลุยได้ ในแบบ Semi-Off-Road ซึ่งเป็นจุดขายที่แตกต่างและตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถพาพวกเขาออกไปผจญภัยได้มากกว่าแค่บนพื้นถนนลาดยาง

สำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่จัดเต็ม ห้องโดยสารระดับพรีเมียม ระบบความปลอดภัยสูงสุด หรือแม้กระทั่งความสามารถในการลุยทางที่ไม่คุ้นเคยได้บ้าง ZEEKR 7X คือคำตอบที่ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะรุ่น Performance AWD ที่มอบทั้งความแรงและความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพเส้นทาง แต่หากคุณไม่ได้เน้นการลุยมากนัก และต้องการ รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกล ที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด รุ่น Long Range RWD ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ด้วยช่วงล่างที่นุ่มนวลและฟังก์ชันต่างๆ ที่ยังคงจัดเต็มไม่แพ้กัน

ในยุคที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยน ZEEKR 7X ได้พิสูจน์แล้วว่าการผสมผสานนวัตกรรม สมรรถนะ และความอเนกประสงค์เข้าไว้ด้วยกันนั้นเป็นไปได้ และเป็นไปได้ด้วยดีเยี่ยม

ก้าวสู่ยุคใหม่ของการเดินทางกับ ZEEKR 7X

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่มองหาประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ต้องการรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ไม่เพียงแค่พาคุณไปถึงจุดหมาย แต่ยังมอบความตื่นเต้น ความหรูหรา และความมั่นใจในทุกสภาพเส้นทาง ZEEKR 7X คือรถที่คุณไม่ควรมองข้าม เราขอเชิญชวนให้คุณสัมผัสกับนวัตกรรมแห่งอนาคตนี้ด้วยตัวคุณเอง ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือนัดหมายการทดลองขับ ZEEKR 7X ได้แล้ววันนี้ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของนิยามใหม่แห่งยานยนต์ไฟฟ้า SUV แห่งปี 2025 ก่อนใคร!