[ครบชุด] XU11094 เมียแลกเพื่อน

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่พร้อมท้าทุกเส้นทางในปี 2025

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของเทคโนโลยีและตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยและทั่วโลก จากยุคเริ่มต้นที่ EV ยังถูกมองว่าเป็นเพียงพาหนะทางเลือก สู่ปี 2025 ที่รถยนต์ไฟฟ้าได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญของการเดินทางที่ยั่งยืน ZEEKR 7X คือหนึ่งในปรากฏการณ์ที่สะท้อนถึงก้าวกระโดดครั้งใหญ่นี้ มันไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้าทั่วไป แต่คือยานยนต์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะอันทรงพลัง และความสามารถในการลุยได้อย่างเหนือความคาดหมาย

เมื่อพูดถึง ZEEKR หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยนักในบ้านเรา แต่แบรนด์พรีเมียมภายใต้ Geely Holding Group นี้ ได้สร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในตลาดโลกด้วยการนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ที่อัดแน่นด้วยนวัตกรรม และสำหรับ ZEEKR 7X ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะ SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง รุ่นล่าสุดที่พร้อมสั่นสะเทือนตลาด มันได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้าไม่เพียงแค่เรื่องความเร็วและการประหยัดพลังงาน แต่ยังรวมถึงความหลากหลายในการใช้งานและความสามารถที่เหนือขีดจำกัดเดิมๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม SUV ไฟฟ้าหรู ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การวางจำหน่ายและข้อเสนอที่ไม่อาจมองข้าม

สำหรับการเปิดตัวในประเทศไทย ZEEKR 7X พร้อมนำเสนอสองรุ่นย่อยหลักเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า:

ZEEKR 7X Long Range RWD: คาดการณ์ราคาเริ่มต้นที่ 1,700,000 บาท
ZEEKR 7X Performance AWD: คาดการณ์ราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

ราคาเหล่านี้ถือเป็นการตั้งมาตรฐานใหม่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาด SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง หากพิจารณาจากเทคโนโลยีและฟีเจอร์ที่ได้รับ ผมมองว่านี่คือ การลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า ที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง ด้วยการยืนยันราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจับตาสำหรับผู้ที่กำลังมองหา นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่แตกต่าง

นอกจากราคาที่แข่งขันได้ ZEEKR ประเทศไทยยังให้ความสำคัญกับความมั่นใจของลูกค้าด้วยแพ็กเกจการรับประกันที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและประสิทธิภาพของยานยนต์รุ่นนี้:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่ และ มอเตอร์: 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร

การรับประกันที่ครอบคลุมเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความกังวลในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ ZEEKR ในการมอบ ประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ พร้อมความอุ่นใจตลอดเส้นทาง

มิติใหม่แห่งการออกแบบและสัดส่วนที่ลงตัว

ZEEKR 7X ถูกออกแบบมาภายใต้ปรัชญาที่ผสมผสานความแข็งแกร่งของ SUV เข้ากับความสง่างามของยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ด้วยมิติตัวถังที่สมดุลและลงตัว:

ความยาว: 4,787 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,930 มิลลิเมตร
ความสูง: 1,650 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,900 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance): 173 มิลลิเมตร
ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย: 539 – 1,978 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง)
ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk): 66 ลิตร

จากตัวเลขเหล่านี้ ผมเห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบที่เน้นทั้งความโออ่าของห้องโดยสารและความคล่องตัวที่เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองและนอกเมือง ระยะฐานล้อที่ยาวเป็นพิเศษมีส่วนสำคัญในการสร้างพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง และยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพในการขับขี่ ในขณะที่ Ground Clearance ที่ 173 มม. แม้จะไม่สูงเท่า รถออฟโรดไฟฟ้า แบบ Hardcore แต่ก็เพียงพอสำหรับการขับขี่ในสภาพถนนที่ไม่ราบเรียบหรือเส้นทางออฟโรดเบาๆ ที่รถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่นทำไม่ได้ นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างและโดดเด่นในตลาด SUV ไฟฟ้า ที่เน้นความอเนกประสงค์

หัวใจขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า: สมรรถนะที่เร้าใจและเทคโนโลยี 800V

สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของ ZEEKR 7X คือขุมพลังไฟฟ้าที่ล้ำสมัย ซึ่งมาพร้อมกับ เทคโนโลยี 800V ซึ่งเป็นมาตรฐานของ เทคโนโลยี EV ล้ำสมัย ในปัจจุบัน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อความเร็วในการชาร์จ แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพโดยรวมของระบบส่งกำลัง

รุ่น Long Range RWD (ขับเคลื่อนล้อหลัง)

มอเตอร์ไฟฟ้า: 1 ตัว
พละกำลังสูงสุด: 422 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุด: 440 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh
อัตราเร่ง 0-100 km/h: ภายใน 6.0 วินาที
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 km/h
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 700 km (มาตรฐาน NEDC)

สำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังนี้ แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่พละกำลัง 422 แรงม้าก็ถือว่าเหลือเฟือสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางไกล อัตราเร่ง 6.0 วินาที จาก 0-100 km/h นั้นทัดเทียมกับรถสปอร์ตหลายรุ่น และระยะทางวิ่ง 700 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งภายใต้มาตรฐาน NEDC สะท้อนถึง แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง ที่ทำให้การเดินทางข้ามจังหวัดเป็นเรื่องง่ายดาย หมดกังวลเรื่อง Range Anxiety ที่เคยเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้ใช้ EV ในอดีต

รุ่น Performance AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ)

มอเตอร์ไฟฟ้า: 2 ตัว
พละกำลังสูงสุด: 646 แรงม้า (PS)
แรงบิดสูงสุด: 710 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh
อัตราเร่ง 0-100 km/h: ภายใน 3.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 km/h
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 600 km (มาตรฐาน NEDC)

ในรุ่น Performance นี้ คือนิยามของ สมรรถนะรถไฟฟ้าสูงสุด ที่แท้จริง ด้วยมอเตอร์คู่และพละกำลังรวมกว่า 646 แรงม้า แรงบิด 710 นิวตันเมตร ทำให้ ZEEKR 7X ทะยานจาก 0-100 km/h ได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับ SUV ขนาดใหญ่ อัตราเร่งระดับนี้ไม่เพียงให้ความเร้าใจในการขับขี่ แต่ยังเพิ่มความมั่นใจในการแซงและเร่งความเร็วบนทางหลวง ระยะทางวิ่ง 600 กม. ก็ยังคงเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ

การชาร์จพลังงาน: รวดเร็วทันใจ พร้อมรองรับทุกสถานการณ์

สิ่งหนึ่งที่ ZEEKR 7X โดดเด่นอย่างชัดเจนคือความสามารถในการชาร์จไฟที่ล้ำหน้า รองรับทั้งหัวชาร์จ Type 2 และ CCS Combo ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล:

กระแสสลับ AC: รองรับสูงสุด 22 kW
กระแสตรง DC Fast Charging: รองรับสูงสุด 420 kW
ชาร์จ DC 360 kW (จาก 10-80%): ภายในเวลา 13-16 นาที
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L): สูงสุด 3.3 kW (3,300 watts)

ความสามารถในการรับ การชาร์จเร็ว EV ด้วยกระแสตรงสูงสุดถึง 420 kW นั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของแพลตฟอร์ม 800V อย่างแท้จริง การชาร์จจาก 10% ไป 80% ในเวลาเพียง 13-16 นาที หมายความว่าการหยุดพักเพื่อชาร์จไฟระหว่างเดินทางไกลจะสั้นลงอย่างมาก ไม่ต่างจากการเติมน้ำมัน และด้วยจำนวน สถานีชาร์จเร็ว EV ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในปี 2025 การเดินทางด้วย ZEEKR 7X จึงสะดวกสบายไร้กังวล นอกจากนี้ ระบบ V2L ยังเพิ่มความอเนกประสงค์ ให้คุณสามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นการแคมป์ปิ้งหรือใช้งานฉุกเฉิน

ช่วงล่างและระบบเบรก: ความสมดุลแห่งความนุ่มนวลและมั่นคง

ZEEKR 7X มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าอิสระแบบ Double Wishbone และด้านหลังอิสระแบบ Multi-Link ซึ่งเป็นชุดช่วงล่างที่มักพบในรถยนต์พรีเมียมที่เน้นทั้งสมรรถนะและความสบายในการขับขี่ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/50 R19 สำหรับรุ่น Long Range และล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/40 R21 สำหรับรุ่น Performance เสริมด้วยระบบเบรกดิสก์เบรก 4 pot คาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ที่ไม่เพียงดูโฉบเฉี่ยว แต่ยังให้ประสิทธิภาพการหยุดรถที่ยอดเยี่ยมและมั่นใจได้

บทพิสูจน์บนเส้นทางจริง: เหนือความคาดหมายในทุกมิติ

ในฐานะผู้ที่ได้มีโอกาสสัมผัสและทดสอบ ZEEKR 7X ก่อนการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ณ เขาใหญ่ ผมต้องยอมรับว่ารถคันนี้ได้สร้างความประทับใจที่เหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่หลายคนไม่คิดว่า SUV ไฟฟ้า จะทำได้ดี นั่นคือการขับขี่แบบ ออฟโรด

การทดสอบออฟโรด: จุดเด่นที่พลิกโฉม

ก่อนการทดสอบ ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับสมรรถนะออฟโรดของรถยนต์ไฟฟ้า แต่ ZEEKR 7X ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่ไม่ธรรมดา เมื่อปรับเป็นโหมดออฟโรด ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD จะปรับความสูงขึ้นอัตโนมัติถึง 230 มม. ซึ่งเพิ่มระยะห่างจากพื้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้สามารถผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย

เนินสลับ: ในสถานีเนินสลับ ที่ล้อจะลอยจากพื้นทีละข้าง ระบบส่งกำลังของ ZEEKR 7X สามารถถ่ายเทพละกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะกับพื้นได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ทำให้รถเคลื่อนที่ผ่านไปได้โดยไม่ติดขัด ที่น่าประทับใจกว่านั้นคือ การให้ตัวของช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม ตัวรถโคลงเคลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการออกแบบระบบกันสะเทือนที่ชาญฉลาด
เนินชัน: พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าอันมหาศาลทำให้การขึ้นเนินชันเป็นเรื่องง่าย แม้จะหยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบก็จัดการพลังงานได้เป็นอย่างดี ไม่ส่งแรงกระชากจนล้อฟรีทิ้ง การควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างนุ่มนวลและราบรื่นราวกับรถยุโรปพรีเมียม ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจและสบายใจ
เส้นทางขรุขระ: ด้วยช่วงล่างถุงลม ZEEKR 7X มอบความนุ่มนวลในการขับขี่ผ่านเส้นทางขรุขระ แต่สิ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือพวงมาลัยที่ยังคงนิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือตีมือแม้แต่น้อย ซึ่งบ่งชี้ถึงวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยมในการแยกแรงสะเทือนจากพื้นผิวถนน นี่คือข้อพิสูจน์ว่า รถออฟโรดไฟฟ้า คันนี้ “สอบผ่าน” ในทุกมิติของการลุย

การขับขี่บนทางเรียบ: ความแรงที่มาพร้อมความนุ่มนวล

เมื่อกลับสู่ทางเรียบ สมรรถนะที่แรงตามที่ระบุในคู่มือก็กลับมาฉายแสงอีกครั้ง

รุ่น Performance AWD: มอบแรงดึงมหาศาลที่มาพร้อมกับความนุ่มนวลของช่วงล่าง ทำให้การขับขี่ด้วยความเร็วสูงเป็นไปอย่างมั่นคงและสะดวกสบาย นี่คือ ประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ ที่แท้จริง
รุ่น Long Range RWD: ถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นท็อป แต่ก็มีแรงดึงที่ดีเยี่ยมเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางไกล ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ อาจจะรู้สึกเฟิร์มกว่ารุ่น Performance เล็กน้อย แต่ก็ยังคงความสบายไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

โดยสรุปแล้ว ZEEKR 7X เป็น รถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าสนใจอย่างยิ่งในตลาดปี 2025 เพราะมันเติมเต็มช่องว่างของรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ทั้งความแรงและ การขับขี่ออฟโรด ได้ดี ซึ่งหาได้ยากมากในตลาดปัจจุบัน ทำให้ ZEEKR 7X มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ไม่นับรวมออปชั่นที่ให้มาแบบจัดเต็ม หากคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับการลุยออฟโรดเป็นหลัก แต่ต้องการรถที่วิ่งได้ไกล รุ่น Long Range ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน ทั้งช่วงล่างที่ให้ความสบายและออปชั่นต่างๆ ที่ไม่ได้ด้อยกว่าเลย

สุดยอดฟีเจอร์และห้องโดยสารพรีเมียมสมบูรณ์แบบ

ZEEKR 7X ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยสมรรถนะ แต่ยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อมอบ ความยั่งยืนยานยนต์ และ ความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้า สูงสุด พร้อมยกระดับ ภายในห้องโดยสารสุดหรู ให้เป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนและการเชื่อมต่อ

ระบบไฟหน้า Stargate Front Light Panel: สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างเอกลักษณ์และความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร
ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD: ที่พูดถึงไปแล้ว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของทั้งความสบายและสมรรถนะออฟโรด
ล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว: สำหรับรุ่น Performance พร้อมยางขนาด 265/40 R21 ที่ไม่เพียงเสริมความงาม แต่ยังลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพ
ระบบเบรก: ดิสก์เบรก 4-pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ที่เป็นทั้งฟังก์ชันและความสวยงาม
ประตู 4 บาน เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า: เพิ่มความหรูหราและความสะดวกสบายในการใช้งาน
ม่านบังแดดประตูคู่หลัง เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า: รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มความพรีเมียม
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather: นวัตกรรมและสัมผัสที่เหนือระดับ

พื้นที่แห่งการผ่อนคลายและเทคโนโลยีอัจฉริยะ

ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คือการสร้างสรรค์ที่พิถีพิถันเพื่อมอบ ประสบการณ์พรีเมียม ที่เหนือกว่า เบาะหนัง Nappa ที่มีชื่อเสียงด้านความนุ่มและหรูหรา ไม่เพียงให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสะท้อนรสนิยมระดับสูง ระบบนวดและเป่าลมในเบาะคู่หน้าคือโอเอซิสเล็กๆ ที่ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง ทำให้การขับขี่ระยะไกลไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

เบาะหลังที่ปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้โดยสารสามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน พักผ่อน หรือชมภาพยนตร์ เปลี่ยนห้องโดยสารด้านหลังให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่หรูหรา นี่คือการออกแบบที่ใส่ใจทุกรายละเอียด คำนึงถึงความสะดวกสบายสูงสุดของผู้โดยสารทุกคน

ระบบสารสนเทศและความบันเทิง: ศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอนาคต

ZEEKR 7X ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วย เทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ และระบบสารสนเทศที่เหนือชั้น:

หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: มอบภาพที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วน ไม่ว่าจะใช้ดูแผนที่ สื่อบันเทิง หรือแอปพลิเคชัน
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มทั้ง ความปลอดภัย และความสะดวกสบาย
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็นในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor (เทคโนโลยี 5nm): ขับเคลื่อนการทำงานของทุกหน้าจอ ให้การประมวลผลที่รวดเร็ว ลื่นไหล ไร้รอยต่อ และตอบสนองต่อคำสั่งได้ทันที
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบประสบการณ์สุนทรียภาพทางเสียงที่ดื่มด่ำอย่างแท้จริง

ความปลอดภัยคือ PRIORITY: มาตรฐานระดับโลก

ความปลอดภัยยานยนต์ไฟฟ้า คือสิ่งที่ไม่สามารถประนีประนอมได้ และ ZEEKR 7X ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบการปกป้องสูงสุด สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นและล้ำสมัยของ Geely ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยนี้ได้รับการรับรองด้วยคะแนน Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงการออกแบบที่ใส่ใจทุกชีวิตในครอบครัว

นอกจากนี้ ยังมาพร้อม ระบบขับขี่อัตโนมัติ ZEEKR AD ที่ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast ชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงเพิ่ม ความปลอดภัย ในการชน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ทำให้ ประสิทธิภาพพลังงาน ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

บทสรุปจากมุมมองผู้เชี่ยวชาญ

ในฐานะผู้ที่อยู่ในวงการ EV มาอย่างยาวนาน ผมกล้าพูดได้ว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าอีกคันหนึ่งในตลาด แต่มันคือตัวแทนของอนาคตยานยนต์ไฟฟ้าที่แท้จริงในปี 2025 ที่ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะอันทรงพลัง เทคโนโลยีล้ำสมัย และความอเนกประสงค์ในการใช้งานได้อย่างลงตัว ทั้งการขับขี่ในเมือง การเดินทางไกล และแม้แต่การผจญภัยในเส้นทางออฟโรดเบาๆ ที่รถ EV คู่แข่งหลายรายไม่สามารถทำได้ นี่คือรถที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาสิ่งที่เหนือกว่าแค่การเดินทาง

หากคุณกำลังมองหา SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยดีไซน์และเทคโนโลยี แต่ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ปลอดภัย และอเนกประสงค์ ZEEKR 7X คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม ด้วยการรับประกันที่น่าเชื่อถือและฟีเจอร์ที่อัดแน่น นี่คือ การลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะนำพาคุณสู่อนาคตแห่งการเดินทางอย่างแท้จริง

ก้าวสู่อนาคตแห่งการขับขี่ที่เหนือกว่า!

อย่าพลาดโอกาสสัมผัสประสบการณ์สุดยอดแห่งยานยนต์ไฟฟ้าแห่งปี 2025 ด้วยตัวคุณเอง ลงทะเบียนเพื่อทดลองขับ ZEEKR 7X และเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ก่อนใครวันนี้!