[ครบชุด] XU11140 มีเมียไม่มีผล เงินเท่านั้นที่สำคัญ

BYD SHARK6: ปฏิวัติวงการกระบะไทยด้วย PHEV อนาคตของการขับขี่ปี 2025

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่คลุกคลีในวงการมากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าจับตาดูการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ทั่วโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของยานยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicles – NEV) ที่ได้พลิกโฉมภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมไปอย่างสิ้นเชิง และคงไม่มีค่ายรถรายใดที่จะโดดเด่นและสร้างปรากฏการณ์ได้อย่างรวดเร็วเท่า BYD อีกแล้ว

จากผู้เล่นที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักในตลาดโลก BYD ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกในด้านรถยนต์ไฟฟ้าและ Plug-in Hybrid (PHEV) อย่างก้าวกระโดด และในประเทศไทยเอง BYD ก็ได้สร้างฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งและมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่นำโด่งอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากนวัตกรรมที่แท้จริง ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำสู่ผู้บริโภค

วันนี้ ผมจะพาทุกท่านมาเจาะลึกกับหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่น่าจับตาที่สุดของ BYD ซึ่งกำลังจะมาเขย่าตลาดรถกระบะในประเทศไทยอย่างแน่นอน นั่นคือ BYD SHARK6 กระบะ Plug-in Hybrid คันแรกของค่ายที่พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการใช้งานรถกระบะในปี 2025 และต่อจากนี้ไป

BYD SHARK6: กระบะแห่งอนาคตที่เปิดตัวระดับโลก

BYD SHARK6 ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในโลกเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และได้สร้างความตื่นเต้นอย่างมากในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบรถกระบะและเทคโนโลยี PHEV ความน่าสนใจของ SHARK6 ไม่ได้อยู่ที่การเป็นกระบะคันแรกของ BYD เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการนำเสนอขุมพลัง DM-O Plug-in Hybrid อันล้ำสมัย ที่ผสานสมรรถนะอันทรงพลังเข้ากับประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานได้อย่างลงตัว รถกระบะคันนี้ถูกออกแบบมาเพื่อท้าทายกรอบเดิมๆ ของกระบะในตลาด ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่มองหาสมรรถนะที่เหนือกว่า ความสบายในระดับรถยนต์นั่ง และความยืดหยุ่นในการใช้งานที่ไม่มีใครเทียบได้

BYD SHARK6 ได้รับการออกแบบให้เป็นกระบะ Compact Pick-up ที่มีขนาดตัวถังใหญ่ที่สุดในกลุ่มนี้ ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจของ BYD ที่จะมอบพื้นที่ใช้สอยและความจุที่เพียงพอต่อการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบรรทุกสัมภาระ การเดินทางท่องเที่ยว หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน ความแข็งแกร่งดุดันภายนอก ผสานกับความสะดวกสบายภายใน คือหัวใจสำคัญของ SHARK6

มิติใหม่แห่งการออกแบบและประโยชน์ใช้สอย

จากมิติตัวถังที่เราได้เห็นกัน BYD SHARK6 ไม่ได้เป็นเพียงกระบะธรรมดา แต่คือแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาดเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย:
ความยาว 5,457 มิลลิเมตร / ความกว้าง 1,971 มิลลิเมตร / ความสูง 1,925 มิลลิเมตร: มิติตัวถังที่ใหญ่โต ให้ความรู้สึกมั่นคงและแข็งแกร่งบนท้องถนน พร้อมพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง
ระยะฐานล้อ Wheelbase 3,260 มิลลิเมตร: ฐานล้อที่ยาวเป็นพิเศษ มีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้างความนุ่มนวลในการขับขี่ และเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวในความเร็วสูง
ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance 200 มิลลิเมตร: เพียงพอสำหรับการขับขี่ในเส้นทางทุรกันดารเล็กน้อย หรือการลุยน้ำในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
ความสามารถในการลุยน้ำสูงสุด 700 มิลลิเมตร: แสดงให้เห็นถึงความทนทานและความพร้อมสำหรับการผจญภัยในสภาพถนนที่แตกต่างกัน
กระบะท้ายขนาดความจุ 1,200 ลิตร: พื้นที่กระบะที่กว้างขวาง รองรับการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่ได้อย่างสบาย ตอบโจทย์ทั้งงานบรรทุกและการเดินทาง
รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 790 กิโลกรัม: แม้จะเป็นรถกระบะเน้นความสบาย แต่ก็ยังคงความสามารถในการบรรทุกได้ดีเยี่ยม
รองรับน้ำหนักการลากจูง 2,500 กิโลเมตร: ความสามารถในการลากจูงที่น่าประทับใจ เปิดโอกาสให้กับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการพ่วงเรือ พ่วงเจ็ตสกี หรือคาราวาน
มุมไต่ 31° องศา: แสดงให้เห็นถึงความพร้อมสำหรับการขับขี่แบบออฟโรดเบื้องต้น มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่ากระบะทั่วไป

ขุมพลัง DM-O Plug-in Hybrid: หัวใจแห่งนวัตกรรม

หัวใจสำคัญที่ทำให้ BYD SHARK6 แตกต่างจากกระบะทั่วไปในตลาดคือระบบส่งกำลัง DM-O (Dual Mode Off-road) Plug-in Hybrid อันล้ำสมัยที่ประกอบด้วย:
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบ: เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี เพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้า EHS (Electric Hybrid System): คือส่วนประกอบสำคัญที่มอบพละกำลังขับเคลื่อนหลักและช่วยให้ SHARK6 สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้
พละกำลังรวมสูงสุด 436 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร: ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่น่าประทับใจบนกระดาษ แต่เป็นสมรรถนะที่สามารถสัมผัสได้จริง พลังขับเคลื่อนมหาศาลนี้ทำให้ SHARK6 สามารถเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ บรรทุกหนักได้อย่างไม่เหนื่อยล้า และพร้อมลุยในทุกสภาพเส้นทาง
ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive พร้อมระบบกระจายแรงบิดอัจฉริยะ: ระบบขับเคลื่อนที่ออกแบบมาเพื่อมอบการยึดเกาะถนนสูงสุดในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นถนนเปียก ทางลูกรัง หรือเส้นทางออฟโรด
แบตเตอรี่ Blade Battery ขนาดความจุ 29.5 kWh: เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของ BYD ไม่เพียงแต่ให้ความปลอดภัยสูงและอายุการใช้งานยาวนาน แต่ยังมอบระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าที่น่าทึ่ง
อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 5.7 วินาที: สมรรถนะที่เทียบเท่ากับรถสปอร์ตหลายๆ รุ่น เป็นการยืนยันว่ากระบะคันนี้ไม่ได้มีดีแค่ความดุดันภายนอก
วิ่งไฟฟ้าล้วน 100 km. (NEDC): ระยะทางที่เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน ส่งลูกไปโรงเรียน หรือทำธุระในเมือง ลดภาระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมหาศาล
วิ่งได้ไกลสุด 840 km. (น้ำมัน+ไฟฟ้า): หมดกังวลเรื่องระยะทางวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางข้ามจังหวัด หรือท่องเที่ยวระยะไกล SHARK6 ก็พร้อมพาคุณไปทุกที่โดยไม่ต้องแวะเติมน้ำมันบ่อยๆ
ชาร์จ DC Fast Charge จาก 30-80% ภายใน 25 นาที: เทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ช่วยให้คุณพร้อมออกเดินทางต่อได้อย่างรวดเร็ว
ระบบ V2L (Vehicle-to-Load) จ่ายกระแสไฟฟ้า 220V ให้อุปกรณ์ภายนอกได้ (สูงสุด 6,000 watts : 6 kW): ฟังก์ชันนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดกระบะไทย ด้วยกำลังไฟที่สูงที่สุดในตลาด V2L ทำให้ SHARK6 กลายเป็นสถานีไฟฟ้าเคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์ ปาร์ตี้กลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองในยามฉุกเฉิน นี่คือคุณสมบัติที่เพิ่มคุณค่าและยกระดับการใช้งานกระบะไปอีกขั้น

ช่วงล่างอิสระ: นิยามใหม่ของความสบายในรถกระบะ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ BYD SHARK6 เหนือกว่ากระบะในตลาดคือการเลือกใช้ระบบช่วงล่างที่แตกต่าง:
ช่วงล่างด้านหน้า McPherson Strut: ให้ความนุ่มนวลและเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม
ช่วงล่างด้านหลัง อิสระ Double Wishbone: นี่คือจุดเด่นที่แท้จริง ระบบช่วงล่างอิสระ Double Wishbone ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ได้อย่างมหาศาล มอบความรู้สึกเหมือนกำลังขับรถ SUV หรูๆ มากกว่าที่จะเป็นรถกระบะแบบเดิมๆ ที่มักจะใช้แหนบ ซึ่งแลกมาด้วยความกระด้างบนถนนลูกรังหรือทางขรุขระ ด้วยช่วงล่างอิสระนี้ SHARK6 จึงสามารถซับแรงกระแทกและรักษาสมดุลของรถได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้การเดินทางไกลหรือการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลายในประเทศไทยเป็นไปอย่างสบายและมั่นใจ
ระบบเบรก ด้านหน้า / ด้านหลัง แบบดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน: ระบบเบรกที่ทรงประสิทธิภาพ มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์
ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 265/65 R18: ล้อและยางขนาดที่เหมาะสม ให้ทั้งความสวยงามและสมรรถนะการยึดเกาะถนนที่ดี

ดีไซน์ภายนอกที่แข็งแกร่งและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน

BYD SHARK6 ไม่เพียงโดดเด่นด้วยสมรรถนะ แต่ยังมาพร้อมการออกแบบภายนอกที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความทันสมัย:
ไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชัน Follow-me-home: ระบบไฟส่องสว่างที่ให้ความปลอดภัยและสะดวกสบาย
ไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้าย LED: เพิ่มทัศนวิสัยและความสวยงาม
ไฟเลี้ยวด้านหลังแบบ Sequential: เพิ่มความหรูหราและความโดดเด่น
ไฟส่องสว่างบริเวณกระบะท้าย 3 ตำแหน่ง: เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานกระบะท้ายในเวลากลางคืน

ห้องโดยสารระดับพรีเมียม: สะดวกสบายเหนือความคาดหมาย

ภายในห้องโดยสารของ BYD SHARK6 คืออีกหนึ่งจุดที่สะท้อนปรัชญาการออกแบบที่เน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่ากระบะทั่วไป:
มาตรวัด Full Digital ขนาด 10.25 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ที่ครบถ้วน ชัดเจน และปรับแต่งได้
หน้าจอกลาง Touchscreen ขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมระบบหมุนหน้าจอกลาง: จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ BYD ไม่เพียงแต่ใหญ่สะใจ แต่ยังสามารถหมุนปรับแนวตั้งหรือแนวนอนได้ตามความต้องการในการใช้งาน
ระบบหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (W-HUD): เพิ่มความปลอดภัยด้วยการแสดงข้อมูลสำคัญบนกระจกหน้า ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ แบบเจาะรู Perforated เดินตะเข็บด้ายสีส้ม: วัสดุคุณภาพสูง ให้ความรู้สึกพรีเมียม นั่งสบาย ระบายอากาศได้ดี
เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support 4 ทิศทาง: ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับท่านั่งให้เหมาะสมกับสรีระ ลดความเมื่อยล้าในการเดินทางไกล
เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า: เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสาร
เบาะนั่งด้านหลัง พับพนักพิงลงได้: เพิ่มความยืดหยุ่นในการขนสัมภาระในห้องโดยสาร
กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass และกระจกหน้าต่างคู่หลัง แบบ Privacy Glass: ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก เพิ่มความเป็นส่วนตัวและความเงียบสงบในห้องโดยสาร
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ ซ้าย-ขวา Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง: ระบบปรับอากาศที่ทรงประสิทธิภาพ มั่นใจได้ว่าทุกคนในรถจะได้รับความเย็นสบายตลอดการเดินทาง

ประสบการณ์การขับขี่: เหนือกว่าทุกกระบะที่เคยสัมผัส

เมื่อได้มีโอกาสทดสอบ BYD SHARK6 ที่สนามแข่งพีระเซอร์กิต พัทยา ซึ่งเป็นสนามที่เปิดโอกาสให้สัมผัสสมรรถนะของรถได้อย่างเต็มที่ ผมต้องยอมรับว่าความประทับใจเริ่มต้นตั้งแต่ก้าวแรกที่ขึ้นนั่งในห้องโดยสาร ตำแหน่งการนั่งและปุ่มควบคุมต่างๆ ถูกจัดวางอย่างลงตัว ใช้งานง่าย ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยราวกับเป็นรถเก๋งระดับพรีเมียม

ความคิดแรกเมื่อเห็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร คือมันจะเพียงพอหรือไม่สำหรับรถกระบะขนาดนี้ แต่ทันทีที่กดคันเร่งเบาๆ รถก็พุ่งทะยานออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ ราวกับขับรถยนต์ไฟฟ้าคันเล็กๆ ที่ตอบสนองได้ทันใจ เมื่อกดคันเร่งเต็มกำลัง พละกำลังรวม 436 แรงม้า และแรงบิด 650 นิวตันเมตร ก็ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ รถพุ่งไปข้างหน้าอย่างเหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซงหรือการไต่ระดับความเร็ว SHARK6 ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย พลังขับเคลื่อนที่เกินคาดนี้คือสิ่งที่กระบะทั่วไปไม่สามารถให้ได้

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือความเงียบในห้องโดยสาร ในสภาวะการขับขี่ปกติ มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานเป็นหลัก ทำให้ได้สัมผัสถึงความเงียบสงบที่หาได้ยากในรถกระบะ เมื่อเครื่องยนต์สันดาปทำงานเพื่อเสริมกำลังหรือชาร์จแบตเตอรี่ เสียงเครื่องยนต์ก็ไม่ได้ดังรบกวนจนรู้สึกไม่สบายหู

แต่ไฮไลท์ที่แท้จริงคือช่วงล่าง ผมยอมรับว่าไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงมากนักสำหรับช่วงล่างของรถกระบะ แต่ทันทีที่ลองเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง และสาดรถเข้าโค้งอย่างหนักหน่วง สิ่งที่ได้รับคือความนุ่มนวลควบคู่ไปกับการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อ! มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับรถ SUV หรูๆ คันใหญ่ที่ควบคุมง่ายและมั่นคง ไม่ใช่ความกระด้างของรถกระบะที่มักจะโยนตัวหรือมีการโคลงเคลง เมื่อขับผ่านพื้นผิวที่ไม่เรียบ ระบบช่วงล่าง Double Wishbone อิสระด้านหลังก็ทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม มอบความสบายในการขับขี่ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง นี่คือช่วงล่างที่ตอบโจทย์สภาพถนนเมืองไทยได้อย่างแท้จริง แม้จะต้องแลกมาด้วยความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักที่น้อยกว่าช่วงล่างแบบแหนบเล็กน้อย แต่นั่นคือการประนีประนอมที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับความนุ่มนวลและความสบายเป็นหลัก

ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ: มั่นใจในทุกเส้นทาง

BYD SHARK6 ไม่ได้มีดีแค่สมรรถนะและความสบาย แต่ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครันและล้ำสมัย เพื่อปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกการเดินทาง:
ระบบเบรก ABS / EBD / BA: ระบบเบรกพื้นฐานที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการหยุดรถ
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC / ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS: ช่วยให้รถทรงตัวได้ดีในสถานการณ์คับขัน ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA / ระบบช่วยลงทางลาดชัน HDC: เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางลาดชัน
ระบบเบรกอัตโนมัติ AEB / ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW / ระบบแจ้งเตือนคาดการณ์การชนล่วงหน้า PCW / ระบบช่วยเตือนการชนด้านท้าย RCW: เทคโนโลยี ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ที่ทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของอุบัติเหตุการชน
ระบบจดจำป้ายจราจร TSR / ระบบเตือนเปลี่ยนเลน LDW / ระบบป้องกันรถออกนอกเลน LDP / ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร LKA: ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ระบบแจ้งเตือนจำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISLC: ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ขับขี่เกินกว่าความเร็วที่กำหนด
ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA / ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถับหลัง RCTB / ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSD / ระบบช่วยเตือนเมื่อเปิดประตูรถ DOW: ระบบความปลอดภัยที่ครอบคลุม ช่วยลดจุดบอดและเพิ่มความระมัดระวังรอบคัน
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control with Stop & Go: เพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ทางไกล โดยรถจะปรับความเร็วตามรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ HMA / ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้า DAW: ฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสบายในการขับขี่
ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-ระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า): มอบการปกป้องรอบด้านสำหรับผู้โดยสารทุกคน
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา / เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง: ช่วยให้การจอดรถและการขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย

สรุปและอนาคตของ BYD SHARK6 ในตลาดไทย ปี 2025

BYD SHARK6 ไม่ใช่แค่กระบะ Plug-in Hybrid คันแรกของ BYD แต่คือสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงในตลาดรถกระบะโลก และจะเป็นหนึ่งในโมเดลที่เข้ามาเขย่าบัลลังก์เจ้าตลาดในประเทศไทยอย่างแน่นอนในปี 2025 ความโดดเด่นของ SHARK6 ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ที่ดุดันหรือสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงปรัชญาการออกแบบที่ผสมผสานประสิทธิภาพของ PHEV เข้ากับความอเนกประสงค์ของรถกระบะได้อย่างลงตัว

จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ BYD SHARK6 น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับตลาดไทย คือการเป็นกระบะ PHEV ที่มอบความยืดหยุ่นในการใช้งานอย่างแท้จริง คุณสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึง 100 กิโลเมตรสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน และเมื่อต้องการเดินทางไกล ระบบไฮบริดจะทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เบนซิน มอบระยะทางวิ่งรวมสูงสุดถึง 840 กิโลเมตร ซึ่งเทียบเท่าหรือมากกว่ากระบะดีเซลทั่วไปในตลาด ทำให้หมดกังวลเรื่องสถานีชาร์จหรือปั๊มน้ำมันไปได้เลย

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่เรียกได้ว่าเป็น “Game Changer” คือระบบ V2L ที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้า 220V ออกสู่อุปกรณ์ภายนอกได้สูงสุดถึง 6,000 วัตต์ (6 kW) นี่คือกำลังไฟที่สูงที่สุดในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน ทำให้ SHARK6 ไม่ได้เป็นแค่ยานพาหนะ แต่เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ชั้นดี เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์การผจญภัย การตั้งแคมป์ หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉินในบ้านได้สบายๆ

สำหรับตลาดไทยในปี 2025 ที่คาดการณ์ว่า BYD SHARK6 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้ สิ่งที่ต้องจับตาคือรายละเอียดของเวอร์ชันที่จะทำตลาดในบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของช่วงล่างด้านหลัง ด้วยกฎระเบียบด้านภาษีสรรพสามิตของรถกระบะในไทย ที่ช่วงล่างแบบแหนบจะได้อัตราภาษีที่ถูกกว่าช่วงล่างแบบสปริงหรืออิสระ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าเวอร์ชันที่ผลิตในโรงงาน BYD จังหวัดระยอง อาจมีการปรับเปลี่ยนช่วงล่างด้านหลังให้เป็นแบบแหนบในบางรุ่นย่อย เพื่อให้สามารถทำราคาที่แข่งขันได้และตอบโจทย์งานบรรทุกหนักของผู้ใช้งานบางกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของขุมพลัง DM-O PHEV อันทรงพลังและระบบ V2L คาดว่าจะยังคงเดิม ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ BYD SHARK6 โดดเด่นในตลาด

BYD SHARK6 คือการก้าวข้ามขีดจำกัดของรถกระบะแบบเดิมๆ มันไม่ใช่แค่รถกระบะสำหรับงานหนัก แต่เป็นรถกระบะที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สมรรถนะที่เหนือกว่า และความสบายที่ยากจะหาได้ในรถกระบะคันอื่น นี่คืออนาคตของรถกระบะที่จะเข้ามาเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์การขับขี่ของคนไทยอย่างแท้จริง

เตรียมพร้อมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคต!

อย่าพลาดโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติวงการกระบะไทย หากคุณกำลังมองหารถกระบะที่ผสมผสานสมรรถนะ ความประหยัด เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสบายระดับรถยนต์นั่งได้อย่างลงตัว BYD SHARK6 คือคำตอบของคุณ ติดตามข่าวสารการเปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2025 นี้ และเตรียมตัวให้พร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่ากับ BYD SHARK6 ได้ที่โชว์รูม BYD ทั่วประเทศ ลงทะเบียนแสดงความสนใจวันนี้ เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวและโปรโมชั่นพิเศษ!