[ครบชุด] XU11199 เมียเอกแสนจน กับเมียน้อยแสนรวย

ISUZU 2.2 Ddi MAXFORCE: พลังแห่งอนาคต นำทัพพิชิตเส้นทางเวียดนาม-จีน สู่ปรากฏการณ์ยานยนต์ 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลที่ก้าวล้ำมาอย่างไม่หยุดยั้ง และในปี 2025 นี้ ความคาดหวังของผู้ใช้งานต่อรถยนต์ ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องของกำลังหรือความประหยัดอีกต่อไป แต่ยังรวมถึงความเชื่อถือได้ ประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในทุกมิติ และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ อีซูซุ หนึ่งในผู้นำตลาด ได้ประกาศศักดาด้วยการเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลแห่งอนาคตใหม่ล่าสุด Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE ภายใต้แนวคิด “The FORCE of FUTURE พลังใหม่…กำหนดโลก” พร้อมทั้งจัดทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อพิสูจน์สมรรถนะจริงบนเส้นทางสุดท้าทาย เวียดนาม-จีน ระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร ตลอด 4 วัน 3 คืน ซึ่งนับเป็นการตอกย้ำถึงความพร้อมของอีซูซุในการก้าวสู่ยุคยานยนต์แห่งอนาคตอย่างแท้จริง

การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การทดสอบรถยนต์ธรรมดา แต่เป็นการผจญภัยที่ผสมผสานระหว่างการพิสูจน์ขีดจำกัดของรถกระบะ Isuzu D-Max และรถ PPV Isuzu Mu-X ใหม่! ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE เข้ากับความงามอันน่าตื่นตะลึงของธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของสองประเทศเพื่อนบ้าน เส้นทางเวียดนาม-จีน นับเป็นบททดสอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นความหนาแน่นของการจราจรในเมืองใหญ่ ถนนที่คดเคี้ยว การไต่ระดับบนเส้นทางภูเขา ไปจนถึงทางหลวงที่ไร้ขีดจำกัด การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด พร้อมพละกำลังที่เหนือชั้น และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ คือหัวใจหลักที่ Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE จะต้องพิสูจน์ตัวเองในสภาวะการใช้งานจริง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในตลาดรถยนต์ 2025

เจาะลึก Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE: เทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนอนาคต

ก่อนที่จะลงลึกถึงประสบการณ์การขับขี่บนเส้นทางสุดท้าทาย ขอพาทุกท่านมาทำความเข้าใจถึงแก่นแท้ของ Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องยนต์ดีเซลบล็อกใหม่ แต่เป็นการรวมเอาวิศวกรรมที่ล้ำสมัยและนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จุดเด่นที่สัมผัสได้ทันทีคือการผสานกำลังและประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถกระบะและรถ PPV ในปัจจุบัน เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ได้รับการพัฒนาภายใต้ปรัชญาที่มุ่งเน้นทั้ง “แรง” และ “ประหยัด” พร้อมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกในปี 2025

หัวใจสำคัญอยู่ที่เทคโนโลยีการฉีดเชื้อเพลิงแบบคอมมอนเรลแรงดันสูงพิเศษ ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อันแม่นยำ ทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ลดมลพิษ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูงสุด ควบคู่ไปกับระบบเทอร์โบแปรผันอัจฉริยะ (VGS Turbo) ที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว ส่งผลให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจในทุกช่วงความเร็ว ตั้งแต่รอบต่ำไปจนถึงรอบสูง ไม่ว่าจะเร่งแซงบนทางหลวงหรือไต่ทางชัน ก็มั่นใจได้ในพละกำลังที่ไม่เป็นรองใคร

อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญคือการจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Isuzu ที่เข้ามายกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น การเพิ่มจำนวนเกียร์ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลข แต่เป็นการขยายช่วงอัตราทดให้กว้างขึ้น ทำให้การถ่ายทอดกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นต่อเนื่อง การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลจนแทบไม่รู้สึก ทำให้ลดภาระของเครื่องยนต์ลง ส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังช่วยลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสาร สร้างความสะดวกสบายให้กับการเดินทางไกลได้อย่างยอดเยี่ยม เทคโนโลยีเหล่านี้คือเครื่องมือสำคัญที่ Isuzu มอบให้เพื่อรับมือกับความท้าทายของเส้นทางและสร้างนิยามใหม่ของรถยนต์ Isuzu D-Max และ Isuzu Mu-X ในตลาดรถกระบะและรถ PPV แห่งอนาคต

วันแรก: ลุยเมืองหลวงสู่มนต์เสน่ห์ฮาลองเบย์ (เวียดนาม)

การผจญภัยเริ่มต้นขึ้นเมื่อกองทัพรถ Isuzu D-Max และ Isuzu Mu-X รุ่นใหม่ 2.2 Ddi MAXFORCE รวม 9 คัน ได้ถือกำเนิดขึ้น ณ เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม ทันทีที่ลงจากเครื่องบิน เราสัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงแห่งนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการจราจรที่หนาแน่นและสไตล์การขับขี่ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งต้องอาศัยการ “วัดใจ” และการใช้แตรรถเพื่อสื่อสารกันเป็นหลัก เส้นทางช่วงแรกจากสนามบินมุ่งหน้าสู่อ่าวฮาลอง ระยะทางกว่า 175 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการทดสอบการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ รวมถึงทักษะการขับขี่ของผู้ร่วมทริปไปพร้อมๆ กัน

ในช่วงที่ขับขี่ผ่านตัวเมืองฮานอย ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับพละกำลังของเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ใน Isuzu D-Max Hi-Lander ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวในการซอกแซกผ่านการจราจรที่ติดขัด การออกตัวที่รวดเร็วและการเร่งแซงในช่วงระยะสั้นๆ ทำได้อย่างมั่นใจ แม้จะต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ไม่คุ้นเคยและมอเตอร์ไซค์จำนวนมหาศาล แต่รถก็สามารถพาเราไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่รถยนต์ Isuzu D-Max และ Isuzu Mu-X มีมาโดยตลอด แต่ในรุ่นใหม่นี้กลับเหนือกว่าในด้านความกระฉับกระเฉงและพละกำลังสำรอง

เมื่อพ้นจากเขตเมือง สู่ถนนไฮเวย์ที่แม้จะมีข้อจำกัดด้านความเร็ว แต่ Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE ก็ยังคงสร้างความประทับใจอย่างต่อเนื่อง ระบบ Cruise Control ได้รับการพิสูจน์ถึงประโยชน์อย่างแท้จริงในการเดินทางระยะยาว ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ได้อย่างมาก แต่สิ่งที่ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญรู้สึกทึ่งเป็นพิเศษคือความนุ่มนวลในการเปลี่ยนเกียร์ของระบบอัตโนมัติ 8 สปีด ที่ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีอาการกระตุกหรือสะดุด แม้ขณะที่ต้องเร่งแซงรถบรรทุกขนาดใหญ่ ทำให้การเดินทางกว่า 3 ชั่วโมง กลายเป็นเรื่องที่น่ารื่นรมย์และผ่อนคลาย

ปลายทางของวันแรกคือ “อ่าวฮาลอง” (Ha Long Bay) มรดกโลกทางธรรมชาติจาก UNESCO อันโด่งดังของเวียดนาม ภาพของเกาะหินปูนรูปร่างแปลกตาที่โผล่พ้นน้ำทะเลสีมรกตตัดกับแสงอาทิตย์ยามเย็น สร้างความประทับใจที่ไม่รู้ลืม กิจกรรมล่องเรือชมถ้ำสวรรค์ (Thiên Cave) ที่ประดับประดาด้วยหินงอกหินย้อยอันวิจิตรบรรจง ได้เติมเต็มประสบการณ์การเดินทางได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากอิ่มเอมกับความงามของธรรมชาติ เราก็ได้เติมพลังด้วยบุฟเฟต์นานาชาติ ณ ภัตตาคาร Sen Ha Thanh ก่อนที่จะเข้าพักที่โรงแรม The Yacht ที่มอบความสะดวกสบายหลังจากการเดินทางอันยาวนาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยความมั่นใจในสมรรถนะของ Isuzu ที่พาเราไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย

วันที่สอง: ตะลุยเวียดนาม สู่ดินแดนจีน

เช้าวันที่สองเริ่มต้นขึ้นท่ามกลางอากาศเย็นสบายราว 15 องศาเซลเซียสในเวียดนาม แม้จะมีหมอกควันและฝุ่นละอองจากการก่อสร้างที่บ่งบอกถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของเมือง แต่ขบวนรถ Isuzu ก็ยังคงมุ่งหน้าออกเดินทางจากนครแห่งเสียงแตร สู่เส้นทางชนบทที่ท้าทายยิ่งขึ้น เส้นทางในวันนี้ประกอบไปด้วยถนนเลนเดียวสลับกับการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้มีโอกาสทดสอบประสิทธิภาพของช่วงล่างรถ Isuzu อย่างเต็มที่

หลายคนอาจมีความเห็นว่าช่วงล่างของอีซูซุมีความนุ่มนวล แต่จากประสบการณ์ในการขับขี่บนเส้นทางที่มีหลุมบ่อและพื้นผิวขรุขระจากการก่อสร้าง ต้องบอกว่า “ความนุ่มนวล” นี้กลับกลายเป็น “จุดแข็ง” ที่โดดเด่นอย่างคาดไม่ถึง รถมีการยุบตัวและคืนตัวที่ดีเยี่ยม อาการดีดกระดอนเมื่อผ่านอุปสรรคมีน้อยมาก ทำให้ผู้โดยสารนั่งได้อย่างสบาย ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าแม้จะต้องเผชิญกับสภาพถนนที่ย่ำแย่ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางไกลด้วยรถยนต์ Isuzu D-Max และ Isuzu Mu-X โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวหรือผู้ที่ต้องเดินทางเป็นเวลานาน

นอกจากถนนที่เต็มไปด้วยการก่อสร้างแล้ว เส้นทางยังพาเราขึ้นและลงเขาเป็นช่วงๆ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับพละกำลังของเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ใหม่นี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าการตอบสนองของเครื่องยนต์ใหม่นี้ดีกว่าเครื่องยนต์ 1.9 Ddi เดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน อัตราเร่งที่มาอย่างต่อเนื่องและแรงบิดที่มีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้การไต่ขึ้นเนินชันเป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ต้องเค้นเครื่องยนต์มากนัก ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจในทุกสภาวะ ซึ่งนี่คือหัวใจสำคัญที่ Isuzu ได้พัฒนาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการสมรรถนะที่เหนือกว่าในการขับขี่ระยะทางไกลและการบรรทุก

หลังจากขับขี่ไปกว่า 170 กิโลเมตร เราก็มาถึงด่านข้ามแดนมิตรภาพชายแดนเวียดนาม-จีน ณ ด่านโหย่วยี (Youyi) ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการเดินทางด้วยรถ Isuzu ในทริปนี้ เนื่องจากกฎระเบียบของประเทศจีนที่ไม่อนุญาตให้ใช้ใบขับขี่สากลในการขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล แต่ถึงกระนั้น รถ Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE ก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถพาทีมงานและสื่อมวลชนมาถึงจุดนี้ได้อย่างปลอดภัยและสบายตลอดเส้นทางที่ท้าทาย

จากด่านชายแดน เราเดินทางต่อด้วยรถบัสสู่โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว LUX Chongzuo, Guangxi Resort & Villas ในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงแรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด การได้พักผ่อนในห้องพักที่แสนสบาย พร้อมดื่มด่ำกับทัศนียภาพธรรมชาติอันตระการตา คือรางวัลอันล้ำค่าหลังจากการเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ

วันที่สาม: สัมผัสความอลังการของธรรมชาติจีน

เช้าวันที่สามของการเดินทางในประเทศจีน เรามุ่งหน้าจากโรงแรมที่พักสู่เมืองหมิงฉี (Mingshi) เพื่อสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของน้ำตกเต๋อเทียน (Ban Gioc–Detian Waterfalls) สุดยอดน้ำตกแห่งเอเชียที่ตั้งอยู่กลางป่าเขาอุดมสมบูรณ์ เชื่อมต่อระหว่างชายแดนจีน-เวียดนาม น้ำตกแห่งนี้เกิดจากความต่างระดับของแม่น้ำ มีความกว้างประมาณ 200 เมตร และสูงประมาณ 30-70 เมตร หากมองจากด้านบนจะเห็นว่าฝั่งเวียดนามเป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลเป็นสายยาวอย่างสวยงาม ส่วนฝั่งจีนจะแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ไหลลดหลั่นกันลงมาอย่างอลังการ

กิจกรรมไฮไลท์คือนั่งแพไม้ไผ่ชมความงามของน้ำตกอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี น้ำสีเขียวมรกตใส และขุนเขาธรรมชาติที่โอบล้อมอยู่สุดสายตา ประสบการณ์นี้ตอกย้ำถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในภูมิภาคนี้ และเป็นเครื่องย้ำเตือนว่ารถยนต์ Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE พร้อมที่จะพาคุณไปค้นพบสถานที่อันน่าทึ่งเหล่านี้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด การเดินทางเพื่อสัมผัสโลกกว้างคือสิ่งที่ไม่ว่าปี 2025 หรือในอนาคต มนุษย์ก็ยังคงปรารถนา และรถยนต์สมรรถนะสูงเช่น Isuzu คือกุญแจสำคัญ

หลังจากดื่มด่ำกับความงามของน้ำตกเต๋อเทียนแล้ว คณะสื่อมวลชนได้เดินทางต่อไปยังเมืองหนานหนิง ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของมณฑลกวางสี เพื่อเข้าพักที่โรงแรม Crowne Plaza Hotel Nanning ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า Isuzu D-Max และ Isuzu Mu-X ใหม่! ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถเพื่อการผจญภัยเท่านั้น แต่ยังสามารถตอบโจทย์การเดินทางเพื่อธุรกิจและการใช้งานในเมืองใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความน่าเชื่อถือ และภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ก่อนที่จะเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยในวันรุ่งขึ้น

บทสรุป: Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE – ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งพลังขับเคลื่อนที่เหนือกว่า

ตลอดระยะเวลา 4 วัน 3 คืน บนเส้นทางเวียดนาม-จีน ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ความสวยงาม และประสบการณ์ใหม่ๆ สิ่งหนึ่งที่ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ที่มีประสบการณ์ยาวนานยืนยันได้คือ “หัวใจใหม่” ของ Isuzu นั่นคือเครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ได้พิสูจน์ตัวเองได้อย่างไร้ข้อกังขา ไม่ใช่แค่เพียงตัวเลขทางเทคนิค แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะการใช้งานจริงที่เหนือกว่าในทุกมิติ

ประเด็นที่โดดเด่นจากการทดสอบนี้:

ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม: ด้วยการทดสอบแบบใช้งานจริง พร้อมผู้โดยสาร 3 ท่านในแต่ละคัน และสัมภาระเต็มพิกัด บนเส้นทางที่หลากหลาย ทั้งทางในเมือง ทางหลวง และทางภูเขา อัตราเฉลี่ยความประหยัดน้ำมันยังคงทำได้น่าประทับใจถึง 13-14 กิโลเมตร/ลิตร โดยเฉลี่ยในทุกคัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหนือความคาดหมายสำหรับรถกระบะและรถ PPV ที่มอบพละกำลังขนาดนี้ ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่มองหารถกระบะประหยัดน้ำมัน หรือรถยนต์ Isuzu ที่คุ้มค่าการลงทุนในปี 2025
พละกำลังและอัตราเร่งที่เหนือชั้น: เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE มอบแรงบิดที่ต่อเนื่องและการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ ทำให้การเร่งแซงเป็นเรื่องง่าย การขับขี่ขึ้นทางชันเต็มไปด้วยความมั่นใจ และการขับขี่ในเมืองก็คล่องตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลที่แท้จริง
ความนุ่มนวลและสะดวกสบายในการขับขี่: เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ส่งผลให้การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น การขับขี่นุ่มนวล ลดความเมื่อยล้าในการเดินทางไกล นอกจากนี้ ระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเยี่ยม ก็มอบความสบายให้กับผู้โดยสาร แม้บนเส้นทางที่ขรุขระ
ความทนทานและเชื่อถือได้: แม้จะผ่านเส้นทางที่หลากหลายและต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แตกต่างกัน รถ Isuzu D-Max และ Isuzu Mu-X ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.2 Ddi MAXFORCE ก็ยังคงทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพตลอดการเดินทาง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานรถยนต์ Isuzu D-Max และ Isuzu Mu-X ให้ความไว้วางใจมาโดยตลอด

อีซูซุ 2.2 Ddi MAXFORCE ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องยนต์ใหม่ แต่คือวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของ Isuzu ในการก้าวสู่ยุคยานยนต์ 2025 อย่างมั่นคง ด้วยการผสมผสานพลังขับเคลื่อน เทคโนโลยี และความประหยัดเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นี่คือ “พลังใหม่ที่กำหนดโลก” อย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถกระบะที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกการใช้งาน หรือรถยนต์สำหรับครอบครัวที่พร้อมพาคุณไปทุกที่ ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวันหรือการเดินทางผจญภัย Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE คือคำตอบที่ใช่ และคุ้มค่าแก่การสัมผัส

ก้าวเข้าสู่ประสบการณ์เหนือระดับ!

อย่ารอช้าที่จะสัมผัส “The FORCE of FUTURE” ด้วยตัวคุณเอง! มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดอนาคตการขับขี่ไปกับ Isuzu 2.2 Ddi MAXFORCE ที่พร้อมจะพาทุกท่านทะยานไปสู่ทุกจุดหมายอย่างมั่นใจและประหยัด มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร เยี่ยมชมโชว์รูมอีซูซุทั่วประเทศเพื่อทดลองขับ Isuzu D-Max และ Isuzu Mu-X ใหม่! พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ และค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของขุมพลังแห่งอนาคตที่คุณคู่ควรวันนี้!