MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025): เมื่อไอคอนแห่งความเล็กกระทัดรัด เติบโตสู่มิติใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
ในโลกยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว แบรนด์ต่างๆ ล้วนต้องปรับตัวเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่เว้นแม้แต่ MINI แบรนด์ที่เคยสร้างภาพจำอันแข็งแกร่งด้วยรถยนต์ขนาดเล็ก คล่องตัว และเปี่ยมด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปภายใต้ร่มเงาของ BMW การตีความคำว่า “MINI” ได้ขยายขอบเขตออกไปอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในรุ่น Countryman ซึ่งได้ก้าวข้ามจากรถครอสโอเวอร์คอมแพ็ค สู่บทบาทที่ใหญ่โตกว่าและเปี่ยมด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และสำหรับปี 2025 นี้ MINI Countryman S ALL4 Hightrim ได้ตอกย้ำการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้อีกครั้ง
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าสังเกตวิวัฒนาการของ MINI มาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคที่รถ MINI คลาสสิกยังโลดแล่น ไปจนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่ภายใต้การบริหารของ BMW ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินใจครั้งใหญ่คือการสร้างสรรค์รถยนต์ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป นั่นคือ “MINI ที่ไม่เล็กอีกต่อไป” และ Countryman คือหัวหอกสำคัญของกลยุทธ์นี้ ด้วยการปรับโฉมครั้งล่าสุดในโมเดลปี 2025 นี้ MINI Countryman S ALL4 Hightrim ไม่เพียงแต่จะใหญ่ขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับออปชันที่จัดเต็ม เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันคือการตีความใหม่ของคำว่า “พรีเมียมคอมแพ็คเอสยูวี” ในสไตล์ MINI ที่โตเต็มวัย พร้อมท้าทายทุกความเชื่อเดิมๆ ที่คุณเคยมีต่อแบรนด์นี้
นี่คือบทวิเคราะห์เจาะลึกถึงทุกมิติของ MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) ที่จะพาคุณไปสำรวจว่า การเติบโตครั้งนี้คุ้มค่ากับการแลกเปลี่ยน “กลิ่นอาย MINI แบบเดิมๆ” ไปหรือไม่ และมันจะตอบโจทย์ผู้ขับขี่ในตลาดปี 2025 ได้อย่างไรบ้าง เรามาเริ่มกันเลย
การพลิกโฉมแห่งมิติ: ดีไซน์และมิติตัวถังที่ “ใหญ่กว่าที่เคย”
ภาพจำของ MINI ในฐานะรถยนต์ขนาดเล็กน่ารัก อาจจะต้องถูกเขียนใหม่ทั้งหมดเมื่อได้พบกับ MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) รุ่นใหม่นี้ การเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นที่สุดคือขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของตลาดรถยนต์พรีเมียมเอสยูวีที่ผู้บริโภคต้องการพื้นที่ใช้สอยและความอเนกประสงค์ที่มากขึ้น
มิติตัวถังใหม่ที่ใหญ่ขึ้น:
ความยาว 4,433 มิลลิเมตร (ยาวกว่ารุ่นเดิม 130 มม.)
ความกว้าง 1,843 มิลลิเมตร (กว้างกว่ารุ่นเดิม 22 มม.)
ความสูง 1,656 มิลลิเมตร (สูงกว่ารุ่นเดิม 80 มม.)
ความยาวฐานล้อ 2,692 มิลลิเมตร
ระยะห่างจากพื้นถึงใต้ท้องรถ 165 มิลลิเมตร
ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่า Countryman รุ่นใหม่มีความยาวเกือบเท่ากับ BMW X3 โฉมที่ผ่านมา และด้วยดีไซน์ทรงกล่องที่ชัดเจนขึ้น ทำให้ตัวรถดูใหญ่โตกว่าความเป็นจริง และสร้างความรู้สึกถึง “ความเป็นเอสยูวี” ได้อย่างเต็มตัว การเพิ่มขนาดในทุกมิติส่งผลโดยตรงต่อพื้นที่ภายในห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระ ที่มีความกว้างขวางและใช้งานได้จริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในชีวิตประจำวันหรือการผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์
การออกแบบภายนอกยังคงกลิ่นอายความทันสมัยและกล้าหาญ ด้วยเส้นสายที่สะอาดตาและรูปทรงที่ดูบึกบึนขึ้น ไฟหน้าและไฟท้ายได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความล้ำยุค ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีไฟส่องสว่างแบบ LED ที่ให้ความสว่างและโดดเด่นในเวลากลางคืน แม้ว่าแฟน MINI ดั้งเดิมบางคนอาจจะรู้สึกว่า “กลิ่นอายความเล็กน่ารัก” ได้จางหายไปบ้าง แต่สำหรับผมมองว่านี่คือการเติบโตที่จำเป็น เพื่อให้ Countryman สามารถแข่งขันในตลาดครอสโอเวอร์หรู ที่มีคู่แข่งมากมายและมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน MINI ได้ปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มองหารถยนต์ที่มีสไตล์ มีเอกลักษณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องตอบสนองความต้องการด้านพื้นที่ใช้สอยและความอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว
ขุมพลังแห่งการขับเคลื่อน: สมรรถนะที่เพียงพอและระบบขับเคลื่อน ALL4 อัจฉริยะ
ภายใต้รูปลักษณ์ที่ใหญ่ขึ้นของ MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) ยังคงได้รับการติดตั้งขุมพลังที่น่าเชื่อถือและได้รับการพิสูจน์แล้วจาก BMW Group นั่นคือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร (1,998 ซีซี) พร้อมเทคโนโลยี TwinPower Turbo
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง:
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ TwinPower Turbo ขนาด 2.0 ลิตร
หัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ตรงสู่ห้องเผาไหม้ (Direct Injection)
พร้อมระบบ Double VANOS และ Valvetronic
กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,500 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 4,500 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 7DCT
ระบบขับเคลื่อน ALL4 (All-Wheel Drive) ที่ชาญฉลาด
ด้วยพละกำลัง 204 แรงม้า และแรงบิด 300 นิวตันเมตร ซึ่งมีให้ใช้งานตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำ (1,400 รอบ/นาที) ทำให้ Countryman S ALL4 มีอัตราเร่งที่กระฉับกระเฉงและตอบสนองได้ทันใจ การทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที และความเร็วสูงสุด 228 กม./ชม. ถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ครอสโอเวอร์พรีเมียมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนี้ มันไม่ได้แรงจนถึงขั้น “ดุดัน” เหมือน MINI John Cooper Works แต่ก็ให้สมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์ ทั้งการขับขี่ในเมือง การเดินทางไกล หรือการเร่งแซงอย่างมั่นใจบนท้องถนน
จุดเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือระบบขับเคลื่อน ALL4 หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอัจฉริยะของ MINI ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นสภาพถนนที่เปียก ลื่น หรือการขับขี่บนทางโค้ง ระบบนี้จะช่วยกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อทั้งสี่อย่างเหมาะสม ทำให้รถมีการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม เพิ่มเสถียรภาพและความปลอดภัยในการควบคุม การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ TwinPower Turbo และระบบ ALL4 ทำให้ MINI Countryman S ALL4 Hightrim เป็นรถที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่มั่นคงและควบคุมได้ง่าย เหมาะสำหรับการเดินทางในทุกสภาพอากาศและภูมิประเทศ
ในแง่ของความประหยัดน้ำมัน สำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อขนาดใหญ่เช่นนี้ การทำได้ถึง 13-14 กิโลเมตร/ลิตร ถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจและสะท้อนถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเครื่องยนต์และเกียร์ที่ทันสมัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคในปี 2025 ให้ความสำคัญอย่างมาก
ประสบการณ์หลังพวงมาลัย: ความท้าทายในการผสาน DNA ของ MINI
เมื่อพูดถึงการทดสอบ MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์มายาวนาน ผมต้องยอมรับว่ามีความรู้สึกที่หลากหลายปะปนกันไป ในอดีต MINI ได้สร้างชื่อเสียงจาก “Go-Kart Feeling” หรือความรู้สึกในการขับขี่ที่คล่องตัวเหมือนรถโกคาร์ท อย่างไรก็ตาม การเติบโตของ Countryman ได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
โหมดการขับขี่ MINI Experience Modes:
Core Mode: โหมดมาตรฐานที่มอบความสมดุลสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
Go-Kart Mode: พยายามจำลองความรู้สึกสปอร์ตของ MINI ดั้งเดิม ปรับการตอบสนองของเครื่องยนต์ พวงมาลัย ให้เฉียบคมขึ้น
Green Mode: เน้นความประหยัดน้ำมัน ปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
Balance Mode: มอบความผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการเดินทางไกล
Timeless Mode: สร้างบรรยากาศแบบคลาสสิกของ MINI ผ่านกราฟิกและแสงสีภายใน
Vivid Mode: เน้นความสนุกสนาน สดใส ด้วยสีสันที่โดดเด่นบนหน้าจอ
Personal Mode: ให้ผู้ขับขี่ปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ได้ตามความต้องการ
เมื่อเข้าสู่ Go-Kart Mode แม้จะสัมผัสได้ถึงความพยายามในการทำให้พวงมาลัยมีน้ำหนักมากขึ้นและการตอบสนองของคันเร่งที่ฉับไวขึ้น แต่ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็เป็นเรื่องยากที่จะได้สัมผัสความรู้สึก “โกคาร์ท” ได้อย่างเต็มที่เหมือน MINI Cooper รุ่นเล็ก อย่างไรก็ตาม มันยังคงมอบความสนุกในการขับขี่ที่แตกต่างจาก SUV ทั่วไป ด้วยช่วงล่างที่ยังคงความกระด้างอันเป็นเอกลักษณ์ของ MINI ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงพื้นผิวถนนได้อย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็มอบความมั่นคงและแม่นยำในการควบคุมรถได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ความเร็วสูงหรือเข้าโค้ง
ในความเร็วสูง การทรงตัวของรถทำได้ดี แต่ด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น อาจทำให้รู้สึกถึงแรงต้านของลมได้บ้างเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงมาก และเมื่อมีการเปลี่ยนเลนกระทันหัน ตัวรถก็มีอาการที่ชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรถ SUV ที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูงกว่ารถเก๋ง อย่างไรก็ตาม ระบบ ALL4 มีส่วนสำคัญในการเพิ่มเสถียรภาพและลดอาการเหล่านี้ลง ทำให้รถมีการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาวะ
สิ่งที่ Countryman S ALL4 Hightrim แลกมากับการสูญเสียความรู้สึก “มินิ” แบบดั้งเดิมไปบ้าง คือความสะดวกสบายและประโยชน์ใช้สอยที่เพิ่มขึ้น ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้ห้องโดยสารกว้างขวางขึ้น การเดินทางไกลจึงมีความผ่อนคลายมากขึ้น และพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังที่สามารถขยายได้ถึง 1,450 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง ก็ทำให้รถคันนี้กลายเป็นเพื่อนคู่ใจสำหรับการเดินทางทุกรูปแบบ ตั้งแต่การไปช้อปปิ้งในเมือง ไปจนถึงการขนสัมภาระสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
ห้องโดยสารที่ก้าวล้ำ: นวัตกรรมและวัสดุพรีเมียม
ภายในห้องโดยสารของ MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความล้ำสมัยสไตล์รถยนต์ไฟฟ้าเข้ากับกลิ่นอายความคลาสสิกของ MINI ที่ยังคงเหลืออยู่ ที่โดดเด่นที่สุดคือหน้าจอกลางทรงกลม OLED ขนาด 240 มิลลิเมตร (9.44 นิ้ว) ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของทุกการควบคุม แสดงผลข้อมูลได้อย่างสวยงาม คมชัด และใช้งานง่าย
เทคโนโลยีและความบันเทิง:
หน้าจอกลางทรงกลม MINI Round Center Display OLED ขนาด 240 มิลลิเมตร
ระบบปฏิบัติการ MINI Operation System 9 ที่ใช้งานง่ายและรวดเร็ว
ระบบสั่งงานด้วยเสียง “Hey MINI” ที่ชาญฉลาด ตอบสนองคำสั่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ระบบนำทาง MINI Navigation ที่แม่นยำและช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ช่วยให้การจอดรถและขับขี่ในที่แคบเป็นเรื่องง่าย
แท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย เพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อ
ระบบเครื่องเสียง Harman Kardon ลำโพง 12 ตำแหน่ง มอบประสบการณ์เสียงระดับพรีเมียม
ความสะดวกสบายและวัสดุภายใน:
วัสดุผ้าหลังคาสีดำ Anthracite Headliners มอบความรู้สึกหรูหราและสปอร์ต
หลังคากระจก Panoramic Glass-roof ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับห้องโดยสาร
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Vascin สีน้ำตาล Vintage Brown คุณภาพสูง ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและทนทาน
เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบจดจำตำแหน่งเบาะ Memory Seats
ระบบเบาะนั่ง Active Seats สำหรับเบาะนั่งคนขับ มอบความสบายที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสรีระ
เบาะนั่งด้านหลังแบบปรับเอนและพับได้ 60:40 เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
พนักวางแขนตำแหน่งกลางสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง
การออกแบบภายในดูทันสมัยและเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยรายละเอียดที่ประณีต วัสดุที่ใช้มีคุณภาพสูงให้สัมผัสที่ดีเยี่ยม การจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ ทำได้อย่างลงตัว ergonomic และใช้งานง่าย แม้ว่าหน้าจอ OLED ทรงกลมจะดูแตกต่างไปจากรถยนต์ทั่วไป แต่นั่นก็คือการรักษาเอกลักษณ์ของ MINI ที่ไม่เหมือนใคร และแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญในการออกแบบในยุคที่ทุกอย่างมักจะเป็นสี่เหลี่ยม
ความปลอดภัยที่เหนือระดับ: ปกป้องทุกการเดินทาง
ในยุคที่เทคโนโลยียานยนต์ก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่คือหัวใจสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความใส่ใจ และ MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการอัดแน่นด้วยระบบปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารอย่างครบครัน
ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันและเชิงรับ:
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ช่วยลดแรงกระแทกจากการชนรอบทิศทาง
ระบบป้องกันล้อล็อก Anti-lock Braking System (ABS)
ระบบกระจายแรงเบรก Dynamic Brake Control (DBC)
ระบบช่วยเบรกขณะเข้าโค้ง Cornering Brake Control (CBC)
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Dynamic Stability Control (DSC)
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS):
ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า Post-Crash Collision Warning (PC iBrake) ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ
ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistant ครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ เช่น ระบบเตือนการออกจากเลน (Lane Departure Warning) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Front Collision Warning) และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับความเร็วตามรถคันหน้า (Adaptive Cruise Control) เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ระยะไกล
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX อำนวยความสะดวกในการติดตั้งคาร์ซีทอย่างปลอดภัย
ด้วยชุดระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือการขับขี่เหล่านี้ ทำให้ MINI Countryman S ALL4 Hightrim เป็นรถที่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างลงตัว มอบความอุ่นใจและมั่นใจในทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือนอกเมือง
บทสรุป: การเติบโตที่จำเป็นของ MINI ในปี 2025
MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) คือการประกาศอย่างชัดเจนถึงทิศทางใหม่ของแบรนด์ MINI มันอาจจะไม่ใช่ “MINI” แบบดั้งเดิมที่หลายคนจดจำ แต่เป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนแปลงไป หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่หลงใหลในความเล็กกะทัดรัดและ “Go-Kart Feeling” อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกับรูปลักษณ์และสัมผัสการขับขี่ที่แตกต่างออกไป แต่หากคุณมองหารถครอสโอเวอร์พรีเมียมที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีล้ำสมัย พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง และสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว Countryman S ALL4 Hightrim คือตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับปี 2025
สำหรับผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ “การเติบโตที่จำเป็น” MINI Countryman S ALL4 Hightrim ไม่ได้พยายามจะเป็นแค่รถยนต์ขนาดเล็กอีกต่อไป แต่กำลังนิยามตัวเองใหม่ให้เป็น “รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียมที่เปี่ยมด้วยสไตล์และนวัตกรรม” ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวขนาดเล็ก ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง หรือผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด
แน่นอนว่าการปรับโฉมครั้งนี้อาจทำให้ MINI สูญเสีย “กลิ่นอายความมินิ” บางส่วนไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความอเนกประสงค์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ในปัจจุบัน และในราคา 2,499,000 บาท (อัปเดต ณ ปี 2025) มันคือการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับรถยนต์ที่ผสมผสานเสน่ห์ของ MINI เข้ากับความสามารถของ SUV ระดับพรีเมียมได้อย่างลงตัว
ก้าวสู่อนาคตแห่งการขับขี่พร้อม MINI Countryman S ALL4 Hightrim
หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและนิยามใหม่ของคำว่า “MINI” ที่เติบโตอย่างเต็มที่ เชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ สัมผัสด้วยตัวคุณเองว่า MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) จะเติมเต็มทุกความต้องการของคุณได้อย่างไร
อย่ารอช้า! เยี่ยมชมโชว์รูม MINI ใกล้บ้านคุณ หรือนัดหมายเพื่อทดลองขับ MINI Countryman S ALL4 Hightrim (MY2025) วันนี้ และเปิดประสบการณ์ใหม่ไปพร้อมกัน
![[ครบชุด] 2211180 Facebook (4)](https://filmthailan.nataviguides.com/wp-content/uploads/2025/11/image-170-1.png)
![[ครบชุด] 2211181 เจ็บที่สุด เมื่อรู้ว่าเป็นแค่ตัวแทนของคนเก่า](https://filmthailan.nataviguides.com/wp-content/uploads/2025/11/image-171-1.png)