ต่อภาษีรถยนต์ 7 ปีขึ้นไป: คู่มือตรวจสภาพรถและขั้นตอนต่อทะเบียนฉบับสมบูรณ์

June 17, 2025

รถยนต์สีขาวกำลังวิ่งอยู่บนถนน พร้อมเน้นย้ำถึงการ ต่อภาษีรถยนต์ และ ตรวจสภาพรถยนต์ สำหรับรถอายุ 7 ปีขึ้นไป

การต่ออายุภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่สำคัญของผู้ใช้รถทุกคน เพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและปลอดภัยบนท้องถนน โดยทั่วไปสามารถดำเนินการล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันหมดอายุ หากละเลยไม่ต่อภาษี อาจต้องเสียค่าปรับ หรือร้ายแรงสุดคือถูกระงับทะเบียนหากขาดต่อเกิน 3 ปี

สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี (หรือรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 5 ปี) การต่อภาษีถือว่าค่อนข้างสะดวก สามารถทำได้หลากหลายช่องทาง ทั้งการต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก (www.dlt.go.th) โดยเลือกชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตที่ร่วมโครงการ หรือจะเลือกใช้บริการ Drive Thru บริเวณสำนักงานขนส่งฯ ซึ่งเป็นการต่อภาษีแบบไม่ต้องลงจากรถ เพียงเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น สมุดจดทะเบียนรถ หรือสำเนา และหลักฐานการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ที่ยังมีอายุไม่หมดอายุก็เรียบร้อย ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

กฎสำคัญสำหรับรถอายุ 7 ปีขึ้นไป: ต้องผ่านการตรวจสภาพรถยนต์

ความแตกต่างที่สำคัญสำหรับการต่อภาษีรถยนต์ที่มีอายุตั้งแต่ 7 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป (นับจากวันจดทะเบียนครั้งแรกถึงวันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี) คือ รถยนต์เหล่านี้ต้องผ่านการตรวจสภาพรถยนต์ก่อนถึงจะสามารถต่อภาษีได้

ทำไมรถเก่าต้องตรวจสภาพ?

กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้รถยนต์ที่มีอายุใช้งานนานต้องเข้ารับการตรวจสภาพเพื่อให้แน่ใจว่ารถยังมีสภาพที่มั่นคง แข็งแรง และมีอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและมีความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ร่วมใช้ถนนคนอื่นๆ และสิ่งแวดล้อมโดยรวม

สถานที่รับตรวจสภาพรถยนต์

เจ้าของรถสามารถนำรถเข้ารับการตรวจสภาพได้ที่ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ หรือจะนำรถไปตรวจสภาพที่หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกก็ได้

ข้อยกเว้น: รถยนต์บางประเภทจำเป็นต้องไปตรวจสภาพ ณ หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น ได้แก่ รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม (แม้จะสามารถตรวจที่ ตรอ. ได้ แต่ส่วนใหญ่มักต้องไปขนส่ง), รถที่มีการดัดแปลงสภาพไปจากที่จดทะเบียนไว้, รถที่เปลี่ยนสี เปลี่ยนเครื่องยนต์, รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถหรือเลขเครื่องยนต์, หรือรถที่ขาดต่ออายุทะเบียนเกิน 1 ปี เป็นต้น

ขั้นตอนและค่าตรวจสภาพรถยนต์

เจ้าของรถสามารถนำรถไปตรวจสภาพล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนวันสิ้นอายุภาษีประจำปี เพียงนำรถพร้อมสมุดคู่มือจดทะเบียนรถไปแสดง ณ สถานที่ตรวจ ค่าบริการตรวจสภาพรถยนต์มีดังนี้

รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม: คันละ 150 บาท
รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม: คันละ 250 บาท

หากผลการตรวจสภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐาน สถานตรวจสภาพรถจะออกใบรับรองการตรวจสภาพรถให้ เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการต่อภาษีต่อไป แต่หากรถไม่ผ่านการตรวจสภาพ ตรอ. จะแจ้งข้อบกพร่องให้เจ้าของทราบ เพื่อนำรถไปแก้ไขและกลับมาตรวจใหม่ หากนำมาตรวจซ้ำที่ ตรอ. เดิมภายใน 15 วัน จะเสียค่าบริการเพียงครึ่งหนึ่ง แต่หากเกิน 15 วัน หรือไปตรวจที่ ตรอ. อื่น จะเสียค่าบริการเต็มอัตรา

กรณีพิเศษที่ต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ กรมการขนส่งทางบก

นอกเหนือจากรถยนต์ที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป ยังมีรถยนต์อีกหลายกรณีที่ต้องนำเข้าตรวจสภาพ ณ หน่วยงานของกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น เนื่องจาก ตรอ. ไม่สามารถรับตรวจได้ ครอบคลุมถึง:

รถที่ดัดแปลงสภาพผิดไปจากที่ได้จดทะเบียนไว้ เช่น เปลี่ยนลักษณะรถ เปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง
รถที่เปลี่ยนสีหรือเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้ในสมุดคู่มือ
รถที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลขตัวรถหรือเลขเครื่องยนต์ เช่น ตัวเลขชำรุด เลือนลาง หรือมีร่องรอยการแก้ไข
รถที่เจ้าของได้แจ้งการไม่ใช้รถชั่วคราวหรือถาวรไว้
รถเก่าที่มีเลขทะเบียนรุ่นเก่า ซึ่งต้องเปลี่ยนเลขทะเบียนใหม่เมื่อมีการนำมาเสียภาษีประจำปี
รถที่ได้คืนจากการถูกโจรกรรม
รถที่สิ้นอายุภาษีประจำปี (ขาดต่อทะเบียน) เกิน 1 ปี

การเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ ตรอ. และการต่อภาษีรถยนต์จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่ารถของคุณพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัย และการขับขี่บนท้องถนนจะเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย ไร้กังวล อย่าลืม ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการต่อภาษีเสมอ

ตรวจสอบสถานะภาษีรถยนต์ของคุณ และวางแผนการ ตรวจสภาพรถยนต์ และ ต่อภาษีรถยนต์ ล่วงหน้า เพื่อให้การขับขี่ของคุณราบรื่นตลอดปี

Previous Post