ไขข้อข้องใจ “ค่าเสียหายส่วนแรก” ประกันรถยนต์: Deductible และ Excess ต่างกันอย่างไร?
by admin

รูปภาพ: รายละเอียดกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ที่แสดงค่าเสียหายส่วนแรกและเบี้ยประกัน
สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนน การทำประกันภัยรถยนต์ถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่หนึ่งในคำศัพท์ที่หลายคนอาจสับสนและสงสัยอยู่บ่อยๆ คือคำว่า “ค่าเสียหายส่วนแรก” ซึ่งจริงๆ แล้วมีสองประเภทหลักๆ ที่ทำงานแตกต่างกัน นั่นคือ ค่า Deductible และ ค่า Excess การทำความเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแผนประกันที่เหมาะสมและบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทำความเข้าใจ ค่าเสียหายส่วนแรก: Deductible และ Excess
ในวงการประกันภัยรถยนต์ คำว่า “ค่าเสียหายส่วนแรก” ถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทตามเงื่อนไขและที่มา ได้แก่
ค่า Deductible (ความรับผิดส่วนแรกภาคสมัครใจ)
ค่า Deductible คือจำนวนเงินที่คุณในฐานะผู้เอาประกันตกลงที่จะรับผิดชอบเองในแต่ละครั้งที่มีการเคลม โดยคุณสามารถเลือกที่จะมีหรือไม่ก็ได้ และสามารถกำหนดจำนวนเงินได้ตามแผนประกันที่บริษัทนำเสนอ การเลือกจ่ายค่า Deductible จะส่งผลให้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่คุณต้องจ่ายลดลง ยิ่งเลือก Deductible สูง เบี้ยประกันก็จะยิ่งถูกลง ถือเป็นข้อเสนอที่จูงใจสำหรับผู้ขับขี่ที่มีประวัติดีและมั่นใจในความระมัดระวัง
คุณจะต้องจ่ายค่า Deductible เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายผิด หรือเมื่อเกิดความเสียหายแต่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ เช่น ขับรถชนเสา ชนกำแพง หรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณีที่ชัดเจน หลังจากที่คุณจ่ายค่า Deductible ในจำนวนที่ตกลงไว้ ส่วนเกินจากนั้นบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมให้ทั้งหมด แต่หากคู่กรณีเป็นฝ่ายผิดและสามารถระบุตัวได้ คุณจะไม่ต้องจ่ายค่า Deductible แต่อย่างใด
ค่า Excess (ความรับผิดส่วนแรกภาคบังคับตาม คปภ.)
ค่า Excess คือ ค่าเสียหายส่วนแรกภาคบังคับตามประกาศของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้เอาประกันดูแลรักษารถยนต์ และใช้สิทธิ์เคลมในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น โดยปกติกำหนดไว้ที่ 1,000 บาทต่อเหตุการณ์ หรือต่อการเคลมหนึ่งครั้ง
คุณจะต้องจ่ายค่า Excess 1,000 บาท ในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อรถยนต์ แต่ไม่สามารถระบุคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะอีกฝ่ายหนึ่งได้ หรือไม่สามารถแจ้งถึงสาเหตุของความเสียหายที่ชัดเจนและแน่นอนได้ ตัวอย่างเช่น รอยขีดข่วนที่ไม่ทราบว่าโดนอะไรมา สะเก็ดหินกระเด็นใส่แล้วไม่เห็นรถที่ทำให้เกิดสะเก็ด หรือการชนแล้วหนีแต่ไม่สามารถจดจำรายละเอียดคู่กรณีได้ ซึ่งการเคลมประเภทนี้เรียกว่า การเคลมแห้ง (การเคลมที่ไม่มีคู่กรณี ณ จุดเกิดเหตุ)
รูปภาพ: รายละเอียดกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ที่แสดงค่าเสียหายส่วนแรกและเบี้ยประกัน
สรุป: จ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเมื่อไหร่?
เพื่อให้เห็นภาพรวมชัดเจนยิ่งขึ้น สรุปสถานการณ์ที่คุณอาจต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกทั้งสองประเภท:
- ต้องจ่าย Deductible: เมื่อคุณเลือกแผนประกันที่มีค่า Deductible และเกิดอุบัติเหตุที่คุณเป็นฝ่ายผิด หรือความเสียหายที่ไม่มีคู่กรณีที่สามารถระบุตัวได้
- ต้องจ่าย Excess: เมื่อเกิดความเสียหายกับรถที่คุณไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนหรือคู่กรณีที่เป็นยานพาหนะได้ เช่น รอยครูดที่ไม่รู้โดนอะไร หินกระเด็นใส่แล้วไม่เห็นรถคู่กรณี หรือชนแล้วหนีโดยไม่เห็นรายละเอียดรถคู่กรณี
- ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก: เมื่ออุบัติเหตุเกิดจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด และสามารถระบุตัวคู่กรณีพร้อมข้อมูลรถได้
ข้อดีของการเลือกจ่ายค่า Deductible
การเลือกจ่ายค่า Deductible มีข้อดีที่ชัดเจนคือช่วยให้คุณประหยัดค่าเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 ลงไปได้หลายพันบาทต่อปี ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้