บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
เปิดเทคนิคประหยัดเบี้ยประกันรถยนต์ ทำได้จริง ไม่ต้องลดความคุ้มครอง
by admin

การเลือกแผนประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการ
ค่าใช้จ่ายสำหรับการต่ออายุประกันภัยรถยนต์ในแต่ละปี ถือเป็นภาระพอสมควรสำหรับเจ้าของรถหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการความคุ้มครองครอบคลุมอย่างประกันชั้น 1 แต่ก็ยังรู้สึกว่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูง ในขณะที่บางคนอาจมองหาเบี้ยที่ถูกลง แต่อาจต้องแลกมาด้วยความคุ้มครองที่จำกัดลงไป เช่น ประกันชั้น 3 ที่คุ้มครองเฉพาะคู่กรณี ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิด อาจต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถตัวเอง แต่คุณทราบหรือไม่ว่า มีหลากหลายวิธีที่สามารถช่วยลดเบี้ยประกันรถยนต์ลงได้ โดยที่คุณยังคงได้รับความคุ้มครองที่ต้องการอยู่ ลองมาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรบ้างที่คุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้จริง
1. สะสมประวัติขับขี่ดี รับส่วนลดต่อเนื่อง
พฤติกรรมการขับขี่ของคุณมีผลโดยตรงต่อการคำนวณเบี้ยประกันภัย บริษัทประกันจะบันทึกประวัติการเคลมของคุณไว้ แม้จะมีการเปลี่ยนบริษัทประกัน ข้อมูลเหล่านี้ก็ยังสามารถนำมาพิจารณาได้ ตามหลักเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่มีประวัติขับขี่ดี ไม่มีเคลมที่ตนเป็นฝ่ายผิด จะได้รับส่วนลดเบี้ยประกันในปีถัดไป โดยส่วนลดจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนปีที่ขับขี่ดีต่อเนื่อง ดังนี้:
- ขับขี่ดีไม่มีเคลม (ฝ่ายผิด) 1 ปี ได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 20%
- ขับขี่ดีไม่มีเคลม (ฝ่ายผิด) 2 ปีติดต่อกัน ได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 30%
- ขับขี่ดีไม่มีเคลม (ฝ่ายผิด) 3 ปีติดต่อกัน ได้รับส่วนลดเบี้ยประกัน 40%
- ขับขี่ดีไม่มีเคลม (ฝ่ายผิด) 4 ปีติดต่อกันขึ้นไป ได้รับส่วนลดเบี้ยประกันสูงสุด 50%
ส่วนลดนี้จะคงอยู่ตราบเท่าที่คุณไม่มีการเคลมที่เกิดจากความผิดของคุณเอง ในทางกลับกัน หากมีการเคลมที่คุณเป็นฝ่ายผิด เบี้ยประกันในปีถัดไปอาจเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งและความรุนแรง แต่ถ้าหลังจากนั้นคุณกลับมาขับขี่ดี ไม่มีเคลม เบี้ยประกันก็จะค่อยๆ ลดลงอีกครั้งตามลำดับชั้นส่วนลด
2. ระบุชื่อผู้ขับขี่ ประหยัดได้อีก!
การระบุชื่อผู้ขับขี่หลักในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เบี้ยประกันถูกลงได้ การทำเช่นนี้ช่วยให้บริษัทประกันประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำขึ้น เนื่องจากทราบว่าใครคือผู้ที่ใช้งานรถเป็นประจำ ต่างจากการไม่ระบุชื่อซึ่งอาจมีใครก็ได้ขับ ทำให้มีความเสี่ยงที่หลากหลายกว่า อย่างไรก็ตาม การให้ส่วนลดจากการระบุชื่อผู้ขับขี่จะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ของผู้ที่ถูกระบุ เช่น อายุ ประวัติการขับขี่ เป็นต้น วิธีนี้จึงเหมาะกับรถยนต์ที่มีผู้ขับขี่ประจำไม่กี่คน
การเลือกแผนประกันรถยนต์ที่เหมาะสมกับความต้องการ
3. ติดตั้งกล้องติดรถยนต์ รับส่วนลดพิเศษ
เพื่อส่งเสริมการขับขี่ปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการพิสูจน์หลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สำนักงาน คปภ. ได้มีนโยบายให้ส่วนลดเบี้ยประกันสำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งกล้องติดรถยนต์ โดยบริษัทประกันหลายแห่ง รวมถึงรู้ใจ.คอม ได้ให้ส่วนลดค่าเบี้ยประกันสูงสุดถึง 10% สำหรับผู้ที่แจ้งและยืนยันการติดตั้งกล้องติดรถยนต์ นโยบายนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของคุณ แต่กล้องยังเป็นพยานสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการเคลมประกันเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายนี้ได้จากเว็บไซต์ของ คปภ. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยในประเทศไทย ดูข้อมูลเกี่ยวกับ คปภ. เพิ่มเติมได้ที่นี่
กล้องติดรถยนต์ ตัวช่วยลดเบี้ยประกันและหลักฐานเคลม
4. เลือกรับค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) อย่างชาญฉลาด
การเลือกรับค่าเสียหายส่วนแรก หรือที่เรียกว่า Deductible หรือ Excess เป็นอีกวิธีที่ลดเบี้ยประกันลงได้อย่างมาก หลักการคือ คุณตกลงที่จะรับผิดชอบค่าซ่อมรถส่วนแรกตามจำนวนที่ตกลงไว้ ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิดและมีการแจ้งเคลม หากคุณเลือกค่าเสียหายส่วนแรกไว้สูง เบี้ยประกันที่คุณต้องจ่ายก็จะถูกลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากเกิดอุบัติเหตุที่คุณเป็นฝ่ายผิด คุณก็ต้องจ่ายเงินส่วนแรกตามที่เลือกไว้ก่อน ส่วนที่เหลือบริษัทประกันจะรับผิดชอบ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่มั่นใจในความปลอดภัยของตนเองและไม่ค่อยมีการเคลม แต่สิ่งสำคัญคือ คุณจะไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกนี้ หากคุณเป็นฝ่ายถูกในอุบัติเหตุนั้นๆ การทำความเข้าใจเรื่อง ค่าเสียหายส่วนแรก จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแผนประกันที่คุ้มค่ากับสไตล์การขับขี่ของคุณได้
