บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
7 ข้อผิดพลาดในการขับขี่ ที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ (เพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน)
by admin
การขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนเป็นกิจวัตรที่เราคุ้นเคย แต่บ่อยครั้งที่เราอาจมองข้ามข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ แม้หลายคนจะมั่นใจในประสบการณ์ขับขี่ของตัวเอง แต่การทบทวนและปรับปรุงพฤติกรรมอยู่เสมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อความปลอดภัยของตนเองและผู้ร่วมทาง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่นหรือต้องเดินทางไกล การตระหนักถึงข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและรู้วิธีแก้ไขอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ทุกการเดินทางราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น
เพิ่มความปลอดภัย: เข้าใจและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการขับขี่
อุบัติเหตุบนท้องถนนส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากปัจจัยภายนอกทั้งหมด แต่อาจมีสาเหตุมาจากการตัดสินใจหรือการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมของผู้ขับขี่เอง บทความนี้จะชวนคุณมาสำรวจ 7 ข้อผิดพลาดทั่วไปในการขับขี่ที่ทั้งมือใหม่และมือเก๋าอาจเผลอทำโดยไม่รู้ตัว พร้อมแนะนำแนวทางแก้ไขเพื่อเสริมสร้างนิสัยการขับขี่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
ข้อผิดพลาดในการขับขี่ที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้ไข
การปรับกระจกมองข้างและมองหลังไม่ถูกต้อง
กระจกมองข้างและกระจกมองหลังคือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขยายทัศนวิสัยรอบตัวรถ การปรับที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดจุดบอดขนาดใหญ่ซึ่งอาจบดบังรถคันอื่น โดยเฉพาะขณะเปลี่ยนเลน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเฉี่ยวชน การปรับกระจกให้ถูกต้องก่อนออกเดินทางทุกครั้งจึงเป็นสิ่งจำเป็น
วิธีปรับกระจกที่ถูกต้อง:
- กระจกมองข้าง: ปรับให้ตั้งฉากกับตัวรถมากที่สุด เพื่อให้เห็นมุมกว้างด้านข้างและด้านหลัง โดยเห็นตัวรถของเราเองเพียงเล็กน้อยหรือไม่เห็นเลย วิธีนี้จะช่วยลดจุดบอดด้านข้างได้อย่างมีนัยสำคัญ
- กระจกมองหลัง: ปรับให้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นด้านหลังได้กว้างที่สุด โดยไม่มีสิ่งใดมาบดบัง เพื่อใช้ประเมินสถานการณ์รถที่ตามมาได้อย่างชัดเจน
การปรับกระจกอย่างใส่ใจช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของการจราจรได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจที่ผิดพลาดเมื่อต้องเปลี่ยนเลนหรือเลี้ยว
ท่าทางการนั่งขับรถที่ไม่เหมาะสม
ท่านั่งขับรถไม่เพียงแค่ส่งผลต่อความสบาย แต่ยังสำคัญต่อความสามารถในการควบคุมรถและปฏิกิริยาตอบสนอง ท่านั่งที่เอนเกินไปหรือห่างจากพวงมาลัยมากเกินไป อาจทำให้การเหยียบเบรกหรือคันเร่งทำได้ช้าลง ทัศนวิสัยลดลง และยังส่งผลเสียต่อสุขภาพหลังและกล้ามเนื้อ
ท่านั่งขับรถที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร:
- ปรับระยะห่างเบาะให้สามารถเหยียบแป้นต่างๆ ได้สุดและควบคุมพวงมาลัยได้อย่างถนัด โดยแขนงอเล็กน้อยเมื่อจับพวงมาลัย
- ปรับความสูงเบาะให้มองเห็นถนนและอุปกรณ์ต่างๆ ได้ชัดเจน หลังตรง ไม่ต้องชะเง้อคอ
- ปรับเบาะพิงศีรษะให้อยู่ในระดับเดียวกับหู และห่างจากศีรษะไม่เกิน 2 นิ้ว เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่คออย่างวิพแลชหากถูกชนท้าย อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Whiplash
ท่านั่งที่เหมาะสมช่วยให้คุณผ่อนคลายแต่ยังคงความพร้อมในการควบคุมรถในทุกสถานการณ์
การเลือกใช้รองเท้าขับรถ และการจัดเก็บสิ่งของ
รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าแตะหลวมๆ หรือรองเท้าส้นสูง อาจเลื่อนหลุดเข้าไปขัดกับแป้นเบรกหรือคันเร่ง ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ ในขณะที่รองเท้าส้นหนาหรือพื้นแข็งเกินไป อาจทำให้กะน้ำหนักในการเหยียบแป้นต่างๆ ได้ยาก นอกจากนี้ สิ่งของที่วางเกะกะในรถ เช่น ขวดน้ำ โทรศัพท์ หรือกระเป๋า หากเบรกกะทันหัน สิ่งเหล่านี้อาจพุ่งเข้ากระแทกผู้ขับขี่หรือกีดขวางการควบคุมรถได้
ข้อควรจำ:
- เลือกรองเท้าที่มีพื้นบาง กระชับเท้า และไม่ลื่น เพื่อให้สัมผัสและควบคุมแป้นต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
- จัดเก็บสิ่งของในรถให้เป็นที่เป็นทาง ไม่วางไว้บนพื้นรถ เบาะ หรือบริเวณที่อาจกลิ้งหรือตกหล่นไปกีดขวางการควบคุมรถได้
การใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงจากสิ่งรบกวนและเพิ่มสมาธิในการขับขี่
การใช้โทรศัพท์มือถือขณะจอดติดไฟแดง
แม้จะจอดนิ่ง แต่การก้มมองหรือใช้งานโทรศัพท์มือถือขณะติดไฟแดงคือการละสายตาจากสภาพแวดล้อมโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง คุณอาจพลาดการสังเกตสัญญาณไฟ การเคลื่อนที่ของรถรอบข้าง หรือที่สำคัญที่สุดคือรถคันหลังที่อาจขับมาโดยประมาทหรือหลับในและพุ่งชนท้ายคุณได้
สิ่งที่ควรทำขณะจอดติดไฟแดง:
- ตั้งสติ มองตรงไปข้างหน้า และใช้กระจกมองหลัง/มองข้างเพื่อสังเกตการณ์รถคันหลังและรถที่อยู่ข้างเคียง
- หากสังเกตเห็นรถคันหลังขับมาด้วยความเร็วและไม่มีแนวโน้มที่จะหยุด ควรเตรียมพร้อมเสมอ อาจลองขยับรถไปข้างหน้าเล็กน้อยหากมีพื้นที่ หรือเตรียมรับแรงกระแทกโดยเหยียบเบรกให้แน่นและเกร็งร่างกายเพื่อลดการบาดเจ็บ
การใช้เบรคอย่างต่อเนื่องขณะขับรถลงทางลาดชัน
การขับรถลงเขาที่ลาดชันและคดเคี้ยว การเหยียบเบรกแช่เป็นเวลานานจะทำให้ผ้าเบรกและจานเบรกเกิดความร้อนสะสมสูงเกินไป จนประสิทธิภาพในการจับตัวลดลง หรือที่เรียกว่าเบรกเฟด (Brake Fade) ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์เบรกแตกที่อันตรายถึงชีวิตได้
วิธีขับรถลงทางลาดชันอย่างปลอดภัย:
- ใช้ “เอนจิ้นเบรก” หรือการใช้กำลังเครื่องยนต์ช่วยหน่วงความเร็ว โดยเปลี่ยนไปใช้เกียร์ต่ำ (L, 1, 2 หรือ S ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) เพื่อให้เครื่องยนต์ช่วยชะลอรถ ลดภาระของระบบเบรกหลัก
- แตะเบรกเป็นระยะๆ เมื่อต้องการลดความเร็วเพิ่มเติมเท่านั้น หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกค้างยาว
- ห้ามใช้เกียร์ว่าง (N) ลงเขาเด็ดขาด เพราะรถจะไหลเร็วและควบคุมได้ยาก
- รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ เพื่อมีเวลาและระยะทางในการหยุดรถหากจำเป็น
ปัญหาการขับขี่ในวงเวียน: สับสนและเบียดแซง
วงเวียนมักสร้างความสับสนให้กับผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน การเข้าวงเวียนผิดจังหวะ หรือพยายามเบียดแซงรถคันอื่นในวงเวียน เป็นสาเหตุของอุบัติเหตุและการจราจรที่ติดขัด
การขับรถในวงเวียนที่ถูกต้อง:
- ศึกษาป้ายบอกทางก่อนเข้าวงเวียน เพื่อเลือกเลนที่ถูกต้องสำหรับการออกในทางที่ต้องการ
- ให้สิทธิรถที่อยู่ในวงเวียนไปก่อนเสมอ ก่อนที่เราจะขับเข้าวงเวียน
- เมื่ออยู่ในวงเวียน หากต้องการเปลี่ยนเลนเพื่อเตรียมออกในช่องทางที่ถูกต้อง ให้เปิดไฟเลี้ยวและรอจังหวะอย่างนุ่มนวล อย่าตัดหน้ารถคันอื่น
- เปิดไฟเลี้ยว เมื่อจะออกจากวงเวียน เพื่อให้รถคันอื่นที่รออยู่นอกวงเวียนทราบว่าเรากำลังจะออก
- หากขับเลยทางออกที่ต้องการไปแล้ว อย่าตกใจ ให้วนในวงเวียนต่อไปอีกรอบอย่างปลอดภัย
การใช้เกียร์ P บนทางลาดชันหรือทางวน
การจอดรถบนทางลาดชันหรือทางวน โดยเฉพาะในลานจอดรถของอาคารต่างๆ แล้วเปลี่ยนเกียร์ไปที่ตำแหน่ง P ทันที อาจทำให้กลไกสลักล็อคเกียร์ (Parking Pawl) รับน้ำหนักรถทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องและอาจทำให้ระบบเกียร์เสียหายได้ อีกทั้งยังอาจทำให้รถไหลได้หากความลาดชันไม่มากพอที่ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (ถ้ามี) จะทำงาน
วิธีจัดการสถานการณ์รถติดบนทางลาดชัน/ทางวน:
- ใช้เบรกเท้าเหยียบให้แน่นเพื่อหยุดรถ
- หากต้องจอดนาน หรือรู้สึกไม่มั่นใจ ควรดึงเบรกมือช่วย เพื่อกระจายแรงและป้องกันรถไหล
- เมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ ปล่อยเบรกมือ (หากใช้) พร้อมกับค่อยๆ เหยียบคันเร่ง รถจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวลโดยไม่พุ่ง
- รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าเสมอ เพื่อให้มีพื้นที่ในการออกตัวและหยุดรถอย่างปลอดภัย
ขับขี่อย่างมั่นใจ ด้วยความเข้าใจและเตรียมพร้อม
การขับขี่ปลอดภัยเริ่มต้นที่ตัวผู้ขับขี่เอง การตระหนักถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ถูกต้องตามหลักสากล จะช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนนได้อย่างมหาศาล การเตรียมพร้อมทั้งร่างกาย สภาพรถ และความเข้าใจในกฎจราจรและมารยาทการขับขี่ที่ดี คือกุญแจสำคัญ
เพื่อให้ทุกการเดินทางราบรื่นไร้กังวล นอกจากการขับขี่ที่ถูกวิธี การมีหลักประกันที่ครอบคลุมก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองพิจารณา ประกันรถยนต์ ที่ให้ความ