บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
อยากมีบ้านต้องรู้! ส่องสูตรคำนวณกู้เงินซื้อบ้านสุด EASY
Posted On 12 กรกฎาคม 2567
บ้านคือหนึ่งในความฝันหรือเป้าหมายการเงินของใครหลาย ๆ คน ที่อยากจะมีบ้านสักหลัง ซึ่งเป็นบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ใช้เวลากับครอบครัวและสร้างความทรงจำอันล้ำค่าร่วมกัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจะวางแผนซื้อบ้านสักหลังให้ได้นั้น ต้องใช้เงินก้อนค่อนข้างใหญ่จึงต้องวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านเป็นระยะเวลาหลายสิบปี ดังนั้นการกู้เงินซื้อบ้านจากธนาคาร จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้เราสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ทันที
แต่หนึ่งคำถามที่มักจะมีอยู่ในใจก็คือ “ถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีเงินเดือนเท่านี้ จะกู้เงินซื้อบ้านได้เท่าไร?” วันนี้ Krungsri The COACH จะพาทุกคนมาส่องดูสูตรคำนวณสุด EASY EASY กันครับ ว่าหากเรามีเงินเดือนเท่านี้ สามารถกู้เงินซื้อบ้านในฝันได้สูงสุดเท่าไร พร้อมวิธีวางแผนผ่อนบ้านเดือนละเท่าไหร่ให้เหมาะสมกับรายได้ เพื่อให้ชาวมนุษย์เงินเดือนมีแนวทางที่ชัดเจนในการกู้เงินซื้อบ้านและบรรลุเป้าหมายมีบ้านเป็นของตัวเองกัน
ส่องสูตรคำนวณสุด EASY เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่?
เมื่อคิดจะกู้เงินซื้อบ้าน ารคำนวณวงเงินกู้เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยวางแผนได้ดีขึ้น โดยสูตรคำนวณวงเงินกู้ที่ใช้คำนวณเบื้องต้นได้ก็คือ (รายได้ของผู้กู้ x 40%) x 150 ซึ่งวงเงินกู้ ที่ได้จากการคำนวณนี้ สามารถนำไปประมาณการกำหนดงบเบื้องต้นได้
ตัวอย่างการคำนวณ
ตัวอย่างที่ 1 พนักงานออฟฟิศ มีเงินเดือน 30,000 บาท
วงเงินที่ขอกู้ซื้อบ้านได้ประมาณ : (30,000 x 40%) x 150 = 1,800,000 บาท
ตัวอย่างที่ 2 พนักงานออฟฟิศ มีเงินเดือน 50,000 บาท
วงเงินที่ขอกู้ซื้อบ้านได้ประมาณ : (50,000 x 40%) x 150 = 3,000,000 บาท
นอกจากการคำนวณวงเงินกู้แล้ว แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องรู้และมีความสำคัญมาก คือการประเมินจำนวนเงินค่างวดที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนเป็นเท่าไร Krungsri The COACH ขอแนะนำตัวช่วยในเรื่องนี้ ซึ่งจะช่วยคำนวณทั้งวงเงินกู้และค่างวดที่ต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนด้วย ซึ่งก็คือความสามารถในการกู้นั่นเอง โดยทำผ่าน เครื่องคำนวณความสามารถในการกู้ของธนาคารกรุงศรี
- ระบุรายได้ต่อเดือน (รวมรายได้ผู้กู้ร่วม (ถ้ามี))
- ระบุภาระหนี้ต่อเดือน (ถ้ามี)
- ระบุระยะเวลาที่ขอกู้ (ปี)
- กดคำนวณ
ระบุข้อมูลให้ครบทุกช่องเพื่อคำนวณวงเงินกู้ซื้อบ้านสูงสุด
- รายได้ต่อเดือน 30,000 บาท
- ภาระหนี้ต่อเดือน 0 บาท
- ระยะเวลาที่ขอกู้ 30 ปี
จากนั้น ระบบจะคำนวณวงเงินสูงสุดที่สามารถขอได้คือ 3,269,900 บาท และยอดผ่อนชำระต่อเดือน 19,500 บาท ในระยะเวลาที่กู้ 30 ปี
ตัวอย่าง ตารางเปรียบเทียบรายได้กับวงเงินกู้ซื้อบ้านสูงสุดและยอดผ่อนชำระต่อเดือน
หมายเหตุ
- ผลการคำนวณข้างต้นเป็นการคำนวณผ่าน เครื่องคำนวณความสามารถในการกู้ของธนาคารกรุงศรีฯ และเป็นเพียงการคำนวณเบื้องต้นเท่านั้น อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขของธนาคาร
- โปรดตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเภทผลิตภัณฑ์และประเภทหลักประกันและเงื่อนไขอื่น ๆ จากเจ้าหน้าที่ธนาคาร
- การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
3 สิ่งที่มีผลต่อการกำหนดงบประมาณในการกู้เงินซื้อบ้าน
1. ทำเลที่ตั้ง
ทำเลที่ตั้งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อบ้าน เพราะต้องอาศัยอยู่บ้านและสภาพแวดล้อมรอบเป็นอีกหลายปี หากเป็นบ้านที่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก ราคาก็จะสูงกว่าบ้านที่อยู่ชานเมือง
2. ขนาดของที่อยู่อาศัย
ขนาดบ้านที่ต้องการจะซื้อส่งผลโดยตรงต่อราคาและจำนวนเงินที่ต้องกู้ บ้านที่มีขนาดใหญ่ก็จะมีราคาที่สูงมากขึ้น ดังนั้นต้องพิจารณาถึงขนาดบ้านและพื้นที่ใช้สอย และจำนวนผู้อยู่อาศัยในบ้านหลังนั้นด้วย
3. สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่
บ้านที่อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ย่อมจะมีราคาที่สูงกว่า เช่น ใกล้แหล่งศูนย์การค้า สถานศึกษา สวนสาธารณะ รวมถึงการเดินทางสะดวกเพราะใกล้ทางด่วนหรือแนวรถไฟฟ้า
ทำเล | คอนโด | ทาวน์โฮม | บ้านเดี่ยว |
---|---|---|---|
เมืองชั้นใน | 6.2 | 13.0 | 27.0 |
เมืองชั้นกลาง | 3.4 | 4.0 | 11.5 |
วงแหวนฝั่งตะวันออก | 2.1 | 3.0 | 7.5 |
วงแหวนฝั่งตะวันตก | 2.1 | 2.7 | 6.6 |
ตารางราคาบ้านเฉลี่ยในกรุงเทพฯ (ล้านบาท)
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บ TerraBKK ณ วันที่ 11/10/2017
รู้งบราคาบ้านเบื้องต้นแล้ว จะต้องวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านอย่างไร
เมื่อทราบราคาบ้านเบื้องต้นแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนเก็บเงินซื้อบ้านและกู้เงินซื้อบ้านให้เหมาะสมกับรายได้ โดยขอแนะนำ 5 ไอเดียในการวางแผนเก็บเงินกู้ซื้อบ้านในฝัน ได้แก่