บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
11 วิธีเลือกนายหน้าขายบ้านมือโปร
อัปเดตล่าสุด 16 มีนาคม 2568 • ใช้เวลาอ่าน 1 นาทีผู้ขาย

นายหน้าถือเป็นผู้ช่วยจำเป็นสำหรับผู้ที่กำลังจะขายบ้านให้ได้ราคาดีอย่างสะดวกและรวดเร็ว ด้วยข้อดีมากมายจากการให้นายหน้าขายบ้าน จึงมีเจ้าของบ้านจำนวนไม่น้อยที่เจาะจงใช้บริการทั้งจากบริษัทนายหน้าขายบ้านและที่ดินและนายหน้าขายบ้านอิสระ
แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมในการขายบ้านทุกหลัง เพราะบ้านแต่ละหลังมีปัจจัยแตกต่างกันและเจ้าของบ้านแต่ละคนก็อาจมีความต้องการไม่เหมือนกันด้วย ต้องการนายหน้าเก่ง ๆ ที่เหมาะกับคุณ ไม่ยาก ตามไปดูวิธีเลือกนายหน้ามือโปรกันเลย
1. ความรู้และประสบการณ์ขายบ้าน
ควรสอบถามเกี่ยวกับระยะเวลาทำงาน ขอดูผลงานขายบ้านที่แสดงถึงความสำเร็จ รวมทั้งสอบถามดูความรู้ทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการขายบ้าน ได้แก่
– การประเมินข้อดี-ข้อด้อยของบ้าน โดยต้องมองออกว่าจุดไหนที่จะทำให้ขายบ้านได้ราคาดี จุดไหนมีผลให้ราคาบ้านต่ำลง และจุดไหนที่สามารถปรับปรุงเพื่อให้ขายบ้านในราคาสูงขึ้นได้
– การประเมินราคาขาย โดยต้องทราบราคาขายโดยทั่วไปในตลาดและสามารถตั้งราคาได้อย่างเหมาะสม
– การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย โดยสามารถทราบว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพตามความเหมาะสมของบ้านและราคา
– การทำการตลาด โดยควรทำได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อใช้ช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพได้อย่างเต็มที่
– การอำนวยความสะดวกในการซื้อขาย โดยสามารถให้คำแนะนำ เตรียมเอกสาร ช่วยผู้ซื้อเดินเรื่องการขอสินเชื่อกับธนาคาร ตลอดจนช่วยจัดการทำสัญญาซื้อขายบ้านและโอนกรรมสิทธิ์ได้
นายหน้าอสังหาฯ แนะนำ
ค้นหานายหน้าอสังหาฯ ทั่วประเทศ แบ่งตามแต่ละจังหวัด
2. ความรู้ความชำนาญในพื้นที่
นายหน้าขายบ้านจำเป็นต้องรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี เพื่อทำการตลาดหาผู้ซื้อที่เหมาะสม สามารถให้ข้อมูล ตอบข้อซักถาม โน้มน้าวใจผู้ที่สนใจซื้อ รวมไปถึงอำนวยความสะดวกเรื่องซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ในพื้นที่นั้นได้อย่างรวดเร็ว
หากจะใช้บริการบริษัทนายหน้าขายบ้าน ทางบริษัทก็จะมีคนในสังกัดทำงานประจำพื้นที่อยู่แล้ว แต่หากจะใช้บริการนายหน้าขายบ้านอิสระ ก็ต้องสอบถามประวัติและประสบการณ์ทำงานในพื้นที่ที่ต้องการขายบ้าน

3. ทักษะการสื่อสาร
การสื่อสารถือเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งของนายหน้าขายบ้านมือฉมัง เพราะทุกอย่าง ตั้งแต่การตกลงเป็นตัวแทนขายบ้าน การโฆษณาบ้าน การติดต่อพูดคุยกับผู้ที่สนใจซื้อ การเตรียมเอกสาร และการทำสัญญา ต้องอาศัยทักษะการสื่อสารเพื่อความเข้าใจ การโน้มน้าวใจ และความราบรื่น หากระหว่างที่กำลังเจรจาและเตรียมตกลงที่จะให้เป็นนายหน้าขายบ้าน แล้วทำให้คุณไม่รู้สึกไม่มั่นใจและไม่อยากร่วมงานด้วย ก็ลืมนายหน้ารายนี้ไปได้เลย
4. ฐานลูกค้า
ในขณะที่แจ้งความสนใจใช้บริการและให้ข้อมูลเกี่ยวกับบ้าน ลองถามดูว่ามีเครือข่ายลูกค้าและช่องทางการเข้าถึงผู้ที่สนใจซื้อบ้านหรือไม่ โดยทั่วไป นายหน้าขายบ้านที่มีชั่วโมงบินสูงและมีความรู้ความชำนาญในพื้นที่มักมีเครือข่ายลูกค้าที่น่าจะเป็นผู้ซื้อได้อยู่แล้ว รวมทั้งยังมีช่องทางฝากประชาสัมพันธ์และฝากขายหลายช่องทาง ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงผู้ที่มีศักยภาพซื้อได้หลายคน และช่วยให้ขายบ้านได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
5. การทำงานเชิงรุก
ผู้ที่จะขายบ้านได้ต้องมองหาช่องทางขาย นำเสนอบ้าน ติดตามผู้ที่สนใจซื้อ และอำนวยความสะดวกเพื่อช่วยให้ปิดการขายได้อย่างราบรื่น เช่น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกธนาคารที่จะกู้ซื้อบ้าน ดังนั้นจึงควรเลือกนายหน้าขายบ้านที่มีความกระตือรือร้น เช่น มีใจบริการให้ข้อมูล แสดงความสนใจติดตาม และมักสอบถามเพื่อวางแผนและเตรียมการต่าง ๆ ล่วงหน้า
6. ค่าบริการ
ค่านายหน้าอยู่ที่ 3-5% ของราคาซื้อขายจริง ขึ้นอยู่มูลค่าของบ้าน ความยากง่าย และกรอบระยะเวลาการทำงาน แต่โดยทั่วไปคิดอัตราค่านายหน้าที่ 3% ของราคาซื้อขายจริง หากนายหน้าขายบ้านขอมากกว่า 3% คุณควรถามเหตุผลและคำนวณดูว่าคุ้มหรือไม่ที่จะต้องจ่าย
ทั้งนี้ อัตราค่านายหน้านั้นมีความแตกต่างกันไปบ้างตามแต่ละพื้นที่ และบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (โบรกเกอร์) โดยสรุปได้คร่าว ๆ ดังนี้
ทำเล | ค่านายหน้า |
กรุงเทพฯ | 3% |
เชียงใหม่ | 3% |
ภูเก็ต |