บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
อัปเดตค่านายหน้าซื้อ-ขายอสังหาฯ ปี 2568
อัปเดตล่าสุด 18 ธันวาคม 2567 • ใช้เวลาอ่าน 1 นาทีผู้ขาย

การใช้บริการนายหน้าหรือตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วยในการดำเนินการขายบ้าน ขายทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม ขายคอนโด หรือขายที่ดิน เป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์สามารถขายได้เร็วขึ้น ในราคาที่เหมาะสม รวมทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกในการพาผู้สนใจซื้อเข้าชมอสังหาริมทรัพย์
ที่สำคัญคือนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการซื้อขายจะช่วยเหลือในเรื่องเอกสาร และขั้นตอนซื้อขายให้ได้รับความสะดวกสบาย แต่การค่าใช้จ่ายจากการใช้บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์นั้นก็จำเป็นจะต้องเสียค่าบริการให้กับนายหน้าด้วย หรือที่เรียกกันว่า “ค่านายหน้า”
นายหน้าอสังหาฯ แนะนำ
ค้นหานายหน้าอสังหาฯ ทั่วประเทศ แบ่งตามแต่ละจังหวัด
ค่าใช้จ่ายจากการใช้บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ หรือค่านายหน้านั้นก็คือค่าตอบแทนซึ่งเจ้าของอสังหาริมทรัพย์จ่ายให้แก่นายหน้าเมื่อสามารถขายอสังหาริมทรัพย์นั้นออกไปได้สำเร็จ ภายในระยะเวลาและเงื่อนไขอื่น ๆ ที่กำหนดเอาไว้ในสัญญานายหน้าอสังหาริมทรัพย์
สัญญานายหน้าอสังหาริมทรัพย์เป็นสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และนายหน้า โดยมีใจความส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงค่าตอบแทนที่นายหน้าจะได้รับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีการระบุเป็นจำนวนเงิน หรืออัตราส่วนจากราคาขาย รวมไปถึงรูปแบบและวิธีการจ่ายค่าตอบแทนและการหักภาษี ณ ที่จ่ายอีกด้วย

รู้เรื่องสัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาฯ
สัญญานายหน้าและตัวแทนอสังหาฯ 8 ส่วนสำคัญที่ต้องระบุให้ชัดในสัญญา
โดยทั่วไปตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ในการใช้บริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขายอสังหาริมทรัพย์ นายหน้าจะได้รับค่าตอบแทนในอัตรา 3% ของราคาขาย เช่น หากขายบ้านในราคา 3 ล้านบาท นายหน้าจะได้รับค่าตอบแทน 3% ของ 3 ล้านบาท ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนเงิน 90,000 บาท

ค่านายหน้าอสังหาฯ มีวิธีคำนวณอย่างไร
คอมมิชชั่น ค่านายหน้าอสังหาฯ 3% จากราคาขาย มีวิธีคำนวณอย่างไร
ทั้งนี้อัตราค่านายหน้าอสังหาริมทรัพย์นั้นมีความแตกต่างกันไปบ้างตามแต่ละพื้นที่ และบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ (โบรกเกอร์) ซึ่ง DDproperty สำรวจพบข้อมูลในปี 2568 ดังนี้
ทำเล | ค่านายหน้าอสังหา 2568 |
กรุงเทพฯ | 3% |
เชียงใหม่ | 3% |
ภูเก็ต | 3% |
หัวหิน | 3% |
อุดรธานี | 3% |
พัทยา | 3-10% |
หมายเหตุ: ค่านายหน้าข้างต้นเป็นเพียงค่าบริการโดยทั่วไปเท่านั้น ก่อนใช้บริการควรสอบถามนายหน้าอีกครั้งหนึ่ง
เลือกนายหน้าที่มีความน่าเชื่อถือ
สำหรับผู้ที่กำลังใช้บริการเอเจนต์แต่ไม่แน่ใจว่าจะเลือกอย่างไรดี ทาง DDproperty มองเห็นถึงความสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ที่ต้องการผู้ช่วยสำคัญอย่างเอเจนต์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขาย-เช่า จึงได้ริเริ่มโครงการ “การยืนยันตัวตนเอเจนต์ (Agent Verification)” เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเอเจนต์
Agent Verification คืออะไร
Agent Verification คือ โปรแกรมการยืนยันตัวตนและการรับรองเอเจนต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อให้กับเอเจนต์ โดยแบ่งเป็น

Agent Verification (การยืนยันตัวตนเอเจนต์) และ Agency Verification (การยืนยันตัวตนของบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ) จะช่วยให้แพลตฟอร์มของเรามีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยมากขึ้น เราจึงให้เอเจนต์ลงทะเบียนยืนยันตัวตนและแสดงข้อมูลการติดต่อ โดยใช้หลักฐานดังนี้
- เอกสารทางราชการที่มีรูปถ่าย เช่น บัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต พร้อมถ่ายหน้าเอเจนต์และบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน
- Line ID
- เบอร์โทรศัพท์
- อีเมล
หากเป็นเอเจนต์ที่มีสังกัดบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ จะต้องส่งเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งด้านล่างนี้ เพื่อระบุบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ ที่สังกัดอยู่ได้อย่างถูกต้อง
- หนังสือรับรองการเป็นเอเจนต์ของบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ ที่สังกัดอยู่ หรือ
- นามบัตรที่ออกให้โดยบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ หรือนามบัตรที่ใช้รูปแบบของบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ หรือ
- ใบสลิปค่าคอมมิชันที่แสดงชื่อบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ และชื่อของเอเจนต์
ส่วนการยืนยันตัวตนของบริษัทเอเจนต์อสังหาฯ จะต้องยื่นเอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองบริษัท หรือ ภ.พ.20
- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท
- Official Account Line ID (หรือ Facebook/LinkedIn ของบริษัท)
- อีเมล
ทั้งหมดนี้จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าเอเจนต์บนเว็บไซต์ DDproperty ที่ผ่านการลงทะเบียนโปรแกรมดังกล่าวข้างต้น มีความน่าเชื่อถือในการที่จะช่วยให้คุณซื้อ-ขาย-เช่าได้อย่างมั่นใจ
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ