บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
คู่มือซื้อขายเตรียมตัวก่อนซื้อส่องโอกาสทองคนซื้อบ้านปี 2568 วางแผนเลือกบ้านใหม่อย่างไรให้คุ้มค่า
ส่องโอกาสทองคนซื้อบ้านปี 2568 วางแผนเลือกบ้านใหม่อย่างไรให้คุ้มค่า
อัปเดตล่าสุด 29 พฤษภาคม 2568 • ใช้เวลาอ่าน 2 นาทีซื้อบ้านหลังแรก

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ถือเป็นปีแห่งการปรับตัวทั้งในฝั่งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ แม้จะมีความท้าทายแต่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างน่าสนใจ
ความต้องการซื้อ-เช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
แม้ว่าจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาและเกิดแรงสั่นสะเทือนที่รับรู้ได้ในไทยเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 แต่ข้อมูลจากผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ DDproperty ในเดือนเมษายน 2568 พบว่า จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 7% จากเดือนก่อนหน้า (MoM) และเพิ่มขึ้นถึง 25% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY)
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ พบว่า ความต้องการซื้อคอนโดลดลง 14% MoM เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาคารสูงเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหว
ส่งผลให้ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบได้รับอานิสงส์ โดยความต้องการซื้อบ้านเดี่ยวในกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น 8% MoM และทาวน์โฮมเพิ่มขึ้น 6% MoM
ทั้งนี้ ความต้องการซื้อส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีสัดส่วนถึง 46% แต่ระดับราคาที่มีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นมากที่สุด ได้แก่ ระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% MoM
ขณะที่ความต้องการเช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 23% MoM โดยเพิ่มขึ้นทุกรูปแบบที่อยู่อาศัย ทาวน์โฮมเพิ่มขึ้นมากที่สุด 31% MoM ตามมาด้วยคอนโด เพิ่มขึ้น 23% MoM และบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 11% MoM
ส่วนระดับค่าเช่าส่วนใหญ่อยู่ที่ 10,000-20,000 บาท/เดือน มีสัดส่วน 36% โดยระดับค่าเช่าที่มีความต้องการเช่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ มากกว่า 30,000 บาท/เดือน เพิ่มขึ้น 28% MoM
ปัจจัยบวกสร้างโอกาสทองให้ผู้ซื้อบ้าน-คอนโด ปี 2568
ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการอสังหาฯ ของภาครัฐ ประกอบกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นโอกาสทองของผู้ที่มีความพร้อมทางการเงินในการซื้อที่อยู่อาศัย โดยมี 3 ปัจจัยบวกที่น่าสนใจ ดังนี้
1. มาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ แรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาด
ภาคอสังหาฯ ยังคงเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ผ่านมาตรการที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อให้คนหาบ้านเป็นเจ้าของที่อาศัยได้ง่ายขึ้น ดังนี้
– มาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% (จากปกติ 2%) และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาฯ อันเนื่องมาจากการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในคราวเดียวกัน เหลือ 0.01% (จากปกติ 1%) สำหรับราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท มีผลใช้บังคับไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569
– ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan-to-Value: LTV) เป็นการชั่วคราว โดยกำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็น 100%
สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกรณี (1) มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป และ (2) มูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569
– สินเชื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินของรัฐ ประกอบด้วย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.), ธนาคารออมสิน และการเคหะแห่งชาติ ที่ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษ หรือมีเงื่อนไขผ่อนปรนอื่น ๆ เช่น ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวนานขึ้น วงเงินกู้ที่สูงขึ้น หรือการผ่อนปรนหลักเกณฑ์ในการพิจารณาสินเชื่อ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึง
– โครงการบ้านเพื่อคนไทย เน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาประหยัด (Affordable Housing) ในพื้นที่ศักยภาพที่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเช่าซื้อได้ในระยะเวลา 99 ปี โดยมีอัตราผ่อนเริ่มต้นประมาณ 4,000 บาท/เดือน ระยะเวลาผ่อนชำระ 30-50 ปี และยังมีการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.5%

อัปเดตมาตรการรัฐ
อัปเดตมาตรการรัฐ ช่วยซื้อบ้าน-คอนโด มาตรการไหนเหมาะสำหรับคุณ
2. อัตราดอกเบี้ยลดลงต่อเนื่อง แบ่งเบาภาระคนผ่อนบ้าน
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.75% ต่อปี (ประกาศ ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2568) หลังจากที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน
เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงตามไปด้วย และช่วยลดภาระการผ่อนชำระหนี้ในแต่ละงวด ทำให้ผู้ซื้อมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นและสามารถนำเงินส่วนต่างไปใช้จ่ายอื่น ๆ ได้

ดอกเบี้ยขึ้น 1% ต้องจ่ายเพิ่มเท่าไหร่
หากดอกเบี้ยบ้านปรับขึ้น 1% คุณต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านเพิ่มเท่าไหร่?
3. ผู้พัฒนาอสังหาฯ จัดเต็มโปรโมชั่นสุดคุ้ม
บริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯ ต่างแข่งขันนำเสนอโปรโมชั่นที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการมอบส่วนลดพิเศษ ฟรีค่าส่วนกลาง ของแถมต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งโปรโมชั่นช่วยผ่อนดาวน์ และการเช่าออมบ้านเพื่อให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ ผู้พัฒนาอสังหาฯ ยังได้จับมือกับธนาคารเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นสินเชื่อที่มาพร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่คุ้มค่า และช่วยลดค่าใช้จ่ายบางส่วนอีกด้วย
5 ขั้นตอนวางแผนซื้อบ้านใหม่อย่างคุ้มค่า
ท่ามกลางปัจจัยบวกที่เอื้อต่อการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคต้องไม่ลืมว่าหัวใจสำคัญของการซื้อที่อยู่อาศัยนั้นยังคงอยู่ที่การวางแผนและเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ขอแนะนำ 5 ขั้นตอนยกระดับความพร้อมเพื่อวางแผนซื้อบ้านใหม่ ช่วยให้คนหาบ้านเริ่มต้นก้าวแรกในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าในช่วงโอกาสทอง
1. เลือกที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับรายได้
การวางแผนซื้อบ้านอย่างเป็นระบบถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางอสังหาฯ ผู้บริโภคควรเลือกบ้าน/คอนโดฯ ในฝันที่เหมาะสมกับสถานภาพทางการเงินเป็นหลัก โดยนำรายรับหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วในแต่ละเดือนมาคำนวณวงเงินกู้สูงสุดที่คาดว่าจะได้รับ เพื่อหางบประมาณที่เหมาะสมในการซื้อที่อยู่อาศัย จากนั้นจึงพิจารณาความต้องการและไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัวเพื่อเลือกประเภทที่อยู่อาศัยและทำเลที่ตอบโจทย์
2. เรียนรู้การสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคง
การบริหารจัดการแผนการเงินอย่างเป็นระบบจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อซื้อบ้าน/คอนโดฯ ได้มีประสิทธิภาพ เนื่องจากอสังหาฯ ถือเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูงและผ่อนชำระยาวนาน จึงจำเป็นต้องมีแผนการเงินที่รอบคอบเพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเ