บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
คู่มือซื้อขายเตรียมตัวก่อนซื้อราคาประเมินที่ดิน 2568 เคล็ดลับฉบับมือใหม่หัดซื้อที่ดิน
ราคาประเมินที่ดิน 2568 เคล็ดลับฉบับมือใหม่หัดซื้อที่ดิน
อัปเดตล่าสุด 18 ธันวาคม 2567 • ใช้เวลาอ่าน 2 นาทีซื้อบ้านหลังแรก

การลงทุนซื้อที่ดินนั้นต้องอาศัยความรอบคอบ โดยเฉพาะการค้นหาราคาประเมินที่ดินเพื่อป้องกันการถูกโก่งราคาที่เกินจริง สำหรับมือใหม่ที่ยังขาดประสบการณ์ จำเป็นจะต้องหมั่นศึกษาขั้นตอนซื้อที่ดินอย่างละเอียด แต่อย่าพึ่งกังวลจนเกินไป เพราะเรามีขั้นตอนซื้อที่ดินฉบับง่าย ๆ ทริคการค้นหาราคาประเมินที่ดินฉบับมือใหม่หัดซื้อ และอัปเดตราคาประเมินที่ดินรอบใหม่มาฝากกัน
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- อัปเดตราคาประเมินที่ดิน
- การหาข้อมูลพร้อมสำรวจทำเลก่อนซื้อที่ดิน
- ติดต่อเจ้าของและขอรายละเอียดการซื้อที่ดิน
- เช็กราคาประเมินที่ดินง่าย ๆ ใน 5 นาที
อัปเดตราคาประเมินที่ดินปี 2568
กรมธนารักษ์ประกาศใช้ราคาประเมินที่ดินใหม่รอบปี 2566-2569 โดยภาพรวมทั้งประเทศราคาประเมินใหม่ปรับขึ้นเฉลี่ย 8%
โดยพื้นที่กรุงเทพฯ ปรับขึ้นประมาณ 3% สูงสุดยังเป็นพื้นที่ทำเลกลางเมืองแนวรถไฟฟ้า ทำเลที่มีราคาประเมินที่ดินแพงที่สุดเป็นถนนสีลม, เพลินจิต, วิทยุ และพระราม 1 (บริเวณหน้าสยามสแควร์ถึงถนนเพลินจิต) ราคาประเมินที่ดินอยู่ที่ 1,000,000 บาท/ตารางวา

เช็กราคาประเมินที่ดินล่าสุด 77 จังหวัด
เช็กราคาประเมินที่ดิน 77 จังหวัด จากกรมธนารักษ์ ทำเลไหนแพงสุด
การหาข้อมูลพร้อมสำรวจทำเลก่อนซื้อที่ดิน
1. เหตุผลที่ซื้อ พร้อมสำรวจทำเล
โดยทั่วไปแล้ว การซื้อที่ดินจะต้องตอบโจทย์ของผู้ซื้อเป็นหลักว่า ต้องการนำที่ดินผืนนั้นไปทำอะไรบ้าง เพราะเหตุผลที่ซื้อจะเป็นตัวกำหนดสเปกของที่ดินและงบประมาณในการซื้อ ซึ่งจะนำไปใช้ในการค้นหาทำเลและการค้นหาราคาประเมินที่ดินที่เหมาะสม
2. สภาพแวดล้อมโดยรวม
สภาพแวดล้อมถือเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อการซื้อที่ดิน เพราะบ่งบอกว่าคุณสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ให้ลองพิจารณาโดยเริ่มจากแปลนที่ดิน ความสะดวกสบายในการใช้สอย การคมนาคม ที่สำคัญคือมีความสุ่มเสี่ยงต่อการถูกเวนคืนในอนาคตหรือไม่ แล้วชั่งน้ำหนักดูว่าหากซื้อที่ดินแปลงนี้แล้วจะคุ้มค่าหรือเสียเงินทิ้งมากกว่ากัน
3. ตรวจสอบประวัติให้ละเอียด
นอกจากการค้นหาราคาประเมินที่ดิน หนึ่งในขั้นตอนซื้อที่ดินที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การตรวจสอบประวัติให้ละเอียด โดยให้ลองสอบถามคนในละแวกใกล้เคียงก่อน ซึ่งมักจะเป็นคำถามง่าย ๆ อาทิ ใครคือเจ้าของที่ดินตามโฉนด ประกาศขายนานหรือยัง
ที่สำคัญอย่าลืมเช็กกับกรมที่ดินดูว่าที่ดินมีปัญหาอย่างการติดจำนองและถูกอายัดหรือไม่ และเช็กกับกรมโยธาธิการและผังเมืองว่าเป็นที่ดินต้องห้ามหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้นคุณอาจจะต้องมานั่งเสียใจภายหลังเพราะพบว่าที่ดินที่ซื้อมานั้นไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ใจต้องการ

ติดต่อเจ้าของและขอรายละเอียดการซื้อที่ดิน
1. ติดต่อเจ้าของ
หลังจากหาข้อมูลเบื้องต้นเอาไว้แล้ว ขั้นตอนซื้อที่ดินต่อมาก็คือ การติดต่อกับเจ้าของเพื่อขอรายละเอียดและสำรวจที่ดิน ซึ่งถ้าหากมีคำถามหรือข้อสงสัย ให้สอบถามทันที ไม่ต้องเก็บไปนอนคิดต่อที่บ้าน เพราะถ้าหากซื้อที่ดินแล้วเกิดปัญหาตามมา คงไม่ใช่เรื่องสนุกสำหรับคุณอย่างแน่นอน
2. ขอรายละเอียดให้เรียบร้อย
เมื่อติดต่อและสำรวจที่ดินแบบละเอียดยิบแล้ว ให้ขอข้อมูลที่ดินผืนนั้นเพื่อนำไปเช็กอย่างละเอียดอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโฉนดที่ดิน ราคาขาย ข้อมูลเจ้าของที่ดิน และรายละเอียดอื่น ๆ ที่อาจพ่วงมาด้วย
3. ตรวจสอบข้อมูลจากภาครัฐให้ครบ
หลังจากที่มีรายละเอียดต่าง ๆ ของที่ดินแล้ว ให้นำข้อมูลที่มีไปตรวจสอบกับองค์กรภาครัฐจนกว่าจะมั่นใจว่า ถ้าหากซื้อที่ดินแล้ว จะไม่เกิดปัญหาอย่างแน่นอน สำหรับองค์กรภาครัฐที่คุณต้องติดต่อ ได้แก่
– สำนักงานที่ดิน เพื่อเช็กว่าข้อมูลที่ได้ตรงกับเอกสารหรือไม่ เพื่อประกอบการตัดสินใจต่อการซื้อขาย
– กรมผังเมืองหรือกรมโยธา เพื่อเช็กว่าเขตของที่ดินมีข้อห้ามจากภาครัฐหรือไม่ และผังเมืองเป็นอย่างไร
– หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การทางพิเศษ กรมป่าไม้

เช็กโฉนดที่ดินจริงหรือปลอม
เช็กโฉนดที่ดินจริงหรือปลอม ด้วย 4 วิธี ก่อนชวดกรรมสิทธิ์แบบไม่รู้ตัว ได้ที่นี่
ค้นหาราคาประเมินที่ดิน เช็กให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ
1. ค้นหาราคาประเมินที่ดิน
โดยทั่วไปราคาประเมินที่ดินแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ ราคาประเมินที่ดินของภาคเอกชน และราคาตลาด ซึ่งจะใช้เลขที่โฉนดเพื่อประเมินราคา แล้วนำมาเทียบเคียงกัน แต่ถ้าหากค้นหาราคาประเมินที่ดินไม่เจอ ให้นำข้อมูลที่มีอยู่ติดต่อไปยังธนาคารเพื่อประเมินในเบื้องต้น หรือวิเคราะห์จากราคาขายเฉลี่ยในละแวกใกล้เคียงกัน
วิธีเช็กราคาประเมินที่ดินด้วยมือถือ ง่าย ๆ ใน 5 นาที
หากอยากรู้ว่าที่ดินแปลงไหน ราคาประเมินที่ดินเท่าไหร่ โดยอาจมีโฉนดตัวจริง หรือสำเนาโฉนด สามารถเช็กได้ด้วยวิธีการดังนี้
1. เข้าเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์ ผ่านมือถือ หรือคอมพิวเตอร์ก็ได้