บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
อัปเดตมาตรการรัฐ ซื้อบ้าน 2568 มาตรการไหนเหมาะสำหรับคุณ
อัปเดตล่าสุด 01 กรกฎาคม 2568 • ใช้เวลาอ่าน 7 นาทีซื้อบ้านหลังแรก

มาตรการรัฐ ซื้อบ้าน 2568 ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงช่วยให้ประชาชนเข้าถึงการมีที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นซื้อหรือเช่าได้มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวเช่นนี้ ลองมาอัปเดตมาตรการรัฐที่เอื้อต่อการซื้อ-เช่าได้ที่นี่
อ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
- มาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% บ้าน-คอนโด ราคาไม่เกิน 7 ล้าน
- ผ่อนคลายมาตรการ LTV กู้ซื้อบ้านได้ 100%
- บ้านเพื่อคนไทย ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท
- สินเชื่อบ้าน ธอส. ปี 2568 ดอกเบี้ยต่ำ
- การเคหะแห่งชาติจัดโปรบ้านคุ้มค่า ลดราคาพิเศษ
- ลดหย่อนภาษีฯ สำหรับผู้ปลูกสร้างบ้านเอง
- บ้านล้านหลัง เฟส 3 วงเงินให้กู้ 1.5 ล้าน
- ปรับเกณฑ์มาตรการ LTV เอื้อคนซื้อบ้านกรณีกู้ร่วม
มาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง เหลือ 0.01% บ้าน-คอนโด ราคาไม่เกิน 7 ล้าน
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย เหลือ 0.01% โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้
1. ราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท ต่อสัญญา
2. วงเงินจำนอง ไม่เกิน 7 ล้านบาท ต่อสัญญา กรณีการจำนองต้องเป็นการจดทะเบียนจำนองที่สืบเนื่องจากการจดทะเบียนซื้อขายอันได้รับลดค่าธรรมเนียมตามมาตรการฯ และจดทะเบียนจำนองในคราวเดียวกัน
3. ผู้ซื้อเป็นบุคคลสัญชาติไทย
4. ครอบคลุมทั้งอสังหาริมทรัพย์หรือห้องชุด มือหนึ่งและมือสอง ที่เป็นบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม, บ้านแถว (รวมห้องแถวและตึกแถว) หรืออาคารพาณิชย์, ที่ดินพร้อมอาคารที่อยู่อาศัย, ห้องชุดในอาคารชุด
5. ลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01%
ยกตัวอย่างเช่น
ซื้อบ้านราคา 3 ล้านบาท
ค่าโอนกรรมสิทธิ์ 0.01% = 300 บาท (จากเดิมต้องจ่าย 60,000 บาท)
ค่าจดจำนอง 0.01% = 300 บาท (จากเดิมต้องจ่าย 30,000 บาท)
รวมต้องจ่าย 600 บาท (จากเดิมต้องจ่าย 90,000 บาท)
6. มาตรการดังกล่าวมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันนี้-30 มิถุนายน 2569
7. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย, ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ เสียตามอัตราปกติ
ผ่อนคลายมาตรการ LTV ให้กู้ซื้อบ้านได้ 100%
ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ Loan-to-Value: LTV เพื่อช่วยกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. กำหนดให้เพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันเป็น 100% สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกรณี
1) มูลค่าหลักประกันต่ำกว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 2 เป็นต้นไป
2) มูลค่าหลักประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป ตั้งแต่สัญญากู้หลังที่ 1 เป็นต้นไป
2. การผ่อนคลายนี้ให้เป็นการชั่วคราว สำหรับสัญญาเงินกู้ที่ทำสัญญาตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568-วันที่ 30 มิถุนายน 2569
หมายเหตุ: วงเงินกู้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อนชำระของแต่ละบุคคล รวมถึงการพิจารณาของแต่ละธนาคาร

อัปเดตมาตรการ LTV
อัปเดตมาตรการ LTV ช่วยคนกู้ซื้อบ้าน-คอนโด
บ้านเพื่อคนไทย ผ่อนเดือนละ 4,000 บาท
โครงการบ้านเพื่อคนไทยเน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาประหยัด หรือ Affordable Housing ในพื้นที่ศักยภาพที่ใกล้ระบบขนส่งมวลชน โดยมีทั้งคอนโดและบ้านเดี่ยว ไม่ต้องดาวน์ ผ่อนชำระเริ่มต้นที่ 4,000 บาท อยู่ได้ 99 ปี
ลักษณะโครงการ
– คอนโด พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 30 ตารางเมตร สำหรับ 1 ห้องนอน ไปจนถึง 51 ตารางเมตร สำหรับ 2 ห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ระบบ Smart Residence และ Smart Function
– บ้านเดี่ยว บ้านชั้นเดียว เนื้อที่ 50 ตารางวา พร้อมที่จอดรถ 2 คัน
ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถเช่าซื้อได้ในะยะเวลา 99 ปี โดยมีอัตราผ่อนเริ่มต้นประมาณ 4,000 บาท/เดือน ระยะเวลาผ่อนชำระ 30-50 ปี ทั้งนี้ยังมีการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.5%
พื้นที่และการพัฒนาโครงการ
พื้นที่นำร่องของโครงการเริ่มในกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ ได้แก่
1. ที่ดินย่านบางซื่อ ย่านกิโลเมตรที่ 11 เนื้อที่ 15 ไร่ ซอยวิภาวดี 11 หลังสำนักงานใหญ่ ปตท. ใกล้สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ใกล้เซ็นทรัล ลาดพร้าว และรถไฟฟ้าสายสีเขียว
2. ที่ดินย่านสถานีธนบุรี บริเวณตลาดศาลาน้ำร้อน เนื้อที่ 23 ไร่ ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-บางขุนนนท์ (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) ประมาณ 800 เมตร ห่างจากโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
3. ที่ดินบริเวณสถานีรถไฟเชียงราก เนื้อที่ 18 ไร่ ใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
4. ที่ดินรอบสถานีรถไฟเชียงใหม่ ถนนเจริญเมือง เนื้อที่ 15 ไร่
คุณสมบัติผู้ได้สิทธิ์ซื้อโครงการบ้านเพื่อคนไทย
1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2. เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ณ วันลงทะเบียน
3. เป็นผู้ที่มีรายได้ ณ วันลงทะเบียน ไม่เกิน 50,000 บาท/เดือน
4. ไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่อาจใช้พักอาศัยได้ทุกประเภท
5. ไม่เคยได้สิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย
ขั้นตอนการรับสิทธิ์ซื้อโครงการบ้านเพื่อคนไทย
1. ลงทะเบียน ผู้สนใจสามารถลงทะเบียน แสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการได้ผ่านเว็บไซต์ www.บ้านเพื่อคนไทย.th (เปิดจองวันที่ 17 มกราคม 2568)
2. ตรวจสอบคุณสมบัติ โดยทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะตรวจสอบคุณสมบัติ จากนั้นจะประกาศผลการตรวจสอบเบื้องต้นของผู้ที่ยื่นเอกสารจองสิทธิ์ และติดต่อกลับไปยังผู้ที่ได้รับสิทธิ์
3. จับสลากเพื่อรับสิทธิ์ในการซื้อโครงการบ้านเพื่อคนไทย โดยผู้ที่รับสิทธิ์จะต้องแจ้งความประสงค์ใช้สิทธิ์ตามวันและเวลาที่ธนาคารกำหนด เพื่อจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติตามที่โครงการกำหนด หากไม่ผ่านเกณฑ์จะถือว่าเป็นการสละสิทธิ์
เงื่อนไขการซื้อสิทธิ บ้านเพื่อคนไทย
1. ผู้ซื้อสิทธิ 1 ท่าน มีสิทธิ์จองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างได้ 1 หน่วย ต่อ 1 โครงการเท่านั้น แต่หากการพิจารณา ให้สิทธิ์ในโครงการใดเสร็จสิ้นไปแล้วและไม่ได้สิทธิ์ สามารถใช้สิทธิ์จองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอีกครั้งในจังหวัดเดิมได้
2. ห้ามโอนสิทธิ์ในโครงการบ้านเพื่อคนไทยภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันจดทะเบียนสิทธิ์
3. ห้ามนำอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างในโครงการบ้านเพื่อคนไทยไปให้ผู้อื่นใช้ประโยชน์ หรือทำนิติกรรมในลักษณะเป็นการต่างตอบแทน เพื่อให้บุคคลอื่นได้ใช้ประโยชน์ในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง เว้นแต่เป็นการใช้เพื่อประโยชน์ของสมาชิกในครอบครัวของผู้ซื้อสิทธิ์
4. หากความปรากฏว่าผู้ซื้อสิทธิ์ขาดคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง โดยขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย บอกเลิกสัญญา หรือปรับอัตราผลตอบแทนตามเหตุและปัจจัย
5. หากความปรากฏว่าผู้ซื้อสิทธิ์มีพฤติการณ์ปรากฏให้เห็นหรือเชื่อได้ว่าเป็นผู้มีรายได้เกินกว่า 50,000 บาท/เดือน ทั้งนี้ ขอสงวนสิทธิ์ในการยกเลิกสิทธิในโครงการบ้านเพื่อคนไทย บอกเลิกสัญญา หรือปรับอัตราผลตอบแทนตามเหตุและปัจจัย
6. เงื่อนไขอื่นเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
7. สงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดและเงื่อนไขใด ๆ ดังกล่าวข้างต้น
กำหนดการของโครงการบ้านเพื่อคนไทย
- 17 มกราคม 2568: เปิดให้จองโครงการผ่าน www.บ้านเพื่อคนไทย.th
- กุมภาพันธ์ 2568: เริ่มก่อสร้างโครงการนำร่อง
- มีนาคม 2568: ประกาศผลผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการซื้อที่อยู่อาศัย
- ธันวาคม 2568: เริ่มโอนโครงการนำร่อง 154 หน่วย
- มิถุนายน 2569: เริ่มโอนโครงการนำร่อง 4,256 หน่วย
- ธันวาคม 2569: เริ่มโอนโครงการ 56,000 หน่วย
- ภายในปี 2570: โอนโครงการให้ได้ทั้งหมด รวม 100,000 หน่วย
สินเชื่อบ้าน ธอส. ปี 2568 ดอกเบี้ยต่ำ
1. สินเชื่อบ้าน Life Begins with GHB ปี 2568
สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป, ลูกค้ารายย่อยสวัสดิการ ที่เป็นสมาชิกของสภาวิชาชีพ/สมาคมวิชาชีพ ที่ทำข้อตกลงความร่วมมือกับ ธอส. ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ, ปลูกสร้าง, รีไฟแนนซ์, ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ผ่อนสูงสุด 40 ปี
อัตราดอกเบี้ย (กรณีทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ: MRTA)
– ปีแรกเพียง 1.79% ต่อปี
– ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี
– ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี
– ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์/ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR ต่อปี
พิเศษ ลูกค้าจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25% ในปีที่ 1
– สมัครสมาชิกของเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
– ซื้อที่อยู่อาศัยบนเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
– แจ้งความประสงค์การขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
พิเศษ ลูกค้าจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25% ในปีที่ 1-2
– ลูกค้าที่ประกอบอาชีพแพทย์ และเป็นสมาชิกแพทยสภา หรือทันตแพทยสภา หรือสัตวแพทยสภา ที่เป็นสมาชิกสภา/สมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ของโครงการ Life Begins with GHB
หมายเหตุ: ส่วนลดอัตราดอกเบี้ยไม่สามารถใช้ร่วมกันได้
กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2568 กำหนดระยะเวลาอนุมัติ และนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568
2. สินเชื่อบ้าน GHB Precious ปี 2568
สำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 70,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ, ปลูกสร้าง, ต่อเติม, ขยาย, ซ่อมแซม, รีไฟแนนซ์, กู้เพิ่ม และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย ผ่อนสูงสุด 40 ปี
อัตราดอกเบี้ย (กรณีทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ: MRTA)
– ปีที่ 1 เท่ากับ 1.79% ต่อปี
– ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี
– ปีที่ 3 เท่ากับ 3.50% ต่อปี
– ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์/ชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย เท่ากับ MRR ต่อปี
พิเศษ ลูกค้าจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25% ในปีที่ 1
– สมัครสมาชิกของเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
– ซื้อที่อยู่อาศัยบนเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
– แจ้งความประสงค์การขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2568 กำหนดระยะเวลาอนุมัติ และนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568
3. สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง และปรับปรุงที่อยู่อาศัยที่ช่วยประหยัดพลังงาน แบ่งเป็น
กรณีกู้ใหม่
– เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร
– เพื่อซื้อห้องชุด
– เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
– เพื่อต่อเติม หรือซ่อมแซมอาคาร
– เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกฯ (เฉพาะSolar Roof เท่านั้น)
กรณีกู้เพิ่ม
– เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือต่อเติม หรือซ่อมแซมอาคาร
– เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกฯ (เฉพาะSolar Roof เท่านั้น)
กรณีกู้เพื่อชำระค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA)
– เพื่อขอกู้พร้อมกับการขอกู้ในวัตถุประสงค์หลักของผลิตภัณฑ์นี้เท่านั้น
อัตราดอกเบี้ย (กรณีทำประกัน ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)
– ปีที่ 1 เท่ากับ 2.20% ต่อปี
– ปีที่ 2 เท่ากับ 2.80% ต่อปี
– ปีที่ 3 เท่ากับ 3.70% ต่อปี
– ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้าสวัสดิการ เท่ากับ MRR-1.00% ต่อปี, สำหรับลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี และซื้ออุปกรณ์ เท่ากับ MRR ต่อปี
พิเศษส่วนลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก
1) ลูกค้าจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.15% ในปีที่ 1 ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ดังนี้
– ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการจัดสรร (FT/LTF/SFT/RFT/BZP) หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัย ที่ผ่านการรับรองคุณสมบัติบ้านเบอร์ 5 จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
2) ลูกค้าจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25% ในปีที่ 1
– สมัครสมาชิกของเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
– ซื้อที่อยู่อาศัยบนเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
– แจ้งความประสงค์การขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
หมายเหตุ: ส่วนลดอัตราดอกเบี้ยไม่สามารถใช้ร่วมกันได้
กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2568 กำหนดระยะเวลาอนุมัติ และนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568
4. สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2568
สำหรับผู้ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด, ปลูกสร้าง, ต่อเติม หรือซ่อมแซม ผ่อนสูงสุด 40 ปี
อัตราดอกเบี้ย (กรณีทำประกัน ตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด)
ปีที่ 1 เท่ากับ 2.50% ต่อปี
ปีที่ 2 เท่ากับ 3.10% ต่อปี
ปีที่ 3 เท่ากับ 4.00% ต่อปี
ปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี
พิเศษ ลูกค้าจะได้รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.25% ในปีที่ 1
– สมัครสมาชิกของเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
– ซื้อที่อยู่อาศัยบนเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
– แจ้งความประสงค์การขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com
กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2568 กำหนดระยะเวลาอนุมัติ และนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568
5. สินเชื่อบ้าน Relieve ปี 2568
สำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย, รีไฟแนนซ์ (ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น), รีไฟแนนซ์พร้อมปลูกสร้าง ต่อเติม หรือซ่อมแซมบ้าน และชำระหนี้พร้อมรีไฟแนนซ์
โดยลูกค้าที่มีความประสงค์ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ (MRTA/MLTA) จะได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรกเท่ากับ 3.59% ต่อปี และปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ยเรทเดียวตลอดอายุสัญญาทุกกรณี เท่ากับ MRR-2.505% ต่อปี
โดยลูกค้าต้องชำระเงินงวดตามที่ธนาคารกำหนดสม่ำเสมอทุกเดือน อย่างน้อยเดือนละ 1 งวด กรณีกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเพียงเดือนละ 4,000 บาท
พิเศษสำหรับลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยและยื่นขอสินเชื่อผ่านเว็บไซต์ www.ghbankbigfamily.com รับส่วนลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในปีแรก
กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้ ตั้งแต่วันนี้-30 ธันวาคม 2568 กำหนดระยะเวลาอนุมัติ และนิติกรรมภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2568
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร. 02-645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th
การเคหะแห่งชาติจัดโปรบ้านคุ้มค่า ลดราคาพิเศษ
การเคหะแห่งชาติ จัดโปรโมชันลดราคาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ จำนวน 102 โครงการ ลด 5-20% และลดราคาพิเศษโครงการบ้านเอื้ออาทร จำนวน 47 โครงการ ราคาขายห้องชุดขนาด 24 ตารางเมตร เริ่มต้น 250,000 บาท และราคาขายห้องชุดขนาด 33 ตารางเมตร เริ่มต้น 390,000 บาท และวางเงินจองเริ่มต้น 1,000 บาทเท่านั้น
สำหรับลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินแล้วไม่ได้รับอนุมัติ สามารถยื่นขอสินเชื่อในโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.5% ใน 4 ปีแรก และปีที่ 5 เป็นต้นไป รับอัตราดอกเบี้ย 2.25%
ส่วนกลุ่มเปราะบาง (คนพิการ, ผู้สูงอายุ, พ่อ-แม่เลี้ยงเดี่ยว) หรือบุตรที่ประสงค์จะซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการที่พ่อแม่อาศัยอยู่เดิม หรือผู้ที่มีภาระต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ทุพพลภาพ) ในช่วง 5 ปีแรกรับดอกเบี้ย 1.5% และปีที่ 6 เป็นต้นไป รับอัตราดอกเบี้ย 2.25% เช่นกัน
โดยให้ระยะเวลาผ่อนนานถึง 40 ปี แต่เมื่อรวมกับอายุผู้เช่าซื้อจะต้องไม่เกิน 75 ปี โดยลูกค้าจะต้องมีรายได้ไม่เกิน 43,000 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
หรือหากไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ลูกค้ายังสามารถยื่นขอทำสัญญาเช่าซื้อโดยตรงกับการเคหะแห่งชาติได้อีก
โดยปีที่ 1-3 จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.25% ปีที่ 4-5 อัตราดอกเบี้ย 5.25% ปีที่ 6-10 อัตราดอกเบี้ย 6.50% และปีที่ 11 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 6.75%
ส่วนกลุ่มเปราะบาง ปีที่ 1-5 จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.25% ปีที่ 6-10 อัตราดอกเบี้ย 6.50% และปีที่ 11 เป็นต้นไป อัตราดอกเบี้ย 6.75% ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 30 ปี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center โทร. 1615
ลดหย่อนภาษีฯ สำหรับผู้ปลูกสร้างบ้านเอง
มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน กำหนดให้บุคคลธรรมดา (ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล) หักลดหย่อนค่าจ้างก่อสร้างบ้านให้แก่ผู้รับจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการจ่ายค่าจ้างตามสัญญาจ้างตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567-31 ธันวาคม 2568
โดยให้หักลดหย่อนภาษีได้ 10,000 บาทต่อทุกจำนวนค่าก่อสร้าง 1 ล้านบาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 100,000 บาท เฉพาะค่าจ้างก่อสร้างบ้านไม่เกิน 1 หลัง ในปีภาษีที่ก่อสร้างบ้านเสร็จ ตามสัญญาจ้างที่ได้กระทำขึ้นและเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567-31 ธันวาคม 2568 และได้เสียอากรแสตมป์โดยวิธีการชำระอากรเป็นตัวเงินผ่านระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
บ้านล้านหลัง เฟส 3 วงเงินให้กู้ 1.5 ล้าน ดอกเบี้ย 3% คงที่ 5 ปี
โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 3 มีวงเงินโครงการ 20,000 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยมีรายละเอียดดังนี้
– ให้กู้บ้าน ราคาซื้อ-ขาย/ค่าก่อสร้างและวงเงินกู้สูงสุดต่อรายต่อหลักประกันไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อรายต่อหลักประกัน ทั้งประเภทบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ หรือบ้านมือสอง หรือเพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือคอนโด
– มีระยะเวลากู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 40 ปี
– ยกเว้นค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900-2,300 บาท) และค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)
– ดอกเบี้ยคงที่ 3% ต่อปี ในช่วง 5 ปีแรก (เงินงวดคงที่นานถึง 60 งวดแรก) วงเงินกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,100 บาท วงเงินกู้ 1.5 ล้านบาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 6,200 บาท
อัตราดอกเบี้ย
ปี | อัตราดอกเบี้ย |
ปีที่ 1-5 |