Presale (พรีเซล) และ Backlog (แบ็กล็อก) คืออะไร ควรรู้ก่อนลงทุนอสังหาริมทรัพย์
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโครงการบ้านหรือคอนโดเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้ การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่มั่นคง แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกมองข้ามไปก็คือเรื่องของ “ตัวเลขเบื้องหลัง” อย่าง Presale (พรีเซล) และ Backlog (แบ็กล็อก) ที่ช่วยบอกใบ้ว่าควรลงทุนโครงการไหนดี ที่จะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 2 คำนี้ให้มากขึ้น พร้อมเทคนิคดูจังหวะการลงทุนให้คุ้มค่าและมั่นใจกว่าเดิม
Presale (พรีเซล) คืออะไร ?
Presale (พรีเซล) หรือ “การขายล่วงหน้า” เป็นช่วงเวลาที่โครงการเปิดให้ลูกค้าเข้าจองสิทธิ์ก่อนที่โครงการจะสร้างเสร็จ หรือแม้กระทั่งก่อนจะเริ่มก่อสร้างจริง จุดเด่นของช่วง Presale (พรีเซล) คือราคาที่มักจะดึงดูดกว่าราคาขายจริงในอนาคต เพื่อกระตุ้นยอดจองเบื้องต้นและสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งลูกค้าและผู้ร่วมลงทุน
ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับ Presale (พรีเซล)
- เป็นเพียง “การจองสิทธิ์” ไม่มีผลทางบัญชี และยังไม่ถือเป็นรายได้ของโครงการ
- ยังไม่มีการวางเงินดาวน์หรือเซ็นสัญญาซื้อขายจริง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อราคาต้น หรือล็อกยูนิตที่ถูกใจ แต่ยังมีความเสี่ยงหากโครงการไม่คืบหน้าหรือมีการเปลี่ยนแปลง
Presale (พรีเซล) จึงเป็นเหมือน “สัญญาณความสนใจจากตลาด” ที่บอกได้ว่าโครงการมีคนจับตาแค่ไหน แต่ยังไม่ใช่การการันตีว่ารายได้จะเกิดขึ้นจริง
Backlog (แบ็กล็อก) คืออะไร ?
Backlog (แบ็กล็อก) คือยอดขายที่มีการทำสัญญาซื้อขายอย่างเป็นทางการ และมีการวางเงินดาวน์แล้วเรียบร้อย แต่ยังไม่สามารถนับเป็นรายได้ในงบการเงิน เพราะโครงการยังไม่แล้วเสร็จหรือยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้า
Backlog (แบ็กล็อก) ช่วยบอกอะไรเราได้บ้าง ?
- สะท้อนความต้องการของตลาดที่ “ซื้อจริง จ่ายจริง” ไม่ใช่แค่จอง
- แสดงให้เห็นกระแสเงินสดในอนาคตที่บริษัทจะทยอยรับรู้
- ยอด Backlog (แบ็กล็อก) สูง บ่งชี้ว่าบริษัทมีรายได้รอเข้ามาในอนาคต และมีโอกาสเดินหน้าโครงการอย่างต่อเนื่องโดยไม่ติดขัด
Presale (พรีเซล) vs Backlog (แบ็กล็อก) ต่างกันอย่างไร ?
Presale (พรีเซล) เปรียบได้กับ “สัญญาณความสนใจจากตลาด”
เป็นการแสดงเจตจำนงเบื้องต้นของผู้ซื้อว่า “สนใจจะซื้อ” แต่ยังไม่มีข้อผูกพันใด ๆ ทางกฎหมาย จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเกิดการซื้อขายจริงในอนาคตหรือไม่
ในขณะที่ Backlog (แบ็กล็อก) คือ “ยอดขายที่ยืนยันแล้ว” ซึ่งสะท้อนความมั่นใจของผู้ซื้อที่ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าพร้อมจะซื้อจริง
เพราะมีทั้งการเซ็นสัญญาและวางเงินดาวน์เรียบร้อยแล้ว ทำให้ยอด Backlog (แบ็กล็อก) ถูกนับเป็นรายได้รอรับรู้ที่มีความแน่นอนทางธุรกิจมากกว่า Presale (พรีเซล)

ทำไม Backlog (แบ็กล็อก) จึงสำคัญกว่าตัวเลข Presale (พรีเซล) ?
แม้ว่ายอด Presale (พรีเซล) จะช่วยสะท้อนความน่าสนใจของโครงการในสายตาของผู้บริโภค แต่ในเชิงธุรกิจและการเงินแล้ว Backlog (แบ็กล็อก) ถือเป็นดัชนีที่มี “น้ำหนักมากกว่า” โดยเฉพาะเมื่อใช้เพื่อประเมินศักยภาพของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในระยะกลางถึงยาว
เหตุผลที่ Backlog (แบ็กล็อก) สำคัญในมุมมองของนักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการ
- สะท้อนรายได้ที่รอรับรู้จริง: Backlog (แบ็กล็อก) มาจากการขายที่มีการทำสัญญาและวางเงินดาวน์แล้ว ทำให้สามารถคาดการณ์รายได้ในอนาคตได้อย่างมีความแม่นยำมากกว่าการจองแบบ Presale (พรีเซล)
- ช่วยลดความเสี่ยงในการพัฒนาโครงการ: เมื่อมี Backlog (แบ็กล็อก) สะสมมากพอ บริษัทสามารถใช้ข้อมูลนี้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อเพื่อใช้ในกระบวนการก่อสร้างหรือพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จ
- สร้างความเชื่อมั่นต่อภาคการเงินและนักลงทุน: บริษัทที่มี Backlog (แบ็กล็อก) ต่อเนื่องสะท้อนถึงความสามารถในการบริหารงานขายและสร้างยอดขายที่เปลี่ยนเป็นกระแสรายได้ได้จริง
- แสดงถึงความมั่นคงของธุรกิจในระยะยาว: ต่างจาก Presale (พรีเซล) ซึ่งลูกค้ายังสามารถเปลี่ยนใจได้ง่าย ยอด Backlog (แบ็กล็อก) จึงแสดงถึงความผูกพันของผู้ซื้อกับโครงการ ทำให้บริษัทสามารถวางแผนดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง
สรุปแล้ว Backlog (แบ็กล็อก) ไม่เพียงเป็นตัวบ่งชี้ถึงยอดขาย แต่ยังเป็น “เครื่องชี้วัดความแข็งแรง” ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเชิงกลยุทธ์ด้วย
กลยุทธ์เลือกจังหวะลงทุน: ดู Backlog (แบ็กล็อก) ก่อนตัดสินใจ
การลงทุนในโครงการอสังหาฯ โดยอาศัยข้อมูลเพียงแค่ช่วงโปรโมชั่นหรือราคา Presale (พรีเซล) อาจไม่เพียงพอ เพราะในบางกรณี โครงการที่มียอดจองสูงในช่วงเปิดตัว อาจไม่สามารถเปลี่ยนเป็นยอดขายจริงได้ทั้งหมด หรืออาจประสบปัญหาด้านการก่อสร้างหากไม่มีเงินทุนมาสนับสนุน
การพิจารณายอด Backlog (แบ็กล็อก) ก่อนตัดสินใจลงทุนจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดแข่งขันสูงและต้นทุนการก่อสร้างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
แนวทางการวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบ
- พิจารณายอด Backlog (แบ็กล็อก) ในช่วงกลางหรือปลายของรอบ Presale (พรีเซล): หากพบว่าโครงการมียอด Backlog (แบ็กล็อก) สะสมต่อเนื่อง แสดงถึงความพร้อมด้านงบประมาณและมีโอกาสก่อสร้างจนแล้วเสร็จตามแผน
- วิเคราะห์ความสมดุลระหว่างราคาและความเสี่ยง: ราคาช่วง Presale (พรีเซล) อาจต่ำกว่าราคาเปิดจริง แต่หากไม่มี Backlog (แบ็กล็อก) รองรับ อาจต้องชั่งน้ำหนักระหว่างต้นทุนที่ประหยัดกับความเสี่ยงของความล่าช้า
- ใช้ Backlog (แบ็กล็อก) เป็นตัวชี้วัดโอกาสโอนกรรมสิทธิ์ภายในเวลาเป้าหมาย: ยอด Backlog (แบ็กล็อก) ที่สม่ำเสมอในแต่ละไตรมาสสามารถใช้คาดการณ์กำหนดการโอนได้แม่นยำยิ่งขึ้น เหมาะกับนักลงทุนที่วางแผนกระแสเงินสดจากการปล่อยเช่าในอนาคต
แนวทางนี้ไม่เพียงช่วยลดความเสี่ยง แต่ยังเพิ่มโอกาสในการเลือกโครงการที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านรายได้และมูลค่าในระยะยาว
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: Presale (พรีเซล) ถือเป็นยอดขายจริงไหม ?
A: ไม่ใช่ ยอด Presale (พรีเซล) คือยอดจองเบื้องต้นที่ยังไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายหรือการเงิน บริษัทจะยังไม่สามารถรับรู้ว่าเป็นรายได้จนกว่าจะมีการทำสัญญาและวางเงินดาวน์
Q: Backlog (แบ็กล็อก) มีผลต่อราคาหุ้นหรือไม่ ?
A: มีผลโดยตรง เนื่องจาก Backlog (แบ็กล็อก) สะท้อนรายได้ในอนาคตที่มีความชัดเจน นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มักใช้ข้อมูลนี้ประกอบการประเมินมูลค่าหุ้น ความมั่นคงของบริษัท และแนวโน้มการเติบโตของรายได้
Q: ถ้าลงทุนใน Presale (พรีเซล) แล้วโครงการไม่สร้างต่อจะเป็นยังไง ?
A: หากโครงการมียอด Presale (พรีเซล) สูงแต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็น Backlog (แบ็กล็อก) ได้มากพอ บริษัทอาจเผชิญปัญหาทางการเงินหรือไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างต่อได้ตามแผน รวมถึงยังอาจเสี่ยงต่อการยกเลิกโครงการหรือเลื่อนระยะเวลาก่อสร้างออกไปโดยไม่มีกำหนด
เริ่มต้นลงทุนในอสังหาอย่างมั่นใจ ด้วยการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน
เพราะการลงทุนที่ดีไม่ใช่แค่เลือกโครงการที่ชอบ แต่ต้องรู้ “เบื้องหลัง” ว่าโครงการนั้นขายดีจริงหรือไม่ และมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน
SC Asset พร้อมพัฒนาโครงการคุณภาพที่มียอด Presale (พรีเซล) ที่แข็งแรงและ Backlog (แบ็กล็อก) ที่สะท้อนความเชื่อมั่นจากผู้ซื้อจริง ไม่ว่าจะเป็นคอนโดในทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือบ้านแฝดสไตล์บ้านเดี่ยว โทร. 1749 เพื่อพูดคุยกับที่ปรึกษาอสังหาฯ ที่พร้อมช่วยให้คุณลงทุนอย่างมั่นใจ









แชร์เลย
บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ
เรื่องของ “ระยะร่นบ้าน” ที่เจ้าของบ้านควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ
สรุปครบ ! ขั้นตอนการเพิ่มชื่อในโฉนดที่ดิน เข้าใจใน 10 นาที
วิธีคำนวณ Yield อสังหาฯ และเพิ่มผลตอบแทน
สรุปตารางเบื้องต้น ! อยากผ่อนคอนโดต้องคำนวณอย่างไร ?
สรุปครบ BTS สายสีเขียวมีกี่สถานี วิ่งจากไหนถึงไหน ราคาเท่าไร
สรุป ! ค่าเสื่อมราคาอสังหาฯ และวิธีคำนวณเพื่อประโยชน์ทางภาษี
รู้จัก ตม.30 สำหรับเจ้าของคอนโดที่ปล่อยให้ชาวต่างชาติเช่า
เข้าใจแผ่นดินไหว สาเหตุ ผลกระทบ และการเตรียมพร้อมป้องกัน
อยากซื้อบ้านให้คุ้ม ต้องรู้มาตรการรัฐซื้อบ้านอะไรบ้าง ?
SC Assetรวมทุกเรื่องราวน่าสนใจPresale (พรีเซล) และ Backlog (แบ็กล็อก) คืออะไร ควรรู้ก่อนลงทุนอสังหาริมทรัพย์
บ้านเดี่ยวทาวน์โฮม/โฮมออฟฟิศคอนโดมิเนียม
โปรโมชันข่าวความเคลื่อนไหวการเสนอขายเสนอเช่าที่ดิน
บทความน่าสนใจรู้ใจ คลับสมัครงาน
เกี่ยวกับเรานักลงทุนสัมพันธ์Bridge Estate
รวมทำเลบ้านเดี่ยว
พระราม9-กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง
บ้านเดี่ยวกรุงเทพกรีฑาบ้านเดี่ยวพระราม 9บ้านเดี่ยวรามคำแหง
สุขุมวิท-พัฒนาการ-ศรีนครินทร์-บางนา
บ้านเดี่ยวบางนาบ้านเดี่ยวพัฒนาการบ้านเดี่ยวศรีนครินทร์บ้านเดี่ยวสุขุมวิท
ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า-พระราม5
บ้านเดี่ยวปิ่นเกล้าบ้านเดี่ยวพระราม 5บ้านเดี่ยวราชพฤกษ์
สาทร-เพชรเกษม-กาญจนาภิเษก
บ้านเดี่ยวกาญจนาภิเษกบ้านเดี่ยวเพชรเกษม
นนทบุรี-บางใหญ่
บ้านเดี่ยวนนทบุรีบ้านเดี่ยวบางใหญ่
วิภาวดี-รามอินทรา-ลาดพร้าว
บ้านเดี่ยวรามอินทราบ้านเดี่ยววิภาวดีบ้านเดี่ยวเกษตร-นวมินทร์
แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์-รังสิต-พหลโยธิน
บ้านเดี่ยวติวานนท์บ้านเดี่ยวพหลโยธินบ้านเดี่ยวรังสิตบ้านเดี่ยวแจ้งวัฒนะ
พระราม2
โครงการตากอากาศ
บ้านเดี่ยวชะอำบ้านเดี่ยวหัวหิน
บ้านโพธิ์-ฉะเชิงเทรา
รวมทำเลคอนโดมิเนียม
พระราม9-กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง
สาทร-วงเวียนใหญ่
คอนโดมิเนียมวงเวียนใหญ่คอนโดมิเนียมสาทร
เอกมัย
เกษตร-ศรีปทุม
รวมทำเลทาวน์โฮม/โฮมออฟฟิศ
พระราม9-กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง
สาทร-เพชรเกษม-กาญจนาภิเษก
รามอินทรา-พระยาสุเรนทร์
ทาวน์โฮม/โฮมออฟฟิศพระยาสุเรนทร์
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2567 บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
นโยบายความเป็นส่วนตัวข้อกำหนดการใช้งาน