บ้านหลังมุม ดีไหม? ลักษณะเป็นอย่างไร จุดเด่น ข้อเสีย และการต่อเติม
“บ้านหลังมุม” คำนี้ฟังดูพิเศษเสมอสำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านสักหลัง ด้วยความรู้สึกถึงพื้นที่ที่มากกว่าและความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น แต่ก่อนที่จะตัดสินใจคว้าโอกาสเป็นเจ้าของบ้านหลังมุม มีหลายแง่มุมที่คุณควรรู้และทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้การเลือกบ้านครั้งสำคัญนี้ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างแท้จริง
บ้านหลังมุม คืออะไร?

บ้านหลังมุม คือบ้านที่ตั้งอยู่บริเวณสุดของแถวบ้าน หรือหัวมุมของโครงการ ทำให้มีลักษณะเด่นคือมีพื้นที่ด้านข้างเพิ่มขึ้นจากบ้านหลังอื่น ๆ ในแถวเดียวกัน โดยทั่วไปแล้ว บ้านหลังมุมจะมีผนังบ้านที่ติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว หรืออาจไม่มีผนังที่ติดกับใครเลยก็ได้ในบางโครงการ
จุดเด่นของบ้านหลังมุม มีอะไรบ้าง?
บ้านหลังมุมไม่ได้เป็นที่นิยมเพียงเพราะความรู้สึกพิเศษเท่านั้น แต่ยังมีข้อดีที่จับต้องได้และตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยหลายประการ ดังนี้
พื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า
บ้านหลังมุมจะมีพื้นที่ด้านข้างตัวบ้านเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีบริเวณสำหรับจัดสวนข้างบ้าน ต่อเติมพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติมในอนาคต หรือมีพื้นที่ให้เด็ก ๆ วิ่งเล่นได้อย่างอิสระมากกว่าบ้านหลังอื่น ๆ ในแถวเดียวกัน
ความเป็นส่วนตัวที่สูงกว่า

เนื่องจากบ้านหลังมุมมักมีผนังที่ติดกับเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียว หรือในบางกรณีอาจไม่มีผนังที่ติดกับใครเลย ทำให้ลดปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน และเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิตภายในบ้านและบริเวณรอบบ้าน
มีช่องแสงและได้รับลมธรรมชาติที่มากกว่า
ด้วยพื้นที่เปิดโล่งด้านข้าง ทำให้บ้านหลังมุมมีโอกาสรับแสงธรรมชาติและลมถ่ายเทได้ดีกว่าบ้านหลังอื่น ๆ ส่งผลให้บ้านสว่าง โปร่งสบาย และช่วยประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศและแสงสว่างในเวลากลางวัน
ทัศนียภาพที่เปิดกว้างกว่า
การมีพื้นที่ด้านข้างที่ไม่ได้ถูกบดบังด้วยบ้านหลังอื่น ทำให้บ้านหลังมุมมีมุมมองที่เปิดกว้างกว่า อาจมองเห็นสวนส่วนกลาง ถนน หรือวิวทิวทัศน์โดยรอบโครงการได้ดีกว่า
มีโอกาสในการออกแบบและตกแต่งที่หลากหลาย
พื้นที่ด้านข้างที่เพิ่มขึ้นเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างสรรค์พื้นที่ outdoor ในแบบที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสวนสวย มุมนั่งเล่นกลางแจ้ง หรือแม้แต่การต่อเติมครัวภายนอก ก็สามารถทำได้อย่างลงตัว
มูลค่าเพิ่มที่สูงกว่าในระยะยาว
ด้วยข้อได้เปรียบด้านพื้นที่ ความเป็นส่วนตัว และศักยภาพในการพัฒนาต่อเติม ทำให้บ้านหลังมุมมักมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าบ้านหลังอื่น ๆ ในโครงการเดียวกัน ซึ่งเป็นผลดีต่อการลงทุนในระยะยาว
นอกจากจุดเด่นเหล่านี้แล้ว บ้านหลังมุมบางหลังอาจมีข้อดีเพิ่มเติมอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับการออกแบบและทำเลที่ตั้งของโครงการ เช่น ที่จอดรถที่สะดวกกว่า หรือทางเข้า-ออกที่ง่ายกว่า เป็นต้น
ข้อเสียบ้านหลังมุม มีอะไรบ้าง?
แม้ว่าบ้านหลังมุมจะมีข้อดีที่น่าสนใจมากมาย แต่ก็มีบางข้อเสียที่คุณควรนำมาพิจารณาควบคู่กัน เพื่อให้การตัดสินใจซื้อบ้านเป็นไปอย่างรอบด้าน
- ราคาสูงกว่าบ้านหลังอื่นๆ ในโครงการเดียวกัน เนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าและมีความเป็นส่วนตัวที่สูงกว่า ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
- ภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่มากขึ้น ด้วยพื้นที่รอบบ้านที่มากกว่า ทำให้บ้านหลังมุมมีภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาที่สูงขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าดูแลสวน ค่าทำความสะอาดพื้นที่ภายนอก หรือค่าใช้จ่ายในการต่อเติมและตกแต่งเพิ่มเติม
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจสูงกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ด้านข้างที่เปิดโล่งและมีมุมอับสายตามากกว่าบ้านหลังอื่น อาจทำให้บ้านหลังมุมมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมสูงขึ้นได้ ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง
- ปัญหาเรื่องความร้อนที่อาจมากกว่า เนื่องจากจะมีผนังบ้านหนึ่งด้านที่สัมผัสกับแสงแดดโดยตรงมากกว่าอีกหนึ่งด้าน อาจทำให้บ้านหลังมุมสะสมความร้อนได้มากกว่าบ้านหลังอื่น ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งอาจส่งผลต่อค่าใช้จ่ายด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
- ปัญหาเรื่องเสียงรบกวนจากภายนอก เพราะในบางโครงการบ้านหลังมุมมักตั้งอยู่ใกล้กับถนนหลัก หรือพื้นที่ส่วนกลางที่มีการสัญจรพลุกพล่าน จึงอาจต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องเสียงรบกวนมากกว่าบ้านหลังอื่น ๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปภายในโครงการได้นั่นเอง
- ข้อจำกัดในการต่อเติมบางประการ แม้ว่าบ้านหลังมุมจะมีพื้นที่ให้ต่อเติมมากกว่า แต่ก็อาจมีข้อจำกัดบางประการที่ต้องพิจารณาตามกฎระเบียบของโครงการ หรือข้อกำหนดด้านโครงสร้างของตัวบ้าน
- ระมัดระวังการบุกรุกพื้นที่ส่วนกลาง เพราะในบางครั้ง เจ้าของบ้านหลังมุมอาจใช้ประโยชน์จากพื้นที่ด้านข้างที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านหรือนิติบุคคลของโครงการได้
จะเห็นได้ว่าเราควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียของบ้านหลังมุมเหล่านี้อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อจะได้ประเมินว่าบ้านหลังมุมนี้จะเหมาะสมกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณจริง ๆ หรือไม่
บ้านหลังมุมเหมาะกับใครบ้าง?
บ้านหลังมุมมักเป็นที่หมายปองของใครหลายคน ด้วยข้อได้เปรียบในเรื่องพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าและความเป็นส่วนตัวที่สูงกว่า แต่ก็อาจไม่ได้ตอบโจทย์ทุกคนเสมอไป มาดูกันว่าบ้านหลังมุมเหมาะกับใครบ้าง
บ้านหลังมุมเหมาะสำหรับ
- ผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ด้วยจำนวนเพื่อนบ้านที่น้อยกว่า (มีเพื่อนบ้านเพียงด้านเดียวหรือไม่มีเลย) ทำให้บ้านหลังมุมมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบความวุ่นวายและการถูกรบกวน
- ครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม เพราะบ้านหลังมุมมักมีพื้นที่ด้านข้างเหลือ ทำให้สามารถจัดสวนขนาดใหญ่, ต่อเติมบ้านในอนาคต, หรือมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งได้มากกว่าบ้านแปลงอื่น
- ผู้ที่ต้องการวิวทิวทัศน์ที่เปิดโล่ง เพราะบ้านหลังมุมมักตั้งอยู่ในทำเลที่ดี มีวิวที่เปิดกว้างกว่า เนื่องจากไม่มีบ้านอื่นบดบังในบางทิศทาง
- ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการจอดรถ เพราะบ้านหลังมุมบางแห่งอาจมีทางเข้าออกได้หลายทาง หรือมีพื้นที่จอดรถเพิ่มเติมได้
- ผู้ที่มองหาโอกาสในการลงทุนระยะยาว ด้วยความที่บ้านหลังมุมมักเป็นที่ต้องการมากกว่าบ้านแปลงกลาง จึงทำให้บ้านหลังมุมมีแนวโน้มที่จะรักษามูลค่าและมีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าได้ดีในระยะยาว
- ผู้ที่ต้องการออกแบบบ้านให้มีเอกลักษณ์ ด้วยพื้นที่ด้านข้างที่เพิ่มมา จะช่วยให้สามารถออกแบบบ้านให้มีลักษณะเฉพาะตัวและโดดเด่นกว่าบ้านแปลงอื่น ๆ ได้
แต่ทั้งนี้บ้านหลังมุมก็อาจไม่เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่มีงบประมาณจำกัด เพราะโดยทั่วไปแล้วบ้านหลังมุมมักมีราคาสูงกว่าบ้านแปลงกลาง เนื่องจากมีพื้นที่มากกว่าและมีความเป็นส่วนตัวสูงกว่า
- ผู้ที่กังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะแม้ว่าจะมีพื้นที่ส่วนตัวมากขึ้น แต่บ้านหลังมุมบางครั้งอาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยมากกว่า เนื่องจากมีด้านที่เปิดโล่งมากกว่า
- ผู้ที่ไม่ต้องการดูแลพื้นที่มากนัก เนื่องจากพื้นที่ด้านข้างที่กว้างขวางก็มักหมายถึงภาระในการดูแลรักษาที่มากขึ้น ทั้งการทำสวนและการดูแลความสะอาด
หากจะซื้อบ้านแปลงมุมตามหลักฮวงจุ้ย ต้องดูอะไรบ้าง?

สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย การเลือกซื้อบ้านสักหลัง โดยเฉพาะบ้านแปลงมุม ถือเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษครับ เพราะบ้านไม่ได้เป็นเพียงแค่ที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่ที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ ความเจริญก้าวหน้า และความสุขของทุกคนในครอบครัว
การพิจารณาบ้านแปลงมุมตามหลักฮวงจุ้ยอย่างรอบด้านจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบ้านใหม่นี้จะนำมาซึ่งพลังงานที่ดีและเป็นสิริมงคลอย่างแท้ โดยมีจุดที่ควรสังเกตและเลือกบ้านดังนี้
ทิศทางและองศาของบ้าน
ทิศทางหน้าบ้าน สำคัญอย่างยิ่งในการรับพลังงานชี่ (Qi) ที่ไหลเวียน จึงควรเลือกทิศทางที่สอดคล้องกับดวงชะตาของเจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัว เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง สุขภาพ และความสัมพันธ์ที่ดี
ซึ่งการวัดองศาหน้าบ้านด้วยเข็มทิศหล่อแก จะช่วยให้ทราบถึงพลังงานที่แท้จริงที่ตัวบ้านได้รับ โดยแต่ละองศาก็จะมีอิทธิพลที่แตกต่างกันตามหลักฮวงจุ้ย จึงควรเลือกให้เหมาะกับผู้อยู่อาศัยเพื่อเสริมพลังงานดีนั่นเอง
ลักษณะของที่ดินและสภาพแวดล้อม
ในการพิจารณาลักษณะของที่ดินและสภาพแวดล้อมสำหรับบ้านแปลงมุมตามหลักฮวงจุ้ยนั้น รูปทรงของที่ดินถือเป็นสิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญ โดยรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้รับการยกย่องว่าเป็นลักษณะที่ดีที่สุด รองลงมาคือรูปทรงที่ไม่บิดเบี้ยว แหว่ง หรือมีส่วนที่ยื่นออกมาจนเสียสมดุล
สำหรับการเลือกบ้านแปลงมุม ควรสังเกตและวิเคราะห์ว่าด้านที่เป็นมุมนั้นส่งผลกระทบต่อตัวบ้านอย่างไรบ้าง นอกจากนี้สภาพแวดล้อมโดยรอบก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน จึงควรหลีกเลี่ยงการเลือกบ้านที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ที่ไม่เป็นมงคลตามความเชื่อ เช่น โรงพยาบาล สุสาน วัด หรือเสาไฟฟ้าแรงสูง รวมถึงพิจารณาถึงการไหลเวียนของพลังงานจากถนน หากมีถนนพุ่งตรงมายังตัวบ้านโดยตรง อาจส่งผลกระทบต่อพลังงานภายในบ้านได้เช่นกัน
สุดท้ายการมีเพื่อนบ้านที่ดีและสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบก็เป็นอีกสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพราะจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและพลังงานที่ดีให้กับบ้านโดยรวมได้นั่นเอง
ลักษณะและตำแหน่งของตัวบ้าน
เมื่อพิจารณาถึงลักษณะและตำแหน่งของตัวบ้านแปลงมุมตามหลักฮวงจุ้ย สิ่งสำคัญคือรูปทรงของบ้านควรมีความสมดุล ไม่เอียง หรือมีส่วนที่บิดเบี้ยว เพราะรูปทรงที่มั่นคงจะช่วยให้พลังงานไหลเวียนได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญประตูหลักซึ่งเปรียบเสมือนปากทางรับพลังงาน ก็ควรอยู่ในตำแหน่งที่เปิดรับพลังงานที่ดีและหลีกเลี่ยงการหันไปยังสิ่งที่ไม่เป็นมงคล
รวมทั้งการจัดวางตำแหน่งห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือห้องน้ำ ก็ควรสอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ย เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี ความสัมพันธ์อันราบรื่น และความเจริญก้าวหน้า นอกจากนี้ขนาดและตำแหน่งของหน้าต่างก็มีความสำคัญ จึงควรเลือกหน้าต่างที่มีขนาดที่เหมาะสมและอยู่ในตำแหน่งที่สามารถรับแสงธรรมชาติและถ่ายเทอากาศได้ดี
องค์ประกอบภายในบ้าน
การเลือกใช้สีทั้งภายในและภายนอกบ้าน ควรมีความสอดคล้องกับธาตุประจำตัวของเจ้าของบ้าน รวมถึงทิศทางของบ้าน เพื่อเสริมสร้างพลังงานที่เป็นมงคล นอกจากนี้วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและการตกแต่งก็มีอิทธิพลต่อพลังงานภายในบ้านเช่นกัน จึงควรเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
รวมถึงวางตำแหน่งจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านให้เป็นระเบียบ ไม่กีดขวางการไหลเวียนของพลังงาน และมีขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอย สุดท้าย การเลือกของตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ต้นไม้ หรือวัตถุมงคล ก็ควรพิจารณาถึงความหมายที่เป็นสิริมงคลและควรเสริมสร้างพลังงานบวกให้กับบ้านร่วมด้วย
การไหลเวียนของพลังงาน
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณา