บทวิจารณ์ภาพยนตร์ที่กำลังจะมาถึง
แต่งรถแล้วประกันรถยนต์ยังคุ้มครองไหม? ไขข้อสงสัยเรื่องประกันสำหรับรถแต่ง
by admin

รถเก๋งแต่งซิ่ง พร้อมข้อมูลประกันรถยนต์สำหรับรถแต่ง
สำหรับผู้ที่หลงใหลในการปรับแต่งรถยนต์คู่ใจ อาจมีความสุขกับการแต่งเติม เสริมหล่อ หรือเพิ่มสมรรถนะให้แตกต่างและโดดเด่น แต่คำถามที่มักจะตามมาคือ การดัดแปลงรถยนต์จะส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองของประกันรถยนต์หรือไม่? หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าประกันจะไม่คุ้มครอง จ่ายไม่เต็ม หรือถึงขั้นบอกเลิกกรมธรรม์ไปเลย วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ชัดเจน เพื่อให้คุณสามารถสนุกกับการแต่งรถได้อย่างสบายใจและยังคงได้รับความคุ้มครองจากประกันภัย
การปรับแต่งรถยนต์ส่งผลต่อประกันภัยรถยนต์อย่างไร?
โดยทั่วไป การปรับแต่งรถยนต์นั้นสามารถทำได้ แต่มีเงื่อนไขสำคัญที่เจ้าของรถควรทราบและปฏิบัติตาม เพื่อให้สิทธิ์ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ยังคงอยู่ครบถ้วน
ข้อควรรู้: ต้องแจ้งบริษัทประกันภัยหรือไม่?
เมื่อคุณทำการปรับแต่งเพิ่มเติมจากสภาพเดิมของรถ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนล้อแม็ก ติดตั้งสเกิร์ต สปอยเลอร์ เปลี่ยนท่อไอเสีย หรือติดสติกเกอร์ขนาดใหญ่ คุณควรแจ้งให้บริษัทประกันภัยที่คุณทำอยู่ทราบทันที เพื่อให้บริษัทพิจารณาและรับรองความคุ้มครองในส่วนที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นมา การไม่แจ้งข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลกระทบต่อการเคลมในอนาคต
แต่งรถหลังทำประกันไปแล้ว ความคุ้มครองยังอยู่ไหม?
หากคุณได้แจ้งการปรับแต่งรถยนต์ให้บริษัทประกันทราบ และบริษัทได้รับพิจารณาข้อมูลแล้ว การคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่คุณทำไว้ก็ยังคงมีผลตามปกติ อย่างไรก็ตาม หากเป็นการปรับแต่งครั้งใหญ่ที่ทำให้รถยนต์เปลี่ยนสภาพไปจากเดิมมาก บริษัทอาจต้องการให้มีการตรวจสอบ ถ่ายรูปรถยนต์คันใหม่เพื่อประเมินความเสี่ยงเพิ่มเติม หรืออาจมีการพิจารณาว่าการดัดแปลงนั้นขัดกับเงื่อนไขในกรมธรรม์หรือไม่
ควรทำประกันคุ้มครองส่วนที่แต่งเพิ่มหรือไม่?
ในกรณีที่คุณลงทุนกับอุปกรณ์ตกแต่งที่มีมูลค่าสูง และต้องการความสบายใจว่าจะได้รับความคุ้มครองหากเกิดความเสียหาย ควรพิจารณาขอทำประกันเพิ่มเติมในส่วนของอุปกรณ์ตกแต่งเหล่านั้นโดยเฉพาะ คุณสามารถติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อประเมินค่าเบี้ยประกันสำหรับความคุ้มครองส่วนเพิ่มนี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่คุณต้องรับผิดชอบเองหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
การแต่งรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย
สิ่งสำคัญอีกประการคือ การปรับแต่งรถยนต์ของคุณต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย เพราะการทำผิดกฎหมายอาจส่งผลต่อเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันได้ การดัดแปลงที่ต้องระวังและปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น:
- ความสูงของรถ: โหลดเตี้ยหรือยกสูงต้องเป็นไปตามที่ พ.ร.บ. กำหนด (วัดจากกึ่งกลางไฟหน้าถึงพื้น)
- ท่อไอเสีย: ความดังต้องไม่เกิน 100 เดซิเบล
- ระบบไฟ: สีของไฟต่างๆ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย (ไฟเบรกสีแดง, ไฟเลี้ยวสีเหลือง, ไฟถอยหลังสีขาว) และห้ามดัดแปลงสี
- ป้ายทะเบียน: ห้ามดัดแปลง หรือมีสิ่งใดบดบัง
- การเปลี่ยนสีรถ: หากเปลี่ยนสีเกินกว่า 30% ของตัวรถ ต้องแจ้งกรมการขนส่งทางบกและแจ้งบริษัทประกันภัยด้วย
รถเก๋งแต่งซิ่ง พร้อมข้อมูลประกันรถยนต์สำหรับรถแต่ง
ประเภทของการแต่งรถกับเงื่อนไขประกันภัย
การพิจารณาความคุ้มครองของประกันภัยมักขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และลักษณะของการปรับแต่งรถยนต์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้:
แต่งเพื่อความสวยงาม
เป็นการปรับแต่งรูปลักษณ์ภายนอกหรือภายใน เช่น เปลี่ยนล้อ ติดสเกิร์ต ติดสปอยเลอร์ เปลี่ยนชุดแต่ง การปรับแต่งลักษณะนี้ส่วนใหญ่สามารถทำได้ และหากแจ้งบริษัทประกันภัยและได้รับการอนุมัติ ก็จะยังคงได้รับความคุ้มครองตามปกติ
แต่งเพื่อเพิ่มสมรรถนะ/ความเร็ว
เป็นการดัดแปลงเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง หรือส่วนประกอบหลักอื่นๆ เพื่อให้รถมีความเร็วหรือกำลังมากขึ้น การดัดแปลงประเภทนี้ถือเป็นการใช้งานรถที่อาจเปลี่ยนไปจากวัตถุประสงค์เดิม และมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ทำให้บริษัทประกันภัยบางแห่งอาจไม่รับทำประกัน หรือไม่ให้ความคุ้มครองในส่วนที่ดัดแปลงนี้โดยเฉพาะ ยิ่งถ้าหากนำไปใช้ในการแข่งขันด้วยแล้ว ความเสี่ยงในการไม่ได้รับความคุ้มครองจะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
การแต่งรถแบบไหนที่อาจไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกัน?
โดยสรุป การปรับแต่งรถยนต์ที่อาจทำให้ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง หรือบอกเลิกกรมธรรม์ได้ มักเกี่ยวข้องกับการดัดแปลงที่เพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก หรือเป็นการใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์ของการทำประกันภัย เช่น:
- การดัดแปลงเครื่องยนต์เพื่อใช้ในการแข่งขัน หรือการใช้งานที่ไม่ได้ระบุไว้ในกรมธรรม์
- การปรับแต่งที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เช่น ท่อไอเสียเสียงดังเกินกำหนด, ดัดแปลงไฟผิดสี, ใช้ป้ายทะเบียนปลอม
- การดัดแปลงที่ไม่ได้แจ้