รถหาย รถโดนขโมย ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม? พร้อมวิธีรับมืออย่างถูกต้อง
กรมธรรม์ประกันรถยนต์คุ้มครองการโจรกรรมและสูญหาย | การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุม
เหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างรถยนต์ถูกโจรกรรมหรือสูญหาย สร้างความกังวลใจและเดือดร้อนให้กับเจ้าของรถเป็นอย่างยิ่ง คำถามแรกๆ ที่ผุดขึ้นมาคือ “รถหาย ประกันจะจ่ายให้หรือไม่?” และหากเกิดขึ้นแล้วต้องทำอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปไขข้อสงสัยเกี่ยวกับความคุ้มครองประกันรถยนต์เมื่อรถหาย และแนวทางการรับมือที่ถูกต้องเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
รถหาย ประกันรถยนต์คุ้มครองหรือไม่?
โดยทั่วไปแล้ว หากรถยนต์ของคุณเกิดการสูญหายจากการถูกโจรกรรม (ลักทรัพย์, ชิงทรัพย์) หรือการยักยอกทรัพย์ บริษัทประกันภัยจะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามที่ระบุในกรมธรรม์ อย่างไรก็ตาม บริษัทประกันภัยอาจไม่ต้องรับผิดชอบ หากพิสูจน์ได้ว่าการสูญหายนั้นเกิดจากเจตนาทุจริต หรือความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของผู้เอาประกันภัยเอง ตามหลักการที่กำหนดไว้
ประกันรถยนต์ประเภทใดบ้างที่คุ้มครองการโจรกรรมและสูญหาย?
ความคุ้มครองกรณีรถหายจะแตกต่างกันไปตามประเภทของกรมธรรม์ประกันภัยที่คุณเลือก ซึ่งประเภทที่ให้ความคุ้มครองในส่วนนี้ ได้แก่:
- ประกันรถยนต์ชั้น 1: ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมสูงสุด รวมถึงความเสียหายจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ และการสูญหายหรือถูกโจรกรรม โดยจะชดเชยตามทุนประกันที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+: ให้ความคุ้มครองทั้งรถยนต์ผู้เอาประกันและคู่กรณี ครอบคลุมความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม และการสูญหายหรือถูกโจรกรรม โดยชดเชยตามทุนประกัน
- ประกันรถยนต์ชั้น 2: คล้ายคลึงกับชั้น 2+ แต่จะเน้นความคุ้มครองทรัพย์สินคู่กรณี และครอบคลุมความเสียหายจากไฟไหม้ น้ำท่วม และการสูญหายหรือถูกโจรกรรมเช่นกัน
เลือกประกันแบบไหนดีที่สุดสำหรับการคุ้มครองรถหาย?
สำหรับผู้ที่ต้องการความอุ่นใจและมั่นใจได้ว่ารถยนต์จะได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่ในกรณีที่ถูกโจรกรรมหรือสูญหาย ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแม้ว่าจะมีค่าเบี้ยประกันค่อนข้างสูง
แต่หากต้องการความคุ้มครองเรื่องรถหายโดยเฉพาะและต้องการควบคุมงบประมาณ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 ก็สามารถตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครองในกรมธรรม์ของคุณ
กรมธรรม์ประกันรถยนต์คุ้มครองการโจรกรรมและสูญหาย | การเลือกประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุม
รถหาย ทําไงดี? ขั้นตอนสำคัญที่ควรรู้และปฏิบัติ
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์รถหาย สิ่งแรกที่ควรทำคือตั้งสติ แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อย่างเป็นระบบ:
ตั้งสติและรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น
จดจำหรือบันทึกรายละเอียดสำคัญของรถที่หาย เช่น ยี่ห้อ รุ่น สี หมายเลขทะเบียน และร่องรอยตำหนิพิเศษต่างๆ รวมถึงสถานที่และเวลาโดยประมาณที่รถหายไป หากอยู่ในบริเวณที่มีกล้องวงจรปิด (เช่น ห้างสรรพสินค้า คอนโด) ให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพื่อตรวจสอบภาพจากกล้อง
ติดต่อบริษัทไฟแนนซ์ (กรณีติดไฟแนนซ์)
หากรถที่หายยังผ่อนชำระไม่หมด ให้รีบแจ้งบริษัทไฟแนนซ์ทันที เพื่อให้บริษัททราบสถานการณ์และออกหนังสือมอบอำนาจสำหรับการแจ้งความ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินคดี
แจ้งความที่สถานีตำรวจโดยเร็วที่สุด
นำข้อมูลที่รวบรวมได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจในพื้นที่ที่รถหาย แจ้งรายละเอียดทั้งหมดให้ครบถ้วนและชัดเจนที่สุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันและดำเนินการสืบสวน รวมถึงออกใบแจ้งความรถหาย ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญสำหรับการเคลมประกัน
แจ้งบริษัทประกันภัยรถยนต์
เมื่อมีใบแจ้งความรถหายแล้ว ให้รีบติดต่อบริษัทประกันภัยของคุณ แจ้งรายละเอียดการสูญหายและส่งมอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริษัทเริ่มกระบวนการตรวจสอบและพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามเงื่อนไขกรมธรรม์
กระจายข่าวสารและขอความช่วยเหลือ
นอกจากแจ้งความกับเจ้าหน้าที่แล้ว การกระจายข่าวสารผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โซเชียลมีเดีย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น จส.100 (โทร 1137), ศูนย์วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน (โทร 1677), สายด่วน 1192 จะช่วยเพิ่มโอกาสในการติดตามรถที่หายไปได้อีกทางหนึ่ง
หากรถหาย เคลมประกันได้เงินเท่าไหร่?
ในกรณีที่ไม่สามารถติดตามรถที่หายคืนได้ บริษัทประกันภัยจะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทน โดยทั่วไปจะอยู่ที่ ไม่เกิน 80% ของราคารถยนต์ ณ วันที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวงเงินทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ หากทุนประกันต่ำกว่า 80% ของราคารถ บริษัทก็จะจ่ายตามทุนประกันที่ทำไว้ ตัวอย่างเช่น หากรถมีมูลค่าตลาด 790,000 บาท การเคลมประกันอาจได้รับเงินชดเชยสูงสุดประมาณ 632,000 บาท
