รถยนต์เสียหายจากสัตว์ป่า? ประกันชั้น 1 คุ้มครองหรือไม่ พร้อมวิธีรับมือและกฎหมายที่คุณควรรู้
by admin

ในยุคที่หลายคนนิยมท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติ การขับรถตะลุยป่าเขา หรือไปพักแรมตามอุทยานแห่งชาติ กลายเป็นกิจกรรมยอดนิยม แต่การเดินทางในพื้นที่ป่าเขาย่อมมีโอกาสเผชิญหน้ากับสัตว์ป่าได้เสมอ และคำถามที่หลายคนอาจสงสัยคือ หากรถยนต์คู่ใจเกิดความเสียหายจากการถูกสัตว์ป่าทำลาย หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับสัตว์ป่า การเคลมประกันรถยนต์จะเป็นไปได้หรือไม่ แล้วกฎหมายที่เกี่ยวข้องว่าไว้อย่างไร บทความนี้มีคำตอบสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน
รู้จักกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าของไทย
ก่อนจะไปถึงเรื่องประกันรถยนต์ เรามาทำความเข้าใจสถานะของสัตว์ป่าในประเทศไทยกันก่อน ซึ่งแบ่งหลักๆ เป็น สัตว์ป่าสงวน และ สัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 กฎหมายนี้มีขึ้นเพื่อรักษาจำนวนประชากรสัตว์ป่าหายาก และป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าชนิดต่างๆ เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ การรู้จักประเภทสัตว์ป่าเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน
สัตว์ป่าสงวน คืออะไร?
สัตว์ป่าสงวนหมายถึง สัตว์ป่าหายาก ใกล้สูญพันธุ์ หรือที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นสัตว์ป่าประเภทที่ต้องสงวนและอนุรักษ์ไว้อย่างเข้มงวด ปัจจุบันมี 20 ชนิด ส่วนใหญ่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน ปลา และนก ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศ
สัตว์ป่าคุ้มครอง คืออะไร?
สัตว์ป่าคุ้มครองคือ สัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสัตว์ป่าสงวน ซึ่งกฎหมายกระทรวงได้กำหนดให้เป็นสัตว์ป่าที่ต้องได้รับการคุ้มครอง เพื่อควบคุมการล่า การค้า หรือการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีจำนวนหลายร้อยชนิด ครอบคลุมสัตว์หลายประเภท เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ปลา แมลง และสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ สัตว์ป่าคุ้มครองที่มักพบเห็นหรืออาจเกิดอุบัติเหตุบนถนนในพื้นที่ป่า เช่น ช้างป่า กวาง ลิง หรือเก้ง
ความผิดทางกฎหมายเมื่อรถชนสัตว์ป่า
หลายคนอาจไม่ทราบว่า การขับรถชนสัตว์ป่า โดยเฉพาะสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ อาจมีความผิดทางกฎหมายตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หากการกระทำนั้นทำให้สัตว์ได้รับอันตราย บาดเจ็บ หรือถึงแก่ชีวิต แม้จะเป็นอุบัติเหตุโดยประมาทก็ตาม บทลงโทษอาจหนักถึงขั้นจำคุกและปรับเป็นจำนวนเงินสูง ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสัตว์ป่าตัวนั้นๆ นอกจากนี้ หากเกิดเหตุแล้วผู้ขับขี่หลบหนี ไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ ยังอาจมีความผิดเพิ่มเติมตาม พรบ.จราจรทางบกด้วย ดังนั้น การขับขี่อย่างระมัดระวังในพื้นที่เสี่ยงจึงสำคัญที่สุด
ประกันรถยนต์คุ้มครองความเสียหายจากสัตว์ป่าหรือไม่?
เมื่อรถยนต์ถูกทำลาย เช่น กระจกแตก ตัวถังยุบ หรือส่วนอื่นๆ เสียหายจากการชนหรือถูกสัตว์ป่าทำร้าย หากคุณเป็นเจ้าของ [ประกันรถยนต์ชั้น 1] คุณสามารถแจ้งเคลมความเสียหายดังกล่าวได้ทันที เนื่องจากความคุ้มครองของประกันชั้น 1 นั้นครอบคลุมความเสียหาย “ไม่มีคู่กรณี” ซึ่งสัตว์ป่าไม่ถือว่าเป็นคู่กรณีที่มีเจ้าของรับผิดชอบตามกฎหมาย ประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรถตามวงเงินคุ้มครอง อย่างไรก็ตาม สำหรับการเคลมแบบไม่มีคู่กรณีในบางกรณี อาจมีค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) ที่ผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่คุณเลือกซื้อไว้ ประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ นอกเหนือจากชั้น 1 โดยทั่วไปจะไม่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถที่เกิดจากสัตว์ป่า
ช้างป่าเดินอยู่ใกล้รถยนต์ในป่า วิธีรับมือเมื่อพบสัตว์ป่าบนถนน และการเคลมประกันรถยนต์สำหรับความเสียหายจากสัตว์ป่า
การเคลม พ.ร.บ. เมื่อบาดเจ็บจากอุบัติเหตุสัตว์ป่า
ในกรณีที่อุบัติเหตุกับสัตว์ป่าทำให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารในรถได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย หรือเสียชีวิต สามารถใช้ [ประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)] เพื่อเคลมค่าสินไหมทดแทนสำหรับค่ารักษาพยาบาล หรือค่าปลงศพได้ โดย พ.ร.บ. จะให้ความคุ้มครองในส่วนของบุคคลที่ประสบเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือคู่กรณี (ถ้ามี) แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถยนต์โดยตรง ดังนั้น หากรถเสียหายและคุณมีเพียง พ.ร.บ. จะไม่สามารถใช้เคลมค่าซ่อมรถได้
เผชิญหน้าสัตว์ป่าบนถนน ควรทำอย่างไร?
การขับขี่ในพื้นที่ที่มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุและอันตรายต่อทั้งคนและสัตว์ นี่คือข้อแนะนำเมื่อพบสัตว์ป่าบนถนน:
- สังเกตป้ายเตือน: ป้ายเตือนให้ระวังสัตว์ป่าเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อเห็นป้าย ให้ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
- หลีกเลี่ยงการเดินทางเวลากลางคืน: สัตว์ป่ามักออกหากินหรือเคลื่อนย้ายในช่วงกลางคืน หากไม่จำเป็นควรเลี่ยงการใช้เส้นทางป่าในเวลานี้
- ห้ามใช้แตรรถหรือส่งเสียงดัง: การกระทำเหล่านี้อาจทำให้สัตว์ตกใจ หงุดหงิด หรือรู้สึกถูกคุกคาม ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวได้
- รักษาระยะห่างและหยุดรถ: หากพบสัตว์ป่าบนถนน ให้หยุดรถในระยะที่ปลอดภัย อย่างน้อย 20 เมตร เปิดไฟกะพริบเพื่อเตือนรถคันหลัง
- เคลื่อนที่ช้าๆ หากจำเป็น: หากสัตว์ล้อมรถไว้ ให้ค่อยๆ เคลื่อนรถไปอย่างช้าที่สุด เปิดไฟหน้ารถไว้เสมอในเวลากลางคืน และติดเครื่องยนต์ไว้พร้อมเสมอ
- ห้ามลงจากรถและงดใช้แฟลช: การลงจากรถเพื่อถ่ายรูปหรือใช้แสงแฟลชเป็นการรบกวนสัตว์ และอาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณเองอย่างยิ่ง
การเตรียมพร้อมที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางในพื้นที่ธรรมชาติ คือการขับขี่ด้วยความไม่ประมาท เคารพกฎจราจรและกฎของพื้นที่ป่า รวมถึงการมีแผนประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองที่เหมาะสม เพื่อความอุ่นใจตลอดการเดินทาง
การมีประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางธรรมชาติ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันเกี่ยวกับสัตว์ป่า ความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณจะได้รับการดูแล อย่าปล่อยให้ความกังวลมาบั่นทอนความสุขในการเดินทาง ค้นหาข้อมูลและเลือกแผนประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณได้เลย
ซื้อรถมือสอง ทำประกันรถยนต์แบบไหนดี? เลือกความคุ้มครองที่คุ้มค่าสูงสุด
Next Postเลือกประกันบิ๊กไบค์ที่ใช่: 3 ข้อควรรู้สำหรับไบค์เกอร์ยุคใหม่
Leave a Reply
Your email address will not be published. Required fields are marked *