ฟิล์มกรองแสงรถยนต์เสื่อมสภาพ เป็นฟองอากาศ ประกันรถยนต์เคลมได้ไหม? ไขข้อข้องใจทุกประเด็น
by admin

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์เสื่อมสภาพ เป็นฟองอากาศ มองเห็นไม่ชัด
สภาพอากาศร้อนจัดในเมืองไทย ทำให้ฟิล์มกรองแสงรถยนต์กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความร้อนและป้องกันรังสี UV แต่ยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวและช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ฟิล์มกรองแสงมีอายุการใช้งานจำกัด และเมื่อถึงเวลาเสื่อมสภาพ ก็อาจเกิดปัญหาฟิล์มย่น เป็นฟอง หรือลอก ซึ่งเจ้าของรถหลายคนสงสัยว่ากรณีเหล่านี้สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
ทำความรู้จักกับฟิล์มกรองแสงรถยนต์และปัญหาที่พบบ่อย
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์คือแผ่นฟิล์มบางๆ ที่ติดตั้งบนกระจกรถ มีคุณสมบัติหลักในการกรองแสงแดด ลดความร้อน และป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต ปัจจุบันมีฟิล์มหลากหลายประเภทในตลาด เช่น ฟิล์มย้อมสี ฟิล์มปรอท ฟิล์มคาร์บอน และฟิล์มเซรามิก ซึ่งแต่ละประเภทมีจุดเด่นและราคาแตกต่างกันไป
ปัญหาที่มักเกิดขึ้นกับฟิล์มกรองแสงรถยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ช่วงหลักๆ คือ
ปัญหาหลังติดตั้งใหม่
หลังจากการติดตั้งฟิล์มกรองแสงใหม่ๆ อาจพบฟองอากาศเล็กน้อยหรือรอยคลื่นน้ำระหว่างฟิล์มกับกระจก ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดจากการใช้น้ำในการติดตั้ง โดยรอยเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเองภายใน 2-3 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หากฟองอากาศหรือรอยคลื่นยังคงอยู่เป็นเวลานานเกินกว่านี้ อาจเกิดจากความผิดพลาดในการติดตั้ง เช่น มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกติดอยู่ จำเป็นต้องติดต่อร้านที่ติดตั้งเพื่อแก้ไข
ฟิล์มเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
โดยทั่วไปฟิล์มกรองแสงรถยนต์มีอายุประมาณ 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพฟิล์มและการดูแลรักษา เมื่อฟิล์มถึงเวลาเสื่อมสภาพ จะมีอาการต่างๆ แสดงออกมาให้เห็นชัดเจน
อาการบ่งชี้ว่าฟิล์มกรองแสงรถยนต์เสื่อมสภาพ:
- สีของฟิล์มเปลี่ยนไป: ฟิล์มอาจเปลี่ยนเป็นสีม่วง หรือจางลงจนใสกว่าเดิม
- เกิดฟองอากาศขึ้น: เริ่มมีฟองอากาศผุดขึ้นตามบริเวณต่างๆ ของกระจก ทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อน
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์เสื่อมสภาพ เป็นฟองอากาศ มองเห็นไม่ชัด
- ฟิล์มมีรอยย่น ยับ หรือเป็นคลื่น: ผิวฟิล์มไม่เรียบเนียนเหมือนเดิม มีลักษณะเป็นรอยยับหรือย่น
- ทัศนวิสัยแย่ลง: มองผ่านกระจกแล้วรู้สึกมัว เห็นภาพซ้อน หรือไม่ชัดเจนเหมือนเคย โดยเฉพาะที่กระจกหน้ารถ ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่
- มีกลิ่นเหม็นอับ: ฟิล์มเก่าที่เสื่อมสภาพอาจปล่อยกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา
- ภายในรถร้อนขึ้นผิดปกติ: คุณสมบัติการกันความร้อนของฟิล์มลดลง ทำให้รู้สึกร้อนภายในห้องโดยสารมากขึ้น
หากพบอาการเหล่านี้ หมายความว่าถึงเวลาที่ควรพิจารณาเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงใหม่แล้ว
ประกันรถยนต์คุ้มครองฟิล์มกรองแสงที่เสื่อมสภาพหรือไม่?
คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ หากฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ เป็นรอยย่น มีฟองอากาศ สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ไหม คำตอบคือ ประกันรถยนต์ทุกประเภท ไม่คุ้มครองความเสียหายของฟิล์มกรองแสงที่เกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน
เหตุผลคือ ความเสียหายจากการเสื่อมสภาพ ถือเป็นการสึกหรอตามปกติ ไม่ใช่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่คาดคิด ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์
กรณีที่ประกันรถยนต์คุ้มครองความเสียหายของกระจกและฟิล์มกรองแสง ส่วนใหญ่จะจำกัดอยู่ในความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถ รวมถึงกระจก จากเหตุการณ์ต่างๆ เช่น
- อุบัติเหตุที่เกิดจากภัยธรรมชาติ: เช่น พายุ ลูกเห็บตกใส่รถ
กระจกหน้ารถแตกเสียหายจากลูกเห็บ ประกันรถยนต์ชั้น 1 คุ้มครอง
- วัตถุตกใส่รถ: เช่น กิ่งไม้ มะพร้าว หรือสิ่งของอื่นๆ ตกใส่กระจกจนเสียหาย
- หินกระเด็นใส่กระจก: ขณะขับขี่
- อุบัติเหตุรถชน: ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด หากกระจกเสียหายจากอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเคลมประกันได้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ ซึ่งมักรวมถึงการซ่อมหรือเปลี่ยนกระจกพร้อมฟิล์ม
สำหรับความเสียหายที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของฟิล์มกรองแสง หากฟิล์มยังอยู่ในระยะเวลารับประกันของบริษัทผู้ผลิต (โดยทั่วไปประมาณ 5-7 ปี) คุณอาจลองติดต่อบริษัทผู้ผลิตหรือร้านที่ติดตั้งฟิล์มเพื่อสอบถามเงื่อนไขการรับประกัน
การเลือกและการดูแลฟิล์มกรองแสง
การเลือกฟิล์มกรองแสงคุณภาพดีและเหมาะสมกับการใช้งาน รวมถึงการติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ มีส่วนช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิล์มได้ ปัจจัยในการเลือกความเข้มของฟิล์มมักขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่ หากขับขี่เวลากลางวันเป็นหลัก อาจเลือกฟิล์มที่เข้มกว่า (เช่น 60-80%) เพื่อการกันร้อนที่ดีเยี่ยม แต่หากขับขี่เวลากลางคืนบ่อยครั้ง ควรเลือกฟิล์มที่ความเข้มไม่มากเกินไป (เช่น 40-60%) เพื่อให้มองเห็นทัศนวิสัยได้ชัดเจนและปลอดภัย (อ่านเพิ่มเติมวิธีเลือกฟิล์มติดรถยนต์) นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาเช็ดกระจกที่มีสารเคมีรุนแรงบนฟิล์มก็เป็นการดูแลเบื้องต้นที่ดี
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสบายและความปลอดภัยในการขับขี่ แม้ว่าประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองความเสียหายจากการเสื่อมสภาพ แต่ก็คุ้มครองความเสียหายต่อกระจกและฟิล์มที่เกิดจากอุบัติเหตุและภัยต่างๆ ดังนั้น การเลือกประกันรถยนต์ที่เหมาะสม และหมั่นดูแ