รู้จักกลุ่มรถยนต์ในประกันรถยนต์ รถกลุ่ม 5 ปลอดภัยกว่ากลุ่ม 4 หรือไม่?
ทิปส์ประกันรถยนต์ | 4 เม.ย. 2567


เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก ประกันกลุ่มรถยนต์ ว่าคืออะไร ให้ความคุ้มครองยังไง คุ้มค่าแค่ไหน รู้ใจได้หยิบยกประเด็นที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์มาให้ทำความเข้าใจเรียบร้อยแล้ว ก่อนตัดสินใจทำประกันรถยนต์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินหากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไปทำความเข้าใจรายละเอียดต่าง ๆ ให้ถ่องแท้กันก่อนดีกว่า
- กลุ่มรถยนต์ในการทำประกันรถยนต์ คืออะไร?
- กลุ่มรถยนต์แบ่งเป็นกี่กลุ่ม?
- รถขนาดเล็กกลุ่ม 5 ปลอดภัยกว่ารถขนาดกลางกลุ่ม 4 จริงมั้ย?
- รู้ใจตอบ! ทำไมเบี้ยประกันรถยนต์ถูก-แพงไม่เท่ากัน?
กลุ่มรถยนต์ในการทำประกันรถยนต์ คืออะไร?
“ประกันกลุ่มรถยนต์” คือ เป็นวิธีการแบ่งประเภทของรถยนต์ ตามราคา ขนาดเครื่องยนต์ อะไหล่รถ และค่าซ่อม โดยคปภ. ได้กำหนดเกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์ เพื่อกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย ทำให้รถยนต์แต่ละกลุ่มมีค่าเบี้ยประกันถูก-แพงไม่เท่ากัน ซึ่งในกรณีนี้จะทำให้มีความเป็นธรรมกับผู้เอาประกันภัยที่ซื้อประกันภัยรถยนต์มากขึ้น
กลุ่มรถยนต์แบ่งเป็นกี่กลุ่ม?
คปภ. ได้กำหนดเกณฑ์การแบ่งกลุ่มรถยนต์ เพื่อกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย ทำให้รถยนต์แต่ละกลุ่มมีค่าเบี้ยประกันถูก-แพงไม่เหมือนกัน แต่ต้องบอกก่อนว่า “การแบ่งกลุ่มรถยนต์” เป็นเพียงแค่หนึ่งในปัจจัยที่เกี่ยวข้องเท่านั้น มีทั้งหมด 5 กลุ่มหลัก โดยมีการแบ่งกลุ่มดังนี้
กลุ่มรถยนต์ที่ 1
คือ กลุ่มที่รถยนต์มีราคาตั้งแต่ 5,000,000 บาทขึ้นไป และเบี้ยประกันจะสูงกว่ารถยนต์กลุ่มอื่น เนื่องจากมูลค่ารถยนต์ค่อนข้างสูง อะไหล่แพง (สั่งทำพิเศษ) บริษัทประกันจึงต้องพิจารณาความเสี่ยงที่ครอบคลุมถึงความคุ้มค่าต่อตัวรถ รวมถึงอุปกรณ์ส่วนควบที่ราคาสูงด้วย
ยี่ห้อและรุ่นรถที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ 1 เช่น
ยี่ห้อรถ | รุ่นรถ |
ASTON MARTIN | VANTAGE, DB12 |
BENTLEY | Continental GT, Bentayga |
FERRARI | 296GTB, F8 Spider |
JAGUAR | F-TYPE, XJ |
MASERATI | Grecale, Levante |
PORSCHE | Cayenne, Taycan, Panamera |
ROLLS-ROYCE | Cullinan, Ghost, Phantom |
กลุ่มรถยนต์ที่ 2
คือ กลุ่มรถหรูขนาดเล็ก (Entry-Level Luxury) ไปจนถึงรถหรูระดับกลาง (Mid-Size Luxury) ราคาตั้งแต่ 1,500,000-5,000,000 บาท แม้จะมีราคาไม่สูงเท่ากับกลุ่มที่ 1 แต่บางแบรนด์หรือบางรุ่นยังต้องนำเข้า หรือชิ้นส่วนผลิตจากต่างประเทศรวมอยู่ด้วย ดังนั้นอัตราเบี้ยประกันจึงมีราคาสูงกว่ารถตามท้องตลาด
ยี่ห้อและรุ่นรถที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 เช่น
ยี่ห้อรถ | รุ่นรถ |
AUDI | A1, Q2, Q3, A5 |
BMW | Series 3, 5 |
LEXUS | IS, NX, RX |
MERCEDES-BENZ | C-Class, E-Class |
Honda | Civic Type R |
กลุ่มรถยนต์ที่ 3-5
รถยนต์กลุ่มที่ 3-5 เป็นรถที่มีอัตราเบี้ยประกันค่อนข้างดี ถูกกว่ากลุ่มที่ 1 และ 2 เนื่องจากเป็นรถที่ได้รับความนิยม อะไหล่และอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถซ่อมแซมได้ง่าย มีอู่และศูนย์บริการให้เลือกเยอะ โดยแบ่งได้ดังนี้
- กลุ่มที่ 3 คือรถยนต์ที่มีราคาตั้งแต่ 1,000,000-1,500,000 บาท
- กลุ่มที่ 4 คือรถยนต์ที่มีราคาตั้งแต่ 700,000-1,000,000 บาท
- กลุ่มที่ 5 คือรถยนต์ที่มีราคาไม่เกิน 700,000 บาท

ยี่ห้อและรุ่นรถที่จัดอยู่ในกลุ่มที่ 3 (รถยนต์นั่งสองตอนท้ายบรรทุกทุกยี่ห้อ)
ยี่ห้อรถ | รุ่นรถ |
HONDA | ACCORD, CIVIC, CRV |
ISUZU | Mu-X, V-Cross |