ทำความเข้าใจเบี้ยประกันรถยนต์: ไขข้อข้องใจทำไมรถเก่าถึงมีค่าเบี้ยถูกกว่ารถใหม่ และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผล

June 14, 2025

ภาพประกอบแสดงรถยนต์รุ่นเก่าและรุ่นใหม่ เปรียบเทียบเบี้ยประกันที่แตกต่างกันระหว่างรถเก่าและรถใหม่

ข้อสงสัยเรื่องค่าเบี้ยประกันรถยนต์สำหรับรถเก่าที่มักจะถูกกว่ารถใหม่ป้ายแดงนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ราคาเบี้ยประกันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุรถเพียงอย่างเดียว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่บริษัทประกันภัยนำมาพิจารณา เพื่อให้ได้เบี้ยประกันที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของรถแต่ละคัน และเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจเรื่องนี้ได้ดียิ่งขึ้น เราได้รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นมานำเสนอแล้ว

ปัจจัยหลักที่กำหนดราคาเบี้ยประกันรถยนต์

นอกจากอายุของรถยนต์แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อราคาเบี้ยประกันของคุณ ซึ่งได้แก่

1. รุ่นและยี่ห้อของรถยนต์

ประเภทของรถยนต์มีผลโดยตรงต่อเบี้ยประกัน รถยนต์บางรุ่นมีอะไหล่ที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพง การซ่อมบำรุงไม่ซับซ้อน ทำให้ค่าเบี้ยถูกกว่า ในขณะที่รถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมสูงหรือมีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมสูง อาจมีค่าเบี้ยที่แพงขึ้นตามความเสี่ยงนั้นๆ

2. ราคาฐานเบี้ยประกันของบริษัทประกันภัย

แต่ละบริษัทประกันมีวิธีการประเมินความเสี่ยงและตั้งราคาฐานเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน หากรุ่นรถที่คุณใช้อยู่มีสถิติการเคลมสูง บริษัทอาจมองว่ามีความเสี่ยงที่จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนบ่อยครั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาฐานเบี้ยประกันสำหรับรถรุ่นนั้นๆ สูงขึ้นตามไปด้วย

3. วงเงินความคุ้มครองหรือทุนประกัน

ยิ่งคุณเลือกแผนประกันที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากเท่าไหร่ หรือมีทุนประกันสูงเท่าไหร่ ค่าเบี้ยประกันก็จะยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว อย่างไรก็ตาม การเลือกทุนประกันที่สูงลิ่วอาจไม่ได้คุ้มค่าเสมอไป โดยเฉพาะหากคุณเป็นผู้ขับขี่ที่ระมัดระวัง ไม่ค่อยมีประวัติการเคลม การพิจารณาเลือกทุนประกันที่ลดหลั่นลงมา หรือเลือกแผนที่สามารถปรับความคุ้มครองได้ตามต้องการ อาจช่วยลดค่าเบี้ยประกันลงได้

4. อายุและประวัติการขับขี่ของผู้เอาประกัน

บริษัทประกันส่วนใหญ่มองว่าผู้ขับขี่ที่มีอายุมากกว่ามักจะมีประสบการณ์และพฤติกรรมการขับขี่ที่ปลอดภัยกว่าผู้ขับขี่อายุน้อย ทำให้ผู้เอาประกันที่มีอายุมากมีโอกาสได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันมากกว่า

5. การระบุชื่อผู้ขับขี่

หากรถยนต์ส่วนใหญ่มีผู้ขับขี่ประจำเพียง 1-2 คน การเลือกทำประกันโดยระบุชื่อผู้ขับขี่จะช่วยให้คุณได้รับส่วนลดค่าเบี้ยประกันได้ แต่ข้อจำกัดคือ ความคุ้มครองจะจำกัดอยู่เฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยผู้ที่ระบุชื่อไว้เท่านั้น

6. การเลือกซื้อแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก (Excess)

การตกลงจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเมื่อเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น เป็นฝ่ายผิดหรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดเบี้ยประกันลงได้ เมื่อเกิดเหตุเคลม คุณจะจ่ายเงินตามจำนวนค่าเสียหายส่วนแรกที่ตกลงไว้ จากนั้นบริษัทประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมส่วนที่เหลือ

อายุรถยนต์ส่งผลต่อเบี้ยประกันอย่างไร?

คำตอบคือ “จริง” อายุรถยนต์มีผลโดยตรงต่อค่าเบี้ยประกันรถยนต์ ยิ่งรถมีอายุมากเท่าไหร่ โดยทั่วไปเบี้ยประกันก็จะยิ่งถูกลงเท่านั้น เนื่องจากรถยนต์ที่เก่ากว่ามีความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรมน้อยกว่ารถใหม่ป้ายแดง และมูลค่ารถที่ใช้ในการคำนวณทุนประกันจะลดลงตามค่าความเสื่อม ทำให้ทุนประกันและเบี้ยประกันลดลงตามไปด้วย

รถเก่าอายุมากควรทำประกันแบบไหน? และยังทำประกันชั้น 1 ได้หรือไม่?

แม้รถจะเก่า แต่การมีประกันภัยภาคสมัครใจก็ยังคงให้ความอุ่นใจได้ โดยทั่วไปแล้ว บริษัทประกันภัยมักมีเกณฑ์อายุรถสำหรับการรับประกันภัยประเภทต่างๆ ดังนี้

ประกันรถยนต์ชั้น 1: เหมาะสำหรับรถที่มีอายุไม่เกิน 7-10 ปี (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัท)
ประกันรถยนต์ชั้น 2+/3+: เหมาะสำหรับรถที่มีอายุไม่เกิน 15-20 ปี (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข)
ประกันรถยนต์ชั้น 3: สามารถทำได้สำหรับรถที่มีอายุมากถึง 25-30 ปี หรือมากกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางทั่วไป การที่รถเก่าจะทำประกันชั้น 1 ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละบริษัทประกันภัยเป็นหลัก โดยจะพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ยี่ห้อ รุ่น สภาพของรถ รวมถึงประวัติของผู้ขับขี่ ดังนั้น ควรสอบถามเงื่อนไขโดยตรงกับบริษัทประกันที่คุณสนใจ

รถเก่าเคลมประกัน สามารถนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการได้หรือไม่?

รถยนต์เก่าก็สามารถนำเข้าซ่อมบำรุงหรือเช็คระยะที่ศูนย์บริการของยี่ห้อนั้นๆ ได้ตามปกติ แต่ในกรณีของการเคลมประกันรถยนต์ การจะนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์ของคุณ คุณต้องตรวจสอบให้ดีว่าแผนประกันที่คุณเลือกเป็นแบบซ่อมศูนย์หรือซ่อมอู่ เนื่องจากประกันบางประเภทอาจจำกัดให้ซ่อมได้เฉพาะอู่ในเครือเท่านั้น การตรวจสอบเงื่อนไขนี้ก่อนตัดสินใจทำประกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ภาพรถยนต์เก่าที่กำลังรับบริการในศูนย์ซ่อม บ่งบอกถึงการซ่อมรถเก่าตามเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัย

รถอายุเกิน 15 ปี ควรทำประกันภาคสมัครใจหรือไม่?

นอกเหนือจากประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) การทำประกันภัยภาคสมัครใจสำหรับรถเก่าที่มีอายุเกิน 15 ปีนั้นไม่ใช่เรื่องจำเป็นตามกฎหมาย แต่เป็นทางเลือกที่ให้ประโยชน์อย่างยิ่ง แม้รถของคุณจะเก่ามากหรือใช้งานไม่บ่อย การมีประกันภัยติดไว้ก็มอบความอุ่นใจได้มากกว่า

ประกันภัยรถยนต์ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเฉพาะค่าซ่อมแซมที่อาจสูงกว่าที่คิด หากต้องพึ่งพาแค่ พ.ร.บ. เพียงอย่างเดียว อาจไม่ครอบคลุมความเสียหายทั้งหมด การซื้อประกันภาคสมัครใจจึงเป็นการ “กันไว้ดีกว่าแก้” นอกจากนี้ ปัจจุบันหลายบริษัทเสนอทางเลือกในการผ่อนชำระค่าเบี้ยประกัน ทำให้การทำประกันเป็นเรื่องง่ายและไม่กระทบสภาพคล่องทางการเงินมากนัก

การมีประกันภัยรถยนต์รถเก่าเปรียบเสมือนมีเพื่อนร่วมทางที่คอยดูแลคุณตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะการเลือกแผนประกันที่สามารถปรับความคุ้มครองให้ตรงตามความต้องการ จะช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่าสูงสุด ไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันไปกับความคุ้มครองที่ไม่จำเป็น

หากคุณกำลังมองหาแผนประกันรถยนต์ที่ปรับแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์ เพื่อให้รถเก่าของคุณได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและคุ้มค่าสูงสุด ลองศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบแผนประกันจากบริษัทต่างๆ เพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์และสบายใจในการขับขี่ทุกเส้นทาง ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ และเลือกสิ่งที่ใช่สำหรับรถคู่ใจของคุณได้เลย

Previous Post