ใช้รถน้อย ขับแค่ไปทำงาน เลือกซื้อประกันรถยนต์แบบไหนให้คุ้มค่าที่สุด?

June 14, 2025

กุญแจรถยนต์พร้อมเหรียญเงินและรถจำลอง แสดงถึงแนวทางการประหยัดเบี้ยประกันรถยนต์สำหรับเจ้าของรถที่ขับน้อย

หลายคนที่เป็นเจ้าของรถและมีพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่มากนัก เช่น ใช้รถเดินทางไปทำงานเช้า-เย็นเป็นหลัก อาจเคยรู้สึกว่าการจ่ายเบี้ยประกันภัยรถยนต์เป็นรายปีนั้นดูไม่คุ้มค่า หากในปีนั้นไม่มีเหตุให้ต้องเคลมเลย แต่ในทางกลับกัน การไม่มีกรมธรรม์คุ้มครองภาคสมัครใจเลยก็เป็นการเสี่ยงที่อาจทำให้ต้องเสียเงินก้อนใหญ่หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ ดังนั้น คำถามคือ จะทำประกันรถยนต์อย่างไรให้ตอบโจทย์การใช้งานที่น้อย แต่ยังคงได้รับความคุ้มครองที่จำเป็นและคุ้มค่าที่สุด?

แนวทางการเลือกประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มค่าสำหรับคนใช้รถน้อย

สำหรับผู้ที่ใช้รถน้อย เน้นขับเฉพาะเส้นทางเดิมๆ อย่างการเดินทางไป-กลับที่ทำงาน และมั่นใจในความปลอดภัยของสถานที่จอดรถ รวมถึงพฤติกรรมการขับขี่ของตนเอง การเลือกแผนประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก โดยยังคงได้รับความคุ้มครองที่อุ่นใจ

ทำความเข้าใจประเภทความคุ้มครองและค่าเบี้ย

ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจมีหลายประเภท ซึ่งให้ระดับความคุ้มครองและความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน ส่งผลโดยตรงต่อราคาเบี้ยประกันที่คุณต้องจ่าย

ประกันชั้น 1: ให้ความคุ้มครองครอบคลุมสูงสุด ทั้งความเสียหายต่อรถของคุณเอง (แม้ไม่มีคู่กรณี), รถคู่กรณี, รถหาย ไฟไหม้ และภัยธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสบายใจขั้นสุด แม้ใช้รถน้อย แต่หากเกิดเหตุก็ได้รับความคุ้มครองเต็มที่
ประกันชั้น 2+ / 3+: คุ้มครองความเสียหายต่อรถคู่กรณี และรถของคุณในกรณีที่มีคู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบก รวมถึงรถหาย ไฟไหม้ (สำหรับ 2+) หรือน้ำท่วม (บางแผน) เหมาะสำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงในการซ่อมรถตัวเองเมื่อเกิดเหตุโดยไม่มีคู่กรณีได้
ประกันชั้น 2: เน้นคุ้มครองความเสียหายต่อคู่กรณีเป็นหลัก พร้อมความคุ้มครองรถหาย ไฟไหม้
ประกันชั้น 3: ให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอกและทรัพย์สินคู่กรณีเท่านั้น เป็นประเภทที่มีเบี้ยประกันถูกที่สุด เหมาะมากสำหรับผู้ที่มั่นใจในทักษะการขับขี่และสภาพแวดล้อมการใช้รถที่ปลอดภัย

การพิจารณาเลือกประเภท ประกันรถยนต์ ควรพิจารณาจากความเสี่ยงที่คุณรับได้ เช่น หากกังวลเรื่องรถหายเป็นพิเศษ แต่อุบัติเหตุที่ไม่ชนกับใครมีโอกาสน้อย อาจเลือก ประกันชั้น 2 แทน ประกันชั้น 1 เพื่อลดเบี้ย แต่ถ้าเน้นคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีเป็นหลักก็อาจเลือก ประกันชั้น 3+ หรือ ประกันชั้น 3 ซึ่งมีเบี้ยประกันที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ลอง เปรียบเทียบประกันรถยนต์ ประเภทต่างๆ เพื่อดูว่าแบบไหนตอบโจทย์การใช้รถของคุณมากที่สุด

กลยุทธ์เพิ่มเติมเพื่อลดภาระเบี้ยประกัน

นอกจากการเลือกประเภทความคุ้มครองแล้ว ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่ช่วยให้คุณ ลดเบี้ยประกัน รถยนต์ลงได้อีก โดยเฉพาะเมื่อคุณเป็นผู้ใช้รถน้อย:

ระบุชื่อผู้ขับขี่: หากมีคนใช้รถคันนี้เพียงคนเดียวหรือไม่กี่คน การระบุชื่อผู้ขับขี่ในกรมธรรม์จะช่วยให้บริษัทประกันประเมินความเสี่ยงได้แม่นยำขึ้น และมักจะให้ส่วนลดพิเศษ
เลือกแบบมีค่าเสียหายส่วนแรก (Excess): การเลือกจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกจำนวนหนึ่ง เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่คุณเป็นฝ่ายผิดหรือไม่มีคู่กรณี จะช่วยให้เบี้ยประกันรายปีของคุณถูกลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นอีกวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มั่นใจว่ามีโอกาสเคลมน้อย
สะสมส่วนลดประวัติดี: หากคุณขับขี่อย่างปลอดภัยและไม่มีการเคลมในปีที่ผ่านมา เมื่อถึงเวลา ต่อประกันรถยนต์ คุณจะได้รับส่วนลดประวัติดี ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากรักษาประวัติดีได้อย่างต่อเนื่อง

การเลือกแผน ประกันรถยนต์ออนไลน์ และใช้ประโยชน์จากส่วนลดเหล่านี้ จะช่วยให้คุณจัดการค่าใช้จ่ายด้านประกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนลดประวัติดี เพื่อให้คุณไม่พลาดสิทธิ์นี้เมื่อต่ออายุ

การเลือกแผนประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้รถจริง ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องยอมแลกกับการขาดความคุ้มครองที่จำเป็น แต่คือการบริหารความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด อ้างอิงข้อมูลประเภทประกันภัยรถยนต์จาก คปภ. หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่ใช้รถน้อยและกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ ลองเข้ามาเปรียบเทียบความคุ้มครองและ คำนวณเบี้ยประกัน ภัยรถยนต์ออนไลน์กับรู้ใจ เพื่อค้นหาแผนที่ “ใช่” ในราคาที่คุณพอใจ เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ ตอนนี้เลย!

Previous Post