• Sample Page
  • Sample Page
Film Thai lan
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film Thai lan
No Result
View All Result

[ครบชุด] 1010285 ถ้าเลี้ยงลูกของฉันให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ฉันขอเลี้ยงเอง

admin79 by admin79
October 12, 2025
in Uncategorized
0
[ครบชุด] 1010285 ถ้าเลี้ยงลูกของฉันให้ดีกว่านี้ไม่ได้ ฉันขอเลี้ยงเอง

ส่งสู่สวรรค์ Marcello Gandini กับรถ 9 คันจากฝีมือเขาที่บางคันคุณอาจเคยนั่ง

17 มี.ค. 2567 10:00 น.

  • ข่าว
  • ยานยนต์
  • รีวิวรถ
  • ไทยรัฐออนไลน์

ส่งสู่สวรรค์ Marcello Gandini กับรถ 9 คันจากฝีมือเขาที่บางคันคุณอาจเคยนั่ง

-กกก+

LightDarkฟังข่าว

คนเราเมื่ออยู่ เราสร้างงาน เมื่อเราตาย งานที่มีความเป็นเลิศจะสร้างตำนาน ยอดนักออกแบบรถชาวอิตาเลียนชื่อดัง Marcello Gandini สิ้นลมอย่างสงบเมื่อ 13 มีนาคมที่ผ่านมา ด้วยวัย 85 ปี เขาฝากผลงานเส้นสายทรงลิ่มแหลม (Wedge Design) ดุดันราวคมดาบปลายหอกเอาไว้กับรถหลายรุ่น เรายกตัวอย่างรถที่ Gandini ออกแบบ 9 คัน ซึ่งบางคันอาจเป็นรถแสนธรรมดาที่คุณเคยนั่งในวัยเด็ก

Marcello Gandini เกิดในปี 1938 ที่เมืองตูริน อิตาลี เป็นคนที่มีความชอบเรื่องการออกแบบรถตั้งแต่เด็ก เมื่ออายุได้ 25 ปี เขาเดินเข้าไปสมัครงานที่สถาบันออกแบบ Gruppo Bertone ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการดีไซน์รถ บริหารงานโดย Nuccio Bertone ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการรุ่นที่สองต่อจากพ่อของเขา ในยุคนั้นแม้การแข่งขันจะยังไม่สูงมาก แต่ก็มีการหมั่นไส้กันบ้างเพราะนักออกแบบอีกคนที่ทำงาน ณ Bertone อยู่แล้วอย่าง Giorgetto Giugiaro เกิดไม่ชอบหน้า Gandini แล้วบอกบอสใหญ่ว่าอย่าไปรับไอ้คนนี้มาทำงานเลย แต่แล้วในภายหลัง กลับเป็น Giugiaro เสียเองที่ลาออกไปอยู่กับสำนักออกแบบ Ghia ทาง Bertone จึงรับ Gandini เข้าทำงานในปี 1965 และอยู่ต่อมาเป็นเวลานาน 14 ปี ก่อนลาออกมาทำกิจการส่วนตัว

…

พรสวรรค์ในการออกแบบของเขานั้น นอกจากบรรดารถทรงแหลมลิ่มทิ่มพุงทะลุหลายรุ่น ยังมีการออกแบบเส้นสายบนตัวรถ อุปกรณ์บนรถในแบบต่างๆ ซึ่งกลายมาเป็นของขลังและของปกติในยุคนี้ เช่น ประตูเปิดสวิงขึ้นด้านบนแบบ Lamborghini V12 ก็มาจาก Alfa Romeo Concept Carabo ไฟเลี้ยว ติดตั้งที่กระจกมองข้างที่รถจ่ายกับข้าวมีในวันนี้ ก็มาจากดีไซน์ของ Maserati Chubasco ปรัชญาในการออกแบบรถของ Gandini นั้น ค่อนข้างน่าแปลกใจ ถ้ามองว่านี่คือคนที่อยู่เบื้องหลังรถที่ทรวดทรงเซ็กซี่ตลอดกาลอย่าง Lamborghini Miura เขาบอกว่า “ในการออกแบบ รูปลักษณ์ของรถ ต้องเป็นไปตามรูปแบบด้านวิศวกรรม คือต้องกำหนดองค์ประกอบทางวิศวกรรมก่อนว่าอะไรจะติดตรงไหน อยู่ตรงไหน แล้วค่อยเป็นหน้าที่นักออกแบบ ทำทรงรถเหมือนเสื้อผ้าเก๋ๆ มาคลุมวิศวกรรมเหล่านี้ แต่ก็ไม่ใช่รถทุกคันที่เป็นเช่นนั้น Lamborghini Countach คือรถที่ผู้บริหารเซ็ตทรงว่า ต้องมาอย่างนี้ แล้วบังคับให้วิศวกรติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ แบบห้ามรถเสียทรง

พรสวรรค์ในการออกแบบผสานดีไซน์เข้ากับการใช้งาน ฟังก์ชั่นของอุปกรณ์ ทำให้ Gandini ออกแบบหลายสิ่งเอาไว้ ตั้งแต่บ้าน เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงออกแบบวางผังขั้นตอนการผลิตประกอบรถยนต์ในโรงงาน แต่เรารู้จักเขาในฐานะนักออกแบบที่ฝากผลงานเอาไว้บนรถยนต์หลากหลายรุ่น หลายคนทราบว่า Miura และ Countach คือลูกรักของเขา แต่แท้จริงแล้วมันมีรถธรรมดาที่เป็นผลงานของเขาด้วย เราลองมาดูกัน 9 คัน จากจำนวนหลายสิบคันที่ผมเลือกมาครับ

…

…

LAMBORGHINI MIURA
ครั้งแรกที่เรือนร่างเย้ายวนราวนางแบบ FHM มาพบกับวิศวกรรมยานยนต์ หลายคนยกย่องให้เป็นซุปเปอร์คาร์คันแรกของโลก ใช้เครื่องยนต์ V12 จับวางตามขวาง ขนาด 3.9 ลิตร มีแรงม้าตั้งแต่ 350-385 แรงม้าแล้ว แต่รุ่น Miura เป็นรถที่ทีมวิศวกรตัวเอ้ของ Lamborghini พยายามเสนอให้บอสใหญ่ Ferruccio Lamborghini สร้างแต่โดนเบรกเอาไว้ ทีมวิศวกรภาคค่ำเหล่านี้จึงต้องแอบซุ่มพัฒนารถกันเอง โดยให้สำนัก Bertone รับผิดชอบเรื่องความสวยงามภายนอก ซึ่งเมื่อความแตก แทนที่ Ferruccio จะด่า แกกลับชอบใจและหันกลับมาสนับสนุนให้สร้างรถรุ่นนี้สำเร็จในภายหลัง แต่ตอนวันโชว์ตัวครั้งแรกนั้น รถเพิ่งออกแบบและทำโครงสร้างภายนอกเสร็จหมาดๆ และต้องเข็นรถเข้างาน เอาเหล็กถ่วงน้ำหนักใส่ในห้องเครื่องไว้เพราะรีบจัด พอนักข่าวขอเปิดดูห้องเครื่อง PR ก็ชี้ชวนไปดูนกดูต้นไม้แทน แต่นี่ล่ะคือผลงานเปิดตัวชิ้นโบแดงที่ทำให้วงการนักออกแบบรู้จัก Gandini มากขึ้น และกลายเป็น Case study ด้านการออกแบบเพราะทรงที่เหมือนหญิงสาวกำลังนอน ตาที่หวานแต่ซ่อนแววเผ็ด และความเตี้ยที่เตี้ยแบบเกิน 1 เมตร ไปเพียงเล็กน้อย มันคือรากฐานของซุปเปอร์คาร์ในยุคต่อมา สวย ลิ่ม เตี้ย และมีพละกำลังสูงจากเครื่อง V12

…

LAMBORGHINI COUNTACH
ในปี 1970 Ferruccio สั่งให้ทีมสร้างรถขึ้นมาขายแทน Miura โดยมุ่งเป้าไปที่การปรับเปลี่ยนทางวิศกรรมให้รถสามารถวิ่งได้เร็วและมั่นคงขึ้นกว่าเดิม รูปทรงภายนอกถูกหลักอากาศพลศาสตร์มากขึ้น ลักษณะการวางเครื่อง V12 เปลี่ยนจากวางขวางมาเป็นวางตามยาว เป็นที่มาของอักษร LP ในชื่อรุ่นเช่น LP400, LP400S ซึ่งย่อมาจากภาษาอิตาเลียนว่า longitudinale posteriore ที่แปลว่าวางตามยาวนั่นเอง ซึ่งทำให้บาลานซ์น้ำหนักซ้าย/ขวาของรถดีขึ้น เอกลักษณ์สำคัญของรถรุ่นนี้คือ Scissors door หรือประตูเปิดยกขึ้นแบบกรรไกรสับ ซึ่ง Gandini ทำประตูแบบนี้มาใช้ครั้งแรกในรถต้นแบบ Alfa Romeo Carabo ก่อนมาอยู่ใน Countach เครื่องยนต์ในรุ่นแรกๆ มีกำลังไม่ต่างจาก Miura มาก แต่ในภายหลัง มีรุ่น “QuattroValvole” ซึ่งใช้เครื่อง 4 วาล์วต่อสูบ สร้างกำลังได้ถึง 455 แรงม้า ในภายหลัง การใช้ประตูแบบ Scissors door และเครื่อง V12 กลายเป็น “Must Have” ของรถเรือธงของค่ายไป

LANCIA STRATOS
รถที่เกิดมาเพื่อเป็นรถแข่งแรลลี่อย่างแท้จริง แต่ในการแข่งไม่ได้มีกฎว่าห้ามสร้างรถให้สวย แรกเริ่มเดิมทีทาง Lancia ตั้งจะใจจ้าง Pininfarina ออกแบบรถแข่งให้ใหม่ แต่ Nuccio Bertone อยากได้งานนี้ เขาจึงสั่งให้ Gandini สร้างรถจำลองขึ้นมาคันหนึ่งโดยเอา Lancia Fulvia ของเพื่อนตา Bertone มารื้อแล้วใส่เปลือกนอกใหม่ รถคันนั้นคือ Stratos Zero และทันทีที่มันวิ่งผ่านประตูโรงงานเข้ามา บรรดาคนงานที่เห็นต่างชื่นชมแซ่ซ้องจนผู้บริหารพากันออกมาดู และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ Lancia จ้างงาน Bertone มีการปรับดีไซน์หลายครั้งจนออกมาเป็นแบบที่เห็น โครงสร้างแบบสเปซเฟรม เครื่องวางกลางลำ 2.4 V6 190 แรงม้า (เวอร์ชันแข่งจะถูกโมดิฟายให้แรงกว่านี้) เอกลักษณ์คือกระจกหน้ากับกระจกประตูที่ออกแบบในลักษณะต่อเนื่องแบบ Wraparound design คล้ายกระจกหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ทุกวันนี้ Suzuki Swift Eco 2012 ก็มีเอกลักษณ์นี้อยู่

MASERATI SHAMAL
อสูรหน้าเหลี่ยม เกิดในยุคที่ Maserati กำลังบ้า Bi-turbo engine และดีไซน์เหลี่ยมๆ คมๆ บนเส้นสายรอบคันแบบทื่อๆ ต่างจากงานดีไซน์ที่ Gandini ทำให้ Maserati ก่อนหน้านี้ซึ่งมีแต่รถทรงสะโอดสะองผอมเรียวเปรียวลิ่ม Shamal และ Ghibli Gen 2 รวมถึง Maserati ยุค 80s และ 90s ตอนต้นมีหน้าตาเหมือนรถคุณย่าจ่ายตลาด และอาจมีส่วนทำให้ Maserati ในยุคที่ De Tomaso เป็นเจ้าของกิจการเจ๊งยับจนต้องขายให้กลุ่ม Fiat ในที่สุด แต่อย่าให้ทรงรถคุณย่าหลอกคุณ เพราะ Shamal คือตัวบอสของ Maserati ในยุคนั้นที่วางเครื่อง 3.2 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ 326 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เฟืองท้าย Ranger ซึ่งไม่ได้แปลว่าไปเอาของรถกระบะยี่ห้อหนึ่งมา แต่เป็นชื่อเฟืองลิมิเต็ดสลิปของเขา ในยุคนั้นถือเป็นรถบ้าดีเดือด ใครประมาทเป็นหมุนทุกรายไป แต่เมื่อนั่งภายในรถ คุณจะไม่รู้สึกถึงบรรยากาศรถซิ่ง เพราะมีแต่ไม้วอลนัตขัดเงาเต็มคันแบบ Bentley เห็นยังค้อน หนังคอนนอลลี่ชั้นดี ซึ่งดีในวันของมันและทำลายตัวเองได้หลังพบแดดกรุงเทพ 10 ปีผ่านไป

CIZETA-MORODER V16T
ถ้าคุณชอบงานบดวาล์วตั้งวาล์ว คุณอาจชอบรถคันนี้ เพราะ V16T ในชื่อมาจากการที่มันมี 16 สูบ วางเป็นตัว V และมี 64 วาล์ว 6.0 ลิตร 550 แรงม้า รถคันนี้เกิดจากการที่วิศวกรคนหนึ่งที่รวยมาก ชอบทำงานช่าง รู้จักกับคนที่เป็นนักแต่งเพลงระดับรางวัลออสการ์ซึ่งคนหลังนี้ ชอบเอา Lamborghini มาซ่อมกับคนแรกบ่อยๆ พอนานวันเข้าถูกคอกัน คนแรกคือ Claudio Zampollini ก็ชวน Giorgio Moroder สร้างรถในฝัน เพราะตัวเองอยากมีรถที่ตัวเองผลิต เลยไปจ้างเอาอดีตทีมวิศวกรช่าง Lamborghini มาช่วยกันสร้าง ส่วนตัวรถด้านนอกนั้น ก็ไปเรียก Gandini มาช่วยออกแบบ Gandini เองก็เพิ่งจะอกหักเพราะตัวเองส่งดีไซน์ Lamborghini Diablo ไปแล้วโดนพวกอเมริกันที่รันองค์กรสมัยนั้นเอาไปแก้จนเขาไม่ชอบ Gandini จึงเอาดีไซน์ที่ตนเองออกแบบไว้ (Concept P140) มาปรับแต่งใหม่แล้วขายไอเดียให้ Cizeta ซึ่งประสบความสำเร็จในด้านยอดขาย..ถ้าเขาต้องการขายน้อยนะ เพราะทั้งโลกนี้มีอยู่แค่ 13 คัน แล้วระหว่างทาง Zampollini กับ Moroder ก็แยกตัวออกจากกันเพราะขัดแย้งเรื่องการผลิต

ALFA-ROMEO 33 CARABO
เมื่อดูภาพ คุณจะคิดว่านี่น่าจะเป็นรถต้นแบบยุค 90s ตอนต้น อันที่จริง มันคือรถจากปี 1968 และเป็นผลงานชิ้นเอกที่ทำให้บริษัทรถเริ่มจับตามอง Gandini มากขึ้นนอกเหนือไปจากอัญมณีอย่าง Miura ถ้าคุณคิดว่า Miura เตี้ยติดดินแล้ว (1,060 มม.) Carabo จะขิงความเตี้ยสู้ยิ่งกว่าด้วยตัวเลข 990 มม. คำว่ามุดใต้สิบล้อแล้วผ่านฉลุยไม่เกินจริงแต่อย่างใด รถพื้นฐานของ Carabo คือ Alfa-Romeo Tipo 33 Stradale ซึ่งเป็นรถแข่งเครื่องวางกลางลำ 2.0 ลิตร V8 230 แรงม้า เมื่อมาอยู่ในบอดี้ลื่นลมปรื๊ดๆ แบบ Carabo ก็สามารถทำความเร็วทะลุ 250 ได้อย่างง่ายดาย แต่รถคันนี้ไม่ได้สร้างมาประกาศศักดาความเร็ว แต่เป็นรถที่สร้างแนวทางการออกแบบ Wedge Shape ลิ่มแหลมสามเหลี่ยม เป็นจุดเริ่มต้นทรงให้กับรถจากค่ายอื่นอีกหลายค่าย และเป็นรถรุ่นแรกที่ใช้ประตูกรรไกรสับ Scissors door ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของ Lambo V12 ในภายหลัง

BMW 5-SERIES E12
ใช่ครับ หลายคนจะบอกว่ารถรุ่นนี้ออกแบบโดย Paul Bracq ชาวฝรั่งเศส อันที่จริงบอสใหญ่ Eberhard von Kuenheim จับให้เขาทำงานกับ Gandini ซึ่งรับผิดชอบการออกแบบภายนอก นี่คือรถขนาดกลางสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เน้นทั้งความหรูหราและไฉไล ขับแล้วดูไม่แก่ อันเป็นสูตรสำเร็จที่ตั้งต้นมาตั้งแต่รถตระกูล Neue Klasse ก่อนหน้านี้ เริ่มต้นพัฒนาในช่วงปลายยุค 60s และออกจำหน่ายจริงในปี 1972 เจ้าซีรีส์ 5 รุ่นแรก มีส่วนผสมระหว่างเส้นสายโค้งคล้าย Fiat Argenta กับเอกลักษณ์หน้าฉลามของ BMW ยุคนั้น สาเหตุที่ดีไซน์ของ E12 ไม่แล่มลิ่มทิ่มประตู เพราะยังต้องเผื่อเรื่องการใช้งาน อีกทั้ง Paul Bracq เองก็แก้ดีไซน์ของ Gandini ไปเยอะจนตัวรถดูมีความเป็นเยอรมนีมากขึ้น นี่คือคู่แข่งของบรรพบุรุษเบนซ์ E-Class ซึ่งมีขุมพลังตั้งแต่ระดับเย็นๆ 1.8 ลิตร 90 แรงม้า ไปจนถึงตัวแสบเครื่อง M90 3.5 ลิตร 218 แรงม้า

CITROEN BX
ใครเกิดก่อนปี 1990 จะมีสิทธิ์ทันการมีอยู่ของรถรุ่นนี้ในประเทศไทย BX เป็นรถขนาดกลางค่อนไปทางเล็ก จับตลาดครอบครัวและผู้ใช้ทั่วไป Gandini เคยสะบัดปากกาวาดเส้นงานไว้ใช้กับรถ Raliant FW11 แล้วไม่ได้ใช้ แกเลยจับมาปัดฝุ่นแล้วเสนอให้กับทาง Citroen ดู ซึ่งจะแม้ทรงจะป้อมค่อมน่ารักแต่จะแอบเห็นความเป็น Wedge Shape แฝงอยู่ตามประตูและมุมต่างๆ ของรถ สิ่งที่ทำให้คนยุคเราจำ BX กันได้มากที่สุดนอกจากรูปร่างแล้วก็คือช่วงล่างไฮดรอนิวเมติก ที่สามารถปรับระดับสูงต่ำ โย่ง หรือเตี้ย หรือเตี้ยแบบสุดๆ ก็ได้ นุ่มสบายก้น ใช้ดีหากได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ทุกวันนี้กลายเป็นของหายาก สมัยนั้นมีตั้งแต่รุ่น BX 16RS 1.6 ลิตร 90 แรงม้า BX LEADER 1.6 ลิตร และ BX 1.9 GTi 125 แรงม้า นี่คือสามรุ่นหลักที่ขายในไทยเท่าที่ผมจำความได้

FIAT 132/ARGENTA
ก่อนยุค 1980s นั้น บ้านเรายังปรานีเรื่องภาษีรถนำเข้า จนกระทั่งประมาณปี 1979 รัฐบาลเริ่มซัดภาษีนำเข้าโหดจนคนไทยอดใช้รถดีๆ หลายรุ่น สมัยนั้นรถอิตาเลียนอย่าง FIAT วิ่งกันให้ท่วมเมือง ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กๆ อย่าง 125, 131 หรือรถใหญ่หน่อยอย่าง 132/ARGENTA ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบของ Gandini เช่นเดียวกัน 132 เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังที่มีขนาดตัวและดีไซน์เห็นแล้วชวนนึงถึง BMW 5 SERIES แต่ความเหมือนก็จบแค่นั้น มีขุมพลังตั้งแต่ 1.6 ลิตร ไปจนถึง 2.0 ลิตร สมัยนั้นถ้าใครมี 132 ตัวท้อป 2000 เกียร์อัตโนมัติ ก็จัดว่าป๋าไม่หยอก แต่รถส่วนมากจะเป็นเครื่อง 1.6 หรือ 1.8 ลิตร เกียร์ธรรมดา พอหลังปี 1981 เป็นต้นมา ชื่อรุ่นก็เปลี่ยนจาก 132 เป็น ARGENTA พร้อมกับอัปเดตหน้าตาให้ทันสมัยขึ้น.

Pan Paitoonpong

…

ข่าวเด่นดูทั้งหมด

แม่ทัพภาคที่ 2 ยันจะไม่เสียแผ่นดินไทยให้ใคร ย้ำ 2 ปราสาทต้องนำกลับคืนอย่างแน่นอน

แม่ทัพภาคที่ 2 ยันจะไม่เสียแผ่นดินไทยให้ใคร ย้ำ 2 ปราสาทต้องนำกลับคืนอย่างแน่นอน

อีสาน20:00 น.

“ธนกร” ลุยดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หนุนโดรนไทยเสริมความมั่นคงชาติ

“ธนกร” ลุยดันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หนุนโดรนไทยเสริมความมั่นคงชาติ

การเมือง19:53 น.

กกล.บูรพา ตรวจพบทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 2 ทุ่น สภาพพร้อมใช้งาน ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว

กกล.บูรพา ตรวจพบทุ่นระเบิดเพิ่มอีก 2 ทุ่น สภาพพร้อมใช้งาน ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว

ทั่วไทย19:15 น.

…

ข่าวแนะนำ

ดูทั้งหมด

“สมชาย-เยาวภา” เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” บอกกำลังใจดี รู้ว่าควรอยู่อย่างไร

politic

ราชทัณฑ์ เล็งให้ “ทักษิณ” สอนภาษาอังกฤษ ผู้ต้องขังในเรือนจำ

Previous Post

[ครบชุด] 1010284 หนูอยากมีนาฬิกา อยากหยุดเวลาไว้ให้พ่อกับแม่อยู่ตรงนี้

Next Post

[ครบชุด] 1010286 เป็นแค่ลูกจ้าง แต่กลับเหยียดลูกค้า

Next Post
[ครบชุด] 1010286 เป็นแค่ลูกจ้าง แต่กลับเหยียดลูกค้า

[ครบชุด] 1010286 เป็นแค่ลูกจ้าง แต่กลับเหยียดลูกค้า

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • [ครบชุด] PI10400 ร้านอาหารยอดแย่ คนแก่ห้ามเข้า ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10399 ปลoมตัวไม่ปลoมใจ Ep
  • [ครบชุด] PI10398 แMvโมลูกเดียวเปลี่euชีวิตพวกเขา 2 คน ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10397 โจsในคsๅUคนแก่ ละครสั้น
  • [ครบชุด] PI10396 วิญญาณแก้แค้u ละครสั้น

Recent Comments

No comments to show.

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • August 2025
  • July 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.