[ครบชุด] XU11241 Facebook (29)

JY AIR: ปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่ซีดานไฟฟ้า พรีเมียมสู่ปี 2025

ปี 2025 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของวงการยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ที่ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่ได้กลายเป็นรากฐานที่มั่นคงของอนาคตการเดินทาง ผู้บริโภคมีความเข้าใจและต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เหนือกว่าแค่การประหยัดพลังงาน แต่ยังต้องตอบโจทย์ด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี ความสะดวกสบาย และที่สำคัญคือความน่าเชื่อถือ “JY AIR” ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นแรกจาก จูนเหยา ออโต (ประเทศไทย) ก้าวเข้ามาในตลาดด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานเหล่านี้ ด้วยการผสมผสานมรดกจากสายการบินระดับโลก สู่การสร้างสรรค์รถยนต์ซีดานไฟฟ้าที่มอบประสบการณ์การเดินทางระดับ First Class บนท้องถนน บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของ JY AIR จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญยานยนต์ไฟฟ้าที่มีประสบการณ์กว่าทศวรรษ เพื่อไขคำตอบว่า ทำไม JY AIR จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตาที่สุดของตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025

จูนเหยา ออโต (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ JuneYao Group กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่มี JuneYao Airlines เป็นสายการบินชั้นนำในประเทศจีน ได้นำเอาปรัชญาและมาตรฐานระดับสูงของการบินมาสู่โลกยานยนต์ได้อย่างน่าสนใจ การเปิดตัว JY AIR พร้อมกับการทดสอบสมรรถนะบนเส้นทางกรุงเทพฯ – พัทยา – กรุงเทพฯ ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร ไม่ใช่แค่การพิสูจน์ความสามารถของรถ แต่เป็นการประกาศความพร้อมที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างและเหนือกว่า สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด EV ไทย ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด

การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากอากาศยาน: นิยามใหม่ของซีดานแห่งอนาคต

จุดเด่นแรกที่ทำให้ JY AIR แตกต่างจาก ซีดานไฟฟ้า ทั่วไปในตลาด คือแนวคิดการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอากาศยานอย่างชัดเจน ภายใต้แนวคิด “ONE BOX” ที่เน้นความกว้างขวางของห้องโดยสารเป็นสำคัญ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างามและความล้ำสมัย เส้นสายของตัวรถถูกออกแบบมาเพื่อหลักอากาศพลศาสตร์ขั้นสูง นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่เป็นหัวใจสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของ รถยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) ที่ต่ำเพียง 0.23cd นั้นเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการแหวกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดแรงต้านทาน ส่งผลโดยตรงต่อระยะทางขับขี่ที่ไกลขึ้น และการใช้พลังงานที่คุ้มค่าสูงสุด

รายละเอียดการออกแบบสะท้อนถึงวิศวกรรมการบินได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นช่องดักอากาศบริเวณกันชนหน้าและมุมกันชน ที่ผสานกับสปอยเลอร์ฝากระโปรงท้ายและใต้กันชนหลังอย่างแนบเนียน เพื่อควบคุมการไหลเวียนของอากาศรอบตัวรถ ล้ออัลลอยด์ลาย Turbo Fan ก็ไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ และการระบายความร้อนของระบบเบรกได้อีกด้วย การใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ทำให้ JY AIR ไม่เพียงแต่ดูโฉบเฉี่ยว แต่ยังเป็นยานยนต์ที่คำนึงถึงทุกมิติของสมรรถนะการขับขี่และ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า 2025 อย่างแท้จริง

สมรรถนะการขับเคลื่อน: ความแรงที่มาพร้อมความประหยัด

JY AIR พร้อมจำหน่ายในสองรุ่นย่อย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในตลาด รถ EV 2025 ได้แก่ รุ่น Standard และรุ่น Plus ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งให้การตอบสนองที่ฉับไวและสนุกสนานในการขับขี่

JY AIR รุ่น Standard: มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 51 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ให้พละกำลังสูงสุด 201 แรงม้า (150 kW) สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 7.9 วินาที และมีระยะทางวิ่งสูงสุดตามมาตรฐาน NEDC ถึง 430 กิโลเมตร
JY AIR รุ่น Plus: ยกระดับขึ้นด้วยแบตเตอรี่ความจุ 64 กิโลวัตต์/ชั่วโมง มอบพละกำลังสูงสุด 214 แรงม้า (160 kW) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เท่ากันที่ 7.9 วินาที แต่ได้ระยะทางวิ่งสูงสุดตามมาตรฐาน NEDC ที่น่าประทับใจถึง 520 กิโลเมตร

ความเร็วสูงสุดของทั้งสองรุ่นถูกจำกัดไว้ที่ 170 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานบนท้องถนนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือการเดินทางไกลข้ามจังหวัด สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า ที่ส่งตรงจากมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้การออกตัวและการเร่งแซงเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีการรอรอบเหมือนรถสันดาปภายใน ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์

ระบบการชาร์จ: รวดเร็วทันใจ พร้อมลุยทุกเส้นทาง

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคพิจารณาในการเลือกซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า คือความสามารถในการชาร์จไฟ JY AIR เข้าใจถึงความต้องการนี้ และได้ติดตั้งระบบการชาร์จที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างดีเยี่ยม

JY AIR รุ่น Standard: รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charge) ที่กำลังไฟสูงสุด 70 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการชาร์จจาก 30% ถึง 80% ซึ่งเป็นช่วงที่ใช้งานบ่อยที่สุด
JY AIR รุ่น Plus: มอบความเร็วในการชาร์จที่เหนือกว่า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 90 กิโลวัตต์ สามารถชาร์จจาก 30% ถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 21 นาทีเท่านั้น

ความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็วนี้ ทำให้ JY AIR เหมาะสำหรับการเดินทางไกล โดยเฉพาะในยุคที่ สถานีชาร์จรถ EV กำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ การแวะพักชาร์จเพียงช่วงสั้นๆ ก็เพียงพอที่จะให้พลังงานกลับคืนมาอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทางขับขี่ (range anxiety) และเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน รถ EV ระยะทางไกล ได้อย่างแท้จริง

ห้องโดยสารระดับ First Class: ความสบายเหนือระดับสำหรับทุกการเดินทาง

หาก JY AIR ได้แรงบันดาลใจจากอากาศยานในการออกแบบภายนอก ห้องโดยสารคือจุดที่ปรัชญา “First Class” ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนที่สุด วัสดุที่เลือกใช้ภายในห้องโดยสารล้วนเป็นวัสดุคุณภาพสูง การตัดเย็บและประกอบประณีต ให้ความรู้สึกหรูหราและพรีเมียมตั้งแต่แรกสัมผัส นอกจากนี้ การออกแบบภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์ยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ภายในห้องโดยสารเงียบสงบ มอบความเป็นส่วนตัวและความผ่อนคลายในระดับเดียวกับการเดินทางบนเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสอย่างแท้จริง

อุปกรณ์มาตรฐานภายในห้องโดยสารก็จัดเต็มเพื่อความสะดวกสบายและทันสมัย จอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 8.8 นิ้ว ทำหน้าที่แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญได้อย่างชัดเจน ควบคู่ไปกับหน้าจอ Intelligent Display ขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการควบคุมระบบต่างๆ ภายในรถ รองรับการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, และ Bluetooth รวมถึงบริการแอปพลิเคชันบนมือถือที่เชื่อมต่อกับรถได้ หลังคาพาโนรามาขนาด 2.072 ตารางเมตร (เฉพาะในรุ่น Plus) ช่วยให้ห้องโดยสารดูโปร่งโล่งสบายตา เพิ่มมิติของพื้นที่และความหรูหรา นอกจากนี้ JY AIR ยังมอบความอเนกประสงค์ด้วยห้องเก็บสัมภาระขนาด 420 ลิตร ซึ่งสามารถปรับเพิ่มเป็น 1,338 ลิตรได้เมื่อพับเบาะหลัง เหมาะสำหรับการขนสัมภาระในวันหยุดพักผ่อน หรือแม้แต่การใช้งานในชีวิตประจำวัน

ประสบการณ์การขับขี่จริง: บทพิสูจน์บนท้องถนนกรุงเทพฯ สู่พัทยา

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ได้มีโอกาสสัมผัสและทดลองขับ ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ คันนี้บนเส้นทางกรุงเทพฯ-พัทยา-กรุงเทพฯ ต้องยอมรับว่า JY AIR มีความน่าสนใจหลายประการ แม้ว่าตลาดรถซีดานในประเทศไทยอาจได้รับความนิยมน้อยลงในช่วงหลัง แต่ JY AIR นำเสนอการออกแบบที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์สูงมาก ถ้าใครชื่นชอบดีไซน์แนวล้ำสมัยและได้รับแรงบันดาลใจจากอากาศยาน ก็จะตกหลุมรักทันที แต่หากไม่ชื่นชอบ ก็อาจจะรู้สึกเฉยๆ ซึ่งเป็นเรื่องของรสนิยมส่วนบุคคล

การขับขี่ในเมือง: ด้วยขนาดตัวรถที่พอดี ทำให้ JY AIR มีความคล่องตัวสูงในสภาพการจราจรหนาแน่นของกรุงเทพฯ กระจกหน้าบานใหญ่ช่วยให้ทัศนวิสัยกว้างขวาง ลดจุดอับสายตาได้อย่างดีเยี่ยม การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถส่วนใหญ่ผ่านหน้าจอ แสดงให้เห็นถึงแนวคิดการออกแบบที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมใน รถ EV พรีเมียม ยุคใหม่

สมรรถนะบนทางหลวง: อัตราเร่งของ JY AIR นั้นเพียงพอต่อการใช้งานอย่างเหลือเฟือ ด้วยความเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้การตอบสนองของพละกำลังเป็นไปอย่างทันที ไม่มีอาการรอรอบแม้แต่น้อย การเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจ และการขับขี่ที่ความเร็วสูงบนทางด่วนทำได้อย่างนิ่งและเสถียร การเก็บเสียงลมจากด้านบนทำได้ยอดเยี่ยมตามที่คาดหวังจากหลักอากาศพลศาสตร์ แต่ยังมีเสียงยางและเสียงจากพื้นถนนบางส่วนที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นจุดที่สามารถพัฒนาต่อไปได้

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS Level 2+): นี่คือหนึ่งในไฮไลท์สำคัญที่ทำให้ JY AIR แตกต่างจาก รถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์จีนหลายรุ่นที่เข้ามาในตลาด ระบบ ADAS Level 2+ ของ JY AIR ทำงานได้อย่างนุ่มนวลและเชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับระยะห่างตามรถคันหน้า (Adaptive Cruise Control) ที่รักษาระยะห่างได้อย่างเป็นธรรมชาติ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบควบคุมการเปลี่ยนเลน ทุกฟังก์ชันทำงานประสานกันเสมือนมีผู้ช่วยขับที่คอยดูแล ไม่มีการเบรกกะทันหัน หรือออกตัวแรงจนน่าตกใจ เหมือนที่เคยพบในบางค่าย สิ่งนี้สร้างความมั่นใจอย่างมากในการเดินทางไกล และทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ช่วงล่างและความสบาย: ช่วงล่างของ JY AIR ให้ความรู้สึกนุ่มนวลตามสไตล์รถยนต์จีน แต่ยังคงความมั่นใจในการควบคุมที่ความเร็วสูง ไม่นุ่มจนเกินไปจนทำให้รู้สึกโคลงเคลง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ ประสบการณ์ขับขี่ EV ที่ดี ผู้โดยสารจึงไม่รู้สึกเวียนหัวจากการโคลงตัวมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเบาะหลัง ตำแหน่งของเบาะนั่งที่มีความชันเล็กน้อย อาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้าได้บ้างเมื่อต้องเดินทางไกล แต่สำหรับเบาะหน้า ซึ่งมีขนาดใหญ่และรองรับสรีระได้ดี มอบความสบายในการนั่งตลอดเส้นทาง

อัตราสิ้นเปลืองพลังงาน: การวิเคราะห์เชิงลึก

จากการทดสอบในสภาวะการขับขี่ปกติ ไม่ได้เน้นการประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ ทั้งการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง สลับความเร็วไปมา อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยที่ได้อยู่ที่ประมาณ 18.5 kWh/100km ซึ่งหากขับขี่ด้วยความเร็วคงที่ประมาณ 110 กม./ชม. อัตราการกินไฟจะอยู่ที่ 18-19 kWh/100km

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ถือว่าอัตราสิ้นเปลืองนี้อยู่ในเกณฑ์กลางๆ ค่อนไปทางกินไฟเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ รถ EV ประหยัดพลังงาน บางรุ่นในตลาด 2025 ที่อาจทำได้ดีกว่าที่ความเร็วสูง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองของรถยนต์ไฟฟ้ามีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การขับขี่ การใช้เครื่องปรับอากาศ สภาพถนน หรือแม้แต่อุณหภูมิภายนอก หากต้องการขับขี่ให้ประหยัดพลังงานสูงสุด การรักษาระดับความเร็วให้ต่ำกว่า 100 กม./ชม. จะช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่สำหรับรถยนต์ที่มีสมรรถนะและขนาดแบตเตอรี่ระดับ JY AIR ตัวเลขนี้ก็ยังถือว่ารับได้ และด้วยค่าไฟที่ต่ำกว่าน้ำมันอย่างมาก ทำให้ ค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้า โดยรวมยังคงคุ้มค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด

ระบบความปลอดภัย: อุ่นใจในทุกเส้นทาง

ความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ยุคใหม่ JY AIR สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SKY EV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับห้าดาวที่สามารถรองรับการพัฒนารถยนต์หลากหลายประเภท และโครงสร้างตัวถังก็ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจากทั้ง CNCAP และ Euro NCAP ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกให้การยอมรับสูงสุด ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารมั่นใจได้ในระดับความแข็งแกร่งและปลอดภัยของตัวรถ

นอกจากความแข็งแกร่งของโครงสร้างแล้ว ยังเสริมด้วยความล้ำสมัยของระบบช่วยเหลือการขับขี่อัตโนมัติ Advanced Driving Assistant System (ADAS) Level 2+ ที่ได้กล่าวไปแล้ว ซึ่งมีฟีเจอร์ช่วยเหลือที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า การช่วยจอด ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบควบคุมการเปลี่ยนเลน คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และทำให้การเดินทางทุกครั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยไร้กังวล

สีสันและราคา: เข้าถึงง่าย ในแบบที่โดดเด่น

JY AIR มีตัวเลือกสีตัวรถให้เลือกถึง 4 สี เพื่อให้เข้ากับสไตล์ของผู้ขับขี่แต่ละคน ได้แก่ สีขาว Moon White, สีฟ้า Meteorite Blue, สีเขียว Aurora Green, และสีดำ Galactic Black ซึ่งล้วนเป็นสีที่ดูทันสมัยและเข้ากับดีไซน์ของรถได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของราคา JY AIR วางจำหน่ายในราคาที่น่าสนใจและแข่งขันได้ในตลาด ราคา EV ในไทย ณ ปัจจุบัน:
JY AIR รุ่น Standard: ราคาเริ่มต้น 759,000 บาท
JY AIR รุ่น Plus: ราคาเริ่มต้น 869,000 บาท

ด้วยราคาที่จับต้องได้เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี สมรรถนะ และความสะดวกสบายที่ได้รับ ทำให้ JY AIR เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง

บริการหลังการขาย: มั่นใจตลอดการเป็นเจ้าของ

จูนเหยา ออโต (ประเทศไทย) ตระหนักดีว่าบริการหลังการขายคือหัวใจสำคัญของการสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทจึงได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ มีโชว์รูมที่พร้อมให้ผู้สนใจเข้าชมและสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบอัจฉริยะของ JY AIR ด้วยตัวเอง พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและตอบข้อสงสัยทุกประการ

นอกจากนี้ ยังมีศูนย์บริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน พร้อมสต็อกอะไหล่สำรองทุกประเภท เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการบริการหลังการขายจะเป็นไปอย่างรวดเร็วและครบถ้วน สิ่งนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจเป็นเจ้าของ JY AIR ว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีตลอดอายุการใช้งาน และไม่ต้องกังวลเรื่องการซ่อมบำรุงในระยะยาว

บทสรุป: ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งการเดินทางด้วย JY AIR

JY AIR ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นที่เข้ามาในตลาด แต่เป็นการนำเสนอแนวคิดใหม่ของการเดินทาง ที่ผสานความหรูหรา ความสะดวกสบาย สมรรถนะ และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น แรงบันดาลใจจากอากาศยาน สมรรถนะรถยนต์ไฟฟ้า ที่น่าประทับใจ ระบบความปลอดภัยระดับสูงสุด และห้องโดยสารที่มอบประสบการณ์ First Class ทำให้ JY AIR เป็น ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่พร้อมจะปฏิวัติมุมมองของคุณที่มีต่อการขับขี่ซีดานไฟฟ้าในยุค 2025

หากคุณกำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ด้านการประหยัดพลังงาน แต่ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า มีความปลอดภัยที่วางใจได้ และบริการหลังการขายที่มั่นคง JY AIR คือคำตอบที่น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง

อย่ารอช้าที่จะสัมผัสอนาคตของการเดินทาง! ขอเชิญผู้ที่สนใจทุกท่านเข้าเยี่ยมชมโชว์รูมของ จูนเหยา ออโต (ประเทศไทย) และทดลองขับ JY AIR ด้วยตัวคุณเอง เพื่อเปิดประสบการณ์การขับขี่ระดับ First Class บนท้องถนน ที่คุณจะต้องประทับใจ เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ JY AIR และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่งยานยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริงได้แล้ววันนี้!