[ครบชุด] 1211170 ใครว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายจีบก่อนไม่ได้

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูงกับการผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัดในปี 2025

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากรถยนต์ที่หลายคนมองว่าเป็นเพียงยานพาหนะสำหรับอนาคต สู่การเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่ตลาด EV กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี 2025 นี้ สิ่งที่เรากำลังมองหาจากรถยนต์ไฟฟ้า SUV ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความประหยัดหรือเทคโนโลยีล้ำสมัยอีกต่อไป แต่คือรถที่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ครบทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง การเดินทางไกล หรือแม้กระทั่งการพาคุณออกไปสัมผัสประสบการณ์ผจญภัยนอกเส้นทาง และนี่คือเหตุผลที่ ZEEKR 7X กำลังจะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า SUV อย่างแท้จริง

ZEEKR 7X: การออกแบบที่ผสานความหรูหราและขีดจำกัดที่เหนือกว่า

แรกเห็น ZEEKR 7X คุณจะสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันในการออกแบบที่ผสานความหรูหราแบบยุโรปเข้ากับความทันสมัยของยนตรกรรมไฟฟ้าได้อย่างลงตัว รูปทรงแบบ SUV 5 ที่นั่ง ที่เน้นเส้นสายที่คมชัดแต่ยังคงความไหลลื่น ทำให้รถดูแข็งแกร่งและสง่างามไปพร้อมกัน ไฟหน้าแบบ Stargate Front Light Panel ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระบบไฟส่องสว่าง แต่คือผืนผ้าใบดิจิทัลที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และสื่อถึงอนาคตได้อย่างชัดเจน ขนาดตัวถังที่สมดุล โดยมีความยาว 4,787 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร และสูง 1,650 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อที่กว้างถึง 2,900 มิลลิเมตร ไม่เพียงแต่ให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง แต่ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ทั้งบนถนนเรียบและเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ระยะต่ำสุดถึงพื้น (ground clearance) ที่ 173 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้ด้วยระบบช่วงล่างถุงลม บ่งบอกถึงศักยภาพในการบุกตะลุยที่เหนือกว่า SUV ไฟฟ้าทั่วไป ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตร และขยายได้มากถึง 1,978 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวและการเดินทางทุกรูปแบบ ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk) ขนาด 66 ลิตร ยังเป็นพื้นที่อันชาญฉลาดสำหรับเก็บสายชาร์จหรืออุปกรณ์ที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึง

ขุมพลังไฟฟ้า 800V: สมรรถนะที่เร้าใจและประสิทธิภาพสูงสุด

หัวใจหลักที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นเหนือใครคือขุมพลังไฟฟ้าที่ได้รับการพัฒนาบนสถาปัตยกรรม 800V Technology ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมนี้ ผมยืนยันได้ว่าระบบ 800V ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่น่าสนใจ แต่คือเทคโนโลยีที่พลิกโฉมวงการรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง มอบทั้งประสิทธิภาพการชาร์จที่เหนือกว่า และการส่งผ่านพลังงานที่ดียิ่งขึ้น ลดการสูญเสียพลังงานจากความร้อน ทำให้ ZEEKR 7X กลายเป็น รถไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่พร้อมตอบสนองทุกการขับขี่

ZEEKR 7X มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน:

Long Range RWD:
มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ให้พละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) และแรงบิดมหาศาลที่ 440 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh ช่วยให้รถสามารถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.0 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. และระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจกว่า 700 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC สำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่เน้นความประหยัดในการเดินทางระยะไกล พร้อมสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน รุ่นนี้คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ
Performance AWD:
สำหรับผู้ที่ต้องการที่สุดแห่งพละกำลังและความมั่นใจในการขับขี่ รุ่น Performance AWD มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) มอบพละกำลังสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิด 710 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ NMC ความจุ 100 kWh เช่นเดียวกัน ทำให้รุ่นนี้สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่เทียบเท่ากับซูเปอร์คาร์หลายรุ่นในตลาด ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. และระยะทางวิ่งกว่า 600 กม. (NEDC) รุ่นนี้ไม่เพียงแต่ให้สมรรถนะที่เร้าใจ แต่ยังเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะถนนและการควบคุมในทุกสภาพเส้นทาง ทำให้ ZEEKR 7X Performance AWD เป็น รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ไม่เป็นรองใคร

การชาร์จที่รวดเร็วและเทคโนโลยี V2L: เติมเต็มอิสรภาพในทุกการเดินทาง

การชาร์จไฟคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญ ZEEKR 7X ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในยุคของ ชาร์จเร็วรถยนต์ไฟฟ้า อย่างแท้จริง รองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo สำหรับการชาร์จกระแสสลับ (AC) สูงสุด 22 kW และที่น่าทึ่งคือการรองรับการชาร์จกระแสตรง (DC Fast Charging) สูงสุดถึง 420 kW ด้วยความเร็วระดับนี้ การชาร์จ DC จาก 10-80% สามารถทำได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที เมื่อใช้หัวชาร์จ 360 kW ซึ่งเป็นความเร็วที่เปลี่ยนมุมมองการเดินทางด้วยรถยนต์ไฟฟ้าไปอย่างสิ้นเชิง คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องระยะเวลาการรอชาร์จอีกต่อไป

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังมาพร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L (Vehicle-to-Load) สูงสุด 3.3 kW (3,300 watts) ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับรถได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟเคลื่อนที่สำหรับการตั้งแคมป์ ปาร์ตี้กลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งสำรองไฟฉุกเฉินสำหรับบ้านเรือนในยามจำเป็น ระบบ V2L รถยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นฟีเจอร์ที่สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ ZEEKR ในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในยุค 2025

ช่วงล่างระดับพรีเมียมและความสามารถ Off-Road ที่เหนือคาด

ประสบการณ์การขับขี่คือสิ่งที่ ZEEKR 7X ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยช่วงล่างด้านหน้าอิสระ Double Wishbone และด้านหลังอิสระ Multi-Link ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ เพื่อมอบทั้งความนุ่มนวลในการเดินทางและเสถียรภาพในการเข้าโค้ง ระบบ ช่วงล่างถุงลม แบบ Active Air Suspension with CCD ไม่เพียงแต่ช่วยซับแรงกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้การขับขี่ผ่านเส้นทางขรุขระเป็นไปอย่างนุ่มนวล แต่ยังสามารถปรับความสูงของรถได้โดยอัตโนมัติถึง 230 มม. ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างจาก รถยนต์ไฟฟ้า SUV อื่นๆ ในตลาด

จากการทดสอบขับขี่ในสภาพเส้นทางออฟโรด ผมต้องยอมรับว่า ZEEKR 7X ทำผลงานได้เหนือความคาดหมายอย่างมาก เมื่อเข้าสู่โหมดออฟโรด รถจะปรับช่วงล่างให้สูงขึ้นอัตโนมัติ ทำให้ผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย ในสถานีเนินสลับล้อ การทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมการถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยึดเกาะพื้นได้ดีเยี่ยม ทำให้รถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่น่าประทับใจคือการให้ตัวของช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ทำให้ตัวรถโคลงเคลงน้อยมากเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน

เมื่อเจอเนินชัน ZEEKR 7X สามารถไต่ขึ้นได้อย่างง่ายดายด้วยพละกำลังที่มีอยู่มากมาย และในจังหวะที่ต้องหยุดรถกลางเนินและออกตัวใหม่ ระบบจัดการพลังงานของรถก็ทำได้อย่างชาญฉลาด ไม่ส่งกำลังที่รุนแรงเกินไปจนทำให้ล้อฟรีทิ้ง ส่วนการลงเนินสูง ระบบ HDC (Hill Descent Control) หรือระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ ก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถลงเนินได้อย่างสบายใจเสมือนขับรถในกลุ่มพรีเมียมยุโรป

บนเส้นทางขรุขระ แม้จะใช้ ล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 265/40 R21 ที่ดูเหมือนจะเน้นสมรรถนะบนถนนเรียบ แต่ด้วยช่วงล่างถุงลม ZEEKR 7X ยังคงมอบความนุ่มนวลที่น่าทึ่ง สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือพวงมาลัยที่นิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือตีมือแต่อย่างใดขณะวิ่งผ่านทางขรุขระ ซึ่งเป็นสิ่งที่หายากในรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นสมรรถนะเช่นนี้ กล่าวได้ว่า ZEEKR 7X ผ่านการทดสอบออฟโรดได้อย่างน่าประทับใจ สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับ รถไฟฟ้าออฟโรด ที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน

สำหรับการขับขี่บนทางเรียบนั้น ไม่ต้องสงสัยในเรื่องของความแรง ZEEKR 7X รุ่น Performance มอบแรงดึงมหาศาลที่มาพร้อมความนุ่มนวลในการขับขี่ ส่วนรุ่น Long Range ก็ไม่ได้น้อยหน้า มีแรงดึงที่ดีและเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน ช่วงล่างในรุ่น Long Range ให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ อาจจะมีความกระด้างกว่ารุ่น Performance เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่โดยรวมแล้วยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพึงพอใจอย่างยิ่ง

ห้องโดยสารพรีเมียม: นวัตกรรมและความสะดวกสบายในทุกสัมผัส

ก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คุณจะพบกับพื้นที่ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อมอบประสบการณ์แห่งความผ่อนคลายและเทคโนโลยีขั้นสูง มันคือ “ห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่” ที่สมบูรณ์แบบสำหรับ รถครอบครัวไฟฟ้า ในปี 2025 เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather คุณภาพสูง ไม่เพียงแต่ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและหรูหรา แต่ยังสื่อถึงรสนิยมระดับสูงของเจ้าของรถ เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ที่จะช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกลหรือวันที่เหน็ดเหนื่อย ทำให้การขับขี่กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงาน

จุดเด่นอีกประการคือเบาะหลังที่สามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับองศาการนั่งให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน พักผ่อน หรือรับชมความบันเทิง ม่านบังแดดประตูคู่หลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความสบายในการเดินทาง ประตูทั้ง 4 บานยังมาพร้อมระบบเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เพิ่มความสะดวกสบายและสัมผัสความหรูหราทุกครั้งที่เข้าออกรถยนต์

ระบบสารสนเทศและความบันเทิง: เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด

ZEEKR 7X คือขุมทรัพย์แห่งเทคโนโลยีที่ถูกบรรจงใส่ไว้ในห้องโดยสาร ระบบสารสนเทศและบันเทิงถูกนำเสนอผ่านหน้าจอ Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K ที่คมชัดเสมือนจริงทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลแผนที่ สตรีมมิ่งความบันเทิง หรือการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ความคมชัดของหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นและเพลิดเพลิน

เหนือสิ่งอื่นใด คือหน้าจอ AR HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 36.21 นิ้ว ที่ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลการขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องละสายตาจากถนน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ระยะยาว หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว ยังทำหน้าที่แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย

หัวใจของการประมวลผลทั้งหมดนี้คือชิป Qualcomm Snapdragon 8295 Processor ที่ใช้เทคโนโลยี 5nm Process Technology ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่ทรงพลังและทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน การันตีการทำงานที่รวดเร็ว ลื่นไหล และไร้รอยต่อ ตอบสนองทุกคำสั่งได้อย่างฉับไว ทำให้ ประสบการณ์การขับขี่ และการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ

เพื่อเติมเต็มสุนทรียภาพแห่งการเดินทาง ZEEKR 7X มาพร้อมระบบเสียง ZEEKR Sound Pro ที่ประกอบด้วยลำโพงคุณภาพระดับสตูดิโอถึง 21 ตำแหน่งรอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบประสบการณ์เสียงที่ดื่มด่ำและเหนือระดับในทุกเส้นทาง

ความปลอดภัยขั้นสูงสุด: มาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว เพื่อทุกคนในครอบครัว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าเรื่องความปลอดภัยคือสิ่งที่ ZEEKR 7X ไม่มีการประนีประนอม รถคันนี้สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดเป็นหลัก ความมุ่งมั่นด้าน ความปลอดภัย 5 ดาว นี้ได้รับการยืนยันด้วยผลการทดสอบ Euro NCAP 5 ดาว ซึ่งได้คะแนนสูงถึง 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ZEEKR AD (Advanced Driver Assistance System) ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips ซึ่งเป็นขุมพลังในการประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์และกล้องรอบคันอย่างแม่นยำและรวดเร็ว ระบบนี้ครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist), ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking) และระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Monitoring) ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในทุกการเดินทาง ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งและความปลอดภัยให้กับห้องโดยสารในกรณีเกิดการชน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักโดยรวมของรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดียิ่งขึ้นอีกด้วย เหล่านี้คือ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่ ZEEKR นำเสนอเพื่อปกป้องคนที่คุณรัก

สรุป: ZEEKR 7X SUV ไฟฟ้าที่เปลี่ยนทุกมุมมอง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามาอย่างยาวนาน ผมกล้าพูดได้ว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ รถยนต์ไฟฟ้า SUV ธรรมดา แต่มันคือการประกาศตัวตนของยุคใหม่ที่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถมอบได้ทุกอย่าง ทั้งความแรง ความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการพาคุณออกไปผจญภัยได้ทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนเรียบในเมืองหรือเส้นทางออฟโรดที่ไม่คุ้นเคย

ZEEKR 7X ทำลายกำแพงความเชื่อเดิมๆ ที่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่สามารถลุยได้ดี และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด ด้วยคุณสมบัติที่ครบครัน ทั้งดีไซน์อันโดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ ระบบชาร์จที่รวดเร็ว ห้องโดยสารที่หรูหราสะดวกสบาย และระบบความปลอดภัยระดับโลก ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือรถที่พร้อมพาคุณออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในวันหยุด ZEEKR 7X มีคำตอบให้คุณเสมอ ด้วยราคาคาดการณ์ที่เข้าถึงได้ง่าย เมื่อเทียบกับคุณสมบัติและเทคโนโลยีที่ได้รับ ZEEKR 7X จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างยิ่งในตลาดปี 2025

พร้อมแล้วหรือยังที่จะสัมผัสอนาคต?

หากคุณพร้อมที่จะเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมยกระดับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ZEEKR 7X คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา สัมผัสถึงพลังแห่งนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและความอิสระในการเดินทางได้แล้ววันนี้ เตรียมพบกับการเปิดราคาอย่างเป็นทางการในไทยในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ และเป็นส่วนหนึ่งของยุคสมัยใหม่ที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะ แต่คือเพื่อนร่วมทางในทุกการผจญภัยของคุณ

อย่ารอช้า! ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลข่าวสารและสิทธิพิเศษเกี่ยวกับ ZEEKR 7X ก่อนใคร และเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าไปกับ ZEEKR ประเทศไทย