[ครบชุด] PI10399 ปลoมตัวไม่ปลoมใจ Ep

JAECOO 5 EV: พลิกโฉมตลาด B-SUV ไฟฟ้าไทยปี 2025 ด้วยนวัตกรรมและราคาที่เหนือกว่า

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนจะน่าตื่นเต้นและรวดเร็วเท่ากับการก้าวเข้าสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ที่ตลาดมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและแข่งขันกันอย่างดุเดือดในปี 2025 นี้ ผู้บริโภคชาวไทยไม่ได้มองหารถยนต์ไฟฟ้าเพียงเพื่อความประหยัดอีกต่อไป แต่ยังมองหาคุณค่าที่ครบครัน ทั้งด้านดีไซน์ สมรรถนะ ความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ซึ่งวันนี้ ผมจะพาไปเจาะลึกรถยนต์ไฟฟ้า B-SUV รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังสร้างกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์อย่าง JAECOO 5 EV จากแบรนด์ OMODA & JAECOO ที่พร้อมแล้วที่จะเข้ามาเขย่าบัลลังก์ในเซกเมนต์นี้ ด้วยการนำเสนอแพ็คเกจที่เหนือความคาดหมายในราคาที่เข้าถึงได้

ภาพรวมตลาด B-SUV ไฟฟ้าในไทยปี 2025: ความท้าทายและโอกาส

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเข้าสู่ช่วงของการ “ทำความเข้าใจ” และ “การเลือกสรร” อย่างแท้จริงในปี 2025 จากที่เคยเป็นเพียงกระแส รถ EV ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนเมืองยุคใหม่ โครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จรถไฟฟ้าก็มีการพัฒนาและครอบคลุมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความกังวลเรื่อง “Range Anxiety” ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และระบบขับเคลื่อน EV มากขึ้น แบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ จึงต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นเฉพาะตัว และมอบ “คุณค่าที่แท้จริง” ให้กับลูกค้า

เซกเมนต์ B-SUV ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพสูง ด้วยขนาดที่กะทัดรัด คล่องตัว เหมาะกับการขับขี่ในเมือง แต่ยังคงให้พื้นที่ภายในที่กว้างขวาง และความอเนกประสงค์แบบรถ SUV ที่ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดเล็กหรือผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย ผู้เล่นในตลาดนี้จึงต้องนำเสนอความสมดุลระหว่างราคา สมรรถนะ และฟีเจอร์ JAECOO 5 EV ได้เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้อย่างลงตัว และจากประสบการณ์ของผม นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมจะยกระดับมาตรฐานของ B-SUV ไฟฟ้าไปอีกขั้น

การออกแบบที่สะท้อนวิสัยทัศน์แห่งอนาคต: ผสมผสานความแข็งแกร่งและความเรียบหรู

สิ่งที่ JAECOO 5 EV โดดเด่นตั้งแต่แรกเห็นคือ “การออกแบบ” ที่ฉีกแนวจาก B-SUV ไฟฟ้าทั่วไป ด้วยเส้นสายที่เน้นความแข็งแกร่งในสไตล์ “ทรงกล่อง” แต่ก็ยังคงความทันสมัยและพรีเมียมไว้ได้อย่างน่าทึ่ง การผสมผสานนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานและความเป็นอมตะ ที่จะยังคงความน่าสนใจไปอีกหลายปีในอนาคต

ภายนอกที่ดึงดูดทุกสายตา: กระจังหน้าแบบโปร่งใสที่ประทับชื่อแบรนด์ J A E C O O ไว้ตรงกลางเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน ท้าทายแนวคิดการออกแบบกระจังหน้าแบบเดิมๆ ของรถยนต์สันดาปภายใน มันไม่ได้เป็นเพียงช่องดักอากาศ แต่เป็นงานศิลปะที่สื่อถึงยุคสมัยของพลังงานสะอาด ชุดไฟหน้า LED ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่เรียวยาวถูกจัดวางอย่างลงตัว มอบแสงสว่างที่คมชัดและสร้างความโดดเด่นให้กับส่วนหน้า ด้านข้างของตัวรถเน้นความเรียบหรูด้วยเส้นสายที่ลากยาวจากไฟหน้าจรดไฟท้าย สร้างความรู้สึกต่อเนื่องและพริ้วไหว แม้จะมีรูปทรงที่เน้นความบึกบึน มือเปิดประตูแบบปกติเป็นทางเลือกที่คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริงในระยะยาว และในส่วนของล้ออัลลอยดีไซน์ทูโทนขนาด 18 – 19 นิ้ว ไม่เพียงเสริมความสปอร์ต แต่ยังได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์เพื่อช่วยเพิ่มระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้า ท้ายรถเติมเต็มความสปอร์ตด้วยไฟท้าย LED แนวนอนเต็มความกว้างของตัวรถ พร้อมสปอยเลอร์หลังคาขนาดใหญ่และดิฟฟิวเซอร์สีดำที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความแข็งแกร่ง และราวแล็คหลังคาสีบรอนซ์เงินแบบตายตัวยังเพิ่มความอเนกประสงค์ในการบรรทุกสัมภาระสำหรับไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟ

ห้องโดยสารอัจฉริยะที่เน้นความมินิมอลและฟังก์ชันการใช้งาน: ก้าวเข้ามาภายใน JAECOO 5 EV คุณจะพบกับแนวคิด “ห้องโดยสารดิจิทัล” ที่ผสมผสานความมินิมอลเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย แผงแดชบอร์ดที่สะอาดตาได้รับการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว ที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสองก้าน ซึ่งให้ข้อมูลการขับขี่ที่จำเป็นได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน แต่จุดเด่นที่แท้จริงคือหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 13.2 นิ้ว ที่ติดตั้งในแนวตั้งบนคอนโซลกลาง ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกโมเดิร์น แต่ยังใช้งานได้สะดวกสบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแสดงผลแผนที่นำทางหรือการควบคุมฟังก์ชันต่างๆ มาพร้อมแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย ที่ตอบรับกับวิถีชีวิตคนเมืองยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ

ชุดอุปกรณ์ภายในก็จัดเต็มเพื่อประสบการณ์ที่เหนือกว่า ทั้งปุ่ม Push Start, กุญแจรีโมท Keyless Entry, ชุดไฟ Ambient Light ที่ปรับเปลี่ยนสีได้เพื่อสร้างบรรยากาศตามอารมณ์, ระบบเครื่องเสียงจาก Sony พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่งที่มอบมิติเสียงอันทรงพลังและคมชัด, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบแยกส่วนซ้าย-ขวา เพื่อความสบายสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน และเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Hold ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการขับขี่

เบาะที่นั่งหุ้มด้วยวัสดุกึ่งหนังแท้ ให้ความรู้สึกพรีเมียมและง่ายต่อการดูแลรักษา เบาะคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายในการหาตำแหน่งขับขี่ที่เหมาะสมที่สุด ส่วนเบาะหลังปรับพับได้แบบ 60:40 ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับรถ B-SUV ไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 480 ลิตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และสามารถขยายได้มากถึง 1,284 ลิตร เมื่อพับเบาะด้านหลังลง ทำให้ JAECOO 5 EV กลายเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งการเดินทางในเมืองและการผจญภัยในช่วงวันหยุดได้อย่างลงตัว

สมรรถนะการขับขี่และขุมพลังไฟฟ้า: ประสิทธิภาพที่เหนือกว่าความคาดหมาย

หัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าคือระบบขับเคลื่อน และ JAECOO 5 EV ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ที่ส่งกำลังขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) มอบพละกำลังสูงสุด 211 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุดถึง 288 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงแค่ดูดีบนกระดาษ แต่ยังให้ประสบการณ์การขับขี่ที่ฉับไวและราบรื่นอย่างน่าประทับใจ การเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจ และการขับขี่ในเมืองก็คล่องตัวเป็นพิเศษ

แบตเตอรี่และระยะทางวิ่งที่วางใจได้: แบตเตอรี่ขนาดความจุ 58.9 kWh เป็นหัวใจหลักที่ขับเคลื่อน JAECOO 5 EV มอบอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.7 วินาที ซึ่งถือว่าเร็วพอตัวสำหรับรถในเซกเมนต์นี้ และความเร็วสูงสุดที่ 175 km/h ก็เพียงพอสำหรับการเดินทางบนทางหลวงในประเทศไทย สำหรับระยะทางวิ่งนั้น JAECOO 5 EV สามารถวิ่งได้ไกลถึง 461 km ตามมาตรฐาน NEDC และ 400 km ตามมาตรฐาน WLTP ซึ่งมาตรฐาน WLTP เป็นค่าที่สะท้อนการใช้งานจริงได้แม่นยำกว่า ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้กังวล และยังเพียงพอสำหรับการเดินทางระยะกลาง

การชาร์จไฟที่สะดวกสบาย: JAECOO 5 EV รองรับหัวชาร์จ Type2 / CCS Combo ซึ่งเป็นมาตรฐานที่แพร่หลายในประเทศไทย ทำให้การหาสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเป็นเรื่องง่าย การชาร์จกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 11 kW ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านในตอนกลางคืน ส่วนการชาร์จกระแสตรง DC รองรับสูงสุด 80 kW ช่วยให้การชาร์จระหว่างการเดินทางเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปแล้ว การชาร์จจาก 20% ถึง 80% จะใช้เวลาไม่นาน ทำให้คุณกลับสู่เส้นทางได้อย่างรวดเร็ว

ช่วงล่างที่เหนือกว่าเพื่อการขับขี่ที่มั่นคง: สำหรับ JAECOO 5 EV ทั้งสองรุ่นย่อย (Dynamic และ Max) มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Strut และด้านหลังแบบ Multi-Link ซึ่งเป็นชุดช่วงล่างที่ให้ความมั่นคงในการขับขี่สูง ยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม มอบความสบายในการเดินทางบนสภาพถนนที่หลากหลายของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่ต้องเจอกับหลุมบ่อ หรือการเดินทางออกต่างจังหวัดบนทางหลวงที่ต้องการความนุ่มนวลและเสถียรภาพ และด้วยโหมดการขับขี่ ECO, Normal, และ Sport ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนลักษณะการตอบสนองของรถให้เข้ากับสไตล์การขับขี่และสถานการณ์ได้อย่างง่ายดาย

สุดยอดเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS ที่ครบครัน

ในยุค 2025 ความปลอดภัยเป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่ผู้บริโภคมองหา และ JAECOO 5 EV ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ทำงานร่วมกับเรดาร์คลื่นระดับมิลลิเมตร 2 ระบบ และระบบเรดาร์คลื่นมิลลิเมตรระยะไกล 1 ระบบ มอบความปลอดภัยสูงสุดในทุกการเดินทาง นี่ไม่ใช่เพียงแค่คุณสมบัติเสริม แต่เป็น “เกราะป้องกันอัจฉริยะ” ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

ระบบความปลอดภัยเชิงรุกและเชิงรับ:
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) และระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW): ช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวางและลดความเสี่ยงของการชนด้านหน้า
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control – ACC) และระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ (TJA): ช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าและลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ระยะยาวหรือในสภาพการจราจรติดขัด
ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW) และระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน (LCA/LKA): ช่วยให้รถอยู่ในช่องทางที่ถูกต้อง และป้องกันการออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ
ระบบเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot) และระบบเตือนเมื่อเปิดประตู (DOW): เพิ่มความปลอดภัยในการเปลี่ยนเลนและการลงจากรถ
ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง (RCTB) และระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA): ช่วยให้การถอยจอดปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่จำกัด
ระบบป้องกันการออกนอกเลน (LDP) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (IES): ยกระดับการป้องกันอุบัติเหตุให้ครบวงจร
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา และฟังก์ชันแสดงภาพใต้พื้นรถ 540 องศา: นี่คือคุณสมบัติพิเศษที่ผมประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ช่วยให้การจอดรถในพื้นที่แคบ หรือการขับขี่ในเส้นทางทุรกันดารบางครั้งเป็นไปได้อย่างแม่นยำและมั่นใจ ช่วยลดความเสียหายต่อตัวรถและล้อ
เซนเซอร์กะระยะช่วยจอดด้านหน้า: เสริมความมั่นใจในการจอดรถ
และอีกหลากหลายระบบ เช่น ระบบแจ้งเตือนการออกตัว (DAI), ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW), ระบบจำกัดความเร็วแบบแอ็คทีฟ (ASL), ระบบเบรกอัตโนมัติป้องกันการชน (MCB) ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ JAECOO ในการมอบความปลอดภัยระดับโลกให้กับผู้ใช้งาน

JAECOO 5 EV Dynamic และ Max: ทางเลือกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

JAECOO 5 EV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย เพื่อตอบสนองความต้องการและงบประมาณที่แตกต่างกัน ได้แก่ รุ่น Dynamic และ Max

JAECOO 5 EV Dynamic (ราคา 549,000 บาท): ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์รถยนต์ไฟฟ้า B-SUV คุณภาพสูง ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด ด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน ทั้งช่วงล่างที่มั่นคง ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ทรงพลัง และระบบความปลอดภัย ADAS ที่จำเป็น ทำให้ Dynamic เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าอย่างเหลือเชื่อ มอบทั้งสมรรถนะและความปลอดภัยที่ไม่ต่างจากรุ่นท็อปมากนัก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพและเทคโนโลยีในราคาสมเหตุสมผล

JAECOO 5 EV Max (ราคา 599,000 บาท): สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ที่เหนือระดับกว่า รุ่น Max จะเข้ามาเติมเต็มความสมบูรณ์แบบ ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีขั้นสูงขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์เด่นๆ เช่น หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่ขึ้น ระบบเครื่องเสียง Sony ลำโพง 12 ตำแหน่ง และรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ที่ช่วยยกระดับทั้งความสะดวกสบายและความหรูหราภายในห้องโดยสาร ทำให้ Max เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการ “ที่สุด” ของ JAECOO 5 EV และพร้อมที่จะลงทุนเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อความพรีเมียมและความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ

ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด JAECOO 5 EV ทั้งสองรุ่นย่อย ต่างมอบความคุ้มค่าและคุณสมบัติที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาดได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของระบบความปลอดภัย ADAS และเทคโนโลยีภายในห้องโดยสาร ที่มักจะพบได้ในรถยนต์ราคาสูงกว่านี้

สีสันที่สะท้อนตัวตน: เลือกสไตล์ที่เป็นคุณ

JAECOO 5 EV ยังเปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่ได้เลือกสีสันภายนอกที่สะท้อนความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ โดยมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Carbon Black (ดำ), Cloudy Grey (เทา), Snowy White (ขาว) และ Bahamas Blue (น้ำเงิน) แต่ละสีล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นความคลาสสิก หรูหรา หรือความสดใสทันสมัย และยังจับคู่กับสีภายในห้องโดยสารได้ 2 แบบ คือ Light Grey (เทาอ่อน) และ Black (ดำ) ที่ช่วยสร้างบรรยากาศภายในที่แตกต่างกัน ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปตามสไตล์ของผู้ใช้งาน

ราคาที่สร้างปรากฏการณ์และคุณค่าเหนือความคาดหมาย

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ ราคาเริ่มต้นเพียง 549,000 บาท สำหรับ JAECOO 5 EV Dynamic และ 599,000 บาท สำหรับรุ่น Max ถือเป็นการสร้าง “ปรากฏการณ์” ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า B-SUV ในประเทศไทยปี 2025 อย่างแท้จริง ด้วยราคา EV ที่เข้าถึงได้ขนาดนี้ พร้อมแพ็คเกจคุณสมบัติและเทคโนโลยีที่จัดเต็ม ทำให้ JAECOO 5 EV กลายเป็น “ตัวเลือกที่คุ้มค่าการลงทุน” และเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า ราคาถูก” ที่ไม่ได้ลดทอนคุณภาพหรือความปลอดภัยลงเลย นี่คือจุดแข็งที่สำคัญที่สุดในการช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด

เมื่อพิจารณาถึง “ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของ” (Total Cost of Ownership – TCO) รถยนต์ไฟฟ้ายังคงได้เปรียบรถยนต์สันดาปภายในในระยะยาว ด้วยค่าเชื้อเพลิงที่ต่ำกว่า และค่าบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า และด้วยการรับประกันแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนที่เชื่อถือได้ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าการเป็นเจ้าของ JAECOO 5 EV จะเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดและยั่งยืน

สรุปและก้าวสู่อนาคตกับ JAECOO 5 EV

JAECOO 5 EV ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า B-SUV อีกรุ่นหนึ่งที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย แต่เป็นการประกาศตัวของแบรนด์ JAECOO ที่พร้อมจะพลิกโฉมวงการยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการนำเสนอ “นวัตกรรมยานยนต์” ที่ล้ำสมัย “สมรรถนะเหนือชั้น” “ความปลอดภัยสูงสุด” และ “ราคาที่สร้างปรากฏการณ์” ทำให้ JAECOO 5 EV ตอบโจทย์ทุกความต้องการของ “วิถีชีวิตคนเมือง” และผู้ที่มองหา “รถยนต์ไฟฟ้า SUV” ที่ “ประหยัดพลังงาน” และ “คุ้มค่า” อย่างแท้จริงในปี 2025

สำหรับผู้ที่กำลังมองหาประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคต ด้วยเทคโนโลยีที่ครบครัน ดีไซน์ที่โดดเด่น และความคุ้มค่าที่ไม่มีใครเทียบได้ JAECOO 5 EV คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทยปัจจุบัน

อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสู่ “อนาคต” ที่ยั่งยืนและชาญฉลาด สัมผัสประสบการณ์ JAECOO 5 EV ด้วยตัวคุณเองวันนี้! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายทดลองขับได้ที่โชว์รูม JAECOO ทั่วประเทศ เพื่อเปิดประสบการณ์ “พลังงานสะอาด” และ “เทคโนโลยี ADAS รถยนต์ไฟฟ้า” ที่จะเปลี่ยนทุกการเดินทางของคุณให้พิเศษกว่าที่เคย!