[ครบชุด] 1010208 เรื่องวุ่นๆ ของผัวนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ หลง รักแฟนเพจ

ถอดรหัส Toyota Yaris ATIV HEV ปี 2025: ทำไมช่วงล่างและสมรรถนะการขับขี่ จึงเป็นมาตรฐานใหม่ของรถยนต์ B-Segment ไฮบริดที่คุณไม่ควรมองข้าม

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์ในแต่ละเซกเมนต์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม B-Segment ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงและเป็นประตูสู่การครอบครองรถยนต์คันแรกของใครหลายคน ตลาดนี้ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เพียงเรื่องราคาอีกต่อไป แต่ยังรวมถึงประสิทธิภาพการขับขี่ เทคโนโลยี และที่สำคัญที่สุดคือ “ความคุ้มค่าในระยะยาว” ซึ่ง Toyota Yaris ATIV HEV รุ่นปี 2025 ได้เข้ามาเติมเต็มช่องว่างนี้ได้อย่างน่าประทับใจ และสร้างมาตรฐานใหม่ที่รถยนต์รุ่นอื่นต้องจับตามอง

ปี 2025 เป็นปีที่ผู้บริโภคมีความตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ความต้องการ “รถยนต์ไฮบริด” จึงไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นความจำเป็นที่ขับเคลื่อนด้วยปัจจัยทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม Toyota ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีไฮบริดมาอย่างยาวนาน ได้นำเสนอ Yaris ATIV HEV ออกสู่ตลาดด้วยความมั่นใจ ไม่ใช่เพียงแค่การเสริมทางเลือกให้กับเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรเดิม แต่เป็นการยกระดับประสบการณ์การขับขี่และมาตรฐานของรถยนต์ในกลุ่ม B-Segment ไปอีกขั้นอย่างแท้จริง และนี่คือเหตุผลที่ผมมองว่ามันคือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในตลาดปัจจุบัน

การเปิดตัวที่เหนือความคาดหมาย: Yaris ATIV HEV กับการกำหนดนิยามใหม่ของ B-Segment

การเปิดตัว Toyota Yaris ATIV HEV ในปี 2025 เป็นที่จับตาอย่างมาก ด้วยสองรุ่นย่อยหลักคือ HEV Premium และ HEV GR SPORT ซึ่งประกาศราคาช่วงแนะนำที่ 719,000 บาท และ 769,000 บาท ตามลำดับ พร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กม. และที่สร้างความมั่นใจสูงสุดคือ “ประกันแบตเตอรี่ไฮบริด” นานถึง 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นี่คือสิ่งที่ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของ Toyota ในเทคโนโลยีและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจซื้อ “รถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ 2025”

มิติตัวถังที่สมส่วน ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ด้วยความยาว 4,425 – 4,440 มม. ความกว้าง 1,740 มม. และความสูง 1,480 มม. พร้อมระยะฐานล้อ 2,620 มม. ทำให้ Yaris ATIV HEV มีพื้นที่ภายในที่โปร่งโล่ง และมีเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมสำหรับรถในพิกัดนี้ รัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.8 – 5.2 เมตร ยังคงรักษาความคล่องตัวในการใช้งานในเมืองได้อย่างยอดเยี่ยม ถังน้ำมันขนาด 36 ลิตร เมื่อผนวกกับ “อัตราประหยัดน้ำมัน Yaris ATIV” ที่โดดเด่น ยิ่งทำให้การเดินทางแต่ละครั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ต้องแวะปั๊มบ่อยนัก

หัวใจแห่งประสิทธิภาพ: เจาะลึกระบบขับเคลื่อนไฮบริด

สิ่งที่ทำให้ Yaris ATIV HEV แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากรุ่น 1.2 ลิตร ไม่ใช่แค่การเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาเท่านั้น แต่เป็นการ “ผสานเทคโนโลยีไฮบริดโตโยต้า” เข้ากับการปรับแต่งทางวิศวกรรมในหลายจุด เพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้แพ็คเกจที่เหมาะสม

หัวใจหลักคือเครื่องยนต์พื้นฐานเดียวกับ Yaris Cross ซึ่งเป็นการยกระดับพละกำลังและสมรรถนะให้เหนือกว่ารถยนต์ในกลุ่ม B-Segment ทั่วไป การปรับแต่งไม่ได้หยุดอยู่แค่การติดตั้งระบบไฮบริด แต่ยังรวมถึง:
การปรับจูนการไหลของอากาศใหม่ (Airflow Optimization): วิศวกรของ Toyota ได้ทำการปรับปรุงทางเดินอากาศของเครื่องยนต์ เพื่อให้การเผาไหม้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียพลังงาน และเพิ่มกำลังในจังหวะที่เหมาะสม
ปั๊มน้ำใหม่เพื่อการจัดการความร้อนที่ดีขึ้น (Enhanced Thermal Management): การควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน ปั๊มน้ำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ช่วยให้เครื่องยนต์สามารถรักษาอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการจุดระเบิดที่ดียิ่งขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อการประหยัดน้ำมัน
การจูน ECU ใหม่ทั้งหมด (Comprehensive ECU Recalibration): ระบบควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) ได้รับการตั้งโปรแกรมใหม่ เพื่อให้การทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด การเปลี่ยนผ่านระหว่างโหมดการขับขี่ (EV Mode, Hybrid Mode) เป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและตอบสนองได้ทันใจในทุกช่วงความเร็ว

ผลลัพธ์ของการปรับแต่งเชิงวิศวกรรมเหล่านี้ ทำให้ Yaris ATIV HEV ไม่เพียงแต่มี “อัตราประหยัดน้ำมัน” ที่โดดเด่นเท่านั้น แต่ยังให้ “สมรรถนะการขับขี่” ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของแรงบิดและการตอบสนอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรอาจต้องใช้ความพยายามมากกว่า

มากกว่าแค่เครื่องยนต์: อัจฉริยภาพของช่วงล่างและโครงสร้างตัวถัง

สำหรับผมแล้ว จุดเด่นที่แท้จริงของ Yaris ATIV HEV ไม่ได้มีแค่เรื่องระบบขับเคลื่อนไฮบริดเพียงอย่างเดียว แต่คือ “ช่วงล่าง” และโครงสร้างตัวถังที่ได้รับการออกแบบและปรับจูนมาเป็นพิเศษ เพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจากชุดแบตเตอรี่ไฮบริดและมอเตอร์ไฟฟ้า (เพิ่มขึ้นประมาณ 100 กก. ในรุ่น Premium และ 120 กก. ในรุ่น GR SPORT)

โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่ง (Reinforced Chassis): ส่วนท้ายของตัวถังได้รับการยกมาจาก Yaris Cross ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง และยังมีการเสริมความแข็งแรงเพิ่มเติมในจุดสำคัญต่างๆ ทำให้ Yaris ATIV HEV มีเสถียรภาพในการทรงตัวที่ดีเยี่ยม ลดอาการโคลงเคลง และเพิ่มความมั่นคงในการเข้าโค้ง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของ “การควบคุมรถ” ที่ดี
การปรับจูนช่วงล่างเฉพาะรุ่น (Variant-Specific Suspension Tuning): นี่คือจุดที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของวิศวกร Toyota พวกเขาไม่ได้ใช้การปรับจูนช่วงล่างแบบเดียวกันสำหรับทั้งสองรุ่นย่อย แต่ได้ทำการปรับแต่งโช้คอัพ สปริง และเหล็กกันโคลง ให้เหมาะสมกับคาแรคเตอร์ของแต่ละรุ่น
GR SPORT: เน้นความหนึบแน่น กระชับ ตอบสนองต่อการขับขี่แบบสปอร์ต การปรับจูนนี้ให้ความรู้สึกมั่นคงแม้ในความเร็วสูง ลดอาการโยนตัวของรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าโค้งด้วยความเร็วทำได้อย่างมั่นใจ พวงมาลัยถูกปรับจูนให้มีน้ำหนักกำลังดี ไม่เบาหรือหนักจนเกินไป ทำให้การบังคับควบคุมรถเป็นไปอย่างแม่นยำและสื่อสารกับผู้ขับขี่ได้ดี
Premium: เน้นความนุ่มนวล ซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การเดินทางไกลที่ต้องการความสบาย พวงมาลัยมีน้ำหนักเบากว่า ให้ความคล่องตัวสูง เหมาะกับการขับขี่ในเมืองและการจอดรถ

การแยกการปรับจูนช่วงล่างอย่างชัดเจนเช่นนี้ ทำให้ Yaris ATIV HEV ไม่ได้เป็นแค่รถไฮบริดที่ประหยัดน้ำมัน แต่เป็นรถที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่างกันตามความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งนี่คือสิ่งที่รถยนต์ในกลุ่ม B-Segment ทั่วไปมักจะขาดหายไป

ประสบการณ์หลังพวงมาลัย: GR SPORT vs. Premium

ผมมีโอกาสได้ทดสอบ Toyota Yaris ATIV HEV ทั้งสองรุ่นย่อยบนเส้นทางที่หลากหลาย ตั้งแต่การจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ ไปจนถึงถนนหลวงที่ใช้ความเร็วสูง และเส้นทางคดเคี้ยวในจังหวัดระยองและพัทยา เพื่อสัมผัสถึงความแตกต่างและประสิทธิภาพที่แท้จริง

GR SPORT: นิยามใหม่ของความสปอร์ตที่ใช้งานได้จริง
เมื่อแรกเริ่มสัมผัสกับรุ่น GR SPORT สิ่งแรกที่รู้สึกได้คือความแตกต่างอย่างชัดเจนจากรุ่น 1.2 ลิตรเดิม ช่วงล่างที่ได้รับการปรับจูนใหม่ให้ความรู้สึกหนึบแน่นและมั่นคงกว่ามาก การซับแรงกระแทกจากหลุมบ่อหรือพื้นถนนที่ไม่เรียบทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ได้แข็งกระด้างจนรู้สึกไม่สบาย แต่กลับให้ความรู้สึกกระชับและควบคุมได้ง่าย

สิ่งที่น่าประทับใจเป็นพิเศษคือชุดแต่ง “GR SPORT” ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีฟังก์ชันการทำงานที่ช่วยเสริม “สมรรถนะการขับขี่” อย่างแท้จริง ในความเร็วสูงเกิน 100 กม./ชม. ชุดแต่งนี้จะช่วยเพิ่มแรงกดอากาศ (Downforce) ได้มากถึงประมาณ 30% ทำให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ลดอาการร่อนหรือโคลงเคลง และเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ หากคุณเคยขับรุ่น 1.2 ลิตรด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. คุณอาจต้องจับพวงมาลัยแน่นและรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย แต่ในรุ่น GR SPORT ด้วยความเร็วเท่ากัน คุณจะสัมผัสได้ถึงความนิ่ง ความมั่นคง และความผ่อนคลายในการควบคุม นี่คือความแตกต่างที่ผมกล้าพูดได้ว่า “พลิกโฉม” ประสบการณ์การขับขี่ของรถ B-Segment ไปเลย

ส่วนเรื่องอัตราเร่งนั้น แม้ Yaris ATIV HEV จะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อเป็นรถซิ่ง แต่การทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าก็ให้แรงบิดที่ดีตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้การออกตัวและการเร่งแซงเป็นไปอย่างราบรื่นและทันใจกว่ารุ่น 1.2 ลิตรอย่างเห็นได้ชัด

Premium: ความสบายที่มาพร้อมประสิทธิภาพ
เมื่อเปลี่ยนมาขับรุ่น Premium สิ่งที่สัมผัสได้ทันทีคือ “ความนุ่มนวล” ของช่วงล่างที่แตกต่างจาก GR SPORT อย่างสิ้นเชิง รุ่น Premium ถูกจูนมาเพื่อเน้นความสบายในการเดินทาง ซับแรงกระแทกได้ดีกว่า ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง หรือการเดินทางไกลที่ไม่เน้นความเร็วจัดจ้าน พวงมาลัยมีน้ำหนักเบากว่ารุ่น GR SPORT ทำให้การบังคับควบคุมในพื้นที่แคบหรือการจอดรถเป็นไปอย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบสบายๆ หรือต้องการรถยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ในด้านอัตราเร่ง รุ่น Premium ก็ยังคงให้ “สมรรถนะการขับขี่” ที่ดีเยี่ยมไม่แพ้ GR SPORT ด้วยระบบขับเคลื่อนไฮบริดเดียวกัน แต่อาจมีอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีกว่าเล็กน้อย เนื่องจากขนาดล้อที่เล็กกว่า ทำให้มีน้ำหนักรวมและแรงเสียดทานน้อยกว่า

โดยรวมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรุ่น GR SPORT หรือ Premium “Yaris ATIV HEV” ก็มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่ารุ่นเครื่องยนต์ 1.2 ลิตรอย่างชัดเจน ทั้งในด้านพละกำลัง การตอบสนอง และคุณภาพช่วงล่างที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

สุดยอดแห่งการประหยัด: อัตราสิ้นเปลืองที่เหนือความคาดหมาย

หนึ่งในจุดแข็งที่สุดของ Yaris ATIV HEV คือ “อัตราประหยัดน้ำมัน” ที่น่าทึ่ง จากการทดสอบใช้งานจริง ผมพบว่าตัวเลขที่เคลมจากโรงงานที่ 29.4 กม./ลิตร ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขในห้องแล็บ หากขับขี่แบบเน้นประหยัดอย่างตั้งใจ ก็สามารถทำได้ถึง 32 กม./ลิตร เลยทีเดียว แม้แต่การขับขี่แบบปกติโดยไม่เน้นประหยัดมากนัก ก็ยังคงทำได้ในระดับ 24-25 กม./ลิตร ซึ่งถือว่าดีเยี่ยมมากๆ และเป็นจุดขายสำคัญสำหรับ “รถยนต์ประหยัดน้ำมันระยะยาว” ในยุค 2025 ที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวน

ระบบไฮบริดของ Toyota ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการจัดการพลังงาน โดยเฉพาะการสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างชาญฉลาด รวมถึงระบบ Regenerative Braking ที่ช่วยชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอรี่ในขณะลดความเร็วหรือเบรก ทำให้พลังงานถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด

ภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี: ความสบายที่ลงตัวกับยุคดิจิทัล

ภายในห้องโดยสารของ Yaris ATIV HEV ได้รับการออกแบบให้มีความทันสมัยและใช้งานง่าย วัสดุที่ใช้มีคุณภาพดีตามมาตรฐานของรถในกลุ่มนี้ เบาะนั่งให้ความกระชับสบาย รองรับสรีระได้ดี ทำให้การเดินทางไกลไม่รู้สึกเมื่อยล้า

ระบบอินโฟเทนเมนต์เป็นอีกหนึ่งจุดที่ Toyota ให้ความสำคัญ ด้วยหน้าจอสัมผัสที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่ผู้บริโภคยุคใหม่ขาดไม่ได้ใน “รถยนต์รุ่นใหม่ 2025” การเชื่อมต่อที่ราบรื่นช่วยให้การเข้าถึงแอปพลิเคชันนำทาง เพลง หรือการสื่อสารเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

ในด้าน “เทคโนโลยีความปลอดภัยรถยนต์” Yaris ATIV HEV มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ที่ครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Pre-Collision System), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (Lane Keeping Assist) และอื่นๆ อีกมากมาย ระบบเหล่านี้ทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยนักขับ” ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดความเหนื่อยล้าในการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่าระบบเหล่านี้เป็นเพียงตัวช่วย ไม่ได้แทนที่สมาธิและความรับผิดชอบของผู้ขับขี่ การทำความเข้าใจและใช้งานอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ

สำหรับคุณภาพเครื่องเสียง ซึ่งในรุ่นท็อปมาพร้อมกับ Pioneer อาจไม่ได้ให้ประสบการณ์เสียงระดับ Audiophile แต่ก็เพียงพอสำหรับการฟังเพลงทั่วไปในชีวิตประจำวัน หากคุณเป็นนักฟังเพลงที่จริงจัง ก็ยังมีทางเลือกในการอัปเกรดระบบเครื่องเสียงเพิ่มเติม ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรถในกลุ่มนี้

ความคุ้มค่าและมุมมองการเป็นเจ้าของในระยะยาว

“ราคา Toyota Yaris ATIV 2025” ที่แข่งขันได้ผนวกกับ “ประกันแบตเตอรี่ไฮบริด” 10 ปีไม่จำกัดระยะทาง เป็นปัจจัยที่ทำให้ Yaris ATIV HEV มี “ความคุ้มค่า” สูงมาก การที่ Toyota กล้ารับประกันแบตเตอรี่นานขนาดนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความทนทานและความน่าเชื่อถือของ “เทคโนโลยีไฮบริดโตโยต้า” ผู้ใช้งานจึงหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ระยะยาว

นอกจากนี้ การเป็นเจ้าของรถยนต์ Toyota ยังมาพร้อมกับเครือข่ายศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และชื่อเสียงด้านความทนทาน การหาอะไหล่ไม่เป็นปัญหา และค่าบำรุงรักษาโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล ซึ่งส่งผลดีต่อ “ต้นทุนการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฮบริด” ในระยะยาว และแน่นอนว่ามีผลต่อราคาขายต่อที่ดีในอนาคตอีกด้วย

บทสรุป: รถไฮบริดที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในปี 2025

โดยสรุปแล้ว Toyota Yaris ATIV HEV คือรถยนต์ที่เข้ามาเขย่าวงการ B-Segment ในปี 2025 อย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่การนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริด แต่เป็นการสร้างสรรค์รถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว

หากคุณมองหารถยนต์ที่มี “การขับขี่แบบสปอร์ต” ความมั่นคงในความเร็วสูง และรูปลักษณ์ที่โดดเด่นสะดุดตา รุ่น GR SPORT คือคำตอบ
แต่หากคุณต้องการ “ความนุ่มนวล” ความสบายในการเดินทาง และความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมือง รุ่น Premium ก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหน Yaris ATIV HEV ก็มอบ “อัตราประหยัดน้ำมัน” ที่เป็นเลิศ พร้อมด้วย “เทคโนโลยีความปลอดภัย” ที่ทันสมัย และความมั่นใจในคุณภาพและบริการหลังการขายจาก Toyota ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดและคุ้มค่าสำหรับยุคสมัยใหม่

อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง!

ถึงเวลาแล้วที่คุณจะก้าวเข้าสู่โลกแห่งประสิทธิภาพและความคุ้มค่ากับ Toyota Yaris ATIV HEV ในปี 2025 สัมผัสด้วยตัวคุณเองว่าทำไมรถยนต์คันนี้ถึงเป็นมากกว่าแค่ B-Segment ทั่วไป ขอเชิญคุณไปเยี่ยมชมโชว์รูม Toyota ใกล้บ้าน เพื่อทดลองขับและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อค้นหาสมรรถนะและฟังก์ชันที่คุณต้องการ สัมผัสถึงความแตกต่างที่คุณจะไม่ผิดหวัง แล้วคุณจะพบว่า Toyota Yaris ATIV HEV คือนิยามใหม่ของรถยนต์ในฝันที่ตอบโจทย์ทุกมิติชีวิตของคุณอย่างแท้จริง