[ครบชุด] XU11063 Facebook (20)

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าหรูที่พร้อมบุกเบิกทุกเส้นทางในปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของเทคโนโลยีและแนวคิดการออกแบบรถยนต์พลังงานใหม่ ความท้าทายในการผสานสมรรถนะอันทรงพลังเข้ากับความหรูหราสะดวกสบาย และที่สำคัญที่สุดคือการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ZEEKR 7X คือหนึ่งในผลผลิตที่โดดเด่นที่สุดของการเปลี่ยนแปลงนี้ มันไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้าอีกรุ่นหนึ่งที่ออกสู่ตลาด แต่มันคือการประกาศตัวถึงยุคใหม่ของยนตรกรรมอเนกประสงค์ที่พร้อมจะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ในปี 2025 ที่ต้องการทั้งความแรง ความพรีเมียม และความสามารถในการลุยได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบัน

ตลอดเส้นทางแห่งนวัตกรรม ยานยนต์ไฟฟ้ามักถูกมองว่าเหมาะกับการขับขี่ในเมือง หรือใช้งานบนถนนเรียบเป็นหลัก แต่ ZEEKR 7X พลิกโฉมมุมมองนั้นด้วยการนำเสนอแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบของ SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นด้วยพละกำลังมหาศาล แต่ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และที่น่าทึ่งคือความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดเล็กน้อย ซึ่งเป็นจุดขายที่แตกต่างและน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับตลาดประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่ผู้บริโภคเริ่มมองหายานยนต์ที่มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าแค่การเดินทางจากจุด A ไปจุด B

จากการได้สัมผัสและวิเคราะห์ ZEEKR 7X อย่างใกล้ชิด ผมกล้ายืนยันว่านี่คือหนึ่งใน “รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม” ที่น่าจับตามองที่สุดในตลาดปัจจุบัน ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม ดีไซน์ที่ทันสมัย และความประณีตในทุกรายละเอียด 7X ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่ภายนอกที่ดึงดูดสายตา แต่ภายในยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและวัสดุคุณภาพสูงที่สะท้อนถึงรสนิยมอันเหนือระดับ โหมดการขับขี่แบบออฟโรดที่ถูกเสริมเข้ามาอย่างชาญฉลาดนั้น ไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์ออฟ แต่เพื่อมอบอิสระในการเดินทางที่กว้างขึ้นให้กับผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นสิ่งที่รถ EV ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถทำได้ดีนัก

สำหรับตลาดประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ZEEKR ได้วางตำแหน่ง 7X ไว้ในเซกเมนต์ที่น่าสนใจ โดยนำเสนอทางเลือก 2 รุ่นหลักที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย:

7X Long Range RWD: รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังที่เน้นประสิทธิภาพการเดินทางระยะไกล พร้อมความประหยัดพลังงานที่ยอดเยี่ยม คาดการณ์ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อที่มุ่งเน้นสมรรถนะสูงสุดและพละกำลังอันเหนือชั้น คาดการณ์ราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

ราคาอย่างเป็นทางการที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาด SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ในประเทศอย่างแน่นอน และจากโครงสร้างราคาที่ ZEEKR นำเสนอ ถือว่ามีความน่าสนใจและแข่งขันได้สูงมาก เมื่อพิจารณาจากฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่อัดแน่นมาให้

ZEEKR ประเทศไทย ยังได้สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคด้วยแพ็คเกจการรับประกันคุณภาพที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์: 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นมาตรฐานระดับพรีเมียมที่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อน
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร มอบความอุ่นใจตลอดการเดินทาง

มิติใหม่แห่งดีไซน์และความลงตัว:

ZEEKR 7X ไม่เพียงแต่ใหญ่โตและสง่างาม แต่ยังมาพร้อมกับมิติที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ใช้งานได้หลากหลายและคล่องตัวบนท้องถนนของประเทศไทย:

ความยาว: 4,787 มิลลิเมตร
ความกว้าง: 1,930 มิลลิเมตร
ความสูง: 1,650 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,900 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance): 173 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นค่าที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย: 539 – 1,978 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง) มอบความยืดหยุ่นสูงสุดสำหรับการเดินทางและขนสัมภาระ
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk): 66 ลิตร เพิ่มความสะดวกสบายในการเก็บของชิ้นเล็กๆ

ขนาดที่ลงตัวนี้ทำให้ ZEEKR 7X ไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกกว้างขวางภายในห้องโดยสาร แต่ยังคงความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองใหญ่ และด้วยระยะต่ำสุดถึงพื้นที่ค่อนข้างดีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นเมื่อต้องเจอพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ หรือเส้นทางที่ท้าทายเล็กน้อย

ขุมพลังแห่งอนาคต: สมรรถนะที่เร้าใจและเทคโนโลยี 800V:

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นอย่างแท้จริงคือขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800V มาใช้ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่แตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในตลาด ทำให้การชาร์จไฟรวดเร็วขึ้นอย่างก้าวกระโดด และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบส่งกำลัง

รุ่น Long Range RWD:

สำหรับผู้ที่มองหาความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพการเดินทางระยะไกลและความคล่องตัว รุ่น Long Range RWD คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ:

มอเตอร์ไฟฟ้า: 1 ตัว ให้พละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) พร้อมแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพียงพอและเกินพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกล
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) ความจุ 100 kWh มาพร้อมสถาปัตยกรรม 800V ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ช่วยให้การจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง (RWD – Rear-Wheel Drive) มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานและตอบสนองได้ดี

สมรรถนะที่สัมผัสได้:

อัตราเร่ง 0-100 km/h: ภายใน 6.0 วินาที ซึ่งถือว่าจัดจ้านมากสำหรับรถ SUV ขนาดใหญ่
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 km/h
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 700 km (มาตรฐาน NEDC) หรือประมาณ 550-600 km ในการใช้งานจริง ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางข้ามจังหวัด

รุ่น Performance AWD:

สำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยพละกำลังสูงสุดและความตื่นเต้นในการขับขี่ รุ่น Performance AWD คือตัวเลือกที่ไร้ที่ติ:

มอเตอร์ไฟฟ้า: 2 ตัว (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ให้พละกำลังรวมสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดมหาศาล 710 นิวตันเมตร ทำให้ 7X กลายเป็น SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่สามารถเทียบชั้นกับรถสปอร์ตบางรุ่นได้เลยทีเดียว
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) ความจุ 100 kWh บนสถาปัตยกรรม 800V เช่นเดียวกับรุ่น RWD
ระบบขับเคลื่อน: สี่ล้อ (AWD – All-Wheel Drive) มอบการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมในทุกสภาพเส้นทางและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่

สมรรถนะที่เหนือชั้น:

อัตราเร่ง 0-100 km/h: ภายใน 3.8 วินาที ตัวเลขนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า ZEEKR 7X Performance AWD คือสัตว์ร้ายที่ถูกขังไว้ในคราบของ SUV หรู
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 km/h
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 600 km (มาตรฐาน NEDC) หรือประมาณ 480-530 km ในการใช้งานจริง ซึ่งยังคงเป็นระยะทางที่น่าประทับใจสำหรับรถที่มีสมรรถนะระดับนี้

ระบบชาร์จไฟ: เร็ว แรง และยืดหยุ่น:

หนึ่งในความกังวลหลักของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคือระยะเวลาในการชาร์จ ZEEKR 7X ได้เข้ามาปฏิวัติข้อจำกัดนี้ด้วยระบบชาร์จที่ล้ำหน้า:

รองรับหัวชาร์จ: Type 2 / CCS Combo ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล
กระแสสลับ (AC): รองรับสูงสุด 22 kW ซึ่งเป็นค่าที่สูงมาก ทำให้การชาร์จที่บ้านหรือสถานีชาร์จ AC สาธารณะเป็นไปอย่างรวดเร็ว
กระแสตรง (DC Fast Charging): รองรับสูงสุด 420 kW นี่คือจุดที่ ZEEKR 7X โดดเด่นอย่างแท้จริง ด้วยเทคโนโลยี 800V ทำให้การชาร์จจาก 10-80% สามารถทำได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที เมื่อใช้เครื่องชาร์จ DC ที่มีกำลัง 360 kW ขึ้นไป ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนการแวะเติมน้ำมันในเวลาไม่กี่นาที
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L): สูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) ฟังก์ชัน V2L เป็นสิ่งที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ 7X อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟฟ้าในการตั้งแคมป์ ปาร์ตี้กลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งจ่ายไฟสำรองยามฉุกเฉิน นี่คืออีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทำให้ 7X ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบแอคทีฟได้เป็นอย่างดี

ช่วงล่างที่เหนือชั้นเพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ:

ZEEKR 7X มาพร้อมกับช่วงล่างที่ได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อมอบทั้งความสบายและการควบคุมที่ดีเยี่ยม:

ช่วงล่างด้านหน้า: อิสระ Double Wishbone
ช่วงล่างด้านหลัง: อิสระ Multi-Link

การผสานกันของระบบช่วงล่างอิสระทั้งด้านหน้าและด้านหลังนี้ ช่วยให้รถมีการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ลดแรงสะเทือนจากพื้นผิวถนน และให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/50 R19 (ในรุ่น Long Range RWD) เป็นขนาดที่เหมาะสม ให้สมดุลระหว่างความสวยงามและความสบายในการขับขี่

ประสบการณ์การทดสอบ: SUV ไฟฟ้าที่ “ลุยได้จริง”

ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมการทดสอบ ZEEKR 7X ที่เขาใหญ่ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ท้าทายและหลากหลาย เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของรถยนต์คันนี้ ต้องบอกตามตรงว่าในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่คุ้นเคยกับข้อจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้า ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับความสามารถในการลุยแบบออฟโรด แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้ผมประหลาดใจอย่างยิ่ง

ในสนามทดสอบที่จัดสถานีต่างๆ ไว้ให้ ZEEKR 7X ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เมื่อปรับเข้าสู่โหมดออฟโรด ระบบช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension พร้อม CCD ที่เป็นไฮไลท์ ก็ทำงานโดยอัตโนมัติ ยกระดับความสูงของตัวรถขึ้นถึง 230 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นระยะที่เพียงพอสำหรับการผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

สถานีเนินสลับ: ZEEKR 7X วิ่งผ่านเนินได้อย่างน่าประทับใจ เมื่อล้อบางส่วนลอยจากพื้น ระบบจะถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะอยู่ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือการทำงานของช่วงล่างที่ยืดหยุ่นมาก ตัวรถมีการโคลงตัวน้อยมาก แสดงให้เห็นถึงวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยมในการจัดการการเคลื่อนไหวของรถ
เนินชัน: ด้วยพละกำลังสำรองที่เหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น RWD หรือ AWD การปีนขึ้นเนินชันเป็นเรื่องง่ายดาย แรงบิดที่มาทันทีในรถยนต์ไฟฟ้าเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่ง ที่น่าประทับใจคือเมื่อหยุดกลางเนินและออกตัวอีกครั้ง ระบบจัดการพลังงานทำได้อย่างนุ่มนวล ไม่มีการกระชากหรือล้อฟรีทิ้ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่บนทางออฟโรด ในจังหวะการลงเนินสูง ระบบ HDC (Hill Descent Control) หรือระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ ทำงานได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ ให้ความรู้สึกมั่นคงราวกับรถยุโรปหรูที่มีระบบออฟโรดโดยเฉพาะ ทำให้ผู้ขับขี่ลงเนินได้อย่างสบายใจและปลอดภัย
เส้นทางขรุขระ: การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของช่วงล่างถุงลมที่มอบความนุ่มนวลเหนือระดับ แต่สิ่งที่น่าทึ่งยิ่งกว่าคือพวงมาลัยที่ยังคงนิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือตีมือแต่อย่างใด ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างและการปรับแต่งระบบบังคับเลี้ยวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ ZEEKR 7X ผ่านการทดสอบออฟโรดไปได้อย่างไร้ข้อกังขา

เมื่อกลับมาสู่เส้นทางเรียบ ZEEKR 7X ก็ยังคงมอบประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย พละกำลังที่แสดงในเอกสารสเปกนั้นสัมผัสได้จริง แรงดึงมหาศาลจากรุ่น Performance AWD ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับขี่รถสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์ แต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลและเสถียรภาพ ส่วนในรุ่น Long Range RWD แม้จะมีพละกำลังน้อยกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังคงมอบแรงดึงที่เพียงพอต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์ ช่วงล่างในทางเรียบของทั้งสองรุ่นให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ แม้ว่ารุ่น Performance อาจจะมีความกระด้างกว่า Long Range เพียงเล็กน้อย เพื่อแลกมาซึ่งการควบคุมที่เฉียบคมยิ่งขึ้น

สรุปภาพรวม:

ZEEKR 7X คือ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับปี 2025 มันเป็นรถยนต์ไฟฟ้าไม่กี่รุ่นในตลาดที่สามารถผสานความแรง สมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด และออปชั่นที่จัดเต็มได้อย่างลงตัว ทำให้ ZEEKR 7X มีความโดดเด่นและสร้างเซกเมนต์ใหม่ในตลาดได้อย่างชัดเจน หากคุณกำลังมองหา SUV ไฟฟ้าอเนกประสงค์ ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร นี่คือตัวเลือกที่คุณไม่อาจมองข้าม

แต่หากคุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับความสามารถในการลุยออฟโรดมากนัก แต่เน้นที่การเดินทางไกลเป็นหลัก รุ่น Long Range RWD ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ด้วยระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ ช่วงล่างที่นุ่มนวล และออปชั่นต่างๆ ที่ไม่ได้ด้อยกว่ารุ่น Performance แต่อย่างใด ZEEKR 7X มอบอิสระในการเลือกตามความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ

สุดยอดออปชั่นและเทคโนโลยีที่เหนือระดับ:

ZEEKR 7X ไม่ได้มีดีแค่สมรรถนะ แต่ยังอัดแน่นด้วยฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่บ่งบอกถึงความเป็น รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม อย่างแท้จริง:

ระบบไฟหน้า Stargate Front Light Panel: โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยแผงไฟหน้าที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลายรูปแบบ สร้างเอกลักษณ์และความน่าสนใจให้กับตัวรถ
ช่วงล่าง Active Air Suspension with CCD: ระบบช่วงล่างถุงลมพร้อมระบบควบคุมความหนืดของโช้คอัพแบบอิเล็กทรอนิกส์ มอบความนุ่มนวลและความสามารถในการปรับความสูงของรถได้อย่างอัตโนมัติ
ล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 265/40 R21: (ในรุ่น Performance AWD) ล้อฟอร์จน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และการยึดเกาะถนน
ระบบเบรก: ดิสก์เบรก 4pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านระบบเบรก มั่นใจในประสิทธิภาพการหยุดรถ
ประตูไฟฟ้าทั้ง 4 บาน: เพิ่มความหรูหราและความสะดวกสบายในการเข้า-ออก
ม่านบังแดดประตูคู่หลัง เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า: อีกหนึ่งความใส่ใจในรายละเอียดที่เพิ่มความพรีเมียมและความเป็นส่วนตัว
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather: วัสดุคุณภาพสูงสุดที่ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและหรูหรา

ห้องโดยสารพรีเมียม: นิยามใหม่ของความสะดวกสบาย:

การก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คือการเข้าสู่พื้นที่แห่งการผ่อนคลายขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุกการเดินทาง ด้วยประสบการณ์ในวงการนี้ ผมกล้าพูดได้ว่า ZEEKR 7X ได้ยกระดับมาตรฐานของ การออกแบบภายในรถยนต์ไฟฟ้า ไปอีกขั้น

เบาะหนัง Nappa: ที่มีชื่อเสียงด้านความนุ่มนวลและความหรูหรา ไม่เพียงแต่ให้ความสบายสูงสุดในการนั่ง แต่ยังสื่อถึงรสนิยมอันสูงส่งของเจ้าของรถ
ระบบนวดและเป่าลมในเบาะคู่หน้า: จะช่วยคลายความเมื่อยล้าหลังจากวันทำงานที่หนักหน่วง ทำให้การขับขี่ระยะไกลไม่ใช่ภาระ แต่กลับกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงาน
เบาะหลังปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า: ผู้โดยสารสามารถปรับองศาการนั่งให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การพักผ่อน หรือการชมภาพยนตร์ ทำให้ห้องโดยสารด้านหลังเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกมิติกับการออกแบบภายในที่คำนึงถึงทุกอิริยาบถของผู้โดยสารและความผ่อนคลายที่เหนือระดับ

ระบบสารสนเทศและความบันเทิง: ศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอนาคต:

ZEEKR 7X นำเสนอเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารที่ล้ำหน้าและใช้งานง่าย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ นวัตกรรมยานยนต์อัจฉริยะ ในยุค 2025

หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: ให้ภาพที่คมชัดและสีสันที่สดใส สามารถมองเห็นรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการดูแผนที่ การรับชมสื่อบันเทิง หรือการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ การตอบสนองของหน้าจอเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นมาบนกระจกหน้ารถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างมาก
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor (เทคโนโลยี 5nm): คือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนการทำงานของหน้าจอทั้งหมดนี้ มอบการประมวลผลที่รวดเร็วและราบรื่น ทำให้การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ บนหน้าจอทำได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ ตอบสนองคำสั่งได้ทันทีทันใด
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: คุณภาพระดับสตูดิโอที่ติดตั้งอยู่รอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ ช่วยสร้างประสบการณ์การดื่มด่ำในสุนทรียภาพของเสียงเพลงและสื่อบันเทิงได้อย่างเต็มอิ่ม

ความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญ: การเดินทางที่อุ่นใจในทุกเส้นทาง:

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมตระหนักดีว่าความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ZEEKR 7X ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

มาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว: คือเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัย โดยได้รับคะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง
ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD: ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัยในการขับขี่ ด้วยระบบ ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ที่ครบครัน ทำให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้น
โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังหลังแบบ Single Piece Die-Cast: โครงสร้างชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและความปลอดภัยของตัวถัง พร้อมทั้งลดน้ำหนัก ทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดียิ่งขึ้นไปอีก

บทสรุปและคำเชิญ:

ZEEKR 7X คือผลลัพธ์ของการหลอมรวมนวัตกรรม เทคโนโลยี และปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นผู้ใช้งานเป็นหลัก มันเป็นมากกว่ารถยนต์ แต่มันคือประสบการณ์การเดินทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับปี 2025 ไม่ว่าคุณจะมองหาความแรง ความหรูหรา ความสะดวกสบาย หรือความสามารถในการผจญภัยในเส้นทางที่แตกต่าง ZEEKR 7X ก็พร้อมที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของคุณได้อย่างเหนือความคาดหมาย

หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสอนาคตของการเดินทางและยกระดับไลฟ์สไตล์ของคุณให้ไปอีกขั้น ผมขอเชิญชวนให้คุณได้มาสัมผัส ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเอง เตรียมพบกับนิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่พร้อมบุกเบิกทุกเส้นทาง และมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการยานยนต์ไฟฟ้าที่น่าตื่นเต้นนี้ อย่าพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของ ZEEKR 7X ที่จะเปิดราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเพื่อทดลองขับได้แล้ววันนี้ที่ผู้จัดจำหน่าย ZEEKR ทั่วประเทศ