[ครบชุด] XU11079 Facebook (29)

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าพลังแกร่งที่พร้อมลุยทุกเส้นทางในยุค 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการรถยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของยานยนต์ประเภทนี้ จากยุคเริ่มต้นที่เน้นเพียงแค่การประหยัดพลังงาน มาสู่ยุคปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่คือการผสมผสานของเทคโนโลยีขั้นสูง ประสิทธิภาพอันน่าทึ่ง และความหรูหราที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และในปี 2025 นี้เอง ZEEKR 7X ก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นสำคัญที่พร้อมพลิกโฉมวงการ SUV ไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอคุณสมบัติที่เหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่มักจะเป็นข้อจำกัดของรถ EV ทั่วไป

ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้า ทั่วไป แต่คือการประกาศศักดาถึงความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของยานยนต์ไร้มลพิษ ที่สามารถผสานความแรง ความสง่างาม และความทนทานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและการผจญภัยในเส้นทางที่ท้าทาย บทความนี้จะเจาะลึกทุกมิติของ ZEEKR 7X จากประสบการณ์จริงของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าทำไมรถคันนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดในตลาด รถ EV พรีเมียม ประจำปี 2025

การออกแบบที่สะท้อนอนาคตและความหรูหรา: รูปลักษณ์ภายนอกของ ZEEKR 7X

ทันทีที่สายตาปะทะกับ ZEEKR 7X สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความสง่างามที่แฝงด้วยความแข็งแกร่ง การออกแบบภายนอกของ ZEEKR 7X คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเส้นสายอันโฉบเฉี่ยวสไตล์ยานยนต์แห่งอนาคตและความเป็น SUV ไฟฟ้าหรู ที่เน้นความประณีตในทุกรายละเอียด ไฟหน้า Stargate Front Light Panel ที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงแต่เพิ่มความโดดเด่นยามค่ำคืน แต่ยังสื่อถึงนวัตกรรมและเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ ZEEKR

มิติตัวถังที่ลงตัว ด้วยความยาว 4,787 มม. กว้าง 1,930 มม. และสูง 1,650 มม. พร้อมระยะฐานล้อ 2,900 มม. ทำให้ ZEEKR 7X มีสัดส่วนที่สมดุล ให้ความรู้สึกมั่นคงและมีพื้นที่ภายในกว้างขวาง ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 173 มม. ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าสนใจสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า SUV ทั่วไป แต่ด้วยระบบช่วงล่างถุงลมแบบ Active Air Suspension with CCD ที่เป็นหัวใจสำคัญของรุ่นท็อป ทำให้ ZEEKR 7X สามารถปรับระดับความสูงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการลุยได้ถึง 230 มม. ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มนี้อย่างแท้จริง ล้อ Forged ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยางขนาด 265/40 R21 ไม่เพียงแต่เสริมความดุดัน แต่ยังช่วยให้ยึดเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยม

ประตูทั้ง 4 บานที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และม่านบังแดดประตูคู่หลังที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า คือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สะท้อนถึงปรัชญาการออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบายและความหรูหราของผู้ใช้งานในทุกมิติ ซึ่งทำให้ ZEEKR 7X เป็นมากกว่าแค่รถยนต์ แต่เป็นประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ

ปลดปล่อยขุมพลัง: สมรรถนะและเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าขั้นสูงสุด

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นเหนือคู่แข่งคือขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้าที่มาพร้อม เทคโนโลยี 800V EV อันล้ำสมัย ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับ รถ EV 2025 ที่ให้ประสิทธิภาพการชาร์จและการส่งกำลังที่เหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้าแพลตฟอร์ม 400V ทั่วไป แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh คือแหล่งพลังงานหลักที่รับประกันระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ

ZEEKR 7X มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน:

Long Range RWD:
รุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ให้พละกำลังสูงสุดถึง 422 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ตัวเลขเหล่านี้ก็บ่งบอกถึงสมรรถนะที่ไม่ธรรมดา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที ถือว่ารวดเร็วทันใจสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และความเร็วสูงสุดที่ 210 กม./ชม. ก็เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล ด้วยระยะทางวิ่งที่เคลมไว้มากกว่า 700 กม. (มาตรฐาน NEDC) รุ่น Long Range RWD จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการ รถยนต์ไฟฟ้า ที่ให้ระยะทางวิ่งยาวนานและมีสมรรถนะที่น่าพึงพอใจ

Performance AWD:
สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดแห่งสมรรถนะ รุ่น Performance AWD คือคำตอบที่ใช่ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) มอบพละกำลังสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดมหาศาลที่ 710 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 3.8 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่เทียบชั้นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงได้อย่างสบายๆ ความเร็วสูงสุดยังคงอยู่ที่ 210 กม./ชม. เช่นเดียวกับรุ่น RWD แต่ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้การยึดเกาะถนนและ ประสิทธิภาพรถยนต์ไฟฟ้า ในการเข้าโค้ง หรือการขับขี่ในสภาพถนนที่หลากหลายนั้นเหนือกว่า ระยะทางวิ่งของรุ่น Performance AWD อยู่ที่มากกว่า 600 กม. (มาตรฐาน NEDC) ซึ่งยังคงเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง

จากประสบการณ์การทดสอบจริง ทั้งสองรุ่นมอบ ประสบการณ์ขับขี่ EV ที่น่าประทับใจ รุ่น Performance AWD ให้แรงดึงที่ดุดันและตอบสนองได้ทันที ทำให้ทุกการเร่งแซงเป็นเรื่องง่ายดาย ในขณะที่รุ่น Long Range RWD ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน มอบแรงดึงที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป และยังคงความสนุกในการขับขี่ที่แตกต่างจากรถ SUV ไฟฟ้าอื่นๆ

ปฏิวัติการชาร์จ: ความเร็วและสะดวกสบายสูงสุด

ประเด็นสำคัญสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าคือการชาร์จไฟ และ ZEEKR 7X ได้เข้ามาปฏิวัติประสบการณ์นี้ด้วย นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่ล้ำหน้า รองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo ทั้งกระแสสลับ (AC) สูงสุด 22 kW และที่โดดเด่นที่สุดคือการรองรับ การชาร์จเร็ว EV ด้วยกระแสตรง (DC Fast Charging) สูงสุดถึง 420 kW

การชาร์จ DC ที่ 360 kW สามารถเติมพลังงานจาก 10-80% ได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ชาร์จได้เร็วที่สุดในตลาดปัจจุบัน ความเร็วระดับนี้ช่วยลดความกังวลเรื่องระยะทาง (Range Anxiety) ได้อย่างมีนัยสำคัญ และทำให้การเดินทางระยะไกลด้วย ZEEKR 7X ไม่ต่างจากการขับขี่รถยนต์สันดาปทั่วไป นอกจากนี้ ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L สูงสุด 3.3 kW (3,300 watts) ยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน ให้คุณสามารถจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมแคมป์ปิ้ง หรือเป็นแหล่งพลังงานสำรองในกรณีฉุกเฉิน

ทลายกำแพง: SUV ไฟฟ้าที่พร้อมลุยออฟโรดอย่างแท้จริง

นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจาก รถ EV พรีเมียม คันอื่นๆ ในตลาด SUV ไฟฟ้าส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อการขับขี่บนทางเรียบ แต่ ZEEKR 7X กลับกล้าท้าทายด้วยความสามารถในการลุย ออฟโรด ที่น่าทึ่ง ช่วงล่างด้านหน้าอิสระ Double Wishbone และช่วงล่างด้านหลังอิสระ Multi-Link ผสานกับระบบช่วงล่างถุงลมแบบ Active Air Suspension with CCD คือกุญแจสำคัญ

จากการทดสอบในสนามออฟโรดที่เขาใหญ่ ผมต้องยอมรับว่า ZEEKR 7X ได้สร้างความประหลาดใจอย่างมาก เมื่อปรับโหมดการขับขี่เป็น Off-Road ระบบช่วงล่างถุงลมจะยกตัวรถขึ้นอัตโนมัติ ทำให้มีระยะต่ำสุดถึงพื้นที่สูงถึง 230 มม. ซึ่งเพียงพอสำหรับการผ่านอุปสรรคต่างๆ

เนินสลับ: ในสถานีเนินสลับที่ล้อรถลอยออกจากพื้น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD (ในรุ่น Performance) สามารถถ่ายกำลังไปยังล้อที่ยังยึดเกาะพื้นได้อย่างราบรื่น ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย สิ่งที่น่าประทับใจคือการให้ตัวของช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ทำให้ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก
เนินชัน: ZEEKR 7X สามารถปีนขึ้นเนินชันได้อย่างง่ายดายด้วยพละกำลังที่เหลือเฟือ และเมื่อหยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบจัดการพลังงานก็ทำได้อย่างชาญฉลาด ไม่ส่งกำลังที่รุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง และเมื่อลงเนินชัน ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูง ให้ความรู้สึกมั่นใจราวกับรถยนต์ยุโรประดับพรีเมียม
เส้นทางขรุขระ: การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระด้วยช่วงล่างถุงลมทำให้ห้องโดยสารยังคงความนุ่มนวล แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือพวงมาลัยที่นิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นสะเทือนหรือตีมือแม้แต่น้อย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการออกแบบและวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยมสำหรับ รถ EV ออฟโรด

สรุปได้ว่า ZEEKR 7X สอบผ่านการทดสอบออฟโรดอย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นอย่างแท้จริงสำหรับผู้ที่มองหา รถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ไม่เพียงแต่หรูหราและทรงพลัง แต่ยังสามารถพาคุณไปผจญภัยได้ในเส้นทางที่ยากลำบาก

ห้องโดยสารระดับ First Class: สุนทรียภาพและความล้ำหน้า

ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คุณจะสัมผัสได้ถึงความหรูหราและคุณภาพที่ประณีตไม่แพ้รถยุโรประดับพรีเมียม การออกแบบภายในสะท้อนถึงปรัชญาการสร้าง “พื้นที่แห่งการผ่อนคลายขั้นสูง” ที่แท้จริง

ความสะดวกสบายสูงสุด: เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather ที่มีชื่อเสียงด้านความนุ่มนวลและสัมผัสอันหรูหรา ไม่เพียงแต่ให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสื่อถึงรสนิยมระดับสูงของผู้ครอบครอง เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางไกลหรือหลังวันทำงานที่หนักหน่วง และเบาะหลังที่สามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าก็ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถปรับอิริยาบถได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน ชมภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งทำงานได้อย่างสะดวกสบาย
ระบบสารสนเทศและความบันเทิงสุดล้ำ: หัวใจของห้องโดยสารคือหน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K ที่ให้ภาพคมชัดและสีสันสดใสอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง รับชมสื่อบันเทิง หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ก็ทำได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ เสริมด้วยหน้าจอ AR HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 36.21 นิ้ว ที่ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ส่วนหน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว ก็ทำหน้าที่แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ขุมพลังประมวลผล: การทำงานของหน้าจอทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor เทคโนโลยี 5nm Process Technology ซึ่งเป็นชิประดับสูงสุดที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025 มอบการประมวลผลที่รวดเร็ว ตอบสนองฉับไว ไร้ซึ่งความหน่วง ทำให้ทุกการควบคุมเป็นไปอย่างราบรื่น
ระบบเสียงระดับสตูดิโอ: ภายในหรูหรารถไฟฟ้า ของ ZEEKR 7X ยังมาพร้อมระบบเสียง ZEEKR Sound Pro ที่ติดตั้งลำโพงคุณภาพสูงถึง 21 จุดรอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบประสบการณ์สุนทรียภาพแห่งเสียงเพลงที่ดื่มด่ำในทุกการเดินทาง

สิ่งอำนวยความสะดวกเล็กๆ น้อยๆ อย่างช่องวางแก้วน้ำที่ออกแบบมาอย่างประณีตและพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 – 1,978 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง) รวมถึง Frunk ด้านหน้าขนาด 66 ลิตร ก็ล้วนสะท้อนถึงการออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานจริงในทุกมิติ

ความปลอดภัยคือหัวใจหลัก: วิศวกรรมเพื่อการปกป้องสูงสุด

ZEEKR ไม่ได้มุ่งเน้นแค่สมรรถนะและความหรูหรา แต่ยังให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัย ZEEKR 7X สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่อ ระบบความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า และประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะ ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยนี้ได้รับการยืนยันด้วยมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว ซึ่งเป็นเครื่องหมายการันตีระดับสากล โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ: ZEEKR 7X มาพร้อมระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD ที่ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips อันทรงประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำและความน่าเชื่อถือของระบบ ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) และอื่นๆ อีกมากมายที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ
โครงสร้างตัวถังแข็งแกร่ง: โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยในการรับแรงกระแทกจากการชน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ส่งผลให้ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ การที่ ZEEKR 7X ได้รับคะแนน Euro NCAP ในระดับสูงเช่นนี้ ยิ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นว่านี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โดยสารอย่างเต็มที่ ด้วย ระบบช่วยเหลือการขับขี่ EV ที่ก้าวหน้าและโครงสร้างที่แข็งแกร่ง

ประสบการณ์การเป็นเจ้าของ ZEEKR 7X ในปี 2025: ราคาและการรับประกัน

ZEEKR ประเทศไทย ได้เข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง และได้ประกาศ ราคา ZEEKR 7X อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 โดยราคาคาดการณ์ (นำเข้า CBU จากจีน) มีดังนี้:

7X Long Range RWD: ช่วงราคา 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

ราคาเหล่านี้ถือว่าสมเหตุสมผลเมื่อพิจารณาจากเทคโนโลยี สมรรถนะ และความหรูหราที่ ZEEKR 7X มอบให้ และยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพที่น่าเชื่อถือ:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กม.
รับประกันแบตเตอรี่ และ มอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กม.

การรับประกันที่ครอบคลุมและยาวนานเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของ ZEEKR และยังช่วยลดความกังวลในด้านค่าใช้จ่ายระยะยาวให้กับผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า ในยุคปัจจุบัน

สรุป: ZEEKR 7X คืออนาคตของ SUV ไฟฟ้าที่จับต้องได้

ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มทางเลือกในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า SUV แต่เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับยานยนต์ประเภทนี้ ด้วยการผสานจุดเด่นที่เคยขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งความหรูหรา ประสิทธิภาพสูง การชาร์จที่รวดเร็ว และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการลุย ออฟโรด ที่เหนือความคาดหมายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า

ในฐานะผู้ที่ติดตามและคลุกคลีกับ นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า มาอย่างยาวนาน ผมกล้าพูดได้เลยว่า ZEEKR 7X คือหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจและสมบูรณ์แบบที่สุดในตลาดปี 2025 หากคุณกำลังมองหา รถ EV พรีเมียม ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองที่สะดวกสบาย การเดินทางไกลที่อุ่นใจ หรือการผจญภัยในเส้นทางที่ท้าทาย ZEEKR 7X คือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด

ไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจในรุ่น Performance AWD หรือต้องการระยะทางวิ่งที่ยาวนานและ แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่ทนทานในรุ่น Long Range RWD ZEEKR 7X ก็มีคุณสมบัติที่โดดเด่นและอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ระบบช่วงล่างถุงลมอันชาญฉลาด ห้องโดยสารที่หรูหราสะดวกสบาย ระบบสารสนเทศที่ล้ำสมัย และมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ ZEEKR 7X ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาด รถ EV 2025 อย่างแท้จริง

อย่ารอช้า! มาร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตกับ ZEEKR 7X SUV ไฟฟ้าพลังแกร่ง ที่พร้อมเปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับทุกการเดินทางของคุณ เยี่ยมชมโชว์รูม ZEEKR ประเทศไทย หรือลงทะเบียนเพื่อทดลองขับ ZEEKR 7X ได้แล้ววันนี้ เพื่อพิสูจน์ด้วยตัวคุณเองว่าทำไมรถคันนี้ถึงเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ