[ครบชุด] XU11082 ลองมาเป็นฉันสักวัน แล้วคุณจะเข้าใจ

ZEEKR 7X 2025: SUV ไฟฟ้าหรูพันธุ์แกร่ง… พร้อมพลิกโฉมประสบการณ์ขับขี่ของคุณ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามานับทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการของรถยนต์พลังงานทางเลือกจากจุดเริ่มต้นที่หลายคนยังกังขา สู่การเป็นกระแสหลักที่ขับเคลื่อนอนาคตของการเดินทางอย่างแท้จริง และเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2025 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่สำหรับการแข่งขันด้านราคาอีกต่อไป แต่คือสนามประลองของนวัตกรรม ดีไซน์ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้มองหารถยนต์ไฟฟ้าแค่ประหยัดพลังงาน แต่ต้องการยานยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย มีสมรรถนะที่เร้าใจ ดีไซน์ที่โดดเด่น และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่เว้นแม้แต่ความสามารถในการ “ลุย” ได้ในบางโอกาส ซึ่งเป็นจุดที่ ZEEKR 7X ปี 2025 คันนี้ก้าวเข้ามาพร้อมนิยามใหม่ของคำว่า “รถยนต์ไฟฟ้า SUV”

ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่งทั่วไป แต่เป็นการผสมผสานระหว่างความหรูหรา สง่างาม สมรรถนะที่เหนือชั้น และความอเนกประสงค์ที่พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองใหญ่ หรือแม้กระทั่งการผจญภัยในเส้นทางที่ท้าทายกว่าเดิมเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่รถยนต์ไฟฟ้าหลายๆ คันในตลาดปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ ด้วยเทคโนโลยีและวิศวกรรมที่ ZEEKR ได้บรรจงสร้างสรรค์ ผมมั่นใจว่า ZEEKR 7X จะเป็นหนึ่งในผู้เล่นสำคัญที่เข้ามาเขย่าบัลลังก์ในเซกเมนต์ SUV ไฟฟ้าพรีเมียมอย่างแน่นอน

การออกแบบที่สะท้อนถึงอนาคต (Futuristic Design & Aerodynamics)

แรกสัมผัสกับ ZEEKR 7X คุณจะรับรู้ได้ถึงความประณีตและวิสัยทัศน์ที่ล้ำสมัย ดีไซน์ภายนอกของ 7X เป็นการผสมผสานเส้นสายที่เฉียบคมเข้ากับความโค้งมนที่หรูหรา สร้างสุนทรียภาพที่ลงตัวและไม่เหมือนใคร ไฟหน้าแบบ Stargate Front Light Panel ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งกำเนิดแสง แต่ยังเป็นผืนผ้าใบดิจิทัลที่สามารถแสดงกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ สะท้อนบุคลิกและความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่ได้อย่างน่าทึ่ง นี่คือลูกเล่นที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ

ตัวถังขนาดกำลังดี ด้วยความยาว 4,787 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร และสูง 1,650 มิลลิเมตร ให้มิติที่ลงตัวสำหรับ SUV 5 ที่นั่ง ทั้งยังให้พื้นที่ภายในที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ระยะฐานล้อที่ยาวถึง 2,900 มิลลิเมตร ไม่เพียงแต่ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและมั่นคง แต่ยังเอื้อต่อการออกแบบห้องโดยสารให้มีพื้นที่ใช้สอยสูงสุด การออกแบบที่คำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) ตั้งแต่หัวจรดท้าย ช่วยลดแรงต้านอากาศ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร ทำให้การเดินทางราบรื่นและเงียบสงบยิ่งขึ้น แม้ในย่านความเร็วสูง

และด้วยระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 173 มิลลิเมตร ซึ่งอาจดูไม่สูงมากนักสำหรับรถยนต์ SUV ทั่วไป แต่เมื่อผสานกับระบบช่วงล่างถุงลมแบบ Active Air Suspension with CCD ที่สามารถปรับเพิ่มความสูงได้ ทำให้ ZEEKR 7X มีศักยภาพในการข้ามผ่านอุปสรรคที่ไม่คาดฝันบนท้องถนนในเมือง หรือแม้แต่เส้นทางลูกรังที่ไม่ราบเรียบได้อย่างน่าประทับใจ นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ ZEEKR 7X แตกต่างจาก “รถยนต์ไฟฟ้า SUV” ในตลาดส่วนใหญ่ที่เน้นเพียงการขับขี่บนทางเรียบเท่านั้น

พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตร ซึ่งสามารถขยายได้มากถึง 1,978 ลิตรเมื่อพับเบาะหลังลง มอบความยืดหยุ่นสูงสุดสำหรับทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการขนสัมภาระสำหรับการเดินทางไกล หรืออุปกรณ์กีฬาชิ้นใหญ่ นอกจากนี้ยังมี Frunk (ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า) ขนาด 66 ลิตร ซึ่งสะดวกสบายสำหรับการเก็บสายชาร์จ หรือสิ่งของที่ต้องการหยิบใช้บ่อยๆ นี่คือการออกแบบที่เข้าใจการใช้งานจริงของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

ขุมพลังไฟฟ้า 800V: สมรรถนะและการชาร์จที่ไร้ขีดจำกัด (Powertrain: 800V, Performance & Ultra-Fast Charging)

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นอย่างแท้จริงคือสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมในปี 2025 และในอนาคตอันใกล้ ระบบ 800V ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลข แต่คือการปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่และการชาร์จอย่างแท้จริง

ZEEKR 7X มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ที่มาพร้อมขุมพลังที่แตกต่างกัน แต่ล้วนแล้วแต่ให้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม:

รุ่น Long Range RWD (ขับเคลื่อนล้อหลัง):
มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ให้พละกำลังสูงสุดถึง 422 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับ SUV ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh ทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
สิ่งที่โดดเด่นคือระยะทางวิ่งมากกว่า 700 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งเมื่อปรับมาเทียบกับการใช้งานจริงในเมืองไทย ก็ยังคงมอบระยะทางที่เพียงพอสำหรับการเดินทางระยะไกลได้อย่างสบายใจ ลดความกังวลเรื่อง “Range Anxiety” ได้เป็นอย่างมาก นี่คือสิ่งที่ตลาด “รถยนต์ไฟฟ้า” ในปี 2025 คาดหวัง และ ZEEKR 7X ก็มอบให้ได้อย่างเต็มที่

รุ่น Performance AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ):
สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะ รุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้พละกำลังสูงสุดมหาศาลถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร ทำให้ SUV คันนี้มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่น่าเหลือเชื่อเพียง 3.8 วินาที ซึ่งทัดเทียมกับซูเปอร์คาร์หลายๆ รุ่น พร้อมความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.
แบตเตอรี่ขนาด 100 kWh เท่ากัน แต่ด้วยพละกำลังที่มากกว่า ทำให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 600 กม. ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งยังคงเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับ “รถ EV สมรรถนะสูง” ที่ให้ทั้งความแรงและความอุ่นใจในการเดินทาง

ทั้งสองรุ่นรองรับการชาร์จไฟทั้งกระแสสลับ AC สูงสุด 22 kW และที่สำคัญคือกระแสตรง DC Fast Charging สูงสุดถึง 420 kW ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลขสูงสุดในตลาด “รถยนต์ไฟฟ้าชาร์จเร็ว” ในปัจจุบัน และสำหรับปี 2025 นี่คือเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการใช้งานจริง การชาร์จ DC จาก 10-80% สามารถทำได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาที เมื่อใช้หัวชาร์จ 360 kW ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถแวะพักจิบกาแฟสั้นๆ แล้วกลับมาเดินทางต่อได้อย่างรวดเร็ว แทบจะไม่ต่างจากการเติมน้ำมันเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังมาพร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L (Vehicle-to-Load) สูงสุด 3.3 kW ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ “รถ EV” ของคุณ สามารถใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟเคลื่อนที่สำหรับการตั้งแคมป์ หรือใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ นี่คืออีกหนึ่งคุณสมบัติที่เพิ่มมูลค่าให้กับ ZEEKR 7X ในฐานะ “SUV ไฟฟ้า” ที่พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์

ช่วงล่างอัจฉริยะและการขับขี่ที่เหนือความคาดหมาย (Intelligent Suspension & Surprising Off-Road Capability)

เมื่อพูดถึง “รถยนต์ไฟฟ้า” หลายคนอาจจะยังกังวลเรื่องการขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทาย แต่ ZEEKR 7X ได้เข้ามาลบข้อจำกัดนั้นอย่างสิ้นเชิง ด้วยการจัดให้มีการทดสอบสมรรถนะแบบ Off-Road ที่เขาใหญ่ ผมต้องยอมรับว่าความคาดหวังแรกของผมไม่ได้สูงมากนัก แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าประทับใจจนต้องนำมาเล่าสู่กันฟัง

หัวใจสำคัญอยู่ที่ช่วงล่างอิสระ Double Wishbone ด้านหน้าและ Multi-Link ด้านหลัง ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ยอดเยี่ยมสำหรับการยึดเกาะถนนและให้ความนุ่มนวล แต่สิ่งที่ทำให้ ZEEKR 7X ก้าวข้ามไปอีกขั้นคือระบบช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความหรูหรา แต่คือฟังก์ชันการทำงานที่ชาญฉลาด เมื่อเข้าสู่โหมด Off-Road ระบบจะปรับความสูงของรถเพิ่มขึ้นอัตโนมัติถึง 230 มม. เพื่อให้ระยะห่างจากพื้นสูงขึ้น ช่วยให้ผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

ในการทดสอบวิ่งผ่านเนินสลับที่ทำให้ล้อลอยจากพื้น รถสามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะพื้นได้อย่างราบรื่น ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ การให้ตัวของช่วงล่างยังทำได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก แสดงให้เห็นถึงการปรับแต่งที่ละเอียดอ่อนและประสิทธิภาพของ “ช่วงล่างถุงลม”

บนเนินชัน ZEEKR 7X สามารถใช้พละกำลังมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้าส่งขึ้นไปได้อย่างง่ายดาย และในจังหวะที่ต้องหยุดกลางเนินแล้วออกตัวใหม่ ระบบจัดการพลังงานก็ทำได้อย่างชาญฉลาด ไม่ส่งกำลังที่รุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง ช่วยให้การควบคุมทำได้ง่ายและปลอดภัย ส่วนการลงเนินสูง ระบบ HDC (Hill Descent Control) ซึ่งเป็นระบบควบคุมความเร็วรถขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ ก็ทำงานได้อย่างราบรื่น นุ่มนวล เสมือนรถยนต์ยุโรประดับพรีเมียม ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจและสบายใจในการลงทางลาดชัน

แม้กระทั่งบนเส้นทางขรุขระ ด้วยช่วงล่างถุงลมที่มอบความนุ่มนวล สิ่งที่น่าทึ่งคือพวงมาลัยยังคงนิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือสะท้านมือให้เห็นเลยแม้แต่น้อย นี่คือข้อพิสูจน์ว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ “รถ EV” ที่แรงบนทางเรียบ แต่ยังเป็น “SUV ไฟฟ้า” ที่ “ลุยได้จริง” และให้ความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดเบาๆ

เมื่อกลับมาบนทางเรียบ สมรรถนะของ ZEEKR 7X ก็ยังคงโดดเด่นไม่แพ้กัน แรงดึงมหาศาลจากทั้งรุ่น Performance และ Long Range ทำให้การเร่งแซงเป็นไปอย่างมั่นใจ ด้วยช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพึงพอใจ แม้ว่ารุ่น Long Range จะมีความรู้สึกเฟิร์มกว่ารุ่น Performance เล็กน้อย แต่ก็ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สบายและมั่นคงในทุกย่านความเร็ว การตอบสนองของพวงมาลัยที่แม่นยำและน้ำหนักที่กำลังดี เสริมความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ ทำให้การขับขี่บนท้องถนนทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นไปอย่างสนุกสนานและผ่อนคลาย

ห้องโดยสารระดับเฟิร์สคลาส: ความหรูหราที่สัมผัสได้ (Premium Interior & Connectivity)

ภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คือนิยามของ “รถ EV หรู” ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางขั้นสูงสุด ความประณีตเริ่มต้นจากวัสดุคุณภาพสูง เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather ที่มีชื่อเสียงด้านความนุ่มนวลและความหรูหรา ไม่เพียงแต่ให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสื่อถึงรสนิยมระดับสูงของเจ้าของรถ

เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการขับขี่ระยะทางไกล หรือหลังจากวันทำงานที่หนักหน่วง ให้ทุกการเดินทางกลายเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงาน เบาะหลังที่สามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้าเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารด้านหลัง ทำให้ห้องโดยสารด้านหลังกลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเพื่อการพักผ่อน ทำงาน หรือรับชมความบันเทิง นี่คือการออกแบบที่ใส่ใจในทุกอิริยาบถของผู้โดยสาร

ระบบสารสนเทศและความบันเทิงของ ZEEKR 7X ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วย:
หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส ทุกรายละเอียดถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมจริง ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง รับชมสื่อบันเทิง หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ
หน้าจอ AR HUD (Augmented Reality Head-Up Display) ขนาด 36.21 นิ้ว: ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถโดยตรง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ เช่น ความเร็ว ระบบนำทาง หรือข้อมูล ADAS ได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างมาก
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสวยงาม
ขุมพลังแห่งการประมวลผล: การทำงานของหน้าจอทั้งหมดขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor เทคโนโลยี 5nm Process Technology ซึ่งเป็นชิประดับเรือธงที่ให้การประมวลผลที่รวดเร็วและราบรื่น ตอบสนองทุกคำสั่งได้อย่างทันท่วงที ทำให้การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ บนหน้าจอเป็นไปอย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบประสบการณ์ความดื่มด่ำในสุนทรียภาพของเสียงเพลงให้กับทุกการเดินทาง นี่คืออีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ “รถ EV พรีเมียม” คันนี้แตกต่าง

นอกจากนี้ ยังมีลูกเล่นที่เพิ่มความหรูหราและสะดวกสบายอีกมากมาย เช่น ประตูทั้ง 4 บานที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ม่านบังแดดประตูคู่หลังที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบที่สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของ “รถยนต์ไฟฟ้า” คันนี้

ความปลอดภัยที่เหนือกว่า: Priority (Advanced Safety Features)

ความปลอดภัยคือหัวใจหลักในการออกแบบ ZEEKR 7X ด้วยแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะ ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยืนยันถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ZEEKR AD (Advanced Driver-Assistance Systems) ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการตรวจจับและประมวลผลข้อมูลรอบคัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และฟังก์ชันช่วยเหลือการขับขี่อื่นๆ ที่ทำให้การเดินทางปลอดภัยและสบายใจยิ่งขึ้น ซึ่งในปี 2025 ระบบ ADAS ที่ล้ำหน้าเช่นนี้ถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้บริโภคคาดหวังจาก “รถยนต์ไฟฟ้า” ระดับพรีเมียม

โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและปลอดภัยให้กับตัวรถ แต่ยังส่งผลให้น้ำหนักเบาลง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของแบตเตอรี่อีกด้วย นี่คือวิศวกรรมที่คำนึงถึงทั้งความปลอดภัยและสมรรถนะในเวลาเดียวกัน

สรุป: ZEEKR 7X นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าที่แท้จริง

ZEEKR 7X ปี 2025 ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นมากกว่าแค่ “รถยนต์ไฟฟ้า SUV” ทั่วไป แต่เป็นยานยนต์ที่มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสมรรถนะ ความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย และที่สำคัญคือความสามารถในการ “ลุย” ได้จริงในแบบที่รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ยังทำไม่ได้ นี่คือจุดเด่นที่ทำให้ ZEEKR 7X มีความโดดเด่นและแตกต่างอย่างชัดเจนในตลาด

ไม่ว่าคุณจะมองหา “รถ EV” ที่มาพร้อมพละกำลังมหาศาลและอัตราเร่งที่เร้าใจ “SUV ไฟฟ้า” ที่มอบความสะดวกสบายและหรูหราภายในห้องโดยสารระดับพรีเมียม หรือยานยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมพาคุณออกไปผจญภัยในเส้นทางที่ไม่ใช่แค่ทางเรียบ ZEEKR 7X ก็สามารถตอบโจทย์เหล่านั้นได้อย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็ว ระบบความปลอดภัยระดับโลก และการรับประกันคุณภาพตัวรถ แบตเตอรี่ และมอเตอร์ที่ยาวนานถึง 8 ปี ทำให้คุณมั่นใจได้ในการเป็นเจ้าของ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B แต่มันคือการเดินทางสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เหนือกว่า นี่คือ “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่พร้อมเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อยานยนต์แห่งอนาคต

อย่ารอช้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง!
หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสกับนิยามใหม่ของ “SUV ไฟฟ้าหรู” ที่มีสมรรถนะเหนือชั้นและพร้อมลุยได้จริง ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Long Range RWD ที่ให้ระยะทางวิ่งอันน่าประทับใจ หรือรุ่น Performance AWD ที่มอบความแรงระดับซูเปอร์คาร์ ZEEKR 7X คือคำตอบที่คุณตามหา

เปิดโอกาสให้ตัวเองได้สัมผัสอนาคตของการขับขี่! เยี่ยมชมโชว์รูม ZEEKR ประเทศไทยวันนี้ หรือลงทะเบียนเพื่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมและการทดลองขับ ZEEKR 7X เพื่อให้คุณได้พิสูจน์ด้วยตัวเองว่า “รถ EV” คันนี้จะพลิกโฉมประสบการณ์การเดินทางของคุณให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป!