BYD SHARK: มิติใหม่ของรถกระบะ PHEV จากผู้บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้า สู่การปฏิวัติวงการกระบะไทยปี 2025
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ที่เฝ้าติดตามความเปลี่ยนแปลงมานานกว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้ว่าเรากำลังอยู่ในยุคแห่งการปฏิวัติอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในตลาดประเทศไทยที่เปิดรับเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกอย่างรวดเร็ว ในปี 2025 นี้ กระแสความต้องการรถยนต์ที่ผสานประสิทธิภาพ ความประหยัด และเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกัน ได้พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจับตาที่สุด คงหนีไม่พ้นแบรนด์ “BYD” ผู้ที่เขย่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกให้สั่นสะเทือน และล่าสุด ได้เตรียมพร้อมที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ในเซกเมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศไทย นั่นคือ “รถกระบะ” ด้วยการนำเสนอ “BYD SHARK” กระบะ Plug-in Hybrid (PHEV) ที่เรียกได้ว่า “ฉีกทุกกฎ” และพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดในแบบที่ไม่มีใครคาดคิด
จากการได้สัมผัสและทดลองขับ BYD SHARK รุ่นพวงมาลัยขวา ซึ่งเป็นรุ่นที่ส่งออกและจัดจำหน่ายในออสเตรเลีย ณ สนามพีระเซอร์กิต พัทยา ทำให้ผมได้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของรถคันนี้ ไม่ใช่แค่สเปกบนกระดาษ แต่เป็นการทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากับวิศวกรรมที่คำนึงถึงการใช้งานจริง วันนี้ ผมจะพาทุกท่านไปเจาะลึกทุกแง่มุมของ BYD SHARK เพื่อทำความเข้าใจว่าเหตุใดกระบะคันนี้จึงไม่ใช่แค่ตัวเลือกใหม่ แต่คือมาตรฐานใหม่ของรถกระบะในอนาคต
BYD: ผู้กำหนดทิศทางยานยนต์ไฟฟ้าโลก และการรุกตลาดกระบะครั้งสำคัญ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า BYD ได้สร้างชื่อเสียงและยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากการตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพ หรือระบบขับเคลื่อน DM-i และ DM-p ที่พิสูจน์แล้วในตลาดโลก การตัดสินใจนำ BYD SHARK เข้ามาในตลาดกระบะของไทยจึงไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ แต่คือการประกาศจุดยืนในการเป็นผู้นำเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในตลาดที่ “รถกระบะ” คือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน
BYD SHARK ไม่ใช่เพียงแค่รถกระบะที่จับเอาเทคโนโลยีไฮบริดมาใส่ แต่เป็นการออกแบบและพัฒนาตั้งแต่ต้นเพื่อเป็น รถกระบะปลั๊กอินไฮบริด ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ณ ปัจจุบัน ซึ่งจะมาพร้อมกับขุมพลัง DM-O (Dual Mode Off-road) ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะบนทางเรียบและการขับขี่แบบออฟโรดได้อย่างไร้รอยต่อ สิ่งนี้คือสิ่งที่คู่แข่งยังไม่มี และเป็นจุดแข็งสำคัญที่จะทำให้ BYD SHARK ก้าวขึ้นมาท้าชิงบัลลังก์เจ้าตลาดได้อย่างเต็มภาคภูมิ
มิติแห่งความแข็งแกร่ง: การออกแบบที่ผสานความดุดันและทันสมัย
เมื่อแรกเห็น BYD SHARK ต้องยอมรับว่ารถคันนี้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและมี “ความกระบะ” อย่างเต็มเปี่ยม แต่เป็นการตีความใหม่ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยมิติตัวถังที่ใหญ่โต ยาว 5,457 มม., กว้าง 1,971 มม., สูง 1,925 มม. และระยะฐานล้อ 3,260 มม. ซึ่งจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในกระบะ Compact Pick-up ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดปัจจุบัน สิ่งนี้สะท้อนถึงการออกแบบที่เน้นความแข็งแกร่ง บึกบึน และพร้อมลุย โดยยังคงความประณีตตามแบบฉบับของ BYD
ภายนอกถูกตกแต่งด้วยรายละเอียดที่สะท้อนถึงความล้ำสมัย ไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชัน Follow-me-home, ไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้าย LED ที่มาพร้อมไฟเลี้ยวแบบ Sequential ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ BYD SHARK ดูทันสมัยและโดดเด่นบนท้องถนน นอกจากนี้ ไฟส่องสว่างบริเวณกระบะท้าย 3 ตำแหน่งยังเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานจริง ยิ่งไปกว่านั้น ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 200 มม. และความสามารถในการลุยน้ำสูงสุด 700 มม. ยังบ่งบอกถึงความพร้อมสำหรับการผจญภัยและการใช้งานในทุกสภาพเส้นทางของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการลุยน้ำท่วม หรือการเข้าถึงพื้นที่ทุรกันดาร กระบะท้ายที่มีความจุ 1,200 ลิตร รองรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 790 กก. และความสามารถในการลากจูง 2,500 กก. ทำให้ BYD SHARK ไม่ได้มีดีแค่ความสวย แต่ยังคงรักษา DNA ของรถกระบะเพื่อการบรรทุกและใช้งานหนักได้อย่างครบถ้วน
หัวใจที่เหนือชั้น: ขุมพลัง DM-O Plug-in Hybrid และประสิทธิภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน
นี่คือจุดเด่นที่แท้จริงและเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ BYD SHARK เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด รถกระบะปลั๊กอินไฮบริด คันนี้มาพร้อมกับขุมพลัง DM-O (Dual Mode Off-road) ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร พ่วงเทอร์โบ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า EHS (Electric Hybrid System) ที่ให้พละกำลังรวมสูงสุดถึง 436 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-Wheel Drive พร้อมระบบกระจายแรงบิดอัจฉริยะ
ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถิติ แต่เป็นประสบการณ์จริงที่ผมได้สัมผัสในสนาม ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.7 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับรถกระบะ มันแสดงให้เห็นถึงการตอบสนองที่รวดเร็วและพละกำลังที่เหลือเฟือ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งแซง การออกตัว หรือการไต่ขึ้นทางชัน ความรู้สึกในการขับขี่คล้ายคลึงกับ รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีแรงบิดจัดจ้านตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้ BYD SHARK สามารถพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจและนุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับรถกระบะ
แบตเตอรี่ Blade Battery ขนาดความจุ 29.5 kWh คือหัวใจของระบบ PHEV นี้ ไม่เพียงแต่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน แต่ยังมอบระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้สูงถึง 100 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันของคนเมืองส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน หรือขับรถในระยะทางใกล้ๆ โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเลย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมหาศาล และหากเดินทางไกล ระบบไฮบริดจะทำงานร่วมกัน มอบระยะทางวิ่งสูงสุดรวมกว่า 840 กม. (น้ำมัน+ไฟฟ้า) ซึ่งเทียบเท่าหรืออาจจะดีกว่ารถกระบะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั่วไปในตลาด สิ่งนี้ทำให้ BYD SHARK กลายเป็น รถยนต์ประหยัดน้ำมัน ที่มาพร้อมกับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม
ความสะดวกสบายในการใช้งานก็เป็นอีกจุดเด่น ด้วยระบบชาร์จเร็ว DC Fast Charge ที่สามารถชาร์จจาก 30-80% ได้ภายในเวลาเพียง 25 นาที ซึ่งรวดเร็วเพียงพอสำหรับการแวะพักระหว่างเดินทางไกล และฟังก์ชัน V2L (Vehicle-to-Load) ที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้า 220V ให้กับอุปกรณ์ภายนอกได้สูงสุดถึง 6,000 วัตต์ (6 kW) ถือเป็นกำลังไฟที่สูงสุดในตลาด ณ ขณะนี้ นี่คือคุณสมบัติที่พลิกโฉมการใช้งานรถกระบะอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เป็นแหล่งพลังงานสำหรับแคมป์ปิ้ง อุปกรณ์ทำงานกลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองในกรณีฉุกเฉิน BYD SHARK ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะ แต่ยังเป็น สถานีพลังงานเคลื่อนที่ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายในยุค 2025 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ช่วงล่างอิสระ: พลิกโฉมความสบายและการควบคุมของรถกระบะ
หนึ่งในจุดที่สร้างความประหลาดใจและน่าประทับใจที่สุดในการทดสอบ BYD SHARK คือ “ช่วงล่าง” ซึ่งผมกล้าพูดได้เลยว่ามันยกระดับประสบการณ์การขับขี่รถกระบะไปอีกขั้น ช่วงล่างด้านหน้าแบบ McPherson Strut และด้านหลังแบบอิสระ Double Wishbone พร้อมระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้ง 4 ล้อ นี่คือการเซ็ตอัพที่แตกต่างจากรถกระบะทั่วไปในตลาดไทยส่วนใหญ่ที่มักจะใช้ช่วงล่างหลังแบบแหนบ
ในการขับขี่จริงบนสนามแข่ง การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงและการเปลี่ยนเลนกะทันหัน BYD SHARK แสดงให้เห็นถึงการทรงตัวที่ดีเยี่ยม การเกาะถนนที่หนึบแน่น และความนุ่มนวลที่เหนือความคาดหมาย ความรู้สึกที่ได้รับนั้นใกล้เคียงกับ รถยนต์ SUV หรู ขนาดใหญ่มากกว่าจะเป็นรถกระบะแบบเดิมๆ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากช่วงล่างอิสระ Double Wishbone ที่ช่วยลดแรงกระแทกจากพื้นถนนได้ดีกว่า ให้ความสบายในการโดยสาร และเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพถนนของประเทศไทยที่มีความหลากหลาย ทั้งทางเรียบ ทางขรุขระ หรือการขับขี่บนสภาพถนนที่ไม่สมบูรณ์ ช่วงล่างแบบนี้จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าอย่างแน่นอน
แน่นอนว่าการเลือกใช้ช่วงล่างหลังแบบอิสระนั้น อาจจะต้องแลกมาด้วยความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักที่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงล่างแหนบแบบดั้งเดิม แต่สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่ได้เน้นการบรรทุกหนักจนเกินขีดจำกัด และให้ความสำคัญกับความสบายในการเดินทาง ความมั่นใจในการควบคุม และความปลอดภัยเป็นหลัก การออกแบบช่วงล่างของ BYD SHARK ถือเป็นการตอบโจทย์ที่ชาญฉลาดและตรงจุดกับความต้องการของตลาดกระบะยุคใหม่
ภายในห้องโดยสาร: เทคโนโลยีอัจฉริยะและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม
ก้าวเข้ามาในห้องโดยสารของ BYD SHARK คุณจะสัมผัสได้ถึงการออกแบบที่เน้นทั้งความทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งาน และวัสดุคุณภาพดี มาตรวัด Full Digital ขนาด 10.25 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ได้อย่างครบถ้วนและชัดเจน แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือหน้าจอกลาง Touchscreen ขนาด 15.6 นิ้ว ที่สามารถหมุนปรับแนวตั้ง-แนวนอนได้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ BYD และเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานแอปพลิเคชันหรือการแสดงผลแผนที่ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีระบบหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (W-HUD) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนนเพื่อดูข้อมูลสำคัญ
เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำแบบเจาะรู Perforated เดินตะเข็บด้ายสีส้มดูโดดเด่นและให้สัมผัสที่หรูหรา เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support 4 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้าปรับด้วยไฟฟ้า ช่วยเพิ่มความสบายในการเดินทางทั้งระยะใกล้และไกล นอกจากนี้ เบาะนั่งด้านหลังยังสามารถพับพนักพิงลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระภายในห้องโดยสาร
BYD SHARK ยังใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความแตกต่าง เช่น กระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบลดเสียงรบกวน Acoustic Glass ที่ช่วยให้ห้องโดยสารเงียบสงบขึ้น และกระจกหน้าต่างคู่หลังแบบ Privacy Glass ที่เพิ่มความเป็นส่วนตัว ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระ ซ้าย-ขวา Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ยกระดับความสบายให้กับผู้โดยสารทุกคนในรถ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า BYD SHARK ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถกระบะที่เน้นสมรรถนะ แต่ยังเป็น รถยนต์อัจฉริยะ ที่มอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับและสะดวกสบายเทียบเท่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลระดับพรีเมียม
ความปลอดภัย: เหนือกว่ามาตรฐาน ด้วยเทคโนโลยี ADAS เต็มรูปแบบ
ในยุค 2025 ความปลอดภัยไม่ใช่แค่ฟังก์ชันเสริม แต่เป็นสิ่งที่รถยนต์ทุกคันต้องมี และ BYD SHARK ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความปลอดภัยคือสิ่งที่ BYD ให้ความสำคัญสูงสุด ด้วยระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม ทั้งระบบ Active Safety และ Passive Safety
BYD SHARK มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง ADAS (Advanced Driver-Assistance Systems) ที่ครบครัน อาทิ ระบบเบรกอัตโนมัติ AEB, ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCW, ระบบแจ้งเตือนคาดการณ์การชนล่วงหน้า PCW, ระบบช่วยเตือนการชนด้านท้าย RCW, ระบบจดจำป้ายจราจร TSR, ระบบเตือนเปลี่ยนเลน LDW, ระบบป้องกันรถออกนอกเลน LDP, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร LKA, ระบบแจ้งเตือนจำกัดความเร็วอัจฉริยะ ISLC, ระบบเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA, ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTB, ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSD, ระบบช่วยเตือนเมื่อเปิดประตูรถ DOW, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control with Stop & Go, ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ HMA และระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้า DAW
ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งในการขับขี่บนทางหลวง ในเมือง และขณะเข้าจอด นอกจากนี้ ระบบถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย-ระหว่างเบาะนั่งคู่หน้า) และกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมเซนเซอร์กะระยะช่วยจอด (ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านหลัง 4 ตำแหน่ง) ยังช่วยเสริมความมั่นใจในการขับขี่และการจอดรถคันใหญ่ให้เป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยยิ่งขึ้น BYD SHARK ไม่เพียงแต่นำเสนอ เทคโนโลยีรถยนต์ ที่ล้ำสมัย แต่ยังให้ความสำคัญกับชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นอันดับแรก
บทสรุปและอนาคตของ BYD SHARK ในตลาดไทยปี 2025
BYD SHARK คือกระบะที่พร้อมจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถกระบะของไทยอย่างแท้จริง ด้วยจุดเด่นที่ไม่มีใครเหมือน ไม่ว่าจะเป็นขุมพลัง PHEV ที่ผสานความแรง ความประหยัด และระยะทางวิ่งที่ยาวไกลกว่า 800 กม. เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมฟังก์ชัน V2L ที่เป็นเหมือนขุมพลังเคลื่อนที่กำลังสูง ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีใช้ชีวิตของผู้คน กระบะคันนี้ไม่ได้เพียงแค่ตอบโจทย์การใช้งานในฐานะยานพาหนะขนส่ง แต่ยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ การผจญภัย และการเป็นเพื่อนคู่ใจในทุกกิจกรรม
ช่วงล่างอิสระ Double Wishbone คืออีกหนึ่ง Game Changer ที่จะมอบความสบายในการขับขี่และควบคุมที่เหนือกว่ารถกระบะทั่วไป เหมาะสมอย่างยิ่งกับสภาพถนนในประเทศไทย และเมื่อประกอบเข้ากับห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและความปลอดภัยระดับสูงสุด BYD SHARK จึงเป็นมากกว่ารถกระบะ แต่มันคือ นิยามใหม่ของยานพาหนะอเนกประสงค์แห่งอนาคต
แน่นอนว่าสำหรับตลาดประเทศไทย อาจจะต้องรอลุ้นรายละเอียดของรุ่นจำหน่ายจริงในช่วงปลายปี 2025 โดยเฉพาะเรื่องของช่วงล่างด้านหลังที่อาจมีการปรับเปลี่ยนเป็นแบบแหนบในบางรุ่นย่อย เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราภาษีสรรพสามิตของรถกระบะในประเทศ ที่คำนวณตามประเภทของช่วงล่างและน้ำหนักบรรทุก ซึ่งจะส่งผลต่อ ราคา BYD SHARK ที่แข่งขันได้ในตลาด อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเครื่องยนต์และเทคโนโลยีหลักๆ คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง และด้วยแผนการผลิตในโรงงาน BYD จังหวัดระยอง จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ BYD SHARK เข้าถึงผู้บริโภคชาวไทยได้ง่ายขึ้น ทั้งในด้านราคาและความพร้อมของผลิตภัณฑ์
สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถกระบะที่ตอบโจทย์การใช้งานในยุคใหม่ ที่ไม่เพียงแค่แข็งแกร่ง บรรทุกได้ แต่ยังมอบความประหยัด ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ BYD SHARK คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม นี่คือการมาของ กระบะไฟฟ้า และปลั๊กอินไฮบริดที่แท้จริง และมันพร้อมแล้วที่จะมาท้าทายทุกสิ่งที่เคยเป็นมาในวงการกระบะไทย
อย่าพลาดโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2025 และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ BYD SHARK จะนำมาสู่คุณ ติดตามข่าวสารและเตรียมพร้อมที่จะสัมผัส “อนาคตของรถกระบะ” ได้ที่ตัวแทนจำหน่าย BYD ทั่วประเทศ เมื่อมีการประกาศอย่างเป็นทางการ!
![[ครบชุด] XU11095 Facebook (14)](https://filmthailan.nataviguides.com/wp-content/uploads/2025/11/image-95.png)
![[ครบชุด] XU11096 เกิดเป็นคนอย่าขี้เกียจ ต้องหาเงินให้มากกว่าที่เราใช้](https://filmthailan.nataviguides.com/wp-content/uploads/2025/11/image-96.png)