[ครบชุด] XU11098 เมียบ่าว! กับ ผัวทาส!

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าหรูที่พร้อมลุยทุกเส้นทางแห่งปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของตลาดรถ EV ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ อย่างต่อเนื่อง และในปี 2025 นี้เอง เรากำลังจะได้เห็นบทใหม่ที่น่าตื่นเต้นกับ ZEEKR 7X SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ยานยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พาหนะ แต่คือสัญลักษณ์ของนวัตกรรมที่ผสมผสานความหรูหรา ประสิทธิภาพ และความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นับเป็นก้าวสำคัญที่ ZEEKR กำลังเข้ามาพลิกโฉมวงการ รถยนต์ไฟฟ้า SUV ในประเทศไทย

ตลาด รถ EV ในไทยปี 2025 กำลังก้าวสู่ยุคที่ผู้บริโภคไม่ได้มองหาแค่รถยนต์ที่ประหยัดพลังงาน แต่ยังต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม ซึ่ง ZEEKR 7X ได้เข้ามาตอบโจทย์ทั้งหมดนี้อย่างครบครัน ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีขุมพลัง 800V อันล้ำสมัย และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการพาคุณออกไปสำรวจเส้นทางที่ไม่เคยคิดว่า รถ EV จะทำได้ ซึ่งนี่คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X กลายเป็นหนึ่งใน รถ EV 2025 ที่น่าจับตามองที่สุด

การออกแบบที่สะท้อนความหรูหราและสมรรถนะที่เหนือกว่า

ZEEKR 7X ไม่ได้เป็นเพียงแค่ รถยนต์ไฟฟ้า SUV ทั่วไป แต่เป็นการผสมผสานศิลปะแห่งการออกแบบเข้ากับวิศวกรรมขั้นสูง รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูสง่างามแต่แฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง ทำให้มันโดดเด่นไม่ว่าจะโลดแล่นอยู่บนถนนในเมือง หรือตะลุยเส้นทางธรรมชาติ ไฟหน้า Stargate Front Light Panel ที่สามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงแต่เป็นเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ แต่ยังสะท้อนถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย กระจังหน้าที่ผสานเข้ากับตัวถังอย่างลงตัว เส้นสายที่พลิ้วไหวแต่เฉียบคม สร้างมิติที่น่าหลงใหลในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบความหรูหราในเมืองใหญ่ หรือนักผจญภัยที่โหยหาความตื่นเต้นในชนบท ZEEKR 7X ก็พร้อมที่จะสะกดทุกสายตา

มิติตัวถังที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ด้วยความยาว 4,787 มิลลิเมตร กว้าง 1,930 มิลลิเมตร และสูง 1,650 มิลลิเมตร พร้อมระยะฐานล้อ 2,900 มิลลิเมตร ให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบายอย่างเหลือเฟือ ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance) ที่ 173 มิลลิเมตร เมื่อผนวกกับระบบช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ยังสามารถยกสูงขึ้นได้อีก ยิ่งตอกย้ำความสามารถในการลุยได้เล็กน้อย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ รถ EV ออฟโรด ส่วนใหญ่ในตลาดไม่สามารถให้ได้ ที่เก็บสัมภาระท้ายขนาด 539 – 1,978 ลิตร (เมื่อพับเบาะหลัง) และ Frunk ด้านหน้าขนาด 66 ลิตร ยังมอบความจุที่เพียงพอสำหรับการเดินทางทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะทริปสั้นๆ หรือการผจญภัยระยะยาว

ขุมพลังไฟฟ้า 800V: ประสิทธิภาพที่ไม่ประนีประนอม

หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อน ZEEKR 7X คือแพลตฟอร์มขุมพลังไฟฟ้า 800V Technology Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบส่งกำลังขั้นสูงสุดในปัจจุบัน แพลตฟอร์ม 800V นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ การชาร์จเร็ว EV ทำได้ในเวลาอันสั้นอย่างเหลือเชื่อ แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และลดการสูญเสียพลังงานความร้อนในระบบขับเคลื่อน ทำให้ ZEEKR 7X มี ประสิทธิภาพ EV ที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน

ZEEKR 7X มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน:

7X Long Range RWD: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกล และการขับขี่ที่นุ่มนวล มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ขับเคลื่อนล้อหลัง มอบพละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. และระยะทางวิ่งมากกว่า 700 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามมาตรฐาน NEDC นี่คือทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ใช้ชีวิตในเมืองแต่ก็ยังต้องการความยืดหยุ่นในการเดินทางไกล
7X Performance AWD: สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุดและ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า ที่เหนือชั้น มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้พละกำลังรวมสูงสุดถึง 646 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร สามารถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.8 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นตัวเลขที่เทียบเท่ากับรถสปอร์ตระดับซูเปอร์คาร์ ความเร็วสูงสุดยังคงอยู่ที่ 210 กม./ชม. พร้อมระยะทางวิ่งมากกว่า 600 กม. ตามมาตรฐาน NEDC รุ่นนี้คือคำตอบสำหรับผู้ที่ต้องการ รถ EV หรู ที่มอบทั้งความแรง การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม และความมั่นใจในการควบคุมในทุกสภาพเส้นทาง

การชาร์จไฟ: รวดเร็ว สะดวกสบาย และพร้อมเชื่อมต่อ

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ รถยนต์ไฟฟ้า ได้รับความนิยมมากขึ้นในปี 2025 คือความสะดวกสบายในการชาร์จ ZEEKR 7X ได้ยกระดับมาตรฐานนี้ให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการรองรับหัวชาร์จ Type 2 / CCS Combo สำหรับทั้งกระแสสลับ (AC) สูงสุด 22 kW และกระแสตรง (DC Fast Charging) สูงสุดถึง 420 kW นี่คือความเร็วในการชาร์จที่ล้ำหน้าที่สุดในตลาด ณ ปัจจุบัน

การชาร์จ DC ที่ 360 kW สามารถเพิ่มพลังงานจาก 10-80% ได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาทีเท่านั้น นั่นหมายความว่า การแวะพักชาร์จระหว่างการเดินทางระยะไกลจะใช้เวลาไม่ต่างจากการเติมน้ำมันในรถยนต์สันดาปภายในเลยทีเดียว นอกจากนี้ ZEEKR 7X ยังมาพร้อมระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก V2L (Vehicle-to-Load) สูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) ซึ่งช่วยให้รถของคุณกลายเป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ สามารถจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉิน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ รถยนต์ไฟฟ้า SUV อย่างแท้จริง

ประสบการณ์การขับขี่: พิสูจน์แล้วว่า “ลุยได้จริง”

ก่อนที่ ZEEKR 7X จะเปิดราคาอย่างเป็นทางการใน ZEEKR ประเทศไทย ในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 ทางทีมงานได้จัดให้มีการทดสอบสมรรถนะ ณ เขาใหญ่ และนี่คือสิ่งที่ทำให้ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญต้องทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสามารถด้านออฟโรด

ในสนามทดสอบที่จำลองสถานการณ์ต่างๆ ZEEKR 7X ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เหนือความคาดหมาย เริ่มจากการปรับโหมดออฟโรด ระบบช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension ได้ยกตัวรถขึ้นอัตโนมัติถึง 230 มิลลิเมตร เพิ่มระยะห่างจากพื้นเพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย

เนินสลับ: การวิ่งผ่านเนินสลับที่ทำให้ล้อลอยจากพื้น ZEEKR 7X สามารถถ่ายเทกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะกับพื้นได้อย่างชาญฉลาด ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น สิ่งที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือ การให้ตัวของช่วงล่างที่ดีเยี่ยม ทำให้ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่
เนินชัน: ด้วยพละกำลังมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้า การไต่เนินชันเป็นเรื่องง่ายดาย และเมื่อทดสอบการหยุดรถกลางเนินและออกตัว ระบบจัดการพลังงานทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ส่งกำลังออกมารุนแรงจนเกินไปจนล้อฟรีทิ้ง การลงเนินสูงก็เป็นไปอย่างราบรื่นด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ที่ทำงานได้อย่างนุ่มนวลราวกับรถยนต์ยุโรปพรีเมียม สร้างความสบายใจให้กับผู้ขับขี่
เส้นทางขรุขระ: การวิ่งผ่านทางขรุขระด้วยช่วงล่างถุงลม ให้ความนุ่มนวลอย่างน่าทึ่ง สิ่งที่ผมประทับใจเป็นพิเศษคือพวงมาลัยที่นิ่งมาก ไม่มีอาการสั่นหรือตีมือแม้แต่น้อยในขณะที่รถกำลังผ่านสภาพถนนที่ไม่เรียบ แสดงให้เห็นถึงการออกแบบช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ รถ EV ออฟโรด คันนี้สอบผ่านในทุกด้านของการทดสอบ

ส่วนในเรื่องของทางเรียบ ไม่ต้องสงสัยในความแรง ZEEKR 7X มอบแรงดึงมหาศาลตามตัวเลขที่ระบุไว้ โดยเฉพาะรุ่น Performance AWD ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง ส่วนรุ่น Long Range RWD ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน มอบแรงดึงที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ อาจจะรู้สึกเฟิร์มกว่ารุ่น Performance เล็กน้อย แต่ยังคงมอบความสบายในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม

ห้องโดยสาร: สุนทรียภาพแห่งความหรูหราและเทคโนโลยีอัจฉริยะ

ก้าวเข้าสู่ภายในของ ZEEKR 7X คุณจะพบกับพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับอย่างแท้จริง นี่คือหนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ รถ EV หรู ที่ ZEEKR ตั้งใจรังสรรค์ให้เป็น “ห้องโดยสารพรีเมียมสมบูรณ์แบบ”

ความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส: เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather คุณภาพสูง ซึ่งโดดเด่นด้วยความนุ่มนวลและหรูหรา ไม่เพียงแต่ให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสะท้อนถึงรสนิยมระดับสูงของเจ้าของรถ เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการขับขี่ระยะไกลหรือหลังจากการทำงานหนัก เบาะหลังสามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้ผู้โดยสารสามารถเลือกปรับองศาการนั่งให้เหมาะสมกับการพักผ่อน ชมภาพยนตร์ หรือแม้แต่การทำงานส่วนตัว ม่านบังแดดประตูคู่หลังที่เปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ก็เป็นอีกหนึ่งรายละเอียดเล็กๆ ที่แสดงถึงความใส่ใจในทุกอิริยาบถของผู้โดยสาร
ศูนย์กลางแห่งข้อมูลและความบันเทิง: ZEEKR 7X จัดเต็มด้วยระบบสารสนเทศและความบันเทิงที่ล้ำยุค ประกอบด้วย:
หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว ความละเอียด 3.5K: มอบภาพที่คมชัด สีสันสดใส และรายละเอียดที่แม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการดูแผนที่ การรับชมสื่อบันเทิง หรือการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ก็ราบรื่นไม่มีสะดุด
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นมาบนกระจกหน้ารถแบบ Augmented Reality ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นข้อมูลความเร็ว ข้อมูลนำทาง หรือการแจ้งเตือนต่างๆ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor เทคโนโลยี 5nm: หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนหน้าจอทั้งหมดนี้ ชิป Snapdragon 8295 เป็นขุมพลังที่ทำให้ระบบประมวลผลรวดเร็วและราบรื่น การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ บนหน้าจอจึงตอบสนองได้อย่างทันทีทันใด ไร้รอยต่อ
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro พร้อมลำโพง 21 จุด: มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอสร้างมิติที่ดื่มด่ำ ทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยสุนทรียภาพ

ความปลอดภัย: มาตรฐานสูงสุดที่ไม่เคยประนีประนอม

ในโลกของ ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ปี 2025 ความปลอดภัยคือสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ZEEKR 7X ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อมอบความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน

ความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัยของ ZEEKR ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงการปกป้องผู้โดยสาร โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง

ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips ซึ่งเป็นขุมพลังประมวลผลภาพขั้นสูง มอบความแม่นยำและความน่าเชื่อถือในการขับขี่ที่เหนือกว่า ระบบนี้รวมถึงฟังก์ชันการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ การเตือนการชน และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ซึ่งช่วยลดภาระของผู้ขับขี่และเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน

โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยในการชนเท่านั้น แต่ยังช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ทำให้ ประสิทธิภาพ EV โดยรวมดีขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญในยุคของ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า

บทสรุปและอนาคตที่น่าจับตา

จากประสบการณ์กว่าทศวรรษในวงการยานยนต์ ผมกล้ายืนยันว่า ZEEKR 7X คือหนึ่งใน รถ EV 2025 ที่เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาด รถยนต์ไฟฟ้า SUV ในประเทศไทยอย่างแท้จริง ด้วยการผสมผสานความหรูหราที่โดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ เทคโนโลยีชาร์จเร็วระดับโลก ห้องโดยสารที่เหนือระดับ และที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการลุยแบบออฟโรดได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากใน รถ EV ประเภทเดียวกัน

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มองหา รถ EV หรู เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน หรือเป็นนักผจญภัยที่ต้องการพาหนะคู่ใจที่พร้อมลุยไปทุกเส้นทาง ZEEKR 7X ก็สามารถตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ รุ่น Long Range RWD มอบ รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งไกล ที่เพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมช่วงล่างและออปชันที่ครบครัน ส่วนรุ่น Performance AWD คือสุดยอดแห่งสมรรถนะที่แทบจะหาคู่แข่งไม่ได้ในกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่สามารถมอบประสบการณ์ออฟโรดได้เช่นนี้

ZEEKR ประเทศไทย ได้เข้ามาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถที่น่าเชื่อถือ: รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กม. รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ 8 ปี หรือ 180,000 กม. และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 8 ปี หรือ 180,000 กม. ทั้งหมดนี้ตอกย้ำถึงความมั่นใจในคุณภาพและบริการที่ ZEEKR มอบให้แก่ลูกค้าชาวไทย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่า ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ยานยนต์ แต่คือประตูบานใหม่สู่ประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้ขีดจำกัด หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสกับนิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้า ที่หรูหราและพร้อมลุยทุกเส้นทาง อย่าพลาดโอกาสที่จะเป็นเจ้าของนวัตกรรมแห่งอนาคตนี้

สัมผัสประสบการณ์เหนือระดับกับ ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเอง!

เตรียมพบกับ ZEEKR 7X อย่างเป็นทางการ พร้อมราคาและข้อเสนอสุดพิเศษในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ที่โชว์รูม ZEEKR ทั่วประเทศ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้า ห้ามพลาดโอกาสในการทดลองขับเพื่อสัมผัสสมรรถนะและความหรูหราที่ไม่เหมือนใคร แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม ZEEKR 7X ถึงเป็นอนาคตของ รถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ทุกคนรอคอย.