[ครบชุด] XU11126 Facebook (45)

ZEEKR 7X: SUV ไฟฟ้าแห่งอนาคต ที่ redefine การเดินทางในยุค 2025

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ไฟฟ้าที่คลุกคลีในวงการมากว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่าปี 2025 คือจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ที่ผู้บริโภคกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ไม่ใช่แค่ประหยัดพลังงาน แต่ต้องมาพร้อมสมรรถนะ ความหรูหรา เทคโนโลยีล้ำสมัย และที่สำคัญที่สุดคือ “ความอเนกประสงค์” ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะในเมืองหรือเส้นทางที่ท้าทายกว่าเดิม และในบริบทนี้เอง ZEEKR 7X (ซีคเกอร์ 7X) ก็ได้ก้าวเข้ามาในตลาดอย่างสง่างาม พร้อมที่จะสร้างนิยามใหม่ให้กับคำว่า “SUV ไฟฟ้า” ที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่รถ EV ทั่วไป แต่คือการรวมตัวของวิศวกรรมขั้นสูง การออกแบบที่ประณีต และเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่แห่งอนาคต ด้วยภาพลักษณ์ที่หรูหรา โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ผสานกับขุมพลังไฟฟ้าที่จัดจ้าน และที่เหนือความคาดหมายคือความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดเบาๆ ได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ ZEEKR 7X กลายเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าจับตามองอย่างยิ่งในปี 2025 นี้ และแน่นอนว่านี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ผมเชื่อว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของตลาดรถยนต์ในบ้านเราอย่างแน่นอน

ZEEKR 7X: ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะ และการผจญภัยในหนึ่งเดียว

นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ZEEKR 7X ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยการวางตำแหน่งตัวเองเป็น SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่ไม่เพียงมอบความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวาง แต่ยังปลดล็อกประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ที่สำคัญคือการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยด้วยรุ่นย่อยที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย พร้อมราคาที่คาดการณ์ว่าจะสร้างความตื่นเต้นในตลาด โดย ZEEKR ประเทศไทย ได้นำเข้าแบบ CBU (Complete Built Up) จากจีน เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสยนตรกรรมระดับพรีเมียมนี้อย่างรวดเร็ว

ZEEKR 7X Long Range RWD: รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive) ที่เน้นระยะทางวิ่งสูงสุดและประสิทธิภาพในการใช้งานประจำวัน ด้วยราคาคาดการณ์ในช่วง 1,700,000 บาท
ZEEKR 7X Performance AWD: รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (All-Wheel Drive) ที่มุ่งเน้นสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจและการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ด้วยราคาคาดการณ์ที่ไม่เกิน 1,900,000 บาท

การประกาศราคาอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่นักเลงรถและผู้ที่กำลังมองหา SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูงต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะจากสเปกและฟีเจอร์ที่ให้มา ZEEKR 7X มีศักยภาพที่จะเป็น “Game Changer” ในเซกเมนต์นี้ได้อย่างแท้จริง

ความมั่นใจเต็มเปี่ยม: การรับประกันและบริการหลังการขาย

สิ่งหนึ่งที่สำคัญสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยคือความมั่นใจในการเป็นเจ้าของ และ ZEEKR ประเทศไทย ก็ตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงได้นำเสนอแพ็กเกจการรับประกันคุณภาพที่เหนือกว่าคู่แข่งหลายรายในตลาด เพื่อให้เจ้าของ ZEEKR 7X ทุกท่านได้ขับขี่อย่างสบายใจไร้กังวล:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
รับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) เพื่อความอุ่นใจในทุกเส้นทาง

แพ็กเกจการรับประกันที่ครอบคลุมนี้ ไม่เพียงสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่ยังเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับบริการหลังการขายในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย

มิติตัวถังที่สมบูรณ์แบบ: พื้นที่และความสง่างาม

ZEEKR 7X ได้รับการออกแบบให้มีมิติตัวถังที่เหมาะสมกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว หรือการเดินทางไกลที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยและความมั่นคง:

ยาว: 4,787 มิลลิเมตร
กว้าง: 1,930 มิลลิเมตร
สูง: 1,650 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,900 มิลลิเมตร – ตัวเลขนี้บ่งบอกถึงพื้นที่ภายในที่กว้างขวางและความมั่นคงในการขับขี่
ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance): 173 มิลลิเมตร – ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการขับขี่ในเส้นทางที่หลากหลาย และยังเป็นจุดเด่นสำหรับ SUV ไฟฟ้าที่สามารถลุยได้เล็กน้อย
ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย: ขนาด 539 ลิตร และสามารถขยายได้ถึง 1,978 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง มอบความยืดหยุ่นในการบรรทุกสัมภาระขนาดใหญ่
ที่เก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk): ขนาด 66 ลิตร – เพิ่มพื้นที่เก็บของจุกจิกได้อย่างชาญฉลาดในรถยนต์ไฟฟ้า

มิติตัวถังเหล่านี้ ทำให้ ZEEKR 7X เป็น SUV ไฟฟ้าที่ดูหรูหรา สง่างาม แต่ในขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตจริงของครอบครัวยุคใหม่

หัวใจแห่งพลัง: ขุมพลังไฟฟ้า 800V Technology ที่เหนือชั้น

หัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นเหนือคู่แข่งคือขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ล้ำสมัย โดยเฉพาะเทคโนโลยี 800V ที่เป็นมาตรฐานของรถ EV ประสิทธิภาพสูงในยุค 2025 ซึ่งมอบการชาร์จที่รวดเร็วและประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

รุ่น Long Range RWD:

มอเตอร์ไฟฟ้า: 1 ตัว ให้พละกำลังสูงสุด 422 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh มาพร้อมเทคโนโลยี 800V
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหลัง (RWD – Rear-Wheel Drive)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 6.0 วินาที – ตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับ SUV ไฟฟ้า
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 700 กม. (มาตรฐาน NEDC) – ระยะทางที่สามารถพาคุณเดินทางไกลได้อย่างสบายใจ

รุ่น Performance AWD:

มอเตอร์ไฟฟ้า: 2 ตัว (ขับเคลื่อน 4 ล้อ) ให้พละกำลังสูงสุด 646 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร
แบตเตอรี่: Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh มาพร้อมเทคโนโลยี 800V
ระบบขับเคลื่อน: สี่ล้อ (AWD – All-Wheel Drive) เพื่อการยึดเกาะและการทรงตัวที่ดีเยี่ยม
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ภายใน 3.8 วินาที – นี่คือตัวเลขที่เทียบชั้นรถสปอร์ตสมรรถนะสูง!
ความเร็วสูงสุด (Top Speed): 210 กม./ชม.
ระยะทางวิ่งสูงสุด: มากกว่า 600 กม. (มาตรฐาน NEDC)

ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด ZEEKR 7X ก็พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ การตอบสนองที่ฉับไวในแบบฉบับของรถยนต์ไฟฟ้า และที่สำคัญคือความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800V ที่เป็นหัวใจหลักของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงแห่งยุค 2025

การชาร์จพลังงาน: รวดเร็ว ทันใจ ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง

การชาร์จไฟคืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า และ ZEEKR 7X ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยระบบการชาร์จที่รองรับทั้งกระแสสลับและกระแสตรงความเร็วสูง:

หัวชาร์จ: รองรับ Type 2 / CCS Combo ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล
กระแสสลับ (AC): รองรับสูงสุด 22 kW – เหมาะสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน
กระแสตรง (DC Fast Charging): รองรับสูงสุด 420 kW – ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราการชาร์จเร็วที่สุดในตลาดปี 2025
เวลาชาร์จ DC 360 kW (จาก 10-80%): ภายใน 13-16 นาที – เทียบเท่ากับการแวะพักเข้าห้องน้ำหรือดื่มกาแฟสั้นๆ คุณก็พร้อมเดินทางต่อได้อีกหลายร้อยกิโลเมตร
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L – Vehicle-to-Load): สูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) – ฟีเจอร์ที่เพิ่มความอเนกประสงค์อย่างมาก ให้คุณสามารถจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นการออกทริปตั้งแคมป์ หรือในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ด้วยเทคโนโลยีการชาร์จที่รวดเร็วและ V2L ที่เป็นประโยชน์ต่อไลฟ์สไตล์แบบไทยๆ ทำให้ ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่ยังเป็นเหมือนแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ส่วนตัวของคุณ

ช่วงล่างและการควบคุม: ความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและความมั่นคง

ZEEKR 7X มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone และด้านหลังแบบอิสระ Multi-Link ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ และการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
ล้ออัลลอย: ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 255/50 R19 (ในรุ่น Long Range RWD)
ล้อ Forged: ขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง ขนาด 265/40 R21 (ในรุ่น Performance AWD) เสริมความสปอร์ตและสมรรถนะการทรงตัว
ระบบเบรก: ดิสก์เบรก 4 pot พร้อมคาลิปเปอร์เบรก Akebono สีส้ม ที่ไม่เพียงให้ประสิทธิภาพการเบรกที่ดีเยี่ยม แต่ยังเสริมความโดดเด่นทางด้านดีไซน์อีกด้วย

บททดสอบสมรรถนะ: SUV ไฟฟ้าที่ลุยได้จริง

หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญรู้สึกประหลาดใจและชื่นชมมากที่สุดคือความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของ ZEEKR 7X ก่อนการทดสอบอย่างเป็นทางการที่เขาใหญ่ ผมยอมรับว่ามีความคาดหวังไม่มากนัก เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนถนนเรียบเป็นหลัก แต่ ZEEKR 7X กลับพลิกโฉมความเชื่อนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

ในสนามทดสอบที่จำลองสถานการณ์ออฟโรดต่างๆ ZEEKR 7X ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่เหนือคาด:

ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD: เมื่อเข้าสู่โหมดออฟโรด ระบบช่วงล่างถุงลมจะปรับความสูงของตัวรถเพิ่มขึ้นอัตโนมัติถึง 230 มิลลิเมตร ช่วยให้สามารถผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย
เนินสลับ: ในสถานีนี้ ซึ่งทดสอบการกระจายแรงบิดและการให้ตัวของช่วงล่าง แม้ล้อบางข้างจะลอยจากพื้น แต่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าก็สามารถถ่ายกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะได้อย่างรวดเร็ว ทำให้รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้าได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญคือการให้ตัวของช่วงล่างนั้นยอดเยี่ยมมาก ห้องโดยสารโคลงตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สะท้อนถึงการออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้โดยสารแม้ในสถานการณ์สุดขีด
เนินชัน: ด้วยพละกำลังมหาศาลจากมอเตอร์ไฟฟ้า ZEEKR 7X สามารถปีนขึ้นเนินชันได้อย่างง่ายดาย และที่น่าประทับใจยิ่งกว่าคือในจังหวะหยุดกลางเนินแล้วออกตัว ระบบจัดการพลังงานทำได้อย่างนุ่มนวล ไม่รุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง ทำให้การควบคุมรถเป็นไปอย่างแม่นยำ
การลงเนินสูง: ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูง คล้ายคลึงกับรถยนต์พรีเมียมจากค่ายยุโรป ทำให้การลงเนินที่ลาดชันเป็นเรื่องที่สบายใจและปลอดภัย
เส้นทางขรุขระ: แม้ขับขี่ผ่านเส้นทางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและหิน ด้วยช่วงล่างถุงลมทำให้ห้องโดยสารยังคงความนุ่มนวล แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือพวงมาลัยยังคงนิ่งสนิท ไม่มีอาการสั่นหรือสะท้านมือให้เห็นแม้แต่น้อย ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในรถยนต์ที่เน้นความหรูหรา นี่คือบทพิสูจน์ว่า ZEEKR 7X สอบผ่านการทดสอบออฟโรดได้อย่างไร้ข้อกังขา

เมื่อกลับมาสู่เส้นทางเรียบ ZEEKR 7X ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าประทับใจ ด้วยอัตราเร่งที่รุนแรงตามตัวเลขที่ระบุไว้ในคู่มือ โดยเฉพาะในรุ่น Performance AWD ที่มาพร้อมแรงดึงมหาศาลและความนุ่มนวลในการขับขี่ ในขณะที่รุ่น Long Range RWD ก็ไม่น้อยหน้า ยังคงมอบแรงดึงที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวลในระดับที่เหมาะสม แม้จะออกแนวแน่นกว่ารุ่น Performance เล็กน้อยก็ตาม

ห้องโดยสารพรีเมียม: นวัตกรรมและความสะดวกสบายสูงสุด

ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คุณจะสัมผัสได้ถึงปรัชญาการออกแบบที่ต้องการสร้างพื้นที่แห่งการผ่อนคลายและประสบการณ์เหนือระดับ:

เบาะหนัง Nappa Leather: หุ้มด้วยหนัง Nappa คุณภาพสูง ที่โดดเด่นในด้านความนุ่มนวลและสัมผัสที่หรูหรา ไม่เพียงให้ความสบายในการนั่ง แต่ยังสะท้อนถึงรสนิยมระดับสูง
เบาะคู่หน้า: มาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางหรือวันทำงานที่หนักหน่วง เปลี่ยนการขับขี่ระยะไกลให้เป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงาน
เบาะหลัง: ปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ให้ผู้โดยสารสามารถปรับองศาการนั่งให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อน การทำงาน หรือการชมภาพยนตร์ ทำให้ห้องโดยสารด้านหลังกลายเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ
ประตูและม่านบังแดด: ประตูทั้ง 4 บานเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และม่านบังแดดประตูคู่หลังก็เป็นระบบไฟฟ้าเช่นกัน เพิ่มความสะดวกสบายและหรูหราในทุกสัมผัส

ระบบสารสนเทศและความบันเทิง: เชื่อมต่อโลกดิจิทัลอย่างไร้รอยต่อ

ZEEKR 7X ยกระดับประสบการณ์การเชื่อมต่อและบันเทิงไปอีกขั้น ด้วยระบบที่ประมวลผลด้วยชิปเซ็ตระดับเรือธง:

หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว: ความละเอียด 3.5K มอบภาพที่คมชัด สีสันสดใส สามารถแสดงรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ สื่อบันเทิง หรือแอปพลิเคชันต่างๆ
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: แสดงข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้ารถแบบ Augmented Reality (AR) ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor: เทคโนโลยี 5nm Process Technology ที่ทรงพลังที่สุดในตลาดรถยนต์ปี 2025 มอบการประมวลผลที่รวดเร็ว ลื่นไหล และตอบสนองทุกคำสั่งการได้อย่างฉับไว
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro: มาพร้อมลำโพงคุณภาพสตูดิโอ 21 จุดรอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ มอบประสบการณ์สุนทรียภาพแห่งเสียงที่ดื่มด่ำ

ความปลอดภัย PRIORITY: สร้างสรรค์เพื่อความอุ่นใจสูงสุด

ความปลอดภัยคือหัวใจหลักในการออกแบบ ZEEKR 7X ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ที่เป็นสถาปัตยกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต ที่เน้นทั้งความปลอดภัยและประสิทธิภาพ:

มาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว: ZEEKR 7X ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาวจาก Euro NCAP โดยได้คะแนน 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องทุกคนในครอบครัว
ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD: ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพของระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (ADAS) อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการชนด้านหน้า ระบบรักษาช่องทางเดินรถ และอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ในทุกสถานการณ์
โครงสร้างตัวรถแบบ Dome-Shaped: และโครงสร้างตัวถังหลังแบบ Single Piece Die-Cast ชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ซึ่งไม่เพียงเพิ่มความแข็งแกร่งและความปลอดภัยสูงสุดในการชน แต่ยังช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดียิ่งขึ้น

สรุป: ZEEKR 7X – ยนตรกรรมไฟฟ้าที่ฉีกทุกกรอบ

ในปี 2025 ที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ZEEKR 7X ได้เข้ามาเติมเต็มช่องว่างที่สำคัญในตลาด ด้วยการเป็น SUV ไฟฟ้าที่ไม่ได้มีดีแค่ความแรงและความหรูหรา แต่ยังมอบความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดเบาๆ ได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในหมู่รถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน ทำให้ ZEEKR 7X มีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงพร้อมออปชันจัดเต็ม หรือต้องการ SUV ที่สามารถพาครอบครัวไปผจญภัยในเส้นทางที่ไม่เคยคิดว่ารถ EV จะทำได้ ZEEKR 7X คือคำตอบ หากคุณไม่ได้เน้นการลุยป่าฝ่าดงแบบ hardcore แต่ต้องการความอเนกประสงค์ที่เหนือกว่ารถ EV ทั่วไป รุ่น Long Range RWD ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน ทั้งช่วงล่างที่นุ่มนวลและออปชันที่ไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย

อย่ารอช้า! หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะ และความอเนกประสงค์ไว้ในหนึ่งเดียว ZEEKR 7X คือคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ

เรียนเชิญสัมผัสและทดลองขับ ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเองที่โชว์รูม ZEEKR ประเทศไทย หรือติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครได้ทางเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของเรา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในโลกยานยนต์ไฟฟ้าแห่งปี 2025