[ครบชุด] XU11191 Facebook (31)

ZEEKR 7X: นิยามใหม่ของ SUV ไฟฟ้าหรู ผสานสมรรถนะและขีดความสามารถที่เหนือชั้นสำหรับอนาคตแห่งการขับขี่ปี 2025

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของอุตสาหกรรมนี้มาโดยตลอด ตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีแห่งอนาคตอีกต่อไป แต่คือปัจจุบันที่จับต้องได้ และกำลังเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลก สำหรับประเทศไทย ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคไม่ได้มองหารถ EV เพียงเพราะต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงหรือรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังมองหานวัตกรรม สมรรถนะ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ซึ่ง ZEEKR 7X SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ได้เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้อย่างไร้ที่ติ และอาจกล่าวได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในตลาดรถ EV ไทยปี 2025 เลยทีเดียว

ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ SUV ไฟฟ้าธรรมดา แต่คือยนตรกรรมที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อทลายกำแพงข้อจำกัดเดิมๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการผสานความหรูหราสง่างามเข้ากับพละกำลังมหาศาล และที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ “ขีดความสามารถในการลุย” แบบออฟโรดเบาๆ ที่แทบไม่เคยเห็นในกลุ่มรถ EV SUV ระดับพรีเมียมมาก่อน นี่คือรถที่พร้อมพาคุณออกไปจากเส้นทางหลัก สู่การผจญภัยที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนในแบบรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมด้วยเทคโนโลยีจัดเต็ม และความปลอดภัยระดับสูงสุดที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ครบเครื่องในทุกมิติ ทั้งความแรง ความสบาย ความปลอดภัย และความสามารถในการใช้งานที่หลากหลาย ZEEKR 7X คือคำตอบที่คุณไม่ควรมองข้าม

ZEEKR 7X: การมาถึงที่พลิกโฉมตลาด SUV ไฟฟ้าไทย

การเปิดตัว ZEEKR 7X อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ถือเป็นการประกาศศักดาครั้งสำคัญของแบรนด์ ZEEKR ในการรุกตลาด EV ที่มีการแข่งขันสูง ยนตรกรรมคันนี้ถูกจับตามองตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์ที่ผสมผสานความล้ำสมัยเข้ากับความแข็งแกร่งได้อย่างลงตัว ทำให้เกิดภาพลักษณ์ของ SUV ที่มีความหรูหราแต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นรถลุย ZEEKR 7X ได้รับการออกแบบให้เป็นรถ SUV ไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่การเดินทางในเมืองใหญ่ ไปจนถึงการออกทริปผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์ สิ่งที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาดรถ SUV ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่เรื่องของดีไซน์หรือเทคโนโลยี แต่คือปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นความสมดุลระหว่าง “ประสิทธิภาพ” และ “การใช้งานจริง” ทำให้มันเป็นรถที่ไม่ได้มีดีแค่บนกระดาษ แต่พร้อมมอบประสบการณ์จริงที่น่าประทับใจ

สำหรับตลาดไทยในปี 2025 ซึ่งเต็มไปด้วยผู้บริโภคที่ชาญฉลาดและมองหาสิ่งที่ดีที่สุด ZEEKR 7X จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ด้วยความสามารถที่รอบด้านและแนวคิดที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้าแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพละกำลังที่เหลือเฟือ ระบบขับเคลื่อนที่มั่นใจได้ ไปจนถึงโหมดการขับขี่แบบออฟโรดที่เพิ่มมิติใหม่ให้กับการเดินทางด้วยรถ EV นี่คือรถที่พร้อมจะพาคุณไปได้ทุกที่ที่คุณต้องการ พร้อมมอบความสะดวกสบายและความมั่นใจตลอดการเดินทาง

ราคาและแพ็กเกจที่เหนือกว่า: คุ้มค่าทุกการลงทุนในอนาคตแห่งการขับขี่

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าคือ “ราคา” และ “ความคุ้มค่า” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ZEEKR 7X ได้นำเสนอทางเลือกที่น่าสนใจด้วยการกำหนดราคาคาดการณ์ที่เข้าถึงได้ เมื่อเทียบกับสมรรถนะและเทคโนโลยีที่อัดแน่นมาให้ โดย ZEEKR ประเทศไทย (ซึ่งนำเข้าแบบ CBU จากจีน) ได้วางโครงสร้างราคาดังนี้:

7X Long Range RWD: ช่วงราคาประมาณ 1,700,000 บาท
7X Performance AWD: ช่วงราคาไม่เกิน 1,900,000 บาท

แม้ว่าราคาอย่างเป็นทางการจะประกาศในวันที่ 15 สิงหาคม 2025 นี้ แต่จากราคาคาดการณ์นี้ก็สามารถบอกได้เลยว่า ZEEKR 7X มีความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมากในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า SUV หรูหรา โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาถึงแพ็กเกจการรับประกันคุณภาพที่ ZEEKR มอบให้ ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์และความใส่ใจลูกค้าอย่างแท้จริง:

รับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty): นาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร
รับประกันแบตเตอรี่ และ มอเตอร์: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน: นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร

การรับประกันที่ครอบคลุมและยาวนานนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า เพราะเป็นการช่วยลดความกังวลในเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว และยังเพิ่มมูลค่าในการเป็นเจ้าของ ZEEKR 7X อีกด้วย นี่คือการลงทุนในอนาคตที่ไม่เพียงแต่คุณจะได้รับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่ยังได้รับความอุ่นใจและบริการหลังการขายที่แข็งแกร่งอีกด้วย การรับประกันแบตเตอรี่ EV ที่ยาวนานถึง 8 ปี เป็นมาตรฐานที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ในระยะยาวเกี่ยวกับหัวใจสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า

มิติและดีไซน์: ความลงตัวของฟังก์ชันและความงามที่เหนือระดับ

ZEEKR 7X ถูกออกแบบมาให้เป็น SUV ที่มีมิติลงตัวอย่างยิ่ง ทำให้ได้ทั้งความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร และยังคงความคล่องตัวในการขับขี่บนท้องถนน การวัดมิติตัวถังที่พิถีพิถันสะท้อนถึงความเข้าใจในการใช้งานจริงของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร:

ยาว: 4,787 มิลลิเมตร
กว้าง: 1,930 มิลลิเมตร
สูง: 1,650 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,900 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดถึงพื้น (Ground Clearance): 173 มิลลิเมตร

ด้วยระยะฐานล้อที่ยาวเกือบ 3 เมตร ทำให้ ZEEKR 7X มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ทั้งพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะ ทำให้การเดินทางระยะไกลเป็นไปอย่างสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคน ไม่ว่าจะนั่งหน้าหรือหลัง ส่วนระยะต่ำสุดถึงพื้นที่ 173 มิลลิเมตรนั้น ถือว่าสูงพอสมควรสำหรับรถ SUV ทั่วไป และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อรวมกับช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension ที่สามารถปรับเพิ่มความสูงได้ ทำให้ ZEEKR 7X มีความพร้อมในการลุยเส้นทางที่ไม่ราบเรียบได้อย่างน่าทึ่ง

ด้านการจัดเก็บสัมภาระ ZEEKR 7X ก็ออกแบบมาได้อย่างชาญฉลาด ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 539 ลิตร ซึ่งสามารถขยายได้มากถึง 1,978 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังลง นี่คือพื้นที่ที่เพียงพอสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวของครอบครัว หรือการขนสัมภาระสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีช่องเก็บสัมภาระด้านหน้า (Frunk) ขนาด 66 ลิตร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเก็บของใช้เล็กๆ น้อยๆ หรือสายชาร์จ ทำให้การจัดเก็บเป็นระเบียบและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

การออกแบบภายนอกของ ZEEKR 7X นั้นโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบไฟหน้า Stargate Front Light Panel ที่ไม่เพียงแต่ให้แสงสว่างที่คมชัด แต่ยังสามารถเปลี่ยนกราฟิกได้หลายรูปแบบ สร้างเอกลักษณ์และความน่าสนใจให้กับตัวรถยามค่ำคืน การผสานเส้นสายที่ลื่นไหลเข้ากับความแข็งแกร่งของตัวถัง ทำให้ ZEEKR 7X เป็น SUV ไฟฟ้าที่ดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนน นี่คือความลงตัวระหว่างความงามทางสุนทรียศาสตร์และฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง

ขุมพลังขับเคลื่อน: พละกำลังที่ไร้ขีดจำกัดและความยืดหยุ่นแห่งอนาคต

หัวใจสำคัญของ ZEEKR 7X อยู่ที่ขุมพลังขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ทรงประสิทธิภาพ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองรุ่นย่อย เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ขับขี่:

รุ่น Long Range RWD (ขับเคลื่อนล้อหลัง)

รุ่นนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ให้พละกำลังสูงสุดถึง 422 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ซึ่งถือว่าเหลือเฟือสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและนอกเมือง ด้วยสถาปัตยกรรมแบตเตอรี่ 800V Technology Lithium-ion (NMC) ขนาดความจุ 100 kWh ทำให้ ZEEKR 7X Long Range RWD สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 6.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับรถ SUV ขนาดใหญ่

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของรุ่นนี้คือ “ระยะทางวิ่ง” ที่มากกว่า 700 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งหมายความว่าในการใช้งานจริงบนถนนประเทศไทย ผู้ขับขี่สามารถคาดหวังระยะทางที่น่าพอใจสำหรับการเดินทางระยะไกล โดยไม่ต้องกังวลเรื่อง Range Anxiety (ความกังวลแบตเตอรี่หมด) มากนัก นี่คือ รถไฟฟ้าวิ่งไกลสุด ที่ตอบโจทย์การเดินทางข้ามจังหวัดได้อย่างสบายใจ ให้คุณออกเดินทางสำรวจได้ไกลกว่าที่เคย ด้วยสมรรถนะที่เพียงพอและประหยัดพลังงานอย่างยอดเยี่ยม

รุ่น Performance AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ)

สำหรับผู้ที่ต้องการพละกำลังและความเร้าใจที่เหนือกว่า รุ่น Performance AWD คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้พละกำลังรวมสูงสุดถึง 646 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 710 นิวตันเมตร ตัวเลขเหล่านี้ทำให้ ZEEKR 7X Performance AWD สามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 3.8 วินาที ซึ่งเป็นอัตราเร่งที่เทียบเท่ากับรถสปอร์ตสมรรถนะสูงหลายๆ รุ่นเลยทีเดียว และยังคงความเร็วสูงสุดที่ 210 กม./ชม.

แบตเตอรี่ 800V Technology Lithium-ion (NMC) ขนาด 100 kWh เช่นเดียวกับรุ่น RWD แต่ด้วยการเพิ่มมอเตอร์อีกหนึ่งตัว ทำให้ระยะทางวิ่งลดลงเล็กน้อยที่มากกว่า 600 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ซึ่งก็ยังถือว่าเป็นระยะทางที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD All-Wheel Drive ไม่เพียงแต่ให้สมรรถนะการออกตัวที่ดุดัน แต่ยังเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่บนเส้นทางที่หลากหลาย และแน่นอนว่าคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ ZEEKR 7X Performance AWD มีความสามารถในการลุยแบบออฟโรดที่เหนือกว่า นี่คือ รถไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่แท้จริง และเป็นหนึ่งใน EV AWD ที่น่าจับตามองที่สุดในตลาดปี 2025

ทั้งสองรุ่นใช้ช่วงล่างด้านหน้าอิสระ Double Wishbone และด้านหลังอิสระ Multi-Link ซึ่งเป็นชุดช่วงล่างที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่และความมั่นคงในการควบคุมรถในทุกย่านความเร็ว พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว และยางขนาด 255/50 R19 ที่ให้การยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม

นวัตกรรมการชาร์จ: ชีวิตที่ง่ายขึ้นและไร้กังวลสำหรับผู้ใช้ EV

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าทุกคนให้ความสำคัญคือ “ระบบการชาร์จไฟ” ZEEKR 7X เข้าใจความต้องการนี้เป็นอย่างดี และมาพร้อมกับนวัตกรรมการชาร์จที่ทันสมัยที่สุด เพื่อให้การใช้ชีวิตกับรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย:

ZEEKR 7X รองรับหัวชาร์จมาตรฐาน Type 2 / CCS Combo ซึ่งเป็นมาตรฐานที่แพร่หลายในประเทศไทย ทำให้การเข้าถึงสถานีชาร์จสาธารณะเป็นเรื่องง่ายดาย

กระแสสลับ (AC): รองรับสูงสุด 22 kW ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับการชาร์จที่บ้านหรือที่ทำงาน ทำให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็มได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในช่วงค่ำคืนหรือระหว่างวันทำงาน
กระแสตรง (DC Fast Charging): รองรับสูงสุดถึง 420 kW นี่คือตัวเลขที่น่าทึ่ง และเป็นหนึ่งในผู้นำในตลาด เทคโนโลยีชาร์จเร็ว EV นี้ ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องรอนานอีกต่อไป ด้วยกำลังชาร์จ DC 360 kW คุณสามารถชาร์จจาก 10% ไปถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 13-16 นาทีเท่านั้น นั่นหมายความว่าการหยุดพักเพื่อชาร์จไฟระหว่างการเดินทางระยะไกล จะใช้เวลาเทียบเท่ากับการหยุดพักเข้าห้องน้ำหรือซื้อกาแฟเท่านั้น ทำให้การเดินทางด้วยรถ EV เป็นไปอย่างราบรื่นไม่ต่างจากรถยนต์สันดาปภายใน
ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก (V2L – Vehicle-to-Load): รองรับสูงสุด 3.3 kW (3,300 วัตต์) ฟังก์ชัน V2L EV นี้เปลี่ยน ZEEKR 7X ให้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ คุณสามารถใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ นอกรถได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งแคมป์, กิจกรรมกลางแจ้ง, หรือแม้กระทั่งเป็นแหล่งพลังงานสำรองในกรณีฉุกเฉุกภายในบ้าน นี่คือฟังก์ชันที่เพิ่มความอเนกประสงค์ให้กับ ZEEKR 7X ได้อย่างมหาศาล และเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่มองหา

ด้วยระบบการชาร์จที่ครบวงจรและรวดเร็วเหล่านี้ ZEEKR 7X ไม่เพียงแต่เป็น รถไฟฟ้าวิ่งไกลสุด แต่ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานสูงสุด ลดความกังวลเรื่องสถานีชาร์จ EV และระยะเวลาในการชาร์จ ทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าตื่นเต้น

ประสบการณ์ขับขี่และสมรรถนะออฟโรด: เหนือความคาดหมายของ EV SUV

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมีโอกาสได้สัมผัสและทดสอบ ZEEKR 7X ก่อนการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ ณ สนามทดสอบที่เขาใหญ่ ซึ่งจัดเตรียมมาเพื่อพิสูจน์สมรรถนะของรถโดยเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของขีดความสามารถแบบ “ออฟโรด” ต้องยอมรับว่าก่อนการทดสอบ ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับรถ SUV ไฟฟ้าในเส้นทางออฟโรด เพราะโดยทั่วไปแล้วรถ EV มักจะเน้นสมรรถนะบนทางเรียบ แต่สิ่งที่ ZEEKR 7X แสดงให้เห็นนั้น กลับเหนือความคาดหมายอย่างสิ้นเชิง และกลายเป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจอย่างไม่น่าเชื่อ

ในสนามทดสอบที่มีสถานีหลากหลายรูปแบบ เมื่อปรับเข้าสู่โหมดออฟโรด ช่วงล่างถุงลม Active Air Suspension with CCD ของ ZEEKR 7X ก็ปรับความสูงเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติถึง 230 มิลลิเมตร เพื่อให้ผ่านอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย

สถานีเนินสลับ: ZEEKR 7X ผ่านไปได้อย่างราบรื่น เมื่อล้อลอยออกจากพื้น ตัวรถจะถ่ายกำลังไปยังล้อที่ยังคงยึดเกาะพื้นได้ดี ทำให้รถเคลื่อนที่ต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง สิ่งที่น่าประทับใจคือ การให้ตัวของช่วงล่างนั้นดีเยี่ยม ตัวรถโคลงเคลงน้อยมาก แสดงให้เห็นถึงการออกแบบระบบช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม
เนินชัน: พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าอันมหาศาลทำให้ ZEEKR 7X ไต่เนินชันได้อย่างง่ายดาย แม้ในจังหวะที่หยุดกลางเนินแล้วออกตัว ตัวรถก็จัดการพลังงานได้อย่างชาญฉลาด ไม่ส่งกำลังออกมาอย่างรุนแรงจนล้อฟรีทิ้ง ทำให้การควบคุมเป็นไปอย่างมั่นใจ สำหรับจังหวะลงเนินสูง ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชันอัตโนมัติ (HDC) ทำงานได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ เหมือนกับรถยนต์ยุโรประดับพรีเมียม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถลงเนินได้อย่างสบายใจและปลอดภัย
เส้นทางขรุขระ: การวิ่งผ่านเส้นทางขรุขระด้วยช่วงล่างถุงลม ทำให้รู้สึกถึงความนุ่มนวลเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ พวงมาลัยยังคงนิ่งมาก ไม่มีอาการสั่นสะท้านหรือตีมือแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงการเซ็ตอัพระบบบังคับเลี้ยวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ การทดสอบรถยนต์ไฟฟ้า ในเส้นทางออฟโรดนี้ ZEEKR 7X สอบผ่านอย่างสมบูรณ์แบบ ถือเป็น รถ EV ออฟโรด ที่ทำได้ดีเกินคาดจริงๆ

เมื่อกลับมายังทางเรียบ สมรรถนะด้านความแรงของ ZEEKR 7X ก็เป็นไปตามที่ระบุในคู่มือทุกประการ แรงดึงมหาศาล โดยเฉพาะในรุ่น Performance AWD ที่มาพร้อมกับความนุ่มนวลและมั่นคง ส่วนรุ่น Long Range RWD ก็ไม่ได้น้อยหน้า มีแรงดึงที่ดีเยี่ยมและเพียงพอต่อการใช้งานในทุกสถานการณ์ ช่วงล่างของทั้งสองรุ่นให้ความนุ่มนวลในระดับที่น่าพอใจ โดยรุ่น Performance จะให้ความรู้สึกหนักแน่นและมั่นคงกว่าเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากระบบขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน

โดยสรุปแล้ว ZEEKR 7X มอบประสบการณ์ขับขี่ที่ครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง การเดินทางระยะไกล หรือแม้แต่การออกนอกเส้นทางเพื่อการผจญภัยเบาๆ ช่วงล่างถุงลม EV และระบบควบคุมที่ล้ำสมัย ทำให้มันเป็นหนึ่งใน SUV ไฟฟ้าที่อเนกประสงค์ที่สุดในตลาดปัจจุบัน

ห้องโดยสารสุดหรู: นิยามใหม่ของความสบายและเทคโนโลยีแห่งอนาคต

การก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของ ZEEKR 7X คือการเข้าสู่พื้นที่แห่งการผ่อนคลายขั้นสูงที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับในทุกการเดินทาง ด้วยแนวคิดการออกแบบ ห้องโดยสารรถ EV พรีเมียม ที่คำนึงถึงทุกอิริยาบถของผู้โดยสาร

เบาะนั่ง: หุ้มด้วยหนัง Nappa Leather คุณภาพสูง ที่มีชื่อเสียงในด้านความนุ่มนวลและหรูหรา ไม่เพียงแต่ให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม แต่ยังมอบความสบายในการนั่งสูงสุด เบาะคู่หน้ามาพร้อมระบบนวดและเป่าลม ซึ่งจะช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการขับขี่หรือหลังจากวันทำงานที่หนักหน่วง ทำให้การเดินทางระยะไกลไม่ใช่ภาระ แต่กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูพลังงาน
เบาะหลัง: สามารถปรับเอนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มักพบในรถยนต์หรูระดับซูเปอร์พรีเมียม ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถปรับองศาการนั่งให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การพักผ่อน หรือการรับชมภาพยนตร์ ทำให้ห้องโดยสารด้านหลังเปลี่ยนเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัวที่สมบูรณ์แบบ สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดทุกมิติ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ: ประตูทั้งสี่บานเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ม่านบังแดดประตูคู่หลังก็สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน รวมถึงช่องวางแก้วที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน สิ่งเหล่านี้ล้วนยกระดับความสะดวกสบายและความหรูหราให้กับผู้โดยสารทุกคน

ระบบสารสนเทศและความบันเทิง: ศูนย์กลางเทคโนโลยีภายในรถยนต์ไฟฟ้า

ZEEKR 7X เป็นศูนย์รวมของ เทคโนโลยีภายในรถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดที่พร้อมมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือกว่า

หน้าจอกลาง Mini LED ขนาด 16 นิ้ว: ความละเอียด 3.5K ให้ภาพที่คมชัดและสีสันสดใส สามารถมองเห็นรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการดูแผนที่ การรับชมสื่อบันเทิง หรือการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ การตอบสนองที่รวดเร็วทำให้การใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่น
หน้าจอ AR HUD ขนาด 36.21 นิ้ว: ระบบ Head-Up Display แบบ Augmented Reality ที่ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นมาบนกระจกหน้ารถ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถติดตามข้อมูลการขับขี่ ความเร็ว ระบบนำทาง หรือข้อมูล ADAS ได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่อย่างมาก จอ AR HUD ขนาดใหญ่นี้เป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นยิ่งขึ้น
หน้าจอ Cluster ขนาด 13.02 นิ้ว: ทำหน้าที่แสดงข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย
ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8295 Processor: เทคโนโลยี 5nm Process Technology เป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนการทำงานของหน้าจอทั้งหมดนี้ ด้วยพลังประมวลผลที่รวดเร็วและราบรื่น ทำให้การใช้งานฟังก์ชันต่างๆ บนหน้าจอทำได้อย่างสะดวกสบายไร้รอยต่อ ตอบสนองคำสั่งได้ทันทีทันใด
ระบบเสียง ZEEKR Sound Pro: มาพร้อมลำโพงคุณภาพระดับสตูดิโอจำนวน 21 จุดรอบคัน สร้างมิติเสียงรอบทิศทางเสมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ ช่วยสร้างประสบการณ์ความรู้สึกดื่มด่ำในสุนทรียภาพของเสียงเพลงหรือสื่อบันเทิงต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ ระบบเสียงพรีเมียม นี้จะเปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นคอนเสิร์ตส่วนตัว

ความปลอดภัยระดับโลก: มั่นใจในทุกเส้นทางกับ ZEEKR 7X

ความปลอดภัยคือสิ่งที่ ZEEKR ให้ความสำคัญสูงสุดในการออกแบบและพัฒนา ZEEKR 7X ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SEA (Sustainable Experience Architecture) ที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด

มาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว: ZEEKR 7X ได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก Euro NCAP 5 ดาว ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นด้านความปลอดภัย โดยได้คะแนนสูงถึง 91% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารผู้ใหญ่ และ 90% สำหรับการปกป้องผู้โดยสารเด็ก ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจในความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัวอย่างแท้จริง
ระบบช่วยขับขี่ ZEEKR AD: ทำงานร่วมกับ Dual Mobileye Chips ซึ่งเป็นเทคโนโลยี ADAS รถยนต์ไฟฟ้า ขั้นสูง ที่เพิ่มความแม่นยำและปลอดภัยในการขับขี่ ประกอบด้วยฟังก์ชันช่วยขับขี่ที่หลากหลาย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning) และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีนัยสำคัญ
โครงสร้างตัวรถ: ออกแบบเป็นแบบ Dome-Shaped และโครงสร้างตัวถังด้านหลังแบบ Single Piece Die-Cast แบบชิ้นเดียวไร้รอยต่อ ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความแข็งแกร่งและปลอดภัยในการรับแรงกระแทก แต่ยังช่วยลดน้ำหนักของตัวรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ZEEKR 7X จึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ความมั่นใจในทุกการเดินทาง ด้วย ระบบความปลอดภัยรถ EV ที่ล้ำสมัยและโครงสร้างที่แข็งแกร่งระดับโลก

สรุป: ZEEKR 7X ทางเลือกที่ครบวงจรสำหรับอนาคตการขับขี่ปี 2025

ZEEKR 7X ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด SUV ไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2025 ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหราสมรรถนะที่เร้าใจ และขีดความสามารถในการลุยแบบออฟโรดที่เหนือความคาดหมาย สิ่งที่ทำให้ ZEEKR 7X โดดเด่นกว่าคู่แข่งไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่อัดแน่น แต่คือ “ความอเนกประสงค์” ที่แทบจะหาไม่ได้ในรถยนต์ไฟฟ้าคันอื่น ๆ มันเป็นรถที่ตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง การเดินทางระยะไกล หรือการผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ นอกเส้นทาง

ไม่ว่าคุณจะมองหารถไฟฟ้าที่เน้นพละกำลังและความเร้าใจแบบ Performance AWD หรือต้องการรถที่วิ่งได้ไกลเป็นพิเศษพร้อมความนุ่มนวลอย่าง Long Range RWD ZEEKR 7X ก็มีทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ ด้วยแพ็กเกจการรับประกันที่แข็งแกร่ง ห้องโดยสารพรีเมียมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยระดับโลก ZEEKR 7X ไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่คือเพื่อนร่วมทางที่พร้อมจะสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่น่าจดจำในทุกเส้นทาง

ก้าวสู่อนาคตแห่งการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบกับ ZEEKR 7X

หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ SUV ไฟฟ้าที่ไม่เหมือนใคร ที่ผสานความหรูหรา สมรรถนะ และความอเนกประสงค์ไว้อย่างลงตัว ผมขอเชิญชวนให้คุณได้มาสัมผัส ZEEKR 7X ด้วยตัวคุณเอง อย่าเพิ่งเชื่อทุกคำที่ผมเขียน จนกว่าจะได้ลองสัมผัสเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและการขับขี่ที่น่าประทับใจนี้ ณ โชว์รูม ZEEKR ใกล้บ้านคุณ การได้ลองนั่ง ลองขับ และสัมผัสทุกรายละเอียด จะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไม ZEEKR 7X จึงเป็นมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าธรรมดา และเป็นอนาคตแห่งยานยนต์ที่คุณคู่ควร เข้าสู่เว็บไซต์ของเราเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือนัดหมายทดลองขับ ZEEKR 7X ได้แล้ววันนี้!