[ครบชุด] XU11204 อ่อEแฟนเพื่อนต่อหน้าต่อตา

เจาะลึก JY AIR 2025: ซีดานไฟฟ้าแห่งอนาคต ผสานความหรูหราจากสายการบิน สู่ประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของตลาดรถยนต์ EV ในประเทศไทย ตั้งแต่ยุคบุกเบิกจนถึงปัจจุบันที่เข้าสู่ปี 2025 ซึ่งเต็มไปด้วยการแข่งขันที่ดุเดือดและนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ผู้บริโภคมีความคาดหวังสูงขึ้น ไม่เพียงแค่เรื่องระยะทางขับขี่หรือความเร็วในการชาร์จ แต่ยังรวมถึงประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ความหรูหรา และความปลอดภัยที่ครบครัน ในบรรดาผู้เล่นหน้าใหม่ที่ก้าวเข้ามาสร้างสีสันในปีนี้ “JY AIR” คือชื่อที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ ซีดานไฟฟ้าคันแรกจาก JuneYao Auto (ประเทศไทย) บริษัทในเครือ JuneYao Group ซึ่งเป็นเจ้าของสายการบิน JuneYao Airlines สายการบินเอกชนชั้นนำจากจีน นำเสนอแนวคิด “ยานยนต์อัจฉริยะ” ที่ไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่เป็นการยกระดับทุกการเคลื่อนที่ให้เปรียบเสมือนการเดินทางในชั้นเฟิร์สคลาสบนนภา จากการทดสอบและสัมผัสจริง ผมจะพาคุณผู้อ่านไปเจาะลึกถึงทุกแง่มุมของ JY AIR ว่าทำไมรถคันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในตลาด EV ซีดานพรีเมียมของปี 2025

วิสัยทัศน์แห่งการเดินทางยุคใหม่: JuneYao Auto กับ JY AIR

การก้าวเข้ามาในสมรภูมิยานยนต์ไฟฟ้าของ JuneYao Auto ในประเทศไทย ถือเป็นก้าวเชิงกลยุทธ์ที่น่าสนใจยิ่ง ด้วยรากฐานอันแข็งแกร่งจาก JuneYao Group ซึ่งเป็นอาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มี JuneYao Airlines เป็นแกนหลัก ทำให้ JuneYao Auto มี DNA ที่แตกต่าง ด้วยการนำปรัชญาและมาตรฐานความหรูหราสะดวกสบายในระดับ “First Class” จากธุรกิจการบินมาหลอมรวมเข้ากับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า สร้างสรรค์เป็น JY AIR ซีดานไฟฟ้าที่ตั้งเป้าหมายจะมอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือความคาดหมาย สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่กลยุทธ์การตลาด แต่เป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอคุณค่าใหม่ให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดประเทศไทยที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคในปี 2025 ไม่ได้มองหารถยนต์ไฟฟ้าแค่เพื่อประหยัดพลังงาน แต่ยังต้องการความพรีเมียม เทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย และบริการหลังการขายที่ไว้วางใจได้ JuneYao Auto เล็งเห็นโอกาสนี้และใช้จุดแข็งจากประสบการณ์ด้านการบริการระดับโลกมาเป็นหัวใจในการพัฒนายานยนต์ของตนเอง การเปิดตัว JY AIR จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกในตลาด แต่เป็นการนำเสนอ “แนวคิด” ใหม่ของการเดินทางที่ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความสะดวกสบายสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าหรูในปัจจุบันแสวงหา

การออกแบบที่ก้าวล้ำ: สุนทรียภาพแห่งอากาศพลศาสตร์

สิ่งที่โดดเด่นและสะท้อนถึงแรงบันดาลใจจากโลกการบินของ JY AIR ตั้งแต่แรกเห็น คือแนวคิดการออกแบบ “ONE BOX” ซึ่งมุ่งเน้นความกว้างขวางและความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารสูงสุด ในขณะเดียวกันก็ไม่ละทิ้งหลักการอากาศพลศาสตร์ที่สำคัญยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า การผสานสองสิ่งนี้เข้าด้วยกันทำให้ JY AIR มีรูปทรงที่เพรียวบางแต่ยังคงพื้นที่ใช้สอยได้อย่างชาญฉลาด ชิ้นส่วนต่างๆ ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันจากแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีอากาศยาน ไม่ว่าจะเป็นช่องดักอากาศบริเวณกันชนหน้าและมุมกันชนหน้า ที่ผสานเข้ากับสปอยเลอร์ฝากระโปรงและใต้กันชนหลังอย่างลงตัว ล้ออัลลอยดีไซน์ “Turbo Fan” ก็ไม่เพียงแค่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยลดแรงต้านอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์คือค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ (Cd) ที่ต่ำเพียง 0.23 cd ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจและถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยยืดระยะทางขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2025 ที่การแข่งขันด้านประสิทธิภาพพลังงานเป็นสิ่งสำคัญ การออกแบบที่คำนึงถึงอากาศพลศาสตร์เช่นนี้คือข้อได้เปรียบที่ไม่อาจมองข้ามได้ แม้รูปลักษณ์ภายนอกของ JY AIR อาจเป็นที่ถกเถียงและมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ซึ่งอาจถูกใจบางคนและไม่ถูกใจบางคน แต่ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่านี่คือจุดเด่นที่ทำให้รถคันนี้แตกต่างและไม่ซ้ำใครในตลาดซีดานไฟฟ้าที่มีอยู่มากมาย มันคือการแสดงออกถึงความกล้าที่จะฉีกกรอบ และสร้างสรรค์สุนทรียภาพในแบบของตนเอง ซึ่งถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของยานยนต์ยุคใหม่

พลังขับเคลื่อนและประสิทธิภาพ: หัวใจของยานยนต์ไฟฟ้า

JY AIR พร้อมมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เร้าใจและประสิทธิภาพที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ด้วยสองรุ่นย่อยให้เลือกสรร:

JY AIR รุ่น Standard: มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 51 กิโลวัตต์-ชั่วโมง มอบพละกำลังสูงสุด 201 แรงม้า (150 kW) และให้ระยะทางขับขี่สูงสุดตามมาตรฐาน NEDC ที่ 430 กิโลเมตร
JY AIR รุ่น Plus: ยกระดับด้วยแบตเตอรี่ความจุ 64 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้พละกำลังสูงสุด 214 แรงม้า (160 kW) และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 520 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC

ทั้งสองรุ่นขับเคลื่อนด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) ซึ่งให้การควบคุมที่แม่นยำและสนุกสนาน อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ภายในเวลาเพียง 7.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 170 กม./ชม. ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางไกลบนทางหลวงของประเทศไทย

ด้านการชาร์จไฟ JY AIR ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ในปี 2025 ที่โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ EV พัฒนาไปมาก ความเร็วในการชาร์จถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ:

รุ่น Standard: รองรับการชาร์จเร็ว DC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 70 กิโลวัตต์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีในการชาร์จจาก 30% ถึง 80%
รุ่น Plus: ก้าวไปอีกขั้นด้วยการชาร์จเร็ว DC กำลังไฟสูงสุด 90 กิโลวัตต์ ลดเวลาการชาร์จจาก 30% ถึง 80% เหลือเพียงประมาณ 21 นาทีเท่านั้น

ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ EV ในปัจจุบัน ซึ่งต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการเติมพลังงาน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระยะทางและกำลังไฟจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ในตลาดปี 2025 ที่มีเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบชาร์จที่ก้าวหน้าไปอย่างมาก การชาร์จที่ 70-90 kW อาจไม่จัดว่าเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมบางรุ่นที่สามารถรองรับได้สูงกว่า 150 kW ขึ้นไป แต่ก็ถือว่าเพียงพอและใช้งานได้จริงกับสถานีชาร์จ DC ที่มีอยู่แพร่หลายในปัจจุบัน การที่ JuneYao Auto เลือกใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังยังเป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่สปอร์ตแล้ว ยังช่วยในการกระจายน้ำหนักของตัวรถที่ดีขึ้นอีกด้วย ทำให้การขับขี่มีความสมดุลและมั่นคง ไม่ว่าจะในความเร็วต่ำหรือความเร็วสูง

ห้องโดยสารระดับเฟิร์สคลาส: ความสะดวกสบายที่เหนือกว่า

หัวใจสำคัญที่ JY AIR ต้องการมอบให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารคือประสบการณ์ “First Class” ภายในห้องโดยสาร การตกแต่งที่พิถีพิถันและการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวสัมผัสหรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ล้วนสะท้อนถึงความหรูหรา และที่สำคัญคือการออกแบบภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์ ไม่เพียงช่วยเรื่องประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ห้องโดยสารเงียบสงบ มอบความรู้สึกผ่อนคลายตลอดการเดินทาง

อุปกรณ์มาตรฐานและเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารก็จัดเต็มเพื่อความสะดวกสบายและทันสมัย:

หน้าจอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 8.8 นิ้ว และ หน้าจอ Intelligent Display ขนาด 15.6 นิ้ว ที่เป็นศูนย์กลางควบคุมทุกฟังก์ชันของรถ
รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย อย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth
บริการแอปพลิเคชันบนมือถือ ช่วยให้ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ของรถได้จากระยะไกล
สำหรับรุ่น Plus มาพร้อม หลังคาพาโนรามาขนาด 2.072 ตารางเมตร สร้างความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย และเพิ่มมิติให้กับห้องโดยสารได้อย่างน่าอัศจรรย์
พื้นที่เก็บสัมภาระ ขนาด 420 ลิตร ซึ่งสามารถปรับเพิ่มเป็น 1,338 ลิตรได้เมื่อพับเบาะหลัง ตอบโจทย์ความอเนกประสงค์ในการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์ตรงในการทดสอบ ส่วนที่ผมอยากให้ข้อสังเกตคือตำแหน่งของเบาะหลัง ซึ่งมีความชันค่อนข้างมาก อาจทำให้รู้สึกเมื่อยล้าได้เล็กน้อยสำหรับการเดินทางไกลของผู้โดยสารที่มีสรีระสูงหรือต้องการความเอนหลังที่มากกว่า แม้ว่าเบาะหน้าจะได้รับการออกแบบมาอย่างดี มีขนาดใหญ่ นั่งสบาย และรองรับสรีระได้ดีเยี่ยมก็ตาม นี่อาจเป็นจุดที่ JuneYao Auto อาจพิจารณาปรับปรุงในอนาคตเพื่อตอบโจทย์ผู้โดยสารด้านหลังให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ในภาพรวม ห้องโดยสารของ JY AIR มอบความรู้สึกที่เรียบหรู เน้นความมินิมอลแต่ยังคงฟังก์ชันการใช้งานผ่านหน้าจอเป็นหลัก ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025

ประสบการณ์การขับขี่บนเส้นทางจริง: กรุงเทพฯ – พัทยา

การทดสอบ JY AIR บนเส้นทางกรุงเทพฯ – พัทยา – กรุงเทพฯ ระยะทางรวมกว่า 300 กิโลเมตร เป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญในการทำความเข้าใจประสิทธิภาพและสมรรถนะของรถคันนี้ในสภาพการขับขี่จริง

การขับขี่ในเมือง: ในฐานะรถซีดาน JY AIR ให้ความคล่องตัวที่น่าประทับใจ ตัวรถมีขนาดที่พอเหมาะ ทำให้การควบคุมในสภาพการจราจรติดขัดเป็นไปอย่างง่ายดาย กระจกหน้าบานใหญ่ช่วยให้ทัศนวิสัยกว้างขวาง ลดจุดอับสายตา และทำให้การกะระยะเป็นเรื่องที่ไม่ยุ่งยาก อัตราเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าตามธรรมชาติที่มาแบบทันทีทันใด ทำให้การออกตัวและการเร่งแซงในเมืองเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจ ไม่มีการรอรอบให้หงุดหงิดเหมือนรถสันดาปภายใน

การขับขี่บนทางหลวง: เมื่อออกสู่ทางด่วนและใช้ความเร็วสูง JY AIR ยังคงรักษาความมั่นคงและนุ่มนวลไว้ได้ดี การเก็บเสียงลมจากด้านบนทำได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างความเงียบสงบในห้องโดยสารที่ความเร็วสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมมักจะให้ความสำคัญในรีวิวรถยนต์ EV เนื่องจากเสียงลมมักจะเป็นสิ่งรบกวนหลักเมื่อเสียงเครื่องยนต์หายไป อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตเรื่องเสียงยางและเสียงจากพื้นถนนที่ยังคงเล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารได้บ้างเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงบนผิวถนนที่ไม่เรียบ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากยางที่ใช้หรือการจูนช่วงล่างที่เน้นความนุ่มนวลเป็นพิเศษ

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS Level 2+): JY AIR มาพร้อมระบบ Advanced Driving Assistant System Level 2+ ที่ทำงานได้ดีเยี่ยมและเป็นธรรมชาติอย่างน่าประหลาดใจ แตกต่างจากระบบ ADAS ในรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นจากค่ายอื่นที่อาจมีการเบรกกระแทกเมื่อมีรถตัดหน้า หรือออกตัวอย่างรุนแรงเมื่อเส้นทางโล่ง แต่สำหรับ JY AIR นั้น ระบบทำงานได้อย่างนุ่มนวลและสอดคล้องกับการขับขี่ของมนุษย์ ทำให้รู้สึกเสมือนมีผู้ช่วยขับที่คอยประคองรถให้ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC), ระบบช่วยจอด, ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSM) และระบบควบคุมการเปลี่ยนเลน (LCA) ล้วนทำงานได้อย่างแม่นยำและไว้วางใจได้ ทำให้การเดินทางไกลเป็นเรื่องที่สบายและปลอดภัยยิ่งขึ้น สิ่งนี้คือข้อได้เปรียบที่สำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2025 ที่ผู้บริโภคคาดหวังความฉลาดและความน่าเชื่อถือจากระบบช่วยเหลือเหล่านี้

ช่วงล่างและการควบคุม: ช่วงล่างของ JY AIR ให้ความรู้สึกนุ่มนวลตามสไตล์รถยนต์จีน แต่ยังคงไว้ซึ่งความมั่นใจในความเร็วสูง ไม่นุ่มจนเกินไปจนทำให้รู้สึกโคลงเคลงหรือเวียนหัว ซึ่งเป็นสมดุลที่ทำได้ดีสำหรับสภาพถนนในประเทศไทย การซับแรงกระแทกทำได้ดี ทำให้การเดินทางราบรื่น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้การตอบสนองที่ดีในการเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนอย่างรวดเร็ว

อัตราสิ้นเปลืองพลังงาน: จากการทดสอบที่ไม่ได้เน้นการประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ แต่เป็นการขับขี่ตามปกติ ทั้งเร็วบ้างช้าบ้าง อัตราสิ้นเปลืองพลังงานเฉลี่ยที่ได้คือ 18.5 kWh/100km และเมื่อทดสอบที่ความเร็วคงที่ 110 กม./ชม. อัตราการกินไฟเฉลี่ยอยู่ที่ 18-19 kWh/100km ตัวเลขนี้ หากเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าบางรุ่นในปี 2025 ที่อาจทำได้ดีกว่าเล็กน้อย JY AIR อาจจัดว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ ค่อนไปทางกินไฟเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญอย่างผมทราบดีว่าการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้ามีผลอย่างมากต่ออัตราการสิ้นเปลือง หากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด การขับขี่ที่ความเร็วต่ำกว่า 100 กม./ชม. อย่างสม่ำเสมอจะช่วยยืดระยะทางขับขี่ได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ EV ควรทำความเข้าใจและปรับพฤติกรรมการขับขี่

ความปลอดภัยเหนือระดับ: มั่นใจในทุกเส้นทาง

ความปลอดภัยคือหัวใจหลักในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า JY AIR สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม SKY EV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับห้าดาวที่สามารถรองรับการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่สำหรับตลาดทั่วโลก ตั้งแต่รถยนต์ประเภท A ไปจนถึงซีดานคลาส C, SUV, Coupe, MPV และอื่นๆ โครงสร้างตัวถังได้รับการออกแบบและทดสอบอย่างเข้มงวดผ่านมาตรฐานการรับรองจาก CNCAP และ Euro NCAP ระดับ 5 ดาว ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความแข็งแกร่งและการปกป้องผู้โดยสารในกรณีเกิดอุบัติเหตุ

นอกจากโครงสร้างที่แข็งแกร่งแล้ว JY AIR ยังเสริมความมั่นใจด้วยเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ Advanced Driving Assistant System Level 2+ ดังที่กล่าวไปข้างต้น ด้วยฟีเจอร์ช่วยเหลือขั้นสูงที่ครอบคลุม ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับระยะห่าง, ระบบช่วยจอด, ระบบเตือนจุดอับสายตา และระบบควบคุมการเปลี่ยนเลน ทุกฟังก์ชันถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดขณะขับขี่ ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดของมนุษย์ และช่วยให้การเดินทางของคุณไร้กังวล ผมกล้าพูดได้ว่าระบบความปลอดภัยของ JY AIR นั้นอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม และมอบความอุ่นใจให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในยุค 2025 ที่เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

บทสรุปและเชิญสัมผัสประสบการณ์

JY AIR ถือเป็นหนึ่งในซีดานไฟฟ้าที่น่าสนใจที่สุดของปี 2025 ที่นำเสนอแนวคิดการเดินทางที่แตกต่าง ด้วยการผสานความหรูหราสะดวกสบายในระดับ First Class จากโลกการบินเข้ากับนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าล้ำสมัย ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น อากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม พลังขับเคลื่อนที่เพียงพอ ห้องโดยสารที่กว้างขวางและเทคโนโลยีครบครัน รวมถึงระบบความปลอดภัยระดับสูงสุด แม้จะมีบางจุดที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ เช่น ความสะดวกสบายของเบาะหลังสำหรับการเดินทางไกล หรือประสิทธิภาพการกินไฟที่อาจจะยังไม่โดดเด่นที่สุดในบางสภาวะ แต่โดยรวมแล้ว JY AIR มอบแพ็คเกจที่น่าประทับใจและคุ้มค่าอย่างยิ่ง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 759,000 บาท สำหรับรุ่น Standard และ 869,000 บาท สำหรับรุ่น Plus พร้อมตัวเลือก 4 สี ได้แก่ สีขาว Moon White, สีฟ้า Meteorite Blue, สีเขียว Aurora Green และสีดำ Galactic Black

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่า JY AIR จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตลาด EV ซีดานพรีเมียมของประเทศไทย และตอบโจทย์ผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่คือประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับอย่างแท้จริง

หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์ยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหรูหราของสายการบิน และต้องการยกระดับทุกการเดินทางให้เป็นเหมือนการบินในชั้นเฟิร์สคลาส อย่ารอช้า! ขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมเปิดประสบการณ์และทดลองขับ JY AIR ด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูม JuneYao Auto ทั่วประเทศ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมให้คำปรึกษาและตอบทุกข้อสงสัย เพื่อให้คุณมั่นใจในการเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมบริการหลังการขายและอะไหล่สำรองครบวงจร ให้คุณหมดกังวลในทุกเส้นทาง ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางแห่งอนาคตกับ JY AIR!